เมียนักเลง

166.0K · จบแล้ว
CCHANOKNET
65
บท
5.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

SET เมีย เมียนักเลง ข้าวปั้น X เลิฟ ข้าวปั้น ( เฮียปั้น ) ปวส. 2 อายุ 20 ปี หัวโจกเทคนิคชื่อดัง มีเรื่องต่อยตีไม่เว้นแต่ละวัน ถือศักดิ์ศรีและพวกพ้องเป็นใหญ่ ทุกการกระทำในชีวิต เขามีพ่อเป็นแบบอย่าง นิสัย : ใจร้อน โมโหง่าย ขี้หงุดหงิด X เลิฟ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหาร อายุ 18 ปี สาวสวยแสนน่ารัก ผู้ครองใจชายหนุ่มทั้งคณะบริหาร เพราะความใสซื่อ เรียบร้อย และอ่อนหวานของเธอ มันกลับกลายเป็นเสน่ห์มัดใจชายหนุ่มหลายๆคน นิสัย : อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ความบังเอิญที่ถูกสร้างขึ้น “วิ่งดิวะ รอให้พวกมันมากระทืบรึไง” “ทำไมเลิฟต้องวิ่ง ในเมื่อเลิฟไม่ได้มีปัญหากับพวกเขา” “แค่มันเห็นเธออยู่กับฉัน เธอก็คือปัญหาของมัน” กลับกลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อยากเจอ “เราอยู่ห่างๆกันไว้มันคงจะดีกว่านี้นะคะ” “อยู่กับฉันเธอไม่จำเป็นต้องกลัว” “อยู่ใกล้เฮียปั้นทีไร ชีวิตเลิฟต้องเสี่ยงอันตรายทุกที” ความใกล้ชิดพัดพาความเป็นห่วง “เลิกมีเรื่องได้มั้ยคะ ถือว่าเลิฟขอ” “ฉันไม่เลิก ถ้าพวกมันไม่จบ” “แต่เลิฟไม่อยากต้องมานั่งทำแผลให้เฮียปั้นแบบนี้” •••• แนะนำการอ่าน 1. เมียนายเถื่อน 2. เมียนักเลง 3. เมียฮอตเนิร์ด 4. เมียซุปตาร์ 5. เมียพ่อเลี้ยง 6. เมียเด็ก สามารถพูดคุยกับเค้าได้ผ่านทางทวิตเตอร์ @c_chanoknet และเพจเฟสบุ๊ค CCHANOKNET

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆโรแมนติกนักศึกษา

เมียนักเลง | 1

“ไอ้ปั้น ป๊าบอกกี่รอบแล้วจะมีเรื่องก็มีไปแต่อย่าให้เรื่องมันต้องถึงโรงพัก ป๊าไม่อยากฟังแม่แกบ่น” อ่า...ตอนนี้ผมกำลังโดนป๊าสวดอยู่หน้าโรงพัก

เพราะเหตุมันมีอยู่ว่า…

“ไอ้เหี้ยปั้น มึงจะปล่อยหรือเล่นแม่งวะ” เสียงของไอ้แชมป์เพื่อนสนิทผมถามขึ้น ตอนนี้ผมกับมันอยู่กันที่หน้าโรงเรียน แน่นอนว่าตอนนี้มีคู่อริต่างโรงเรียนมันกำลังห้าวตีนอยู่แถวหน้าโรงเรียนของผมโดยการขี่รถมอไซต์แว้นไปมามากกว่าห้ารอบแล้ว

“หย่ามกันถึงที่แบบนี้มึงคิดว่ากูจะปล่อยหรอวะ” ผมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มพร้อมพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด

พวกแม่งเล่นมาถึงถิ่นแบบนี้ เจ้าถิ่นอย่างผมก็ควรจะต้อนรับหน่อยจริงไหม

“งั้นก็ลุยแม่งเลยดิวะ” สิ้นเสียงไอ้แชมป์ ผมก็วิ่งไปกลางถนนแล้วถีบรถของไอ้โดมคู่อริต่างโรงเรียนให้ล้มลง

“สัส” พวกไอ้โดมที่ล้มลงเอ่ยปากขึ้นมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง

“มึงมาถึงถิ่นกูแบบนี้คิดว่ากูจะให้กลับไปง่ายๆหรือไง” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่มันและผมจะพุ่งตัวเข้าหากันและแลกหมัดใส่กันอย่างเอาเป็นตาย ส่วนไอ้แชมป์เพื่อนของผมก็เช่นกันมันกำลังแลกหมัดกับไอ้คนที่มากับไอ้โดม

อั่ก !

เสียงหมัดของผมพุ่งเข้าใส่หน้าไอ้โดมคู่อริต่างสถาบันอย่างแรง

“ไอ้เหี้ยปั้น” มันเอ่ยขึ้นพร้อมเช็ดแผลที่มุมปากและถ่มน้ำลายลงพื้น

“ไอ้สัสนี่ สงสัยแผลเดียวจะเอาปากหมาๆของมึงไม่อยู่” ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมพุ่งตัวใส่มันอีกรอบ

ผมและมันแลกหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ถ้าเกิดมีไม้สักอันใกล้ๆตัว รับรองไอ้เวรนี่เลือดหัวมันต้องออก

อีกอย่างตอนนี้รถบนถนนหยุดเคลื่อนที่เพราะมวยคู่เอกระหว่างผมกับไอ้โดมกำลังเล่นสดๆกันอยู่

ปี๊ด !

“ไอ้ปั้น พ่อมึงมาวิ่งเร็ว” เสียงไอ้แชมป์ตะโกนขึ้น นั่นทำให้ผมหันหลังกลับไปมอง คำว่าพ่อมึงมาของมัน มันไม่ได้หมายถึงพ่อของผมแต่มันหมายถึงข้าราชการตำรวจ

“สัสเอ้ย ! มึงเจอกูอีกแน่ไอ้เหี้ยโดม” ผมพูดขึ้นก่อนจะกระทืบลงไปที่หน้าอกของไอ้เหี้ยโดมที่ล้มลงอีกครั้งและสับตีนหมาวิ่งหนีตำรวจด้านหลัง

“มึงหนีตำรวจให้ได้ก่อน ค่อยมาปากดีกับกู” มันตะโกนตามหลังผมอีกครั้ง มันยิ่งทำให้ผมสับตีนแตกมากกว่าเดิมแต่ก็ไม่ทันเพราะตอนนี้ข้าราชการตำรวจด้านหลังรวบตัวผมกับไอ้แชมป์ขึ้นท้ายกระบะไปพร้อมไอ้เหี้ยโดมและเพื่อนของมันเรียบร้อยแล้ว

“สุดท้ายมึงก็หนีไม่รอด” ไอ้เหี้ยโดมทำหน้ากวนส้นตีนและพูดขึ้นอีกครั้ง

“อย่าปากดีเพราะกูเอาตีนยันหน้ามึงได้นะตอนนี้” ผมพูดขึ้นพร้อมทำท่าจะพุ่งไปหาไอ้โดมแต่ก็โดนข้าราชการตำรวจด้านหลังล็อกตัวของผมไว้ก่อน

“ใจเย็นพ่อหนุ่ม มีอะไรไปเคลียร์ที่โรงพักเป็นนักเรียนกันแท้ๆ ริอ่านมีเรื่องต่อยตี” ข้าราชการตำรวจพูดขึ้นทันที นั่นทำให้ผมหยุดการกระทำอันแสนอุกอาจ

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมโดนป๊าสวดยับอยู่แบบนี้เพราะทุกครั้งที่ผมมีเรื่องป๊าไม่เคยว่าเพราะป๊าของผมก็คือผมในสมัยก่อน

เห็นผมเป็นยังไงป๊าผมก็แบบนั้น ป๊าเข้าใจชีวิตวัยรุ่นแต่ที่ผมโดนสวดอยู่แบบนี้ มันเป็นเพราะเรื่องถึงโรงพัก คนที่จะสวดผมคนต่อไม่ใช่ป๊าแต่จะเป็นแม่ของผมเอง ที่ทุกคนในบ้านไม่กล้าหืออะไรด้วยทั้งสิ้น

“ปั้นหนีแล้วป๊าแต่ปั้นหนีไม่ทัน อีกอย่างไอ้เหี้ยโดมมันมาถึงถิ่นเป็นป๊าป๊าจะยอมให้มันผ่านไปเฉยๆไหมล่ะ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะรู้ดีต่อให้ป๊าจะผ่านชีวิตแบบนี้มาแล้วหลายสิบปีแต่เรื่องแบบนี้ยังไงมันก็อยู่ในสายเลือด

ขึ้นชื่อว่าศักดิ์ศรี ขึ้นชื่อว่าสถาบัน จะให้ใครมาหยามได้ไงวะ

“เลิกคุยเรื่องนี้ แล้วเตรียมหูไปฟังแม่แกบ่น” คนตรงหน้าพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินนำหน้าไปที่รถ ส่วนไอ้แชมป์ตอนนี้ที่บ้านมันก็มาประกันตัวไปเรียบร้อยแล้ว

“แม่บอกกี่ครั้งแล้วข้าวปั้นว่าอย่ามีเรื่อง” นั่นไง ทันทีเมื่อผมเดินเข้ามาในบ้านคนเป็นแม่ก็เอ่ยปากขึ้นทันทีและการที่แม่เรียกชื่อผมเต็มๆมันก็ไม่ใช่เรื่องดี

ถึงแม่ผมจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแต่หากเวลาโกรธก็ไม่ต่างจากนางยักษ์ในเรื่องพระอภัยมณีหรอก ความร้ายแรงและฝีปากอันแกร่งกล้าพอๆกัน ใครจะคิดวะว่าผู้หญิงตัวเล็กๆที่คลอดผมออกมาจะมีพลังทำลายล้างสูงมากถ้าเธอโมโห

“ใจเย็นข้าว” ป๊าพูดห้ามปรามแต่ก็โดนสายตาดุๆของแม่มองกลับไป นั่นทำให้ผู้ชายร่างโตๆอย่างป๊าของผมต้องหลบสายตา

คำว่า กลัวเมีย มีในพจนานุกรมของป๊า

“ใจเย็นไม่ได้แล้วเถื่อน ข้าวปั้นขึ้นโรงพักไม่เว้นแต่ละวันไม่คิดบ้างหรือไงว่าแม่จะเป็นห่วงขนาดไหน” คนเป็นแม่พูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดทันทีเพราะคำว่าเป็นห่วง

“อายน้องบ้างไหม เห็นไหมวันๆเอาแต่ติวหนังสือกับเพื่อน ไม่เหมือนเราที่เอาแต่มีเรื่องชกต่อยให้แม่ปวดหัว” แม่พูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่ผมจะปรายตาไปทางด้านหลังที่ข้าวหอมน้องสาวแท้ๆของผมกำลังนั่งอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอที่ชื่อเลิฟ

อ่า...โคตรไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองตอนนี้เลย

โดนแม่ด่าต่อหน้าคนที่ชอบ

“แม่ไม่ทำแผลให้หรอกนะ หาแผลมาเองก็หัดทำเอง” แม่พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะวางกล่องยาไว้ให้และเดินขึ้นบ้านไป

ผมยังคงรับรู้ถึงความเป็นห่วงของแม่เพราะอย่างน้อยก็อุตส่าห์เอากล่องยามาวางไว้ให้ ส่วนป๊าก็ตามขึ้นไปติดๆเพราะคงกลัวความผิดที่ไม่เคยห้ามลูกอย่างผม

“หนูไม่ทำให้เฮียหรอกนะ นู้นให้เลิฟทำให้แล้วกัน” ข้าวหอมน้องสาวของผมพูดขึ้นก่อนจะหันหน้าไปทางเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเอง นั่นทำให้ผมยกยิ้มทันทีเพราะน้องสาวผมโคตรจะรู้งาน

“ฉันไปเข้าห้องน้ำนะแก” ผมยกยิ้มขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่เป็น กขค ระหว่างผมกับเธออีกแล้ว

“มีเรื่องอีกแล้วหรอคะ” คนตรงหน้าถามผมขึ้นทันที นับว่าเป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำที่เธอพูดกับผมตอนที่เราอยู่ด้วยกันสองคน

“ถามแบบนี้เธอรู้เรื่องของฉันด้วยหรอ”

จริงๆผมชอบเธอมากแต่ด้วยความที่เธอเป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวและป๊ากับแม่ก็รักและเอ็นดูเธอมาก มันทำให้ผมค่อนข้างจะประหม่า อีกอย่างผมไม่เคยจีบใครด้วยสิ ไม่รู้ว่าต้องเข้าหาและชวนคุยยังไง ถึงเธอจะมาที่บ้านบ่อยๆแต่มันก็ไม่บ่อยที่ผมจะมีโอกาสคุยกับเธอ

“ข้าวหอมเล่าให้ฟังบ่อยค่ะ บอกว่าพี่ชายชอบมีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ คงเป็นข้าวโอ๊ตไม่ได้หรอกจริงไหม” ก็จริง ! ถ้าถามว่าข้าวโอ๊ตคือใคร มันก็เป็นน้องชายของผมอีกคนนี่แหละแต่มันกับผมต่างกันมากเพราะข้าวโอ๊ตมันเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นซึ่งขัดกับผมทุกทาง

“ทำแผลให้ฉัน” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะหยิบกล่องยาวางบนโต๊ะตรงหน้าของเธอ

แน่นอนเธอก็ปฏิเสธสายตากดดันของผมไม่ได้ มือน้อยค่อยๆหยิบอุปกรณ์ทำแผลให้ผม

“มือไม่ต้องสั่นขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะอาการประหม่าของเธอมันทำให้ผมขัดใจ

“แต่หน้าตาพี่มันไว้ใจไม่ได้ เลิฟไม่อยากสนิทกับคนที่มีเรื่องบ่อยๆมันน่ากลัว”

“เฮีย”

“อะไรคะ”

“เรียกฉันว่าเฮีย เฮียปั้น”

❤️

เลือดพ่อมันแรง

พ่อยังไง ลูกก็แบบนั้น