คืนที่ 8 มีแค่คุณ
[Talk เดวิด]
เธอเดินเข้ามาที่ร้านด้วยเดรสสีขาวระบายเป็นกระโปรงฟูฟ่องนิดหน่อย ที่คอผูกด้วยโบสีขาว แล้วมีสายรัดผูกที่เอวเป็นโบเข้าชุด ส้นสูงสีขาว รวบผมหางม้าเบี้ยวมาทางซ้าย ผูกผมด้วยโบสีขาวเข้าชุด ให้อารมณ์เจ้าหญิง
ผู้หญิงคนนี้เทสดีมาก เธอแต่งตัวเองได้สวยและน่ารักตามสถานที่ซึ่งมีเหตุต้องไป คุณเธอคงเรียนรู้มาจากอาชีพของตัวเองแน่ๆ ให้ตายสิยูมิสวยมากจริงๆ หรือบางทีผมอาจตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่วันที่ฝ่ายนั้นใส่เสื้อแมลงสาบแทะแล้วก็ได้
วินาทีที่ยูมิเดินเข้ามาก็อย่างว่า คนน่ารักย่อมถูกมองเป็นตาเดียวเสมอ แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือเธอเดินเข้ามามองหาผมทั้งๆ ที่ผมนั่งอยู่ตรงนี้ เห็นเธอตั้งแต่เข้ามาแล้ว นี่คงสายตาสั้นจริงๆ ผมเลยโบกมือให้นิดหน่อยเป็นเชิงส่งสัญญาณ นั่นทำเอายูมิยิ้มกว้างแล้วเดินมาหาอย่างดีใจ
“เดฟ” เธอลากเสียงยาวอีกแล้ว ผมชอบจังเวลาเธอเรียกผมแบบนี้
“ไงสาวสวย เชิญนั่งก่อนครับ ทานอะไรดี”
แล้วผมกับยูมิก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่แบบนั้น ดูเธอจะดีใจมากที่มีผมเป็นเพื่อน เพราะเธอเคยบอกว่าเพื่อนน้อย ซึ่งผมก็เข้าใจเธออยู่แล้ว แถมยังอดดีใจไม่ได้ที่ถูกมองว่าสำคัญกับเธอขนาดนี้
[Talk คริสเตียน]
ผมกำลังนัวเนียสาว อยู่ที่โซน VIP ในผับของไอ้เซน พวกมันเรียกมาให้ผมอย่างเต็มที่ เพราะผมสั่งให้มันเรียกมาเอง ผมคิดว่าน่าจะช่วยเติมเต็ม แทนยัยนั่นได้ จริงๆ ผมก็ไม่น่าจะติดใจอะไรมากมายหรอก เดี๋ยวลองเอาคนอื่นดู ก็คงจะลืมกันไปเอง
จู่ๆ เสียงเรียกเข้าของมือถือก็ทำให้ผมผละจากเต้านมของสาวคนหนึ่ง แล้วควานหาเพื่อรับมันอย่างรำคาญ
“เชี่ยแดนมีอะไร กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม”
“เออ จะบอกว่ากูเจอพี่ชายมึงนั่งแดกข้าวอยู่ที่ร้านกู”
“ไอ่สัส มันนั่งแดกข้าวอยู่ร้านมึงก็ถูกแล้วไง ถ้ามันนั่งแดกหญ้ามึงค่อยโทรมา”
“แต่มันนั่งแดกอยู่กับ ยูมิ เด็กมึงนะ”
“ห๊ะ” ผมรีบผละออกจากเต้านมแล้วดันสาวคนนั้นให้ออกไปให้พ้นตา เพราะตอนนี้สิ่งที่เพิ่งได้ยิน ทำเอาผมหมดอารมณ์ทุกอย่างลงเสียแล้ว
