บท
ตั้งค่า

บทที่ 9/4

เช้าวันต่อมาศศินาขับรถออกจากคอนโดไปตอนสิบโมงเพื่อไปพบลูกค้าหลายที่ตามที่นัดหมายไว้ ในส่วนของภัทรพลนั้นเมื่อศศินาออกจากคอนโดไป ก็ขับรถอีกคันมุ่งตรงไปยังคอนโดของนลินี เขาจอดรถไว้บริเวณที่จอดรถของแขกเช่นเคย แล้วใช้คีย์การ์ดกดไปยังชั้นที่พักของเธอ

“พี่พีท มาแล้วเหรอคะ”

นลินีกำลังทำอาหารอยู่ในครัว เห็นภัทรพลเดินมา กอดทางด้านหลังก็หันมาส่งยิ้มหวานให้

“ทำอะไรทานครับ”

” เสต็กปลาค่ะพี่พีทหิวไหมคะ น้ำหวานคิดว่าพี่พีทจะมาถึงตอนเที่ยงนิดๆ เลยเพิ่งลงมือทำ”

วันนี้เขาไม่ได้เข้าออฟฟิศเพราะเมื่อคืนจัด all you can fuck ให้ศศินาเลยตื่นสาย และรอให้เธอออกจากห้องก่อนเขาจึงอาบน้ำแต่งตัวออกมาหานลินี

“ไม่หิวครับ พี่เพิ่งทานข้าวเช้าตอนเก้าโมงนี่เอง พอดีวันนี้ไม่ได้เข้าออฟฟิศครับ”

เมื่อเช้าศศินาทำไข่ลวกให้เขาตั้งสี่ฟอง แถมโด๊ปด้วยซุปไก่อีกถ้วยเบ้อเร่อ

ระหว่างที่อยู่ที่คอนโดภัทรพลก็พยายามจะหาโอกาสคุยกับนลินีเรื่องงานแถลงข่าว แต่เธอก็เปิดปากพูดกับเขาก่อน

“พี่พีทคะ...น้ำหวานอยากชวนพี่พีทไปทานข้าวที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ”

นลินีตัดสินใจเปิดปากพูดหลังจากที่บีบีแนะนำให้เธอพาชายหนุ่มเข้าตามตรอกออกตามประตู อีกทั้งเธอก็ไม่สบายใจที่เหมือนคบกันหลบๆ ซ่อนๆ ภัทรพลอึ้งไปเพราะตั้งใจจะมาบอกให้เธอเก็บเรื่องระหว่างเธอกับเขาไว้เป็นความลับก่อน

“ได้สิครับพี่ก็อยากหาโอกาสไปพบท่านเหมือนกัน แต่ขอเป็นหลังงานแถลงข่าวได้ไหมครับ”

ภัทรพลตอบแบ่งรับแบ่งสู้

“ได้ค่ะ น้ำหวานว่างวันอาทิตย์หน้า พี่พีทสะดวกไหมคะ”

“ได้ครับ”

ภัทรพลรับปากออกไปอย่างว่าง่าย เพราะกำลังจะขอให้เธอเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับก่อนเพื่อให้งานแถลงข่าวผ่านพ้นไป เขาคิดแค่เพียงว่าอย่าให้นลินีแสดงพิรุธอะไรไปต่อหน้าศศินาก็พอ เพราะหลังจากงานแถลงข่าวผ่านไปแล้ว นลินีกับศศินาก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก เพราะโฆษณาก็รันไปตามกำหนดของมัน จะเจอกันเฉพาะมีอีเวนท์ตามสัญญาซึ่งมีแค่ไม่กี่ครั้งในช่วงเวลาที่ห่างกันพอสมควร ตอนนั้นเขาน่าจะจัดการอะไรอะไรได้ลงตัว ภัทรพลตอบรับโดยลืมคิดไปว่าทุกบ่ายวันอาทิตย์จะต้องไปกินข้าวที่คฤหาสน์พาณิชย์ศิริกุลพร้อมศศินา

“น้ำหวานครับพี่มีเรื่องอยากจะขอร้องน้ำหวานเหมือนกัน”

ภัทรพลตัดสินใจเอ่ยปากออกไปทันทีเมื่อทำตามความต้องการของเธอแล้ว

“อะไรคะ”

นลินีมองหน้าภัทรพลอย่างรอฟัง เขาเอื้อมมือไปกุมมือเธอเอาไว้

“น้ำหวานรู้เรื่องที่ทางนาเชิญท่านสุรวิทย์ไปเป็นประธานในงานแถลงข่าวแล้วใช่ไหมครับ”

“คุณแม่โทรมาบอกเหมือนกันค่ะ คุณลุงท่านไปทานข้าวที่บ้าน เลยแจ้งกับคุณพ่อไป”

“มีใครทราบเรื่องของเราหรือยังครับ”

“น้ำหวานยังไม่ได้บอกใครค่ะ”

ภัทรพลลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ยกเว้นพี่บีนะคะ คือวันนั้นที่กลับจากภูเก็ต พี่โอเล่เขาไปรายงานพี่บีเรื่องที่น้ำหวานไม่ได้กลับห้องจนถึงเช้า”

นลินีเล่าพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อเมื่อพูดถึงคืนที่เธอตกเป็นของเขา

“พี่บีเขาเลยมาถามน้ำหวานว่าหายไปไหนมาทั้งคืน พี่บีเขาไม่สบายใจที่ดูแลน้ำหวานได้ไม่ดีเหมือนที่รับปากคุณพ่อไว้ เขาเลย อยากให้น้ำหวานพาพี่พีทไปพบคุณพ่อ”

นลินีลอบมองสีหน้าของชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีทางพฤตินัยเห็นเขาหน้านิ่ง เลยพูดต่อว่า

“พี่พีทรู้ใช่ไหมคะว่าน้ำหวานไม่เคยมีใคร”

เธอถามชายหนุ่มพร้อมๆ กับน้ำตาที่เอ่อคลอด้วยความรู้สึกเสียใจที่ทำตัวไม่ดี และต้องมาเอ่ยเรื่องนี้ด้วยตนเอง ภัทรพลเห็นหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียเขาอีกคนร้องให้ ก็เข้าใจถึงความรู้สึกของเธอจึงเดินอ้อมโต๊ะอาหารไป แล้วยกเธอขึ้นให้นั่งบนตัก พร้อมโอบกอดไว้อย่างปลอบใจ

“รู้สิครับ พี่พีทรู้ว่าพี่เป็นคนแรกของน้ำหวาน”

นลินีซบหน้าลงกับอกเขาแล้วร้องให้ ภัทรพลจึงเชยคางเธอขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน พร้อมกดจูบไปทั่วแก้มอย่างทนุถนอม

“น้ำหวานไม่ร้องนะครับ พี่พร้อมจะไปพบคุณพ่อคุณแม่อย่างที่น้ำหวานต้องการ แต่พี่อยากจะขอว่า เรื่องของเราอย่าเพิ่งให้ใครรู้ได้ไหมครับ”

นลินีเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม ภัทรพลจึงกดจูบลงไปแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเธอจนพอใจแล้วพูดว่า

“พี่ไม่อยากให้ใครมาเพ่งเล็งเรื่องของเรามากกว่างานประกันชีวิตในขณะที่น้ำหวานอยู่ในตำแหน่งพรีเซนเตอร์ พี่ไม่อยากให้ใครมาพูดถึงน้ำหวานในทางที่ไม่ดี อาจจะมีคนเอาไปพูดได้ว่า น้ำหวานได้งานเพราะเอาตัวเข้าแลก พี่ไม่อยากให้น้ำหวานเสียชื่อเสียง อีกอย่างวันนั้นคุณลุงของน้ำหวานก็ไปในงานด้วย ถ้าเราแสดงอะไรที่โจ่งแจ้ง แล้วนักข่าวเอาไปถามท่านพี่เกรงว่าจะไม่เหมาะเพราะพี่อยากให้ท่านรู้จากปากพี่เอง หลังจากที่พี่ไปพบคุณพ่อคุณแม่ของน้ำหวานแล้ว”

ภัทรพลชี้แจงด้วยเหตุผลยาวเหยียด และนึกชมตัวเองว่า ‘มึงนี่หาเหตุผลเก่งจริงๆ เลยไอ้พีท’ จากที่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ก็นึกเหตุผลออกเป็นฉากๆ เขาคงจะต้องหาเวลาไปพบกับครอบครัวของนลินีเป็นการส่วนตัว แล้วค่อยหาเหตุผลทำให้ไม่มีข่าวเล็ดลอดออกมาให้เข้าหูศศินา เพียงแค่นี้เขาก็จะเก็บนลินีไว้ข้างกายโดยที่ศศินาไม่รู้ และในส่วนของศศินาก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่า ศศินา กับเขาเป็นแค่เพื่อนกัน ภัทรพลดีใจที่เริ่มเห็นทางสว่างเขาไม่รู้ว่าจะปิดเรื่องนี้ได้นานแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่เวลาอันใกล้นี้

“แต่พี่พีทคะ สัญญาตั้งสองปีเลยนะคะ พี่พีทจะให้น้ำหวานปิดบังเรื่องของเราไว้ตั้งสองปีเลยเหรอคะ”

“สองปีเองค่ะน้ำหวาน ระหว่างนี้เราก็คบหากันเหมือนเดิมไงคะ พี่จะมาหาน้ำหวานที่นี่ ไปพบคุณพ่อคุณแม่ของน้ำหวานที่บ้าน เราเปิดเผยกับคนสนิท แต่จะไม่ให้เป็นข่าวให้น้ำหวานเสียหายดีไหมคะ น้ำหวานเป็นนางเอกดังการประกาศว่ามีแฟนในเวลานี้อาจจะไม่เหมาะ พี่เป็นห่วงน้ำหวานนะคะ”

ภัทรพลเกลี่ยผมไปทัดใบหูให้หญิงสาว แล้วกดจูบลงไปที่แก้ม

“นะคะ ตกลงตามนี้”

ภัทรพลถือโอกาสสรุปเองทันที นลินีมองชายหนุ่มอย่างค้นคว้า และถามออกไปว่า

“พี่พีทไม่ได้มีใครอยู่ใช่ไหมคะ”

“ไม่มี ค่ะ ไม่มี พี่มีน้ำหวานคนเดียว”

นลินีมองหน้าสบตาเขาแล้วพยักหน้าตกลง ภัทรพลก็อุ้มเธอเข้าห้อง

แว่วเสียงหัวเราะหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ตามด้วยเสียงครวญคราง ดังออกมาจากห้องเนิ่นนาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel