คนแรก
ฉันเดินตามคุณใหญ่ลงมาจากชั้นบนสุด ก่อนที่เขาจะพาฉันเดินเข้ามาในห้องๆ นึง ที่คล้ายกับว่าจะเป็นห้องแต่งตัว บทสนทนาและเจื้อยแจ้วภายในห้องก่อนหน้านั้นต้องเงียบสงัดลง เมื่อคุณใหญ่ปรากฎตัวต่อหน้าทุกคน
“นี่เรยา พาเธอไปแต่งตัวด้วย”
“......”
“แล้วรอยที่อยู่ตามตัวเธอ ใช้เครื่องสำอางปกปิดให้หมด”
“ค่ะคุณใหญ่” หญิงสาวที่อยู่ในห้องเอ่ยรับคำสั่ง
สิ้นสุดประโยค จากนั้นคุณใหญ่ก็เดินออกจากห้องไป ส่วนฉันได้แต่ยืนสงสัยพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความประหม่า ในห้องนี้มีผู้หญิงหน้าตาสะสวยมากมายหลายสิบคน แล้วทุกคนก็กำลังจ้องมองมาทางฉันเป็นตาเดียวหลังจากที่คุณใหญ่นั้นเดินออกไป
“......” ฉันยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร แต่ดูเหมือนว่าพวกเธอคงไม่อยากเป็นมิตรกับฉัน
“เด็กคุณใหญ่หรอ?” หญิงสาวคนนึงเอ่ยถามฉัน เธอดูมีอายุมากกว่าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ ถ้าให้ฉันเดา เธออาจจะเป็นหัวหน้าแผนกหรือเปล่า
“......” ฉันพยักหน้ารับ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ บอกตรงๆ ว่าสายตาของพวกเขามันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด
“นี่ชุดของเธอ รีบไปเปลี่ยนซะ!”
“มันจะไม่โป๊ไปหน่อยหรอคะ?” ฉันรับชุดที่เธอให้มา พร้อมกับสำรวจมองชุดเดรสรัดรูปสีดำนั่นด้วยความไม่มั่นใจ ชุดมันทั้งสั้น ทั้งรัดรูปแถมผ้าก็บางเอามากๆ
“ใครๆ เขาก็ใส่กัน อย่าเรื่องมาก”
“......”
“เอ้า! ยืนนิ่งทำไม รีบไปเปลี่ยนชุดสิ เดี๋ยวต้องมาแต่งหน้าอีก” เธอคนนั้นพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่ยืนนิ่งไม่ขยับ
“ค่ะ” ในเมื่อไม่มีทางไหนให้ฉันเลือก ฉันจึงต้องยอมจำใจใส่ชุดเดรสรัดรูปที่เขาให้มา บอกเลยว่าในชีวิต ฉันไม่เคยแต่งตัวโป๊ขนาดนี้มาก่อน
ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเพื่อส่องกระจกหลังจากที่แต่งหน้าเสร็จ มันดูไม่ เหมือนฉันเลยสักนิด เพราะปกติฉันแทบจะไม่ได้แต่งหน้าเลยด้วยซ้ำ พอได้มาแต่งหน้าแบบจัดเต็มมันเลยดูไม่ค่อยชิน
“จะว่าไปชุดสีดำนี่เหมาะกับเธอเหมือนกันนะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มตอบด้วยความจริงใจ จะมีก็แต่เธอคนนี้ที่ดูเป็นมิตรกับฉันมากกว่าคนอื่น ๆ
“สวยๆ แบบเธอ รับรองว่าแขกต้องติดใจชัวร์”
“......” ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป พร้อมกับคิดในใจอย่างฉันเนี่ยนะ ใครจะมาติดใจ เอาอกเอาใจใครก็ไม่เก่ง แถมยังซื่อบื้อเงอะงะอีกต่างหาก
“ไปเริ่มงานได้แล้ว ขืนชักช้าเดี๋ยวจะโดนคุณใหญ่ว่าเอา”
“ถ้างั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันจึงรีบหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยความเก้ๆ กังๆ ที่จริงพี่หัวหน้าแผนกก็บอกฉันแล้วว่าหน้าที่ของฉันมีประมาณไหนที่จะต้องทำ
“เรยา เรยา นั่นใช่เรยาหรือเปล่า?” เสียงปริศนาดังขึ้นในระหว่างทางที่ฉันกำลังจะไปสแตนบายประจำที่ของตัวเอง ฉันหันขวับกลับหลังแบบอัตโนมัติเมื่อได้ยินว่ามีคนเรียก
“เจ๊ออย” ฉันร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยความตกใจ อย่าว่าแต่ฉันตกใจเลย เจ๊ออยก็มีสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
“เรยาจริง ๆ ด้วย แกมาทำอะไรที่นี่?” เจ๊มองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มองก็แปลกแล้วขนาดฉันยังไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ว่าจะมาแต่งตัวหรือทำอะไรแบบนี้
“หนูมาทำงานน่ะค่ะ”
“ทำงาน?” เจ๊ออยมีท่าทีงงหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้ เพราะอย่างที่รู้ฉันคงไม่มีวันมาเหยียบสถานที่แห่งนี้ถ้าเกิดว่าไม่มีความจำเป็นจริง ๆ
“......” ฉันพยักหน้าตอบ
“แต่ที่นี่มันอันตรายเกินไปสำหรับแก พี่ว่าแกกลับบ้านไปดีกว่า” พูดจบเจ๊ออยก็คว้าข้อมือฉันแล้วพยายามจะพาฉันเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ทว่าฉันกลับขัดขืนไม่ยอมเดินตาม
“เจ๊ไม่ต้องห่วงนะ หนูดูแลตัวเองได้ เอาไว้เดี๋ยวหนูจะเล่าให้ฟังนะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด
“แต่....”
