บท
ตั้งค่า

คืนที่ 7 แฟน?

[Talk ยูมิ]

คุณพระ นี่มันบทสวาทรักร้อนตอนเช้า ต้องเสริมเข้าไปในนิยายให้ได้ ความเสียวซ่านนี่ ฉันจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปเด็ดขาด ฉันทำตาเป็นประกาย แล้วเขาก็จ้องมาเขม็งแทบจะทันที

“อะไรกันรู้สึกดีขนาดนั้นเลยรึ” เขาถามเสียงเรียบ

“ค่ะ ดีมากเลยค่ะ” ฉันตอบไปตามจริง ก็มันจริงนี่ แต่เขากลับหน้าแดงไปถึงหู อะไรกันคนคนนี้ ถามเองหน้าแดงเอง

“คริสเตียน คุณอยากได้กาแฟมั้ยคะ”

“อืม กาแฟดำ 3 ช้อน”

“โอเคค่ะ”

ทำไมรู้สึกเหมือนเป็นคู่รักเลยแบบนี้ ตั้งแต่เขาบังคับให้ฉันนอนด้วยที่นี่เมื่อคืน เขาทำไปเพื่ออะไรนะ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย เรานั่งตรงกันข้ามกันกินกาแฟเหมือนคู่แต่งงานใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นก็แค่คู่นอน

“วันนี้คุณต้องเข้าเรียนมั้ยคะ” ฉันถามขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศอึดอัดในความรู้สึกของตัวเอง

“อืม น่าเบื่อ แต่ก็ต้องเข้า”

“ของคุณต้องเรียนอีกตั้งสองปี ใช่มั้ยคะ”

“อืม เธอรู้ได้ไง”

“พอดีฉันถามเดฟเกี่ยวกับงานของเขา เขาบอกว่าเรียนจบแล้ว ตอนนี้ยังเป็นถึงวิศวกรอยู่ที่บริษัทของครอบครัว เขาจบก่อนคุณสินะ เพราะเขาเลือกเรียนวิศวะ แต่คุณเลือกแพทย์เพราะ…”

ตึง!!! ฉันพูดยังไม่ทันจบเขาก็กระแทกแก้วกาแฟลงกับโต๊ะจนมันเกือบแตก เล่นเอาฉันตกใจจนหลับตาปี๋

“นี่ เธอพูดเรื่องผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผู้ชายอีกคนได้แบบไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นหรอ”

“ห๊ะ”

“ฉันถามเธอ” เขากระแทกเสียงดังๆ อีกครั้ง ใบหน้าหล่อๆ นั่นบูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“กะ ก็เดฟเป็นเพื่อนของฉัน เขาเป็นทั้…”

ตึง!!!! เสียงกระแทกแก้วกาแฟอีกรอบ

“เดฟ เดฟ เดฟ อยู่ได้น่ารำคาญ เรียกกันสนิทสนมจัง ทั้งที่ฉันเธอไม่เคยเรียกชื่อเล่นฉันเลยสักครั้ง” หน้าเขาไม่สบอารมณ์อย่างแรง ฉันหลับตาปี๋ไม่กล้ามองหน้าเขา หมอนี่เวลาโกรธน่ากลัวจัง

“ชั่งเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้ามหาลัยละ”

“งะ งั้น ฉันกลับเลยนะคะ เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่...”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปส่ง”

“ดะ ได้ค่ะ”

ฉันนั่งรอเขาอาบน้ำแต่งตัวสักพัก เขาก็ออกมาแต่งชุดนักศึกษาที่สวมเสื้อกาวน์แบบหมอ มันหล่อกร้าวใจสุดๆ แต่ฉันทำได้เพียงเก็บอาการไว้ ยังไม่ทันจะได้ไปไหนเสียงออดหน้าห้องเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน สีหน้าเขาตระหนกนิดหน่อยค่อนไปทางสงสัยมากกว่า ก่อนจะเดินไปยังบานประตูเพื่อหาคำตอบ

“เคท” เขาทำหน้าเหวอเมื่อเห็นสาวสวยผมทองสุดเซ็กซี่คนนั้น

“อะไรกันที่รัก เห็นหน้าแฟนแล้วตกใจยังกับเห็นผีแบบนี้เลยเหรอ” เธอใช้สองแขนกอดคอเขาที่ยืนตัวแข็งทื่อ

แต่ฉันนี่สิ ทื่อเสียมากกว่า อะไรกันเขามีแฟนแล้วงั้นหรือ ไม่อยากจะเชื่อ แล้วที่เราทำกันมาทั้งหมดมันคืออะไรล่ะ ตอนนี้สมองฉันกำลังออเร่อเหมือนเครื่องคอมที่กำลังดาวน์โหลดข้อมูลอยู่

“แหม ก็ว่าอยู่ว่าทำไมทำหน้าเหมือนเห็นผี เอาสาวมานอนด้วยอีกแล้วสินะ ทำตัวเลวได้ใจจริงๆ ที่รัก” เธอพูดแล้วหอมแก้มเขา ที่กำลังยืนนิ่งไม่ต่างกับฉัน

เมื่อสมองประมวลผลเสร็จ ฉันรีบลุกขึ้นแล้วหยิบสัมภาระของตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาหน้าประตู รู้สึกอายมากที่นอนกับแฟนคนอื่น พระเจ้าความรู้สึกจุกที่อกนี่มันคืออะไรกันนะ หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาก็เริ่มร้อนตาม แต่ฉันฮึบไว้ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า

"ฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ" แค่นั้นที่ฉันพูดออกไปแล้วพาตัวเองหันหลังเดินมาทันที หูได้ยินเสียงเรียกตามหลังว่า ยูมิ แต่ฉันไม่ได้หันกลับไปหรอก จะหันกลับไปให้มันเจ็บทำไม

ฉันจุกอกนะแต่ไม่ได้ร้องไห้ออกมา ได้แต่กลั้นมันไว้ ฉันก็พอรู้อยู่ว่าเขาน่าจะมีผู้หญิงเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะมีแฟนแล้ว ไม่อยากเชื่อว่า ฉันจะนอนกับแฟนคนอื่น ความรู้สึกอับอายนี่คืออะไรนะ