4
ปานทิพย์สะดุ้งตั้งท่าผละหนี แต่อีกฝ่ายไวกว่า ณัฏฐ์ลุกมาคว้าแขนเธอในเสี้ยววินาทีที่เธอเกือบจะหลุดพ้นจากเขา แล้วดึงลงบนเตียงนอน
เขาผลัก กดและกักร่างของเธอ ให้ลงนอนยังเบื้องล่างของเขา ผิวเนื้อเปลือยที่ด้านหลังกระทบเข้ากับความเย็นของที่นอนจนต้องผวา เธอเบิกตาโต ร้องเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจกึ่ง ๆ แปลกใจ ที่เขาไม่ได้หมดสติอย่างที่เธอคิด
“ดิน ทำไมดิน”
“ปานไม่ใช่คนแรกที่พยายามวางยาดินหรอก”
ณัฏฐ์กวาดสายตาคมเข้มที่เธอมองเห็นความดุดันเต็มไปหมดข้างในนั้น พร้อมคำพูดกล่าวชมน้ำเสียงหมิ่นแคลน “แต่ก็ถือว่าปานมีความพยายามดีนี่”
เขาไม่พูดมากอีกต่อไป ก้มลงกดริมฝีปากบดจูบที่กลีบปากของเธอ ขบเม้มดูดดึงก่อนจะสอดรัดเนื้อร้อน ๆ ดิ้นได้เข้าไปควานหาความหวานข้างในอย่างเอาแต่ใจไม่ใช่น้อย
ปานทิพย์ดิ้นรนพยายามดิ้นหนี เธอเบี่ยงหน้าหลบ แต่ถูกเขาตรึงคางล็อกไว้แน่น หนีไปไหนไม่พ้น ลิ้นที่ถูกเขาดูดดึง เธอหลบเลี่ยงหลีกหนี ต่อสู้ ไม่ยอมให้มันพัลวันกันในโพรงปาก
แต่แล้วอาการหลบหลีกของเธอกลับกลายเป็นการจุดความต้องการของณัฏฐ์ให้ลุกไหม้โหมแรงมากขึ้น
เสียงทุ้มต่ำครางออกมาอย่างถูกใจ มือไม้อุ่นร้อนไต่ลงไปสัมผัสที่บั้นเอว ล้วงเข้าไปถลกผ้าชิ้นเล็กที่เบื้องล่างขยับดึงอย่างไม่ปรานีเลยสักนิด อีกมือของเขาดึงทึ้งที่ชิ้นบนที่ปิดทรวงอกของเธอ ออกแรงดึงพร้อมเขี่ยปลายนิ้วสะกิดที่ยอดอกของเธออย่างจงใจปลุกเร้า ก่อนจะปล่อยริมฝีปากของเธอ แล้วดึงผ้าชิ้นเล็ก ๆ ออกจนหมด พ้นสายตาของเขา
ณัฏฐ์กวาดมองทั่วเรือนกายของเธอ ด้วยสายตาที่เธอไม่เข้าใจ ก่อนจะตามลงมาเพื่อจุมพิตที่ปากของเธออีกครั้ง ปานทิพย์สั่นด้วยความกลัว เธอออกแรงดิ้นรน ผลักไส ดันเขาให้ออกห่าง
“จะดิ้นทำไม ต้องการแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
ณัฏฐ์ร้องถาม ห้ามมือเธอด้วยการกดตรึงกับเตียง แล้วซุกไซ้ใบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ แตะลิ้นลงที่แอ่งชีพจร ไล้เลียลากมาที่ลำคอด้านหน้า ลากต่ำลงไปกว่านั้น
“ไม่ ไม่ ดินหยุดก่อน ฟังปานก่อน”
ปานทิพย์ยังคงดิ้นรน แม้จะอ่อนแรงกว่าเดิมก็ตามที เธอร้องปราม ละล่ำละลัก เอ่ยปากรั้งยั้งให้เขาหยุดการกระทำวาบหวามนี้
ณัฏฐ์งึมงำ ที่ไม่รู้ว่าเขากล่าวชม หรือเพียงแค่พูด เพราะมันคือบทพูดคุยบนเตียงก็เท่านั้น “ผิวของปานดีมากรู้ไหม หุ่นก็ดี”
