บท
ตั้งค่า

เมียนักเลง | 9

“งั้นเลิฟถามหน่อยสิแต่เฮียปั้นต้องตอบเลิฟตรงๆนะ” ผมนั่งมองหน้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังพูดเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ๆ

“ว่ามาสิ” ผมตอบกลับไปทันทีเมื่อเธอมีข้อสงสัยที่อยากจะถาม

“เฮียปั้นชอบเลิฟหรอ ไม่ใช่เอ็นดูเลิฟเหมือนน้องสาวหรือไงเพราะเลิฟไปเล่นกับข้าวหอมบ่อยนะ” เอาอะไรมาคิดว่าผมจะเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว

“เอ็นดูหรอ…ฉันอยากให้เธอดูเอ็นฉันมากกว่า” ผมตอบกลับไปในทันที เชื่อเถอะว่าเด็กสาวใสซื่ออย่างเลิฟไม่มีทางเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดหรอก

“หมายความว่ายังไงคะ ดูเอ็น เอ็นที่แขนหรอ” คนตัวเล็กถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะก้มหน้ามาทางแขนของผมที่วางอยู่บนโต๊ะ

น่ารักชะมัด !

“ที่ฉันบอกว่าจะจีบเธอไม่เข้าใจหรือไง ทำไมยังคิดว่าฉันเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว” ผมถามขึ้นทันทีเพราะผมมั่นใจว่าการกระทำของผมมันชัดเจนมากๆ

“ก็เลิฟเป็นเพื่อนข้าวหอมและไปเล่นบ้านเฮียปั้นบ่อย” คนตัวเล็กตอบกลับมาอีกครั้ง

“ฉันชอบเธอที่หมายถึงฉันจะเอาเธอมาเป็นแฟน” ผมพูดขึ้นเพื่อเน้นย้ำให้เธอเข้าใจ แน่นอนว่าหลังจากที่เธอได้ยืนคำพูดของผมก็หน้าแดงขึ้นสี

“ไม่สิ ฉันชอบเธอที่หมายถึงจะเอาเป็นเมีย” คนที่เขินอยู่แล้วตอนนี้เขินยิ่งกว่าเก่า ตัวแดงจนผมคิดว่าลมพิษขึ้นตัว

“ฉันชอบเวลาเธอเขินนะ ดูน่ารักดี” ผมพูดขึ้นอีกครั้งอย่างอดแซวไม่ได้ เด็กคนนี้เวลาเขินน่ารักจริงๆ

ท่าทางที่ไม่ได้ประดิดประดอยของเธอทำผมเอาผมอยากฟัดเธอแทบบ้า

“หยุดแซวเลิฟเลย ไปส่งเลิฟได้แล้วคุณแม่รอแย่แล้ว” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง ทำเอาผมก้มดูนาฬิกาข้อมือทันที

อ่า...เย็นแล้วจริงด้วย มัวแต่คุยเรื่องที่ดินจนลืมดูเวลาไปเลยว่าถ้าเย็นแล้วก็คงมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย

“โอเค งั้นไปกัน” ผมตอบกลับอีกครั้งก่อนจะพาคนตัวเล็กตรงกลับบ้านทันที

“กลับมาแล้วหรอลูกสาว” เสียงหวานของคนเป็นแม่ของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พร้อมพูดขึ้นทันที

“สวัสดีจ้ะ ทำไมวันนี้เฮียปั้นพี่ชายหนูข้าวหอมถึงมาส่งลูกสาวแม่ได้ล่ะ” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้งพร้อมมองหน้าผมสลับกับหน้าของลูกสาว

“พอดีผมรบกวนน้องให้ช่วยตัดสินใจเรื่องงานน่ะครับ” ผมตอบกลับไปตามตรงเพราะกับผู้ใหญ่ไม่มีอะไรต้องโกหกอยู่แล้ว

“แบบนี้นี่เอง อยู่ทานข้าวเย็นบ้านแม่ไหม” คุณแม่ของคนตัวเล็กถามขึ้น

“เฮียปั้นไม่กินหรอกแม่เดี๋ยวเฮียปั้นต้องรีบกลับบ้านใช่ไหมเฮียปั้น” คนตัวเล็กพูดขึ้นนั่นทำให้ผมรีบตอบ

“กินครับ” ผมพูดขึ้นเสียงดังฟังชัดจนคนเป็นแม่หันมองอย่างยิ้มๆ

“งั้นเลิฟพาเฮียปั้นเข้าไปนั่งรอแม่ด้านในก่อน แม่รดน้ำต้นไม้เสร็จจะตามเข้าไปทำอาหารให้กิน”

“เฮียปั้นจะรับปากคุณแม่ว่ากินทำไมคะ” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพร้อมหันมาถามผมขึ้นทันทีเมื่อลับสายตาคนเป็นแม่

“ทำไมฉันจะกินข้าวบ้านเธอไม่ได้ ในเมื่อเธอยังเคยกินข้าวบ้านฉันบ่อยๆเลย” ผมถามกลับทันที

“ก็ตอนนี้ข้าวหอมไม่อยู่สักหน่อย” แล้วยังไง ?

“แม่เธอชวนขนาดนี้ ฉันไม่ปฏิเสธผู้ใหญ่หรอกมันเสียมารยาทไม่รู้หรอ” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง

“นั่งรอตรงนี้เลยเดี๋ยวเลิฟไปดูในครัวดีกว่า เผื่อมีอะไรทำได้บ้าง” คนตัวเล็กพูดจบก็ตรงเข้าไปในครัวที่ถูกแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจน มือเล็กๆหยิบผักที่วางอยู่มาล้างน้ำอย่างทะมัดทะแมงก่อนจะลงมือหั่นมันในทันที

“ไม่รู้เลยว่าจะทำอาหารเป็นด้วย” ผมถามขึ้นหลังจากแอบดูการกระทำของคนตัวเล็กอยู่สักพักใหญ่

“เลิฟชอบมาช่วยแม่ทำอาหารอยู่บ่อยๆ ฝีมือดีนะแม่จะบอกให้” ก็เชื่ออยู่แหละครับเพราะดูท่าทะมัดทะแมงเลยทีเดียว

“งั้นผมตั้งตารออาหารฝีมือคุณแม่กับเลิฟแล้วล่ะครับ” ผมพูดขึ้นทันที จริงๆไม่ได้จะเอาใจหรอกนะแต่แม่ยายใจดีขนาดนี้ เอาใจนิดๆหน่อยก็ได้วะ เผื่อจีบลูกสาวไม่ติดจะได้เข้าทางแม่ยาย

“แม่คิดว่าจะตั้งตารออาหารฝีมือเลิฟคนเดียวซะอีก”

“ฮ่าๆ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนพร้อมกับถามขึ้นทันที

“ไม่มีหรอก เฮียปั้นไปนั่งรอหน้าทีวีเลยเดี๋ยวเลิฟกับคุณแม่ทำเอง” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ผมเดินมารอหน้าทีวีเพราะต่อให้ยืนอยู่ในครัวต่อไป ผู้ชายอย่างผมก็ไม่รู้จะช่วยอะไรอยู่ดี

“เป็นยังไงบ้างอาหารฝีมือแม่กับเลิฟอร่อยถูกเปล่าหรือเปล่า” เสียงหวานของคุณแม่คนตัวเล็กถามขึ้นทันทีเมื่ออาหารทุกอย่างถูกวางลงบนโต๊ะ

“อร่อยมากเลยครับ” ผมตอบกลับไปเพราะอาหารทุกอย่างตรงหน้ามันอร่อยจริงๆ

“อร่อยก็กินเยอะๆ แม่ทำไว้เยอะเลย” คุณแม่พูดขึ้นอีกครั้ง

“ขอบคุณครับ อร่อยแบบนี้คราวหลังผมต้องมาฝากท้องบ่อยๆแล้ว” จริงๆที่อยากมาฝากท้องไว้บ่อยๆก็เพราะอยากกินข้าวกับคนตัวเล็กคนนี้ด้วยเลยหาข้ออ้างก็เท่านั้น

“มาเลยจ้ะ มาได้ตลอดเลย”

จวบจนเวลาผ่านไปจนกินข้าวเสร็จ ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังเดินมาส่งผมที่หน้าบ้าน

“พรุ่งนี้จะมารับไปส่งที่มหาลัยโอเคหรือเปล่า” ผมพูดขึ้นทันที

“ให้เลิฟไปเองบ้างเถอะค่ะ เลิฟเกรงใจ” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพร้อมกับพูดขึ้น

“บอกว่าจีบ ถ้าไม่ให้มารับจะรู้ได้ยังไงว่ากำลังจีบอยู่” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง

จุดประสงค์ที่ผมมารับเธอมันมากกว่าจีบ อยากเจอ อยากได้ยินเสียงก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือไอ้ตัวผู้ที่มหาวิทยาลัยจะได้รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว

“ก็รู้แล้วว่าจีบแต่ทางไปมหาวิทยาลัยกับบ้านเลิฟมันคนละทาง”

“ฉันว่าฉันเคยพูดเรื่องนี้กับเธอแล้วนะ มารับก็คือมารับ อย่าดื้อได้ไหมวะ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งกับท่าทางหัวรั้นของคนตรงหน้าเพราะพูดเรื่องนี้ทีไรมันก็จะพาทำผมหงุดหงิด ไม่รู้เหมือนกันเธอจะเกรงใจอะไรนัก ในเมื่อผมเต็มใจที่จะทำ

ดื้อเงียบที่สุด !