ผมเดินออกมาทั้งอย่างนั้น ไม่สนใจเสียงเรียกถามของคุณเพื่อนทั้งหลายแหล่ แล้วรีบยัดตัวเองลงในรถสปอร์ตออดี้สีขาวเหยียบมันราวกับทอเร็ตโต้กำลังแข่งอยู่บนถนนในลาสเวกัส เพื่อมุ่งหน้าไปร้านอาหารของไอ้แดน
เข้าไปถึงก็เห็นพวกมันคุยกะหนุงกะหนิง ข้างๆ มีแก้วไวน์และขวดไวน์อย่างเห็นได้ชัด
พระเจ้า! ยูมิ นี่เธอดื่มงั้นหรอ ผมไม่เคยเห็นเธอดื่มมาก่อน แล้วทำไมต้องมาดื่มกับไอ้เชี่ยนี่ด้วย
ผมกับมันก็ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งมันมาทำแบบนี้ผมยิ่งเกลียดขี้หน้ามัน
มองจากตรงนี้ยังเห็นว่ายูมิหน้าแดงก่ำ คงเพราะเมาแน่ๆ ผมรีบสืบเท้าเข้าไปหาพวกเขา ไอ้แดนเห็นแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาแต่ผมไม่สน มากไปกว่าการกระชากแขนเธอขึ้นมาจากโต๊ะ
“ไอ้เดวิด กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้ยุ่งกับยัยนี่” ผมกำแขนเธอแน่น จนเธอแหงนขึ้นมามองหน้าผมแต่เธอไม่พูด
“ไอ้คริส มึงเป็นบ้าหรือไง อายคนอื่นบ้าง” ไอ้แดนรีบห้าม
“อายทำไม กูมาตามเอาของของกูกลับ”
"แต่ฉันไม่ใช่ของคุณนะคะ" เธอเงยหน้ามองผมงงๆ ยัยนี่ขนาดเมายังน่ารัก แต่ไม่สบอารมณ์กับคำพูดเธอเลยว่ะ
“ทำไมจะไม่ใช่ เอากันมาตั้งกี่ครั้งแล้ว เธอเป็นของฉัน แล้วไม่ต้องไปเสือกอ่อยใครไปทั่ว” หน้าเธอก็ยัง งง อยู่ แต่ครั้งนี้เธอเอ่ยพูดลิ้นรัว
“งั้นถ้าฉันนอนกับเดฟ ฉันก็จะเป็นของเดฟใช่มั้ยคะ”
ขนาดลิ้นรัวและถามแบบเด็กไร้เดียงสา แต่คำถามมันกวนโมโหผมสวนทางกับหน้าตาใสซื่อนั้น ในระหว่างนั้นแม่สาวเมรีก็งัดมือผมออก แล้วเดินไปจับมือเจ้าเดวิดซึ่งคงกำลัง งงกับคำพูดของเธอเหมือนกัน
“งั้น เดฟ เราไปเอากันดีมั้ยคะ ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นของเขา แล้วมาเป็นของคุณแทน” วินาทีนั้นพี่ชายผมขำพรืดออกมาแล้วยิ้มให้เธออย่างจริงใจว่า
“ไม่ใช่แบบนั้นยูมิ พวกเราไม่ได้หมายถึงแบบนั้นกันนะ เธอเข้าใจผิดแล้ว” เขาลูบหัวเธออ่อนโยน ผิดกับผมลิบลับ แล้วนี่มันมีสิทธิ์อะไรมาลูบมาจับร่างกายของเธอ
“อะ เอ่อ กูว่าพวกมึงเข้าไปโซน VIP กันก่อนเถอะ พวกคนมองใหญ่แล้ว” ไอ้แดนรีบเอ่ยขัดจังหวะ ซึ่งพอผมหันมองตามสายตาก็เห็นว่าจริง เลยเดินนำไปอย่างหัวเสีย
แล้วพวกเราสามคนก็มาอยู่ในบรรยากาศโคตรอึดอัดอีกครั้ง ยัยนี่เมาจนนอนตะแคงข้างอยู่ที่โซฟา ปล่อยผมใช้สายตาปะทะคารมกับพี่ชายผมลำพัง
“มึงปล่อยเธอดื่มขนาดนั้นได้ไงวะ”
“กูไม่รู้นี่ว่าเธอจะคออ่อน อีกอย่างกูไม่เคยเห็นเธอดื่มสักครั้ง”
"...." ผมพูดไม่ออกขึ้นมา บรรยากาศเลยยิ่งชวนอึดอัดไปอีก
“ถ้ามึงไม่เคลียร์กับเคทมึงก็ควรเลิกยุ่งกับเธอ ตอนนี้เธอรู้สึกผิดมากแล้วนั่งด่าตัวเองว่าเป็นชู้กับแฟนชาวบ้าน ถึงเธอจะไม่รู้ความสัมพันธ์จริงๆ ของพวกนาย แต่ความรู้สึกผิดของเธอมันเป็นของจริง”
“แล้วมึงเสือกเรื่องของพวกกูทำไม”
“ถ้ามึงไม่ได้จริงจังกับเธอมึงก็ปล่อยเธอไอ้คริส เพราะกูจริงจังกับเธอ กูไม่มีวันทำเธอเสียใจ”
วินาทีนั้นผมก็เข้าใจแหละ พี่ชายผมคนนี้มันแสนดีจริงๆ พวกผมไม่มีอะไรเหมือนกันเลยนอกจากหน้าตา ผมกับมันใช้ชีวิตแตกต่างกันมาตั้งแต่เกิด ถ้าเปรียบผมเป็นนรกมันก็คงเป็นสวรรค์ละมั้ง
แต่คำพูดก็โคตรขัดหูชิบ ให้ผมปล่อยเธอไปงั้นหรอ เอาจริงๆ มันก็ไม่ยากหรอกแค่ผู้หญิงคนเดียว แต่สองสามวันนี้ผมพยายามเอาสาวมากี่คนแล้วก็ไม่รู้ แต่ผมก็ยังเลิกคิดถึงยัยนี่ไม่ได้ไง ผมถึงต้องถ่อตัวเองมาถึงที่นี่ คือผมแค่ยังกินเธอไม่อิ่มไง...มันเท่านั้นจริงๆ
“กูไม่ปล่อย มึงจะทำไม ยัยนี่ติดใจลีลากูจะตาย ถ้าไม่งั้นคงไม่ขอร้องกูจะเป็นจะตายให้เอาเธอหรอก”
“เหอะ หลงตัวเอง มึงไม่รู้เหตุผลที่เธอขอร้องมึงแบบนั้นใช่มั้ย”
“เหตุผลอะไร”
มันกำลังจะอ้าปากพูด แต่เสียงยัยยูมิก็ละเมอครางขึ้นมาก่อน เชี่ย เธอครางในลำคอเบาๆ แค่ "อืมม∼" แล้วพลิกตัวหันไปอีกด้านกระโปรงเลิกขึ้นมาเห็นขาอ่อนนิดหน่อย
แต่แค่นี้ก็ทำให้พวกผมหน้าแดงใจสั่นไปหมดแล้ว
มือเธอควานหาอะไรสักอย่างแล้ว พูดออกมาเบาๆ ว่า
“เอลซ่าาาจ๋าาา หมอนข้างที่น่ารักของฉานน เธอไปอยู่ไหน ไม่มีเธอฉันเหมือนจะขาดจายยตายย”
น่ารักเกินไป ไม่ไหวแล้วจังหวะนี้ ผมต้องพาเธอกลับแล้ว
“กูจะพาเธอกลับ” ผมบอกไอ้เดวิด ซึ่งมันก็ไม่ได้ห้าม แค่พูดออกมานิ่งๆ ว่า
“หวังว่ามึงจะเคลียร์กับเธอให้จบ”
บางทีผมก็เบื่อนิสัยโคตรจะอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษของพี่ชายผม เล่าคร่าวๆละกันเรื่องผมกับพี่ชายคนนี้
