1เพียงแค่เมียนอกสมรส
ตอนที่ 1
เพียงแค่เมียนอกสมรส
จุดเริ่มต้นของความหลอกลวง
คนหนึ่งคนการอดทนมันต้องใช้ความสามารถมากขนาดไหนและคุณต้องใช้เวลาในการรอคอยได้นานเท่าไรกัน? หนึ่งปี? สองปี? แต่ไม่ว่ายังไงสำหรับอันดา หญิงสาวธรรมดาที่คบหากับผู้ชายที่ชื่อว่ากล้ากวี มาตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นแค่
รองประธานบริษัทของครอบครัวจนตอนนี้เขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแทนคนเป็นพ่อแล้วก็ยังไม่ยอมประกาศตัวว่าเธอเป็นคนรักเสียที เอาแต่บอกกับสังคมภายนอกว่าเธอคือเลขานุการส่วนตัวของเขาเท่านั้น
“คุณกวีค่ะ คือดามีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อยค่ะ”
อันดารวบช้อนวางลง ก่อนตัดสินใจเรียกกล้ากวีเพื่อบอกว่าเธอมีเรื่องอะไรบางอย่างที่อยากพูดจริงจังเสียที
“อันดานี่เรากำลังกินข้าวกันอยู่นะ ไว้กินเสร็จก่อน
ค่อยคุยก็ได้”
ส่วนกล้ากวีก็ดูเหมือนจะเดาทางออกว่า
หญิงสาวอยากคุยกับเขาเรื่องอะไร
“ไม่ค่ะ ดาอยากคุยกับคุณตอนนี้ค่ะ”
อันดารู้ดีว่าคุยหลังจากนี้ตัวของกล้ากวีก็จะหาข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อเลี่ยงไปอีก
“อันดาอย่างอแง”
หญิงสาวถึงกับสะอึกไปกับคำว่าอย่างอแง เธอจึงเงียบเสียงลงไป พร้อมกับการหยุดกินและรอให้แฟนหนุ่มกินข้าว
ให้เสร็จแทน ส่วนสาเหตุที่เธออยากคุยกับกล้ากวีคงเป็นเพราะเธอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเจ้าตัวนั่นแหละ
ที่ทำตัวดูเหมือนจะมีอะไรปิดบังเอาไว้จนเปลี่ยนไป
ฝ่ายกล้ากวีที่นั่งกินข้าวต่อโดยไม่ทันสังเกตท่าทีที่เปลี่ยนไปของอันดาเลย เขาเงยหน้าขึ้นมามองและได้เห็นว่าที่จานข้าวของแฟนสาวมันไม่ได้พร่องลงเลย หลังเธอรวบช้อนและส้อมเข้าไว้ด้วยกัน เขาฝืดคอด้วยความรู้สึกผิด
“อันดา ผมขอโทษ ขอร้องอย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้เลย”
“คุณกวีไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ”
อันดาตอบกลับอย่างตัดพ้อหน่อย ๆ คำขอโทษที่ฟังแล้วไม่ได้ออกมาจากใจ ฟังไปก็ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดูดีขึ้นเลยสักนิด
“งั้นมาพูดเรื่องที่คุณอยากพูดกันดีกว่า สรุปคุณอยากคุยเรื่องอะไรกับผม”
“อันดาอยากรู้ค่ะ ว่าเมื่อไรที่เรื่องของเราจะได้เปิดเผยเมื่อไหร่คนอื่นจะรู้สักที...ว่าเราเป็นคนรักกัน”
.
.
.
.
เสียงฝนที่ตกลงมาอย่างกับพายุ มันกำลังตกลงมาพร้อมแสงของสายฟ้าที่วิ่งพาดผ่านก้อนเมฆที่มืดครึ้มพานยิ่งทำให้บรรยากาศดูเหงาและเศร้าไม่ต่างจากหัวใจดวงน้อยของอันดาในตอนนี้เลย
นัยน์ตาสวยปิดลงแล้วหวนนึกถึงคำตอบของคนรักที่บอกกับเธอเมื่อสองชั่วโมงก่อนด้วยความรู้สึกที่เจ็บลึกที่หัวใจ
‘รอก่อนนะคนดี อีกไม่นาน อีกไม่นานแล้วจริง ๆ’
‘อีกไม่นานของคุณ มันคือตอนไหนกัน อีกปี? สองปี หรือสิบปีกัน?’
อันดาจำสีหน้าและแววตาของกล้ากวีในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี ทันทีที่เธอถามแบบนั้นสีหน้าของเขามันดูลำบากใจ รวมถึงสายตาล่อกแล่กไม่มองเธอราวกับกำลังคิดคำพูดใด ๆ
ก็ได้ที่จะหลอกล่อให้เธอเลิกต้อนเขาเสียที
อันดาแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไม่ให้เขา
เห็น แล้วบอกออกไปว่า ‘ดาจะรอคุณกวีนะคะ’ นั่นละท่าทีดูโล่งใจของกล้ากวีจึงได้เผยออกมาให้เห็น มันน่าขำสิ้นดีสำหรับท่าทีแบบนั้นของคนรัก
“ดาจะรอและดาจะยังคงรอตรงนี้เสมอนะคะคุณกวี”
อีกด้านกล้ากวีได้ขับรถกลับมาถึงบ้านในเวลา
สองทุ่มครึ่ง เขายื่นกุญแจรถให้คนขับที่ยืนรอรับเอารถเข้าไปเก็บในโรงจอดและตรงนั้นที่หน้าประตูบ้านก็ได้มีหญิงสาว
คนหนึ่งยืนยิ้มต้อนรับเขากลับบ้าน หญิงสาวคนนั้นมีใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ ดวงตากลมรีดูสวยเฉี่ยวผสมหวาน ผิวขาวผ่องตามแบบฉบับลูกคุณหนูที่ถูกดูแลผิวมาเป็นอย่างดี รูปร่างที่ดูเล็กน่าทะนุถนอม ทำให้กล้ากวีเอ็นดูเธอคนนี้อยู่ไม่น้อย
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะพี่กล้า” ชื่อเล่นที่คนสนิท จริง ๆ เท่านั้นที่จะได้เรียก ถูกเธอคนนี้เรียกโดยไม่โดนเจ้าของชื่อดุเลยแม้แต่น้อย แสดงให้เห็นว่าเธอคนนี้มีความสำคัญอย่างไรกับท่านประธานหนุ่ม