“หนูโอเคจริงๆ เจ๊สบายใจได้” ฉันพูดขึ้นพร้อมยิ้มกว้างออกมา ฉันรู้ว่าเจ๊คงเป็นห่วง แต่ฉันโตแล้ว ฉันดูแลตัวเองได้จริงๆ
“เจ๊ทำงานอยู่ชั้นสาม ถ้าแกไม่โอเค รีบขึ้นมาหาเจ๊เลยนะ”
“ค่ะเจ๊”
“......”
“งั้นหนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” พอสิ้นสุดประโยค ฉันจึงรีบสาวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้น ในขณะที่เจ๊ออยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เพราะตอนนี้มันยังไม่พร้อมตอบคำถามหรืออธิบายอะไร ที่ฉันมายืนอยู่ที่นี่เพราะมีจุดมุ่งหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ
ในระหว่างทาง ฉันค่อยๆ กวาดสายตามองไปรอบๆ คลับด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะในชีวิตไม่เคยได้มีโอกาสได้มาสัมผัสหรือมาเห็นอะไรแบบนี้
“เห้ยน้อง! น้องคนนั้นอ่ะ มานี่หน่อยสิ!”
“เรียกฉันหรอคะ?” ฉันหันไปตามเสียงเรียกพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เมื่อได้ยินผู้ชายคนนึงร้องเรียกในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะเขาไป
“เรียกเธอนั่นแหละ”
“......” สองขาเรียวเดินเข้าไปหาชายคนนั้นตามคำสั่ง เพราะหน้าที่ของฉันคือบริการและดูแลเอาใจใส่ลูกค้า ฉันก็ต้องทำให้ดีที่สุด
แต่ฉันกลับต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าคุณใหญ่ก็นั่งอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ข้างๆ เขามีผู้หญิงหน้าตาสะสวยสองคนประกบทั้งซ้ายทั้งขวา แล้วจู่ๆ มันก็รู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูก
“พนักงานใหม่หรอเราอ่ะ?”
“ชะ...ใช่ค่ะ” ฉันพยักหน้าตอบกลับสั้นๆ ก่อนที่จะเหลือบสายตาไปมองคุณใหญ่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งก็เห็นว่าเขากำลังมองมาทางฉันเหมือนกัน
“ชงเหล้าให้พวกพี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่ให้ทิปไม่อั้น” เขายื่นแก้วมาทางฉัน ส่วนฉันก็รับมาด้วยความเต็มใจ
“ได้ค่ะ” ฉันจัดการชงเครื่องดื่มตามที่พี่หัวหน้าแผนกสอนมา เพราะว่าตัวเองดื่มเหล้าไม่ค่อยเป็น เลยต้องให้เขาช่วยบอกช่วยสอน พอชงเสร็จฉันก็ยื่นแก้วกลับไปให้เขาคืน แต่ทว่าเขากลับยื่นกลับมาให้ฉันแทน
“แก้วนี่ของเธอ กินซะสิ”
“......” ฉันลังเล พลางกลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ เพราะไม่คิดว่าแก้วที่ตัวเองชงเมื่อกี้ สุดท้ายฉันต้องเป็นคนดื่มมันเอง
“เดี๋ยวพี่ให้พันนึง ดื่มแก้วนี่ให้หมด”
“......” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจกระดกแก้วนั้นรวดเดียวจนหมด ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของพวกผู้ชายในโต๊ะนั้น จะมีก็แต่คุณใหญ่ที่ทำสีหน้าเรียบเฉียบจ้องมองมาทางฉัน
“อีกแก้ว เดี๋ยวให้อีกสองพัน”
“เอ่อ...” ฉันมีท่าทางลังเล ถ้าเกิดว่าดื่มอีกแก้วมีหวัง ฉันคงต้องเมามากแน่ๆ แล้วถ้าฉันไม่ยอมดื่ม จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า
“ให้สามพันเลยอ่ะ”
อึก! อึก! น้ำสีอำพันรสชาติขม ถูกยกกระดกรวดเดียวจนหมด แต่คนที่ดื่มมันไม่ใช่ฉัน กลายเป็นคุณใหญ่ที่แย่งแก้วนั้นไปดื่มแทน ก่อนที่เขาจะกระชากแขนฉันอย่างแรงให้เข้าหา พร้อมดึงให้ขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง ท่ามกลางความงุงงนของทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งฉัน
“คะ...คุณใหญ่!” ฉันร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อแขนข้างนึงของคุณใหญ่ เลื่อนมาโอบเอวฉันเอาไว้แน่น เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี
“เธอควรจะดีใจนะที่ได้นั่งบนตักฉันเป็นคนแรก!”
