บทที่ ๒
โครม!
สรรพสิ่งทุกอย่างที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานขนาดย่อมจากที่เคยถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนหน้านี้โดยฝีมือภรรยาอันเป็นที่รักของเขา แต่บัดนี้ของเหล่านั้นมันกลับกระจัดจายอยู่บนพื้นห้องทำงานด้วยฝีมือเจ้าของห้องเอง ด้วยความโมโหจึงบันดาลโทสะเพิ่มกำลังของชายหนุ่มให้มีเรียวแรงมากพอที่จะกวาดเอาของทุกอย่างลงมาได้จนเกลี้ยงโต๊ะในคราเดียวได้เช่นนี้
เสียงดังสนั่นจากของที่กระทบพื้นห้องได้ไม่ถึงนาที เสียงร้องเอะอะมะเทิ่งพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนกำลังวิ่งแข่งกันมานั้นดังมาแต่ไกล แต่เพียงครู่เดียวบุคคลทั้งหมดก็ปรากฏตัวภายในห้องทำงานซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของคฤหาสน์หลังงาม ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตายแล้ว! เกิดอะไรขึ้นคะคุณภีม ทำไมข้าวของถึงได้กระจายเต็มห้องแบบนี้คะ”
หญิงสูงวัยร่างท้วมซึ่งมาถึงเป็นคนแรกอุทานขึ้นพร้อมกับยกมือทาบอกอย่างตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ภาคิน ยังคงยื่นแน่นิ่งไม่ไหวติงแต่อย่างใด ในมือข้างหนึ่งกำกระดาษขนาดเกือบๆ เท่ากับกระดาษเอสี่เห็นจะได้ ทว่ามองดูดีๆ แล้วจะเห็นว่ากระดาษแผ่นนั้นจะอ่อนบางกว่า อีกทั้งมีเส้นขั้นบรรทัดไว้ ส่วนอีกมือเขากำไว้แน่นชนิดที่ว่าหากมีของมีคมอยู่ในมือข้างนั้นเลือดแดงสดคงจะไหลเป็นทางไปแล้ว
แววตาขี้เล่น เจ้าเล่ห์ ซ่อนไว้ซึ่งความอบอุ่น ของคาสโนว่าหนุ่มได้หายไปโดยสิ้นเชิง ทว่าเวลานี้มีเพียงแววตาที่ฉายความดุดัน โกรธแค้น อย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน แม้แต่หญิงสูงวัย นามว่า นางอิ่ม ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเองด้วย
“เกิดอะไรขึ้นคะ ป้าอิ่ม”
เสียงหวานไพเราะคุ้นหูของทุกคนในบ้านดังขึ้นภายหลัง หลังจากเด็กในบ้านอีกคนวิ่งไปรายงานเธอว่ามีเสียงดังสนั่นมาจากห้องทำงานของผู้เป็นสามี ทำให้เธอต้องละจากการจัดแจกันดอกไม้ที่บริเวณโซนนั่งเล่นนอกตัวคฤหาสน์ออกไปทันที
ทว่าเสียงหวานใสคุ้นหูนั้นกลับกลายเป็นฉนวนเพิ่มแรงพายุให้รวมตัวขึ้นอีกครั้ง และดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณวา ป้าขึ้นมาก็เจอสภาพนี้แล้ว”
นางอิ่มหันมารายงานหญิงสาวผู้เข้ามาใหม่ทันควัน น้ำเสียงยังคงไม่คลายความวิตกลงไป
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่ภีม”
วาทิตาหันไปถามสามีแทน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ดีเท่ากับคนที่ยื่นนิ่งอยู่ในเวลานี้ หญิงสาวขยับเท้าหวังเดินตรงเข้าไปหาเขาอีกนิด ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากที่เดิมร่างเล็กต้องหยุดชะงักแทบจะทันที เมื่อเสียงแห่งอำนาจ แฝงด้วยความหมางเมินดังขึ้นอย่างชัดเจน
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ”
ไม่เพียงแต่น้ำเสียงเท่านั้นที่แสดงความหมางเมิน แววตาก็ไม่ต่างอะไรจากน้ำเสียงนั้นเลย เขามองเธอราวกับเธอเป็นคนแปลกหน้าเช่นนั้น
