บทที่ 11
บทที่ 11
มหาวิทยาลัย
“วันนี้ได้อะไรมายะ” มินนี่ยิ้มกริ่มแซวเพื่อนสนิทที่มีอะไรติดมือมาด้วยทุกเช้า
มิลินทิ้งสะโพกนั่งลงที่เก้าอี้แล้วเอากล่องน้ำผลไม้ให้คนแซวไปหนึ่งกล่องตามที่มีคนฝากมาให้ ใบหน้าของเธอบูดบึ้ง ไม่พูดอะไรสักคำจนมินนี่หุบยิ้มลงเพราะท่าทางของเพื่อนรักไม่เล่นด้วยซะแล้ว
“มึงจะใจแข็งไปถึงไหนวะ ปอร์เช่ตื๊อมึงมาหลายวันแล้วนะ” มินนี่พูดพร้อมกับเจาะกล่องน้ำผลไม้ที่ปอร์เช่ฝากมาให้แล้วยกขึ้นดูด
“กูไม่อยากมีเพื่อนผู้ชายนิ” มิลินใจแข็งไม่ยอมรับปอร์เช่เป็นเพื่อนร่วมแก๊งด้วยสักที เธอยังอยากมีเพื่อนเป็นผู้หญิงเท่านั้น เพราะคิดว่าเข้ากันได้ดีกว่าแน่ ๆ
“เพื่อนผู้ชายไม่ดีตรงไหน” มินนี่เลิกคิ้วขึ้นถาม
“ไม่ใช่ว่าไม่ดี…แต่คิดว่าผู้หญิงเข้ากันง่ายกว่า” มิลินตอบเสียงแผ่ว เพื่อนรักของเธอสั่นศีรษะรัว
“ไม่เกี่ยวเลยจ้ะ เพศไหนก็เข้ากันได้หมดแหละ มึงคิดไปเองว่าจะเข้ากันไม่ได้ ลองเปิดใจดูก่อน ถ้าไม่ดีก็เลิกยุ่งกันก็ได้นิ”
มิลินเถียงไม่ออก หากไม่ได้ลองเปิดใจรับมาเป็นเพื่อนดูสักครั้งก็คงไม่รู้ว่าจะเข้ากันได้ไหม หญิงสาวดื่มน้ำผลไม้ของตนเองที่ได้มาจากปอร์เช่จนหมดแล้วลุกหนีไปทิ้งขยะ
“หนีอีกละ” มินนี่รีบลุกตาม เพื่อนรักของเธอเป็นแบบนี้มาตลอด พอจนมุมเถียงไม่ได้ก็เดินหนี
มิลินขึ้นมาที่ห้องแล้วกวาดตามองหาที่นั่ง เธอก็เห็นปอร์เช่ยกแขนขึ้นเรียกให้ไปนั่งด้วยกันเพราะเขาขึ้นมาก่อนก็เลยจองที่เอาไว้ให้ หญิงสาวแกล้งทำเป็นไม่เห็นแต่ทว่ามินนี่กลับลากแขนของเธอให้ไปนั่งกับเขา
“ขอบคุณสำหรับน้ำผลไม้นะปอร์เช่” มินนี่เอ่ยกับปอร์เช่ เขาฝากมาให้เธออยู่เรื่อย
“ไม่เป็นไร”
“นายไม่มีเพื่อนมาเรียนที่นี่เลยเหรอ”
“ไม่มี เพื่อนเราสอบติดที่อื่นกันอะ เราก็เลยมาเรียนที่นี่คนเดียวเลย”
“แล้วทำไมไม่หาเพื่อนที่เป็นผู้ชายล่ะ” มิลินนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ก็หันไปถาม
“เราก็หาทั้งหญิงทั้งชายแหละ กับพวกเธอเราชอบในความตรง ๆ ไม่ยอมคนตั้งแต่วันที่รับน้องแล้ว เราเลยอยากเป็นเพื่อนด้วยน่ะ” ชายหนุ่มยิ้มบาง เขาโกหกก็เพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับคนที่ชอบ ไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม
“เราก็ชอบนายนะ เราว่านายดูจริงใจดีอะ” มินนี่ยิ้มแล้วปรายตามองเพื่อนรัก ปอร์เช่ก็พูดอะไรตรง ๆ ท่าทางไม่ได้มีพิษภัยอะไร
มิลินไม่พูดอะไร อาจารย์เข้าสอนพอดีก็เลยต้องหยุดคุยกัน
วันต่อมา
“มิลิน!!! รอเราด้วย!!!”
เจ้าของชื่อหยุดเดินแล้วหันกลับไปหาต้นเสียง ปอร์เช่วิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพราย ชายหนุ่มหอบแฮ่กเพราะรีบวิ่งตามมาให้ทัน
“นึกว่าเธอจะไม่ยอมรอเราซะแล้ว” ปอร์เช่ยิ้มกว้างจนตาหยีด้วยความดีใจ หลายวันที่ผ่านมามิลินก็ยังเว้นระยะห่างไม่ยอมให้เขาเข้าหา ไม่ว่าจะฐานะอะไรก็ตาม
เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะหยุดรอเขาทำไม ปกติเธอได้ยินเสียงเขาตะโกนเรียกก็เดินหนีไม่อยากเข้าใกล้
“นายนี่วุ่นวายกับเราจริง ๆ เลยนะ” มิลินหันหลังให้แล้วรีบเดินไปที่ตึกคณะ วันนี้เธอตื่นสายก็เลยต้องรีบเดินไปให้ทันเข้าเรียนในคาบเช้า
“ก็เราอยากเป็นเพื่อนกับมิลินนิ” ปอร์เช่ยิ้มกว้าง เขาเดินตามมิลินไปต้อย ๆ ต้องเรียนวิชาเดียวกันอยู่แล้ว
หญิงสาวไม่ตอบอะไร เพราะเขาพูดประโยคนี้อยู่ทุกวันที่เข้ามาหา จนตอนนี้เธอก็เริ่มใจอ่อนให้เขาเข้ามาเป็นเพื่อนแล้ว เพียงแต่เธอไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาดี ๆ ให้การกระทำบอกเขาแทน