จบประโยค เขาลากลิ้นลงไปจนถึงยอดอกของเธอ ครอบครองยอดปลาย เท่านั้นเองที่ทำให้ต้องหยุดดิ้นรนเพราะความร้อนแล่นพล่านไปทั่ว เธอบิดเร่าด้วยความรัญจวนแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต
ณัฏฐ์เปลี่ยนถ่ายย้ายฝั่งมาที่อีกข้าง ยิ่งสร้างความทรมานให้เธอมากยิ่งขึ้น ก่อนจะหยุด เพื่อยกศีรษะขึ้นสบตากับเธอ
ดวงตาของเขาออกสีดำเข้ม วินาทีนี้หยาดเยิ้มหวานไม่น้อย ปานทิพย์ส่งเสียงวอนขอเขาอีกครั้ง เสียงที่ตั้งใจร้องห้ามให้ฟังเข้ม ฟังดูจริงจัง ทำไมถึงได้หวาน อ่อน อ้อนจนเหมือนกับร้องขอเขาให้ดำเนินทุกอย่างต่อไปก็ไม่รู้
“ดิน ได้โปรด”
“นิสัยชอบแย่งของคนอื่นมันถ่ายทอดจากน้ามาถึงหลานได้เหมือนกันสินะ” ณัฏฐ์พูด สายตาเขาจ้องลึกเข้ามาในตาของเธอ ปานทิพย์ค่อย ๆ ประมวลผลจากประโยคของเขาเมื่อครู่ เสียงบอกห้วน ความหมายเจ็บปวด บาดเข้าไปในความรู้สึกของเธอเสียจนไม่มีหนทางให้กล่าวแก้ตัวได้แต่ประการใด
“จะไม่มีการรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น จำไว้นะปานทิพย์”
เขาประกาศกร้าว ร้ายกาจใส่เธอ แล้วก้มลงจูบหนัก ๆ ที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง
ปานทิพย์เสียดไปทั้งอกทั้งหัวใจ เธอเจ็บและแสบที่ริมฝีปาก รู้สึกว่าตัวเองพลาดไป ไม่น่าคิดอะไรตื้น ๆ และทำกับเขาแบบนี้เลย หากย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ยินยอมตกลงใด ๆ ทั้งสิ้นกับคนที่วานให้มาทำเรื่องพวกนี้เป็นอันขาด
ความคิดของเธอเริ่มเลือนหาย เมื่อรับรู้ได้ถึงนิ้วของเขาตรงส่วนแกนกลางกาย ปานทิพย์ร้องวอนเขา
“ดิน อย่า...”
ณัฏฐ์แตะนิ้วของเขาที่ตรงรอยแยกของเธอ ปานทิพย์หนีบขา หุบเข้า ไม่ให้เขากระทำการใด ๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่แล้วเขากลับพาตัวเองเข้ามาเบียดแทรกที่ระหว่างขาของเธอ เขาปลดกางเกงออกเพียงอย่างเดียว แล้วล้วงเอาซองสีเงินออกมาฉีกออก หยิบของด้านในดันออกสวมลงที่ตัวตนของเขาทันที แล้วแทรกส่วนนั้นของเขาเข้ามาที่ด้านในของเธอทันที
“ฮือ เจ็บ ปานเจ็บ”
ปานทิพย์ร้องครวญ เนื้อตัวของเธอทั้งสั่น ทั้งแสบที่ส่วนนั้น ได้ยินเสียงเขาสบถเบา ๆ ส่วนที่ตึงแน่นเมื่อครู่ก็หายไปแทบทันที
ณัฏฐ์ก้มลงจูบเธอใหม่ ส่วนมือของเขาก็เขี่ย ปลุกเร้าไปยังส่วนที่ไวต่อสัมผัสของเธอ จนความรู้สึกเมื่อก่อนหน้าหายไปสิ้น ขนอ่อนบนลำตัวของเธอลุกฮือ เมื่อถูกเขาแตะลิ้นลากไล้ไปทั้งตัว อ่อนเปลี้ย ซาบซ่าน เมื่อเขาขบเม้มไปตามผิวอ่อนของเธอ
เสียงหวีดร้อง ทั้งเสียวทั้งซ่าน ปนเสียงหายใจหอบกระเส่าของชายหญิงในห้องนอนห้องนั้น ดัง ๆ หยุด ๆ สลับกันจนหมดคืนจวบจนรุ่งเช้า
