เมียนอกใจ

17.0K · จบแล้ว
วรัมพร หงสรถ
14
บท
241.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“เธอแน่ใจว่าทำได้ทุกอย่าง” เสียงของเทวัตเปลี่ยนเป็นทุ้มนุ่มอย่างน่าฟัง แต่เมลดาไม่ได้นึกสงสัย “ถ้าไม่ยากเกินไป เมทำได้หมดค่ะ” “เธอแน่ใจว่าทำได้” เสียงทุ้มถามย้ำ “เมแน่ใจค่ะ คุณมิกบอกมาได้เลยว่าจะให้เมทำอะไร” “เรื่องที่จะให้ทำ มันไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย” เขาพูดแล้วหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “แต่อย่างเธอ คงยังไม่เคย” “ไม่เคยเหรอคะ” คิ้วเล็กขมวดเป็นปมอย่างไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ออกจากปากหยักหมายความว่าอย่างไร เทวัตไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ แทน ยิ่งทำให้เมลดาไม่เข้าใจ “เอ่อ...คุณมิกหมายความว่าไงเหรอคะ เมไม่เห็นจะเข้าใจเลย” “อีกเดี๋ยวเธอจะเข้าใจเอง เมลดา”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบัน

ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

‘ดูเหมือนความรักของนางแบบสาวกับมหาเศรษฐีหนุ่มกำลังไปได้สวย เมื่อนางแบบสาวเปิดปากบอกข่าวดีว่าเร็วๆ นี้เศรษฐีหนุ่มจะพาไปเปิดตัวกับมารดาที่เมืองไทย’

“ฉันไม่เคยบอกสักคำว่าอยากเจอ” สิ้นเสียงทรงอำนาจแท็บเล็ตที่เลขาส่งให้อ่านก็ถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเจ้าของห้องทำงาน

“คุณท่านจะให้ทำยังไงคะ” สุรีย์ เลขาวัยสี่สิบสองเอ่ยถาม หลังชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะถามดีหรือไม่

“ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปมาพร้อมสีหน้าครุ่นคิด

“บ้างทีคนนี้คุณมิกอาจรักจริงหวังแต่งก็ได้นะคะคุณท่าน เพราะถ้าไม่รักจริงคงไม่ถึงขั้นพามาพบคุณท่าน”

“ฉันไม่เอาผู้หญิงคนนี้หรอก โหวงเฮ้งไม่ดีสักนิด แต่งกันไปก็คงไปกันไม่รอดหรอก”

เมื่อเจอแบบนี้เข้าไปสุรีย์ก็หมดคำจะพูด เลยได้แต่เงียบและรอคำสั่งจากเจ้านาย

“สุรีย์”

“มีอะไรคะคุณท่าน”

“โทรตามหนูเมมาพบฉัน”

“ตอนนี้เลยเหรอคะ”

“รอให้หนูเมเลิกงานก่อน แต่เธอโทรไปบอกหนูเมให้แจ้งทางร้านไว้ เพราะอาทิตย์หน้าฉันจะให้หนูเมเดินทางไปฮ่องกง” คุณท่าน หรือ มาดามลาวัลย์ ที่แต่งงานกับหนุ่มฮ่องกง และสร้างรากฐานจนร่ำรวย แต่ชีวิตก็แปรเปลี่ยนเมื่อสามีคู่ทุกข์คู่ยากจากไป ธุรกิจที่สร้างไว้ตนจึงดูแลต่อด้วยสองมือและเลี้ยงดูลูกๆ ทั้งสามคนจนเติบใหญ่ คนโตดูแลธุรกิจของครอบครัวที่ฮ่องกง คนที่สองเป็นหญิงแต่งงานออกไปมีครอบครัว ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ส่วนคนเล็ก โชคร้ายเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ผู้เป็นแม่จึงเป็นห่วงชีวิตลูกชายคนโตมาก ที่ทำแต่งานจนไม่คิดสร้างครอบครัว ครั้นพอจะสร้างครอบครัวกลับไปคว้าเอานางแบบ ที่มีแต่ข่าวคราว ช่างไม่เหมาะสมกันเสียจริงๆ

“คุณท่านคะ” สุรีย์เอ่ยเรียกเมื่อเจ้านายนิ่งเงียบไป

“เธอมีอะไรเหรอ”

“คุณท่านมีอะไรจะใช้สุรีย์อีกหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีแล้ว แต่เธออย่าลืมโทรไปบอกหนูเมล่ะ หนูเมจะได้แจ้งทางร้านไว้” คนเป็นนายกำชับ เพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหายกับร้านของเด็กในอุปการะของตน ที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทเปิดร้าน และตอนนี้กำลังไปได้ดีทีเดียว

“ไม่ลืมค่ะ” สุรีย์กล่าวจบแล้วก็เดินออกจากห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านาย แล้วโทรหาเมลดา เด็กสาวที่มาดามลาวัลย์อุปการะไว้ตั้งแต่อีกฝ่ายอายุได้สิบขวบ หลังจากพ่อกับแม่ถูกฆ่าตาย จากคนเสพยา ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่ว ตัวเด็กสาวเองทางญาติก็ไม่พร้อมดูแล มาดามลาวัลย์จึงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ส่งเสียเลี้ยงดูจนเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง

******

ที่ร้านเพลินตา ร้านอาหารและเครื่องดื่ม บรรยากาศร่มรื่นใจกลางเมือง เวลานี้ผู้คนเริ่มบางตาหลังผ่านพ้นมื้อเที่ยงไป สองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มเพิ่งจะได้วางมือ หลังต้องวุ่นอยู่กับการทำอาหารต้อนรับลูกค้าที่เข้ามารับประทานมื้อเที่ยง

“พี่เมคะ โทรศัพท์ค่ะ” เสียงของเด็กในร้านร้องบอก พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือที่เจ้าของวางไว้หน้าเคาเตอร์เก็บเงินส่งให้

“ขอบใจจ้ะ” เมลดา กานต์ธนรัตน์ หรือ เม สาวสวยวัยยี่สิบสาม ยิ้มและขอบคุณเด็กในร้าน ก่อนจะมองหน้าจอ พอเห็นเป็นเบอร์เลขาของผู้มีพระคุณก็รีบรับสายพร้อมกับเดินเลี่ยงออกมาคุยโทรศัพท์ด้านหลังร้าน

“คุณท่านจะให้เมไปฮ่องกงเหรอคะ”

“ใช่จ้ะ แล้วคุณท่านสั่งให้พี่มาบอกหนูเมด้วยว่าให้หนูเมแจ้งกับเพื่อนๆ เอาไว้ด้วย พี่เดาว่าคงไปนานน่าดู ยังไงหนูเมก็บอกเพื่อนๆ ไว้นะ”

“ค่ะพี่สุรีย์”

“แล้วพวกเสื้อผ้าก็เตรียมไปด้วยนะ หลายๆ ชุดหน่อยก็ดี”

“ได้ค่ะ ว่าแต่พี่สุรีย์รู้หรือเปล่าว่าคุณท่านจะให้เมไปฮ่องกงทำไม”

“พี่ไม่รู้หรอก แต่ถ้าให้เดาพี่ว่าคุณท่านคงจะให้หนูเมไปหาคุณมิกนั่นแหละ หนูเมจำไม่ได้เหรอว่าคุณมิกดูแลธุรกิจของครอบครัวอยู่ที่นั่น”

“คุณมิก?”

“ใช่จ้ะ หนูเมจำไม่ได้เหรอจ๊ะ”

“ก็พอจำได้ค่ะ แต่เมไม่ได้เจอนานมากๆ แล้วนะคะ” นานจนเธอลืมหน้าตาเขาไปแล้วด้วย เพราะตอนนั้นที่เจอ เธออายุแค่สิบเอ็ดหรือสิบสองนี่แหละ วันนั้นเป็นงานวันเกิดคุณท่านและท่านก็ให้คนขับรถมารับเธอไปร่วมงานด้วย ทีแรกเธอก็ตื่นเต้นมากๆ แต่พอก้าวเข้าไปงานแล้วกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก และเธอก็ไม่กล้าคุยกับใครในงานเลย แม้ในงานจะมีเด็กอายุรุ่นเดียวกับเธอมากันหลายคน แต่เธอไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย ส่วนลูกชายคนโตของคุณท่าน ท่านแนะนำให้เธอรู้จักและก็ได้เจอหน้ากัน แล้วนับจากนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย แต่วันนี้คุณท่านกำลังจะให้เธอเดินทางไปพบเขา

เพื่ออะไรนะ?

“หนูเม ยังอยู่หรือเปล่า” สุรีย์เอ่ยถามมาตามสาย เมื่อคู่สนทนาเงียบไป

“อยู่ค่ะ”

“เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”

“พอดีเมกำลังนึกอะไรเพลินๆ ค่ะ ขอโทษทีนะคะ ว่าแต่พี่สุรีย์ถามอะไรเมเหรอคะ”

“ก็ถามถึงคุณมิกนั่นแหละ ตกลงหนูเมจำได้หรือเปล่า”

“ก็พอจำได้ค่ะ แต่ไม่รู้ตอนนี้หน้าตาคุณมิกจะเปลี่ยนไปแค่ไหนนะคะ”

“ก็คงเปลี่ยนบ้างแหละ เพราะตอนนี้คุณมิกโตเป็นหนุ่มแล้ว แถมสาวๆ ก็เยอะซะด้วย”

เมลดาฟังแล้วก็ยิ่งนึกสงสัยว่าคุณท่านจะให้พบลูกชายของท่านทำไม “พี่สุรีย์คะ”

“มีอะไรเหรอจ๊ะ”

“พี่สุรีย์ไม่รู้สักนิดเลยเหรอคะว่าคุณท่านให้เมไปพบ คุณมิกทำไม”

“เรื่องนั้นหนูเมต้องมาคุยกับคุณท่านเอง เย็นนี้อย่าลืมนะจ้ะ”

“เมไม่ลืมหรอกค่ะ”

“งั้นพี่ไม่รบกวนแล้ว หนูเมทำงานต่อเถอะ”

“ค่ะ” หลังจากวางสายจากเลขาของคุณท่านแล้ว เมลดาก็นั่งคิดอะไรอยู่ตรงนั้นเกือบสิบนาที จนเพื่อนเดินออกมาตาม พอเห็นสีหน้าของเพื่อนแล้วก็อดถามขึ้นมาได้

“เม เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าตาดูเครียดๆ”

“คุณท่านจะให้เมไปฮ่องกง คงไปนานด้วยนะอ้อน”

“ถ้าเมห่วงร้าน ก็เลิกห่วงได้เลย มีทั้งอ้อนทั้งโจ แล้วไหนจะเด็กในร้านอีกตั้งสี่คน พวกเราทำได้สบายอยู่แล้ว”

“แต่ก็ขาดคนช่วยไปหนึ่งคนเลยนะ”

“สบายอยู่แล้วอย่าห่วงเลย แต่ถ้าเมไปนานเป็นเดือนๆ งั้นอ้อนจะเปิดรับคนมาช่วยอีกคน ดีไหม”

เมลดาฟังแล้วก็คิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นด้วยกับเพื่อน เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องไปฮ่องกงนานแค่ไหน