เมียจ้างรัก ชุด ภรรยาของมหาเศรษฐีซาตาน

127.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
58
บท
95.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“วิธีเดียวที่จะทำให้เธอได้อยู่กับเอวาตลอดไปนั่นก็คือ...” นัยน์ตาสีเขียวจัดของเขามืดลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เท้าแกร่งก้าวเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน กลิ่นไอนักล่าจากกายหนุ่มมีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจสาวยิ่งนัก ตัวหล่อนสั่นเทา ดวงใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากขั้วเสียให้ได้ “จดทะเบียนสมรสกับฉัน” “ห๊า...?!” นี่หล่อนหูฝาดไปหรือเปล่านะ “คุณ... คุณพูดว่าอะไรนะคะ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานจอมมารสัญญาทางรักหนีแต่งงานเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติก

ตอนที่ 1

ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้วสินะ ทุกความโหดร้ายที่สาดซัดเข้ามาในชีวิตของหล่อนกับหนูน้อยเอวา ทุกอย่างที่แทบทำให้แข้งขาของหล่อนอ่อนเปลี้ยและล้มทั้งยืน ไมเคิลมาด่วนเสียชีวิตจากไปกะทันหันกับอุบัติเหตุบนท้องถนน ในขณะที่พี่สาวของหล่อนเนื้อนางก็ไม่ได้หันกลับมาดูดำดูดีเลยสักนิดเดียว งานศพของไมเคิลเนื้อนางก็ไม่ย่างกรายมา หล่อนไม่อยากจะเชื่อว่าเนื้อนางจะใจจืดใจดำขนาดนี้

หลังจากวางดอกกุหลาบสีขาวลงหน้าแท่นหลุมฝังศพของไมเคิลแล้ว เนื้อนวลก็อุ้มเอวาขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน มองแท่นหินเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาไหลพรากลงมาอาบแก้ม

“พี่ไมค์ ฉันสัญญา... สัญญาว่าจะดูแลหนูเอวาแทนพี่เอง พี่หลับให้สบายนะ”

มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ปล่อยก้อนสะอื้นให้เล็ดลอดออกมาจากลำคอเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ตัดสินใจหมุนตัวจะเดินออกไป แต่แล้วก็ต้องชะงักงัน เท้าตายสนิทอยู่กับที่ เมื่อสายตาได้สบประสานกับดวงตาสีเขียวจัดของคิริล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ เข้าอย่างจัง

ทำไมนะ ทำไมร่างกายของหล่อนต้องสั่นเทิ้มทุกครั้งยามที่ได้สบตากับผู้ชายหล่อลากไส้คนนี้ เขามีอำนาจลึกลับบางอย่างที่ทำให้หล่อนหวาดหวั่นและสะพรึงกลัว แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เขาทำให้เนื้อตัวของหล่อนร้อนเป็นไฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ หล่อนไม่รู้หรอกว่าไอ้ความรู้สึกร้อนระอุแบบนี้มันคืออะไร รู้เพียงแต่ว่ามันมักจะเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายหล่อน่าปล้ำคนนี้

“เอ่อ... คุณคิริล”

“ฉันไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่”

น้ำเสียงของเขาทั้งกระด้างและเย็นชาจนหล่อนอดไม่ได้ที่จะขลาดกลัวแต่ความไม่เป็นมิตรทั้งจากสายตาและน้ำเสียงของเขาก็ทำให้หล่อนเลือกที่จะเชิดหน้า และโต้ตอบออกไปด้วยท่าทางเยือกเย็นไม่แพ้กัน

“แล้วทำไมฉันจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะคะ ในเมื่อ...”

หล่อนยังพูดไม่จบ เขาก็แทรกเสียงเหยียดหยาม

“ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นฉันคงไม่มีข้อกังขา แต่กับผู้หญิง....”

เขาตวัดสายตาคมกริบสีเขียวมรกตกวาดมองไปตลอดทั้งร่างของหล่อน ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะแสยะยิ้มเหยียดหยามดูแคลน

“มักมาก หลายใจแบบเธอ ฉันไม่อยากจะเชื่อ”

“นี่คุณ...”

แม้เขาจะหล่อน่าปล้ำแค่ไหน แต่ปากเขาก็ร้ายเกินกว่าที่หล่อนจะทนยืนรับฟังคำด่าทอนั้นได้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“ผู้ชายปากจัด”

เขาหัวเราะหยัน และไม่ได้แสดงท่าทางสะทกสะท้านอะไรออกมาเลยสักนิด สายตาสีเขียวเข้มจัดของเขายังคงมองมาด้วยความเหยียดหยามชิงชังเช่นเดิม

“ก็ยังดีกว่าผู้หญิงร่านร้อนแบบเธอ”

หล่อนกัดปากแน่น อยากจะร้องกรี๊ดๆ แล้วกระโจนเข้าไปตะกุยหน้าหล่อๆ ให้เลือดซิบนัก แต่ก็ติดที่เอวาอยู่ในอ้อมแขน

“คนบ้า คนปากร้าย”

เขาแสยะยิ้มมองหล่อนอย่างดูแคลน สายตาของเขาทำให้หล่อนชาดิกไปทั้งตัว เพราะเขาไม่ต้องพูดอะไรออกมาเลย หล่อนก็รู้อย่างชัดเจนจากสายตาคู่นั้นว่าเขาน่ะขยะแขยงผู้หญิงอย่างหล่อนมากมายแค่ไหน

รู้สึกเจ็บแปลบในอกอย่างรุนแรง แต่ก็จำต้องสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนจะต้องไม่หวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ เขาก็เป็นแค่อดีตเจ้านายของพี่เขยหล่อนเท่านั้น และตอนนี้ไมเคิลก็จากไปแล้ว เขาก็ไม่ใช่คนที่หล่อนจะได้พบเจออีกในชีวิตประจำวันเส้นทางชีวิตของหล่อนกับเขาต่างกันลิบลับ หล่อนหาเช้ากินค่ำอยู่ข้างถนน ในขณะที่เขาหล่อรวยเลิศหรูอยู่ในสังคมชั้นสูง วันนี้มันก็แค่การบังเอิญเท่านั้น บังเอิญได้เผชิญหน้ากัน แต่ต่อไปคงไม่มีทางเป็นแบบนี้อีกแล้ว หญิงสาวบอกตัวเอง แล้วก็อดรู้สึกเศร้าหมองลึกๆ ในอกไม่ได้

“ฉันจะกลับแล้ว หลีกทางด้วย”

คิริลแค่นยิ้มหยัน ตวัดตามองร่างอรชรที่มีเด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยสายตาเย็นชา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เลวแค่ไหน แต่ทำไมนะ ทำไมทุกครั้งที่เผชิญหน้ากัน ร่างกายของเขากลับตื่นตัวเสียทุกครั้ง แม่นี่มีอะไรดีกันนักหนานะ เขาถามตัวเอง แต่ก็ไร้คำตอบ

“จะรีบกลับไปหาชู้รักคนไหนอีกล่ะ”

คนถูกกล่าวหาหน้าร้อนผ่าว หล่อนตวัดสายตามองเขาอย่างเอาเรื่อง อยากจะบอกนักว่าหล่อนน่ะเนื้อนวลไม่ใช่เนื้อนาง แต่ก็รู้ดีว่าพูดไปตาบ้านี่ไม่มีทางเข้าใจอยู่ดีนั่นแหละ

“มันก็เรื่องของฉัน หลีกทางค่ะ”

เขาไม่หลีกยังยืนตระหง่านขวางหน้าเช่นเดิม และนั่นก็ทำให้หล่อนต้องตะเบ็งเสียงดังยิ่งขึ้นอย่างหัวเสีย บ้าชะมัด อยู่ใกล้ตาหล่อลากไส้นี่ทีไร ควบคุมตัวเองไม่ได้ซะทุกทีเลย หญิงสาวบ่นอุบภายในอกอย่างเบื่อหน่ายตัวเอง

“บอกให้หลีกทางไงคะ ไม่ยักกะรู้ว่าคุณจะทั้งตาบอดและทั้งหูหนวกพร้อมๆ กัน”

หล่อนเห็นเขาจ้องหน้าหล่อนปานจะกินเลือดกินเนื้อ และย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อน

“คุณ... จะทำอะไรน่ะ”

เนื้อนวลถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัว มองคนตัวโตอย่างตกใจ

“ปากดีนักไม่ใช่หรือ”

“อย่า... อย่าเข้ามานะ ไม่... ไม่เห็นหรือไงว่าเอวากำลังหลับอยู่ เดี๋ยวแกก็ตื่นขึ้นมาร้องไห้พอดี”

ได้ผลคนตัวโตที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาหา หยุดชะงัก และหรี่ตามองเด็กตัวน้อยในอ้อมแขนของหล่อน

“ฉันต้องการอุปการะเด็กคนนี้”

หน้าตาของเนื้อนวลตื่นตระหนก และปฏิเสธทันควัน

“ฝันไปเถอะ ฉันไม่มีทางยอม หลีกทางไป ฉันจะกลับ!”

หัวใจสาวสั่นสะท้าน เมื่อได้ยินความต้องการจากปากของผู้ชายตรงหน้า นี่เขายังไม่เลิกล้มความคิดนี้อีกหรือ เขายังคิดจะแย่งเอวาไปจากหล่อนอีกหรือ หล่อนไม่ยอม ไม่มีทางยอมเด็ดขาด หล่อนจะไม่มีทางยอมให้หลานสาวของตัวเองต้องไปอยู่ในความเลี้ยงดูของใคร โดยเฉพาะจอมมารร้ายอย่างคิริล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ

“และจำเอาไว้ด้วยนะคะ ฉันไม่มีทางยกเอวาให้กับคุณ”

หญิงสาวเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา กอดร่างตุ้ยนุ้ยของหลานสาวแน่น

“เธอไม่มีทางต่อกรกับฉันได้หรอก ฉันชนะใสใสอยู่แล้ว”

“ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็จะปกป้องเอวา จากคนใจร้ายอย่างคุณ”

แล้วเนื้อนวลก็รีบก้าวยาวๆ ผ่านร่างสูงใหญ่ของคิริลจากมาอย่างรวดเร็ว หล่อนไม่ได้หันหลังกลับมามองอีกเลย ตอนนี้ในหัวของหล่อนก็คือไปที่ไหนก็ได้ ให้ไกลจากจอมมารร้ายที่จ้องจะแย่งเอวาไปจากหล่อนในทุกๆ ลมหายใจคนนี้

ฝันไปเถอะว่าหล่อนจะยอม หล่อนจะขอสู้ตาย จะสู้ให้ถึงที่สุด แม้หล่อนจะยากจนข้นแค้น แต่หล่อนก็รักเอวา หล่อนยินดีจะเหนื่อยเพื่อหลาน ยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อเอวา หล่อนจะปกป้องเอวาด้วยชีวิตที่เหลือของหล่อน

“ผู้หญิงอย่างเธอน่ะหรือจะดูแลเด็กคนนี้ได้”

คิริลที่มองตามร่างแน่งน้อยของเนื้อนวลไปแค่นยิ้มเหยียดหยาม เขาจะทำทุกวิถีทางเช่นกันเพื่อช่วยเหลือลูกสาวของไมเคิลให้รอดพ้นจากแม่นิสัยแย่ๆ และเชื่อเถอะว่าผู้ชายที่ไม่เคยแพ้มาตลอดชีวิตอย่างเขาต้องทำมันได้อย่างแน่นอน