ชีวิตของเรยา 2
พอสายๆ หลังจากที่ขายของที่ตลาดเสร็จ ตกเย็นฉันก็ต้องเตรียมตัวไปทำ งานที่ร้านอาหารจีนใกล้บ้านจนถึงดึกดื่น ฉันมีหน้าที่คือเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า อาจจะเป็นเด็กล้างจานบ้างในบางวัน ไม่ต้องสงสัยว่าฉันเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อน แต่ละวันฉันจะได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง ส่วนที่เหลือก็ทำงาน อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ฉันก็ทำทั้งนั้นแหละ ก็อย่างว่าชีวิตฉันมันไม่ได้มีทางเลือกมากมาย
“วันนี้เหนื่อยหน่อยนะเรยา ลูกค้าวีไอพีทั้งนั้นเลย” เจ๊สร้อยเจ้าของร้านเดินมาบอกฉัน ในขณะที่กำลังเตรียมอาหารไปเสิร์ฟให้ลูกค้า
“สบายมากค่ะเจ๊ หนูยังไหว” ฉันกัดฟันยิ้มสู้ตอบกลับไป ถึงจะเหนื่อยมากแค่ไหนก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำก็คงไม่มีกิน
“ถ้างั้นเจ๊ขอตัวไปดูลูกค้าก่อนนะ”
พอเจ๊เจ้าของร้านเดินออกไป ฉันก็กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อวันนี้ที่ร้านค่อนข้างวุ่นวายเพราะเป็นวันหยุด ลูกค้าเลยจะเยอะเป็นพิเศษ
“อันนี้ของโต๊ะสี่ ส่วนจานนี้ของโต๊ะแปด”
“รับทราบค่ะเชฟ” ฉันพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะถือถาดอาหารออกมาเสิร์ฟให้ลูกค้า
ฉันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ร้าน พลางรีบเดินมุ่งหน้ามายังโต๊ะลูกค้าที่นั่งรออยู่
“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ” ฉันบอกกล่าวลูกค้าทุกครั้งก่อนเสิร์ฟอาหาร โดยที่ไม่ทันได้มองว่าลูกค้าคนนั้นเป็นใคร
“เอ้า! หนูเรยา”
“ท่านเจ้าสัว” ฉันเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ แล้วคนที่เรียกชื่อฉันก็ไม่ใช่ใคร เขาคือเจ้าสัวบุญชัย เจ้าของตลาดที่ฉันเช่าแผงขายของอยู่ โลกช่างบังเอิญ ทำงานที่นี่มาตั้งนานแต่เพิ่งจะมาเจอท่าน
“หนูทำงานที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ใช่ค่ะ หนูเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่” ฉันตอบกลับไป ท่านเจ้าสัวเป็นคนใจดี เพราะถ้าเดือนไหนที่ฉันไม่มีค่าเช่าหรือค่าเช่าไม่พอ ท่านก็ให้ผลัดผ่อนโดยที่ไม่คิดดอกเบี้ยเลยสักบาท
“ขยันจริง ๆ เลยนะ ตอนเช้าก็ขายของ พอตกเย็นก็มาเสิร์ฟอาหารอีก”
“......” ฉันได้แต่ยิ้มกว้างตอบกลับแต่ไม่พูดอะไร
“แล้วริวเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม?”
“ดีขึ้นแล้วค่ะท่าน”
“ขอให้พระคุ้มครองนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ” ฉันพนมไหว้ขอบคุณท่านเจ้าสัวที่คอยถามไถ่ถึงอาการของริว เพราะท่านเห็นฉันกับริวมาตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ ขนาดท่านรวยล้นฟ้าขนาดนี้ แต่ยังให้ความสนใจเด็กตาดำ ๆ อย่างฉันกับริว
“ถ้าเดือดร้อนหรือมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“......” ฉันได้แต่ยิ้มกว้างออกมา มันอบอุ่นหัวใจทุกครั้งเวลาที่มีคนมาเอ็นดูฉันกับน้อง
แกร่ก! เสียงฉันเปิดประตูเข้ามาในบ้านหลังจากที่เลิกงานในเวลาสี่ทุ่ม
กว่า ๆ ในมือของฉันมีอาหารสองถึงสามอย่างที่เอาไว้มากินกับน้อง ริวจะไม่ยอมกินข้าวก่อน ถ้าเกิดว่าไม่มีฉันมาร่วมกินด้วย
“พี่กลับมาแล้ว” ฉันร้องตะโกนทักทายเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน แต่ภายในบ้านมันมืดสนิท ริวหลับแล้วงั้นเหรอ
“ริวพี่กลับมาแล้ว มากินข้าวกัน” ฉันร้องตะโกนด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม แต่ก็ไม่มีวี่แววตอบกลับมา ไปไหนของเขานะ ดึกดื่นจนป่านนี้แล้ว
“กรี๊ดดดดด ระ...ริว” ฉันกรีดร้องออกมาเมื่อเห็นภาพลาง ๆ จากดวงไฟ
สลัว ๆ ที่สาดแสงเข้ามาในบ้าน ว่าเป็นริวที่นอนสลบอยู่ที่มุมห้อง ในมือของน้องมีกระปุกยาและโทรศัพท์ที่กำลังจะต่อสายโทรหาฉัน
“ฮือออ มะ...ไม่นะริว ริวต้องไม่เป็นอะไร” ฉันร้องลั่นออกมาราวกับคนที่เสียสติ ตอนนี้ร่างกายของน้องมันเย็นเฉียบ และชีพจรก็อ่อนเต็มทน