พ่อเป็น ผู้อำนวยการโรงพยาบาล แม่ทำคอนสเตรักชั่น พวกเขามีพวกผมแค่สองคน ก็เลยหวังสูงจึงยัดเยียดสิ่งที่คิดว่าดีมาให้พวกเรา จริงๆ แบดกายอย่างผมต้องเรียนวิศวะใช่มั้ย แล้วกู๊ดกายอย่างมันต้องเรียนหมอ
แต่คนแต่งแม่งกวนตีนไง บอกว่าถ้างั้นมันจะน่าเบื่อไป ก็เลยวางบทมาแบบนี้ แต่ช่างเถอะ พวกผมเป็นลูกเสี้ยว พ่อของแม่ผมเป็นคนอังกฤษ แม่ผมเป็นลูกครึ่ง นั่นแหละพวกผมเลยมีสีตาแปลกประหลาด
เอาล่ะ กลับมาที่เรื่องของผมกับแม่สาวหัดเมาดีกว่า ผมพาเธอที่เมาไม่ค่อยได้สติ กลับมายังคอนโดอีกแห่ง เพราะที่นั่นเคทพักอยู่ ผมแบกเธอขึ้นมาง่ายๆ ก็อย่างที่บอกหุ่นและร่างกายของพวกผมมันแซ่บซี๊ด ด้วยความสูง 180 กับเธอที่สูง ไม่น่าจะเกิน 160 มั้งมันเป็นอะไรที่ง่ายต่อการขนย้ายจริงๆ
ผมวางยูมินอนหงายอยู่บนเตียงเหมือนเธอจะมีสติหน่อยๆ ดวงตาคู่งามถึงได้พยายามจ้องหน้าผม แล้วก็มองมายังนัยน์ตา ก่อนจะพูดลิ้นรัว
“คริสเตียนเองหรือ นึกว่าใคร” อ้าวยัยนี่ พูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ ด้วยความร้อนใจเพราะคำว่า 'นึกว่าใคร' ที่ออกมาจากปากของเธอ
“แล้วเธอคิดว่าใครล่ะ ยูมิ”
“หืมม ฉันจะคิดว่าใครได้ละคะ ก็ฉันมีแค่คุณคนเดียวนี่”
หน้าผมร้อนผ่าว ถึงแม้คำพูดคำจาจะดูวกวนฟังไม่เข้าใจแต่จังหวะนั้นผมใจเต้นแรงมาก ให้ตายเถอะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมก้มลงไปจูบเธอแล้วเธอก็กอดคอผม กลิ่นไวน์อ่อนๆ กับน้ำหอมของเธอกำลังทำให้ผมเคลิ้ม เธอกอดคอผมแล้ว จูบกลับมาอย่างร้อนแรง เธอพลิกตัวขึ้นคร่อมผม แล้วจูบอยู่แบบนั้น
เธอค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ดแล้วรุกไล่มายังแผงอกของผม ลิ้นเล็กไล้เลียและทำคริสมาร์กไปทั่วตัว ยัยนี่กำลังทำอะไรกันแน่นะ ปกติเธอไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่ช่างเถอะ เพราะมันทำให้ผมเสียวซ่านไปทั้งตัวเลย
เธอดึงสายโบเส้นใหญ่ที่รัดผูกอยู่ตรงเอวออก ก่อนจะจัดตัวเองให้นั่งคุกเข่าอยู่บนตัวผม สองแขนของผมถูกรวบเข้าด้วยกัน ก่อนสายรัดอันนั้นจะถูกมัดข้อมือผม ก่อนจะดันมันไปเหนือหัวแล้วจบที่การผูกไว้กับเตียงเหมือนอย่างผมเคยทำเธอ นั่นยังไม่จบนะเธอยังกระซิบมาข้างหูเบาๆ อีกว่า
“เรท NC30+ กันที่รัก”