“เลิฟไม่ได้ดื้อนะ” คนดื้อเถียงกลับทันทีพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจ

“ถ้าไม่ดื้อก็ทำตามที่บอก”

“โอเค มารับก็มารับงั้นก็มารับให้ได้ตลอดแล้วกัน” คนตัวเล็กพูดขึ้นด้วยท่าทางประชดประชัน แต่เชื่อเถอะ ผมมารับได้ตลอดแน่

“ฉันมารับเธอตลอดแน่ มานี่ดิ มายืนใกล้ๆหน่อย” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเรียกคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าเข้าหาเธอ

“ใกล้กว่านี้หน่อย” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง

ฟอด !

“ขโมยหอมแก้มเลิฟครั้งที่สามแล้วนะ” คนตัวเล็กโวยวายขึ้นทันทีเมื่อโดนผมหอมแก้ม

“ไม่ได้ขโมย ฉันตั้งใจหอมแก้มเธอ” ผมพูดขึ้นทำเอาใบหน้าสวยแดงขึ้นสีอีกครั้ง

“วันหลังไม่ให้หอมแล้วนะเฮียปั้น ทำแบบนี้เลิฟเสียหายไม่รู้หรอ” ปากเล็กๆสีแดงไร้การแต่งแต้มพูดขึ้นทันที

สาบานเลยว่าถ้าได้จูบจะจูบให้ช้ำ

“งั้นก็เป็นแฟนฉันสิ จะได้ไม่เสียหาย”

“ไม่คุยด้วยแล้ว กลับไปได้แล้วเลิฟจะเข้าบ้าน” คนตัวเล็กพูดขึ้นด้วยท่าทางเฉไฉก่อนจะหันหลังกลับเข้าบ้านไป

ส่วนผมก็เดินกลับมาขึ้นรถด้วยท่าทางสบายใจ ให้ตายชักติดใจแก้มนิ่มๆแล้วว่ะ เป็นไปได้ก็อยากหอมมันทุกวัน คนอะไรวะ แก้มนิ่มฉิบหาย

“ไงพ่อตัวดี กลับเข้าบ้านมายิ้มแย้มเชียว” เสียงคุณแม่ของผมทักขึ้นทันที

“ตัวดีอะไรกันแม่ วันนี้ปั้นยังไม่ได้มีเรื่องอะไรเลยนะ” ผมตอบกลับคนเป็นแม่ทันทีเพราะวันนี้ผมปฏิบัติตัวดีอยู่นะ

“ไปทำอะไรมาทำไมอารมณ์ดีแบบนี้” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้งแววตามองผมอย่างจับผิดราวกับต้องการจะรู้ให้ได้

“ก็เฮียปั้นกำลังอินเลิฟไงคะแม่” ข้าวหอมที่เดินมาจากไหนไม่รู้พูดขึ้นทันที

“จริงหรอ ปั้นกำลังมีความรักหรอลูก” คุณแม่ถามขึ้นด้วยท่าทางดีใจ ก็แน่สิ ผมไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยอย่างมากก็คั่วไปเรื่อย

“พูดมากนะข้าวหอม” ผมพูดขึ้นอีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะเขกหัวยัยน้องสาวตัวดีไปสักทีพร้อมกับทำท่าจะเดินขึ้นไปด้านบนของบ้าน

“มุบมิบเก่งเหลือเกิน รู้หรือเปล่าวันนี้ที่มหาวิทยาลัยมีคนมองเลิฟเยอะมากเลยนะเฮียปั้น” แน่นอนว่าเมื่อได้ยินคำพูดของข้าวหอม ผมก็รีบหันกลับมามอง

“เลิฟหรอ เพื่อนเรานะหรอข้าวหอม”

“อุ้ย ! หลุดปากอะเฮียปั้น ไม่รู้ไม่ชี้” ยัยน้องสาวตัวดีที่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้เสร็จก็วิ่งออกไปทันที

“ปั้นกำลังจีบหนูเลิฟอยู่หรอลูก” คุณแม่ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ สองมือจับแขนผมไว้แน่น

“อะไรกันแม่ ทำไมอยากรู้ล่ะ” ผมตอบกลับอย่างปัดๆเพราะไม่อยากเอามาพูดเท่าไหร่

“อะไรกันแค่นี้บอกแม่ไม่ได้หรือไง เอาเถอะเรื่องวัยรุ่นแม่ไม่ยุ่งก็ได้แต่ถ้าเป็นหนูเลิฟแม่โอเคนะ แต่ถ้าเป็นสาวๆที่ปั้นชอบไปคั่วๆบ่อยแม่ไม่เอานะ” คนเป็นแม่ขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปทันที

นั่นทำให้ผมตรงขึ้นด้านบนอีกครั้ง หวังว่าจะไม่มีใครเข้ามาผ่านตาให้วุ่นวายอีกแล้วกัน

“เฮีย ผมมีเรื่องปรึกษาว่ะ” อะไรกันวะ !

“มีอะไรมึงว่ามาเลย กูไม่ว่างรอมึงพูดนานๆหรอกนะไอ้โอ๊ต” ผมพูดขึ้นทันทีด้วยอาการหัวเสียหน่อยๆเพราะตั้งใจว่ากลับมาถึงบ้านจะเปิดโทรศัพท์ทักแชทไปหาคนตัวเล็กสักนิดแต่กลับกลายมีไม่รู้กี่คนเข้ามาชวนคุย

ลืมบอก ไอ้โอ๊ตที่ผมพูดถึงมันคือข้าวโอ๊ตน้องชายคนเล็กของบ้านวัยสิบห้าปี

“พอดีผมเผลอไปมีอะไรกับผู้หญิงอะเฮีย”

“ไอ้เหี้ยโอ๊ตมึงอายุสิบห้า” ผมพูดขึ้นทันทีด้วยท่าทางตกใจเพราะอายุสิบห้ามันเร็วมาก

“เฮียอย่าลืมสิ ตอนนั้นตอนเฮียบอกกับผมเฮียก็อายุสิบห้า” ไอ้นี่มันย้อนว่ะ ส้นตีนจริงๆไอ้น้องเวร

“แล้วที่มาบอกกูคือยังไง เขาท้องหรือไง” ผมถามกลับอย่างใจเย็น

“ไม่ใช่นะเฮียผมป้องกันอยู่แต่แค่ไม่รู้ว่าจะถูกใจเขาหรือเปล่าเพราะมันเป็นครั้งแรกของผม” ไอ้โอ๊ตพูดขึ้นอีกครั้ง

จริงๆตอนแรกผมก็ไม่อยากคิดว่าไอ้โอ๊ตน้องชายของผมจะแบบนี้หรอก ไอ้โอ๊ตมันต่างกับผมริบหรี่ มันออกแนวเด็กนักเรียนเนิร์ดๆ เรียบร้อย อ่อนโยน ส่วนผมสถุนหมาตามแบบที่เคยบอกไว้นั่นแหละ จะเรียกมันอีกอย่างว่ายังไงนะ ฮอตเนิร์ดหรือเปล่า ก็คงใช่ เพราะแม่งเล่นตั้งแต่สิบห้า

“มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้ไหม ตอนมึงเอากันกูไม่ได้ไปเอาด้วย” ผมตอบกลับไปทันทีเพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้ไปรู้กับมัน

“โห่เฮีย ให้คำปรึกษาดีๆหน่อยดิวะ นี่น้องนะ” มันพูดขึ้นอีกครั้ง จริงๆไอ้โอ๊ตมันเป็นคนพูดเยอะและจะพูดแค่ตอนอยู่กับผมกับป๊าเท่านั้น ถ้ากับคนอื่นมันจะเป็นคุณชายพูดน้อยโดยทันที

“กูเห็นว่ามึงเป็นน้องไงเลยไม่ซัดหน้ามึง เสียเวลากูฉิบหาย จะบอกให้นะถ้าผู้หญิงมันร้องมันเสียวมันก็ดีหมดแหละ ครั้งแรกก็กังวลแบบนี้ เอาบ่อยๆเดี๋ยวมึงก็มีประสบการณ์ขึ้น” ผมพูดขึ้นอย่างใจเย็น อยากรีบคุยรีบจบแล้วเข้าห้องไปคุยกัยเลิฟสักที

“โอเค ไว้สงสัยอะไรจะมาปรึกษาอีกแล้วกัน ดูท่าเหมือนไม่อยากคุย”

“เออ ! ไม่อยากคุย กูจะคุยกับเมีย มึงอะขัดฉิบหาย”

“เฮียปั้นเนี่ยนะ จะมีเมีย เลิกคั่วสาวให้ไอ้ก่อน”

“ไอ้สัส”

❤️

เปิดตัวน้องชายคนเล็กของบ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel