1-1 สุภาพบุรุษตัวจริง
1
สุภาพบุรุษตัวจริง
“… พอได้แล้วมั้ง” เสียงทุ้มปรามสาวน้อยที่เอาแต่ซุกซบหาไออุ่นจากแผงอกเปลือยเปล่า ชายหนุ่มกระชับคนในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ครู่หนึ่งเธอก็ส่งเสียงกระโชกโฮกฮาก
“อีเปรี้ยว! อีพี่บิ๊กมันทิ้งกูได้ไง!”
พีระพงษ์ส่ายหน้าไปมา เมื่อบอกให้เธอพอ...
พอเถอะสำหรับการโอดครวญ และที่เขาอดทนแม่สาวน้อย ตั้งแต่ออกจากสถานเริงรมย์มา ยอมให้ยืมไหล่เป็นที่พึ่งทางใจบอบช้ำ ถึงแม้ว่าตนไม่ได้เป็นชายต้นเรื่องเลย
หญิงสาวยังส่งเสียงอ้อแอ้โวยวาย ตัดพ้อต่อว่าหนุ่มมหา’ ลัย แฟนหนุ่มที่คบหากันมาสี่ปี จู่ ๆ ทอดทิ้งกันไปไม่เอ่ยคำลา
“อีพี่บิ๊ก... ฮืออ เรียนหนังสือมาด้วยกัน รับปริญญาพร้อมกัน ฮึก... ทำไมพี่ผิดสัญญากับหนู”
“ไหนฟ้าบอกว่าเป็นพี่รหัส ทำไมเรียนหนังสือด้วยกันได้ล่ะครับ? รับปริญญาพร้อมกันได้ยังไง...”
“เรียนที่เดียวกัน... ฮือ... นั่นไง เรียนมอเดียวกัน... นั่งโต๊ะตัวเดียวกัน ฮึก ๆ”
เสียงสะอื้นไห้ไม่ขาด หยาดน้ำตาบนแก้มแดงก่ำถูกปาดด้วยปลายนิ้วโป้ง
กลิ่นสาเก แอลกอฮอล์หลายชนิดปนเปอยู่ในลมหายใจที่แผ่วเบา เธอคล้ายจะหลับก็ไม่หลับ ตื่นขึ้นมาคร่ำครวญน้ำตานองหน้าเป็นระยะ ๆ
อิงฟ้าไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง เธอไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน กระโดดขึ้นรถตามอีเปรี้ยวกลับห้องมาทำไม นอนกอดมันทำไม แล้ว...
“มึง... ไม่แต๊บเหรอ?”
ทั้งเปียกทั้งแข็ง! อิงฟ้าไม่ใช่เด็กน้อย ถึงเมาเท่าไรก็รู้อยู่ว่าคืออะไร พอขยับหัวเข่ายันเจ้าน้องชายที่กำลังทิ่มตำบนหน้าขา ชายหนุ่มถึงกับสูดลมเข้าปาก
“มึงแต๊บดี ๆ ดิ้! น้องชายมึงมันสู้กูเนี่ย... อีเปรี้ยว...”
บนเตียงนอนกับผู้หญิงสวย ๆ สองต่อสอง ในบ้านตัวเอง ไม่มีสาวคนไหนได้รับสิทธิพิเศษนี้ แต่แม่สาวน้อยนักท่องราตรีค่ำคืนเดียว เพิ่งพบหน้ากันหมาด ๆ กลับได้เข้าบ้านของเขามาหน้าตาเฉย
อาเจียนใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของเขาอีกต่างหาก จนตอนนี้อยู่ในสภาพกางเกงตัวเดียว หลังล้างตัวสักหน่อยแล้วกลับมานอนกกกอดสาวน้อย
บอกไม่ใช่อีเปรี้ยว... เธอก็ไม่ฟัง เมาเลอะเทอะ พูดจาวกไปวนมาจับใจความไม่ได้
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปจับศีรษะน้อย ลูบหัวเบา ๆ เหมือนลูบหัวลูกหมา
“ปกตินอนกอดเพื่อนสาวสองแบบนี้หรือ... คุณพ่อคุณแม่รู้ไหม?”
คนเมาทำเป็นหูทวนลม ซุกใบหน้าร้อนผ่าวหาอ้อมอกอีเปรี้ยวอย่างเอาแต่ใจ
ชายหนุ่มทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสัมผัสสยิว จะกลัวเข่าสาวน้อยขยับพลาดสักทีก็ไม่ เธอสะกิดมาอีกยังผงกคอสู้ เรียวขานุ่มเนียนหนีบเข้าโอบรอบน้องชายตัวดีเสียมิดชิด เขาลอบกลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกขยับ เลื่อนมือไปเชยคางมนขึ้น
ดวงตาคู่คมปลาบประกายสบนัยน์ตาฉ่ำปรืออย่างออดอ้อน ขณะโลกพร่ามัวทำให้เธอส่ายหน้าไปมาเหมือนกับว่ามองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง
“อี...”
“พี่พี... ที่น้องดวลเหล้าโต๊ะข้าง ๆ จนน็อกคาโต๊ะยังไงครับ ใช่อีเปรี้ยวที่ไหน แม่สาวน้อย...” ปลายเสียงย้ำ ‘แม่สาวน้อย’ ทว่าแววตาร้อนแรงที่มองสาวในอ้อมแขน เหมือนกำลังมองลูกกวางน้อยในกรงเล็บเสือ...
จะไม่ทำอะไรเลยคงเสียเชิง รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แต่ถ้าทำ ก็คงไม่ดี ทำไม่ได้เลยต่างหาก! ไม่ดีแน่!
พีระพงษ์ไม่อยากให้เสียการใหญ่ อุตส่าห์แอบตามสาวน้อยคนสวยมาหลายวัน
“อ้อ... พี่รูปหล่อ” รอยยิ้มเมามายบนใบหน้าหวานเรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ หญิงสาวกะพริบตาไม่กี่ครั้ง ก่อนจะสิ้นฤทธิ์ ผล็อยหลับไปดื้อ ๆ
ชายหนุ่มคิดว่าเขาคงหมดธุระในค่ำคืนนี้ ทว่าใจเจ้ากรรมไม่รักดี ดันเพลิดเพลินอยู่กับใบหน้าสวยใส ลมหายใจมั่นคงในสีหน้าผ่อนคลายที่ผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอ ริมฝีปากอมชมพูอมแดง เป็นสีเดียวกับแก้มแดงระเรื่อ
สีเดียวกับแก้มสากใต้ไรเคราเขียวครึ้ม เพียงเลือดในกายรุ่มร้อนสูบฉีดอย่างรุนแรง เธอทำให้เขาเปิดเผยรอยยิ้มอ่อนโยนโดยไม่รู้สึกตัว
ทั้งที่... แม่เสือสาวนักท่องราตรีในเดรสรัดรูปแขนยาว กระโปรงสั้น โยกย้ายส่ายสะโพกไปมา ในมือถือแก้วเหล้า ไม่ใช่สเปคของพีระพงษ์เลย
ในกระเป๋าสะพายใบโตของเธอยังมีกระโปรงอีกตัวสำหรับใส่ทำงานเป็นกระโปรงผ้าอย่างดีสีดำสนิท เสื้อคลุมสูทหลวม ๆ ปกปิดเดรสตัวนี้เอาไว้ หลังแปลงกายเป็นเสือสาวในยามราตรีได้โดยไม่ต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปกับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ กระตุ้นอารมณ์ชายหนุ่มเป็นอย่างดี ในที่สุดพีระพงษ์ก็อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงลอบดมแก้มใสเข้าฟอดหนึ่ง มืออีกข้างปัดปอยผมนุ่มหอมจนมองเห็นลำคอเพรียวระหง ผิวขาวนวลเนียนมองเห็นเส้นเลือดฝาดแดง ชีพจรที่เต้นอย่างผ่อนคลายดึงดูดริมฝีปากหนาหยักได้รูปให้ประทับจุมพิตลงบนนั้น
ไม่ได้... ไม่ได้เด็ดขาด...
ชายหนุ่มปิดตาลง กัดกรามกรอดจนเห็นสันกราม ก่อนที่เขาจะตัดสินใจปล่อยเรือนร่างหอมงามออกจากอ้อมแขนอย่างเสียอกเสียดาย
รับปากพี่ยศเอาไว้น่ะสิ...
ให้ตายเหอะ! พี่ยศนะพี่ยศ!
