บทที่ 3 ผู้หญิงของพารัน
แกร๊ก~
"หือ? ไม่น่าเชื่อว่าแม่มดอย่างมึงจะยอมเดินตามเข้ามาง่ายๆ เสี้ยนขนาดนั้นเลย?" พารันทำหน้ายียวนเมื่อเห็นพัดชาเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ขณะที่เขานั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา
"ฉันแค่เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้หลงนิ้วเย็นๆของแกจนต้องรีบตามเข้ามาหรอก"
"ถ้านิ้วมันเย็นเอาเอ็นแทนไหม?"
"เก็บเอ็นของแกไว้ใช้กับผู้หญิงคนอื่นเถอะ ฉันใช้มันจนเบื่อแล้ว"
"ไม่อยากโดนเอ็นฟาดปากก็อย่ามาพูดจาไร้สาระต่อหน้ากู"
"น่ากลัวจัง" พัดชากัดปากเบาๆอย่างยั่วยวน ก่อนจะกรีดกรายเดินเข้าไปนั่งคร่อมหน้าตักแกร่ง ไม่ได้สนใจเลยว่าเสื้อเชิ้ตที่ตัวเองสวมใส่อยู่ตอนนี้ไม่ได้ติดกระดุมเลยสักเม็ด
"ไม่อยากจุกเหมือนเมื่อคืนก็รีบลงไป"
"ฉันชอบพารันคนเดิมที่ตามใจฉันมากกว่านะ เดี๋ยวนี้แกทำตัวไม่น่ารักเลยรู้ไหม ฉันไม่อยากเสียเพื่อนอย่างแกไป"
"แต่กูว่าคำว่าเพื่อนระหว่างเรามันขาดไปพร้อมกับพรหมจรรย์ของมึงในคืนนั้นแล้วนะ"
"..." พัดชาชะงักไปเมื่อได้ยินประโยคนั้นหลุดออกจากปากของพารัน
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพารันเริ่มต้นขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว โดยมีคำว่าเพื่อนเป็นจุดเริ่มต้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งเขาและเธอก้าวข้ามคำว่าเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนร่วมเตียง เพราะเธอไม่อยากผูกมัดเลยเลือกที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพารันในฐานะเพื่อนเท่านั้น
"อืม~" พารันเปล่งเสียงครางในลำคอเบาๆเมื่อจู่ๆพัดชาที่เหมือนจะเงียบไปก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาประกบจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว ถึงอย่างนั้นร่างกายก็ตอบรับอัตโนมัติด้วยการเปิดปากให้เธอสอดเรียวลิ้นเข้ามา แต่พัดชาก็รีบถอนริมฝีปากออกไป
"พูดแบบนี้ไม่สมกับเป็นเจ้าพ่อพารันเลยนะ" เธอหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างมีจริต ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น กรีดกรายเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำทันที
"หึ ต้องร้ายกาจแบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นผู้หญิงของพารัน"
แม้ว่าความร้ายกาจของพัดชาจะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกขยาด แต่เขากลับหลงใหลมันอย่างไม่มีเหตุผล เพราะคนที่สามารถยืนอยู่ข้างเขาได้ต้องไม่ใช่คนอ่อนแอ
ท่ามกลางความมืดสลัวที่ปกคลุมภายในโถงใหญ่ของผับหรูใจกลางเมือง ผู้คนหลายร้อยชีวิตทั้งชายและหญิงต่างพากันสนุกสนานไปกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม กลิ่นเหล้าคละคลุ้งมอมเมาให้ผู้คนหลงละเลิงไปกับแสงสีในยามค่ำคืน หญิงสาวมากหน้าหลายตาพากันเคลื่อนไหวร่างกายไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศเงียบๆ หนึ่งในนั้นคือพารันที่นั่งไขว่ห้างกระดกเหล้าเข้าปากอยู่ในโซนวีไอพี
"พัดชามันหายหัวไปไหน ทำไมมึงนั่งอยู่คนเดียว" พารันแกว่งแก้วเหล้าในมือเล่นพลางปรายตามองเจ้าของคำทักทายที่เพิ่งเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม เขายื่นแก้วเหล้าของตัวเองให้เมื่อเห็นว่าผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือเพื่อนรักที่เขานัดมาดื่มเหล้าด้วยกัน
"ทำไมมึงมาคนเดียว ไอ้มาวินหายหัวไปไหน" เขาไม่ได้ตอบคำถามของนักรบ แต่ถามถึงเพื่อนรักอีกคนหนึ่งที่ยังไม่โผล่หน้ามา
"เดี๋ยวคงตามมามั้ง" นักรบตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก แล้วรับแก้วเครื่องดื่มจากพารันมากระดกลงคออึกใหญ่ พร้อมกับสอดสายตามองหาพัดชาซึ่งเป็นเจ้าของผับ และเป็นเพื่อนรักของเขา
"พัดมันไปไหน ไม่ใช่ว่าโดนมึงจัดหนักจนสลบคาเตียงไปแล้วนะ"
"คงทำงานอยู่ข้างบน กูยังไม่ได้ขึ้นไปหา"
"พวกมึงไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหม แค่มึงสองคนทำเรื่องบนเตียงด้วยกันกูก็ปวดหัวจะแย่แล้ว"
"..."
"กูว่ามึงสองคนรักษาระยะห่างกันหน่อยก็ดีนะ คนในมหาลัยเขาลือกันจะตายห่าแล้วว่ามึงสองคนแอบกินกันเอง ถ้าไม่อยากคบกันอย่างจริงจังกูว่าขีดกรอบไว้หน่อยก็ดีนะ"
"สนใจทำไม ในเมื่อข่าวลือมันเป็นเรื่องจริง"
"เออ อยากทำอะไรก็เรื่องของพวกมึงเถอะ อยากเอากันที่ไหนเมื่อไหร่ก็ตามสบาย แต่กูขออย่างเดียว อย่าให้เรื่องพวกนี้ทำให้มึงสองคนแตกคอกัน"
"ก่อนจะแตกคอกันกูคงได้แตกในก่อน" พารันเหยียดยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก ก่อนจะเทเหล้าใส่แก้วใบใหม่ ทำเอานักรบที่ได้ฟังถอนหายใจอย่างปลงตก
