บท
ตั้งค่า

เมียนักเลง | 5

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ยัยเลิฟ ยัยเลิฟ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของข้าวหอมดังขึ้น แต่เดี๋ยวนะ นี่มันบ้านฉัน

“มาได้ยังไง” ฉันที่รีบลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องก็ถามขึ้นด้วยความตกใจ

“จะมาชวนไปซื้อชุดนักศึกษาน่ะสิ ใครจะคิดว่าแกยังไม่ตื่น” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะดันตัวฉันให้ถอยห่างประตูและเดินเข้ามาในห้อง

“ฉันยังง่วงอยู่เลย” ฉันว่าขึ้นเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนก็เกือบเช้า

“รีบไปอาบน้ำเฮียปั้นรออยู่ด้านล่าง”

“เขามาด้วยหรอ” ฉันถามขึ้นด้วยอาการตกใจเพราะปกติเขาเคยพาข้าวหอมมาบ้านฉันซะที่ไหนล่ะ

“ใช่ ! แกไปอาบน้ำได้แล้ว ฉันจะลงไปรอด้านล่างให้ไวด้วย” ยัยข้าวหอมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะออกจากห้องของฉันไป

นั่นทำให้ฉันรีบตรงเข้ามาอาบน้ำ เอาจริงๆนี่ใกล้แล้วที่มหาวิทยาลัยจะเปิดแต่ฉันยังไม่เตรียมตัวซื้อของอะไรเลย ไม่น่ารับปากกับคุณแม่ว่าจะหาซื้อเอาเลย ไม่งั้นนะตอนนี้คุณแม่คงเตรียมพร้อมไว้ให้หมดแล้ว

“แม่ฉันล่ะ” ฉันที่ลงถึงด้านล่างของบ้านก็ถามขึ้นทันที

“แม่แกออกไปเปิดร้านตั้งแต่ฉันมาแล้ว” ข้าวหอมตอบกลับอีกครั้งก่อนที่เราจะออกจากบ้านกัน

ซึ่งถ้าถามว่าคุณแม่ของฉันเปิดร้านอะไร ก็ร้านดอกไม้นี่แหละเพราะคุณแม่ของฉันชอบจัดดอกไม้มากๆ

“โอเค งั้นไปกัน”

“ยัยเลิฟไปนั่งด้านหน้า ฉันปวดหัวจะเอนหลังสักหน่อย” ฉันหยุดชะงักทันทีเมื่อข้าวหอมพูดขึ้น

“ด้านหน้าก็เอนได้ แกไปนั่งเลย” ฉันพูดขึ้นแต่นั่นไม่เป็นผลเพราะตอนนี้เฮียปั้นเดินตรงมาทางฉันก่อนจะเปิดประตูรถด้านหน้าและดันฉันให้เข้าไปนั่ง

“นั่งตรงนี้” เฮียปั้นพูดขึ้นทันทีก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ

ให้ตาย ! แล้วทำไมฉันต้องมานั่งด้านหน้าแบบนี้ด้วย

“จะไปซื้อที่ไหน” เฮียปั้นถามขึ้น นั่นทำให้ฉันหันไปมองด้านหลังที่ตอนนี้ยัยข้าวหอมนอนหลับคอพับไปแล้ว

“ที่ไหนมีขายบ้างคะ พอดีเลิฟไม่ค่อยรู้” ฉันพูดขึ้นตามตรงเพราะปกติแล้วคุณแม่จะเป็นคนจัดการให้ตลอด

“ห้างแล้วกันน่าจะมี”

“งั้นห้างก็ได้ค่ะ”

“แบบนี้ยาวไปหรือเปล่าเลิฟ สั้นกว่านี้นิดหนึ่งเหนือเข่าขึ้นมาโอเคเลยนะ” ข้าวหอมพูดขึ้นพร้อมทาบกระโปรงกับฉันแต่ไม่รู้สิตัวที่ข้าวหอมเอามาทาบให้มันดูสั้นยังไงไม่รู้

“ฉันว่ามันสั้นไปนะ” ฉันพูดทันทีเพราะถ้าเป็นชุดนักเรียนหรือชุดมหาลัยแบบนี้ สั้นเกินก็ใช่ว่าจะเหมาะ

“ไม่สั้นหรอก เอาความยาวเท่านี้แล้วกัน” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้ง

“สั้นไป” แต่แล้วเสียงของเฮียปั้นก็ดังขึ้นตอนที่ข้าวหอมกำลังจะส่งกระโปรงนักศึกษาทั้งหมดให้พนักงานขาย

“สั้นตรงไหนเฮีย พอดีจะตาย” ข้าวหอมมุ่ยหน้าพร้อมกับถามเฮียปั้นด้วยความไม่พอใจ

“ถ้ากับข้าวหอมเฮียว่าโอเคแต่ถ้ากำลังเธอฉันว่ามันสั้นไป” ประโยคแรกพูดกับข้าวหอม ส่วนประโยคที่สองหันมาพูดกับฉัน

“แอบหวงใช่ไหม นี่เพื่อนข้าวหอมนะเฮียปั้น” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมดึงฉันถอยห่างจากเฮียปั้น

“ฉันว่าสั้นไปเหมือนที่เฮียปั้นบอกนั่นแหละ เอายาวกว่านี้หน่อยสามตัวนะคะ” ฉันบอกกับพนักงานขายทันทีเพราะส่วนตัวแล้วฉันก็ไม่ชอบใส่กระโปรงสั่นเหมือนกัน

เรามัวแต่ยืนเถียงกันเรื่องกระโปรงนานมาก ส่วนเรื่องเสื้อไม่มีปัญหาเพราะเราเลือกแบบที่พอดีตัวและไม่รัดเกินไป

“ฉันว่าจะไปดูหนัง แกจะไปกับฉันหรือเปล่า” ข้าวหอมถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับกดโทรศัพท์ไปด้วย

“เรื่องอะไรล่ะ” ฉันถามกลับทันทีเพราะข้าวหอมนี่คอหนังผีชัดๆต่างกับฉันที่ไม่ชอบเป็นที่สุด

“ร่างทรง” นั่นไง ได้ยินมาว่าเรื่องนี้น่ากลัวมากๆ

“ไม่ไปดีกว่า ฉันกลัวอะแกก็รู้” ฉันตอบกลับไปตามตรงพร้อมยกมือขึ้นปฏิเสธ

“งั้นเฮียพาเลิฟมันกลับด้วยนะเดี๋ยวข้าวกลับเอง” ข้าวหอมพูดจบก็เดินแยกออกไปทันที ไม่รอให้ฉันพูดหรือคัดค้านอะไร

“เดี๋ยวสิ…ข้าวหอม จะทิ้งกันแบบนี้เลยหรือไง” ฉันตะโกนขึ้นแต่ก็ไร้วี่แววคนที่เดินออกไปจะสนใจ นั่นทำให้ฉันหันมาสนใจเฮียปั้นอีกครั้ง

“จะไปไหนหรือเปล่า ฉันว่างพาไปได้” เฮียปั้นถามขึ้นพร้อมกับดึงถุงชุดนักศึกษาที่ฉันถือไว้ในมือไปถือ

“อ๊ะ”

“โทษที ดึงแรงไปหน่อย”

“หนูถือเองได้ค่ะ” ฉันพูดขึ้นเพราะถุงแค่สองสามใบไม่ได้หนักอะไรสำหรับฉันเลย

“สรุปอยากไปไหนหรือเปล่า” ให้ตาย เขาเมินคำพูดของฉันพร้อมถามคำถามใหม่

โอเคในเมื่อเขาอยากถือฉันก็จะปล่อยเลยตามเลยแล้วกันเพราะคิดๆดูแล้ว เขาเป็นคนที่อยากทำอะไรก็จะทำให้ได้เหมือนกับตอนนี้

“ไม่อยากค่ะ” เพราะฉันไม่มีแพลนจะไปไหนอยู่แล้ว ฉันออกมาเพราะซื้อชุดนักศึกษา ซื้อเสร็จก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ

“แต่ฉันอยากไปที่หนึ่ง” ฉันหันหน้าไปมองเฮียปั้นทันทีเมื่อเขาพูดขึ้น

“ก็ไปสิคะ แยกกันตรงนี้เลิฟกลับเองได้” ฉันพูดขึ้นทันทีเพราะฉันไม่ได้อยากให้เขาไปส่ง ภาพจำวันก่อนยังตราตรึงในใจของฉันอยู่เลย

“ฉันหมายถึงฉันอยากไปกับเธอ”

“ทำไมถึงอยากไปกับเลิฟคะ”

“ก็อยากให้เธอช่วยตัดสินใจ”

“ไปที่ไหนคะ ลองว่ามาก่อน” ฉันถามขึ้นทันทีเพราะถ้าเขาต้องการให้ฉันช่วยตัดสินใจก็คงมีเรื่องอะไรอยู่สักอย่าง

“ในนี้แต่อยู่อีกชั้น” เฮียปั้นตอบกลับมา

“แล้วจะพูดเหมือนอยู่ที่อื่นทำไม” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเพราะสิ่งที่เขาพูดมันเหมือนอยู่ไกลจากที่นี่

“ขี้บ่นว่ะ” ให้ตายเขาได้ยินได้ยังไงกัน

หลังจากนั้นเขาก็จับมือฉันให้เดินตามมาทันทีซึ่งร้านที่เขาพาฉันมานั่นคือร้านเพชร

หรูหราหมาเห่ามากพูดเลย

“ถ้าจะซื้อให้ใครสักคน เธอว่าเส้นไหนเหมาะ” เขาถามฉันขึ้นทันทีเมื่อเราทั้งคู่เดินมาหยุดที่มุมสร้อย

“จะซื้อให้ใครคะ หนูจะได้ดูถูกประมาณว่าอายุเท่าไหร่” ฉันถามขึ้นเพราะการซื้อของให้ใคร นั่นก็ต้องดูอายุของเขา รสนิยม ความชอบ

“ก็เท่าเธอ” ฉันพยักหน้ารับเป็นอันเข้าใจทันทีก่อนจะเดินดูสร้อยเพชรที่โชว์เรียงกันอยู่

ถ้าคนอายุเท่าฉันก็หนีไม่พ้นข้าวหอมหรืออาจจะเป็นสาวๆของเขา

“เส้นนี้ดีไหมคะ” ฉันถามขึ้นทันทีพร้อมหยุดอยู่ตรงหน้าสร้อยเพชรเส้นเล็กๆที่ประดับด้วยเพชรรูปหัวใจ มันดูเรียบๆสวยงามเหมาะกับคนอายุประมาณฉันและที่แน่ๆถ้าอยู่บนคอผู้หญิงแล้วก็คงจะเหมาะมากเหมือนกัน

“อืม สวยดี งั้นเอาเส้นนี้ครับ” เฮียปั้นบอกพนักงานทันทีโดยไม่คิดลังเลอะไรเลย

“ไม่ต้องใส่กล่องครับ ผมขอเลย” เฮียปั้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะรับสร้อยมาจากพนักงานขาย

“หันหลังหน่อย” เฮียปั้นพูดขึ้นพร้อมกับขยับชิดตัวของฉันและยืนซ้อนหลังฉัน

“หันทำไมคะ” ฉันก็ยังยืนอยู่ที่เดิมเพราะไม่รู้ว่าเขาจะให้หันไปเพื่ออะไร

“หันเถอะน่า” เฮียปั้นเริ่มขึ้นเสียงก่อนจะจับฉันให้หันหลังพร้อมกับสร้อยเพชรจะถูกวางลงบนคอของฉัน

“จองไว้แล้ว”

“คะ”

“ฉันบอกว่าฉันจองเธอไว้แล้ว”

❤️

แอบหวงก็แล้วยังจะแอบจองลูกสาวฉันอีก

ตอนนี้ยังแค่น้ำจิ้ม รอมหาลัยเปิดก่อน !

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel