เพียงเศษรักของคุณ

20.0K · จบแล้ว
นกกระจิบ
12
บท
265
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะความสูญเสียทำให้ธาวินนั้นกลายเป็นคนเงียบขรึมที่ไม่เคยมีความสุข บางครั้งก็ฉุนเฉียวจนครอบครัวนั้นเข้าหน้าไม่ติด ชายหนุ่มจมอยู่กับความทุกข์นานถึง 5 ปีเต็ม จนกระทั่งเขาได้เจอกับแพรไหม ผู้หญิงที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับพราวฟ้าคนรักเก่าที่จากไป ธาวินตัดสินใจที่เข้าหาผู้หญิงที่เขาหมายตา โดยที่สำหรับเขา เธอเป็นเพียงแค่ตัวแทนของคนที่เขารักเพียงเท่านั้น

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานหนุ่มเจ้าสำราญพลิกชีวิตแต่งงานก่อนรักพาลูกกหนีมีลูกโรแมนติกดราม่า

ตอนที่ 1 ตายไปพร้อมกับเธอ

ตอนที่ 1

ตายไปพร้อมกับเธอ

ไม่รู้ว่าเป็นเวลากี่เดือนแล้วที่ธาวินไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนครอบครัว ชายหนุ่มลงจากรถยุโรป เดินตรงเข้ามาในตัวบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ เมื่อหญิงสูงวัยที่นั่งอยู่หน้าบ้านเห็นหลานชายก็ดีใจมาก รีบลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงมาหาเขาทันที

“วิน กลับบ้านทำไมไม่บอกย่าก่อน ย่าจะได้เตรียมกับข้าว”

ชายหนุ่มยกมือไหว้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่คนเป็นย่าก็ชินแล้ว เพราะหลานชายของเธอเป็นแบบนี้มานานหลายปีนับตั้งแต่วันที่เขาสูญเสียคนรักไป เขาก็เหมือนสูญเสียตัวตนไปด้วย

“เข้ามาในบ้านก่อนลูก ปู่กับพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์กันอยู่”

ชายหนุ่มถอดรองเท้าก่อนจะนำไปเก็บในตู้ เขาถูกฝึกฝนเรื่องระเบียบวินัยมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากคุณปู่กับพ่อของเขาเป็นทหารด้วยกันทั้งคู่

“มาดูสิว่าใครมา”

เสียงของหญิงสูงวัยเรียกความสนใจจากชายต่างวัยทั้งสองที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ใกล้ๆกัน

“วิน วันนี้วันหยุดเหรอ”

ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขากลับมาที่บ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ทุกคนดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ปกติย่าของเขาจะไว้ผมยาวและเกล้ามวยขึ้นกลางศีรษะ แต่ตอนนี้ย่าตัดผมซอยสั้น คงเป็นเพราะอากาศร้อนก็เลยเปลี่ยนทรงผมใหม่

ส่วนปู่ดูผอมลง ใบหน้ามีริ้วรอยมากขึ้น ร่องรอยความแก่ชราชัดเจนกว่าเมื่อครั้งก่อนที่ได้เจอกัน

ส่วนพ่อนั้นดูไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ มีเพียงเส้นผมที่เริ่มหงอกมากขึ้น แต่รูปร่างก็ยังเหมือนเดิม

“มาก็ดีแล้ว เย็นนี้จะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา”

สีหน้าของธาวินยังคงเรียบนิ่งเหมือนเดิมชายหนุ่มขอตัวขึ้นไปบนห้อง ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวที่เขานอนตั้งแต่เด็กจนโต ครั้งสุดท้ายที่มาที่นี่ก็หลายเดือนมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าห้องของเขายังคงสะอาดอยู่ไม่มีฝนแม้แต่นิดเดียว ย่าคงจะเข้ามาทำความสะอาดให้ทุกวัน ทุกอย่างยังดูเรียบร้อยแม้ว่าจะไม่มีคนอยู่มานานแล้ว

ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้กลับบ้านมานานหลายเดือน แต่แทนที่เขาจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ เขากลับเลือกที่จะมาเก็บตัวอยู่ในห้องเพียงลำพัง

ด้านล่าง ผู้เป็นย่ากำลังนั่งคุยกับสามีของตัวเอง ทุกคนรู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจของธาวิน แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าธาวินยังทำใจไม่ได้เรื่องที่เขานั้นต้องสูญเสียคนรักไปเมื่อ 5 ปีก่อน

“นี่พ่อ แม่สงสารหลานจังเลย”

“พ่อก็สงสารเหมือนกัน แต่จะทำไงได้ล่ะแม่ พวกเราก็พยายามฟื้นฟูจิตใจมันมาตลอด แต่ก็เห็นว่าไม่ได้ผล”

ปู่ถอนหายใจ ที่ผ่านมาเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้หลานของเขารู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ ธาวินได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ราวกับว่าจิตวิญญาณของเขาได้ตายตามพราวฟ้าไปตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว

“จะพาไปหาหมอมันก็ไม่ยอมไป”

คงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย และหวังว่าสักวันเวลาจะช่วยเยียวยาจิตใจของธาวินและทำให้เขากลับมาเป็นธาวินคนเดิม

“แม่ไม่ได้สงสารแค่หลานนะพ่อ แต่แม่ก็สงสารลูกเหมือนกัน วิทย์มันก็คงทรมานใจที่เห็นลูกมันเป็นแบบนั้น”

วิทยาเป็นลูกชายคนเดียวของทั้งคู่ และเป็นพ่อของธาวิน ที่ผ่านมาวิทยาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อเยียวยาความรู้สึกของลูกชาย แต่ธาวินไม่ยอมรับความหวังดีของใครเลยสักคน เขาเลือกที่จะเก็บตัวเงียบ ไม่พูดไม่จาและกลายเป็นคนที่ฉุนเฉียวง่าย จากคนที่เคยสดใสร่าเริง ตลกขบขันและเข้ากับคนอื่นได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ราวกับว่าไม่ใช่ธาวินคนเดิม

“เราจะช่วยหลานยังไงดี”

“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน พ่อจนปัญญาจริงๆ ในเมื่อวินมันไม่ยอมรับความหวังดีจากพวกเรา ก็คงทำได้แค่มองมันอยู่ห่างๆแบบนี้”

สองสามีภรรยาเป็นห่วงหลานชายสุดหัวใจ ทั้งสองเลี้ยงดูธาวินมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ทั้งรักและผูกพัน เมื่อเห็นว่าหลานชายทุกข์ใจทั้งสองก็รู้สึกเดือดร้อนไปด้วย

ในขณะที่สองสามีภรรยากำลังนั่งปรึกษากัน วิทยาก็เดินเข้ามาด้านในพร้อมกับกองใบเตยที่เขาตัดมาด้วย

“เอามาทำอะไรน่ะวิทย์”ผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกชาย

“แม่ให้ผมออกไปตัดใบเตยให้ไง แม่ลืมแล้วหรือครับ”

“แม่ลืมไปเลย เดี๋ยวนี้ขี้ลืม”

เป็นธรรมดาของคนแก่ที่มักจะหลงๆลืมๆ หญิงสูงวัยต้องการที่จะทำขนมให้หลานชาย จึงบอกให้ลูกชายไปตัดใบเตยเพื่อนำมาคั้นน้ำ แต่เธอก็ดันลืมเสียได้

“แล้ววินมันยังไม่ลงมาอีกหรือแม่”

“ยังไม่ลงมาเลย คงจะลงมาตอนเย็นนั่นแหละ”

ธาวินขับรถจากกรุงเทพฯมาถึงฉะเชิงเทรา จากระยะทางก็ไม่ได้ไกลมาก ชายหนุ่มคงไม่ได้เหนื่อย สักเท่าไรแต่คงอยากจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องมากกว่า

“เมื่อไหร่มันจะเลิกเป็นแบบนี้สักที”

วิทยาเอ่ย เขารู้สึกเหนื่อยใจทุกครั้งที่เห็น ลูกชายเป็นแบบนี้ เขาอยากให้ลูกกลับมาเป็นคนเดิม อยากให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและก้าวเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่จมปลักอยู่กับผู้หญิงคนเดียวที่ตายจากไปแล้ว

ตัวเขาเองก็เคยสูญเสียเช่นเดียวกัน ตอนที่ ธาวินยังเล็ก ภรรยาของเขาได้จากไปเพราะอุบัติเหตุ ในตอนนั้นเขารู้สึกเศร้ามาก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มทำใจยอมรับได้ และก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงโดยมีลูกชายเป็นกำลังใจทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ในทุกๆวัน

เพราะฉะนั้นเขาจึงเข้าใจความรู้สึกของ ธาวินเป็นอย่างมาก แต่เขาก็อยากให้ลูกชายปล่อยวางและเดินหน้าต่อไปให้ได้เหมือนกับที่เขานั้นเคยผ่านมาแล้ว

“ให้เวลามันหน่อยเถอะ เดี๋ยวแม่จะไปทำขนมไว้ให้หลาน แกก็นั่งคุยเป็นเพื่อนพ่อก่อนก็แล้วกัน”

วิทยาใกล้จะเกษียณแล้ว เขาเป็นทหารเช่นเดียวกับพ่อ แม้ตำแหน่งจะไม่สูงมาก แต่เขาก็ภูมิใจในอาชีพการงานของตัวเอง เขาเคยคิดว่าลูกชายอย่างธาวินจะเจริญรอยตามเขาและคุณปู่ แต่ทว่า ธาวินนั้นกลับแตกต่างออกไป นอกจากเขาจะไม่สนใจอาชีพทหารแล้ว ยังไม่คิดที่จะรับราชการและหันไปทำธุรกิจแทน

แต่โชคดีที่ลูกชายของเขานั้นเป็นคนมีความสามารถและเฉลียวฉลาด ธุรกิจที่ธาวินทำจึงราบรื่นและทำกำไรมาก แม้ว่าจะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ก็เป็นบริษัทที่มีรายได้ต่อปีไม่น้อยเลยทีเดียว

เขาถือเป็นนักธุรกิจรุ่นแรกของตระกูล ถึงแม้ว่าจะแตกต่างจากคนอื่น แต่เขาก็ทำให้ทุกคนในครอบครัวนั้นภาคภูมิใจ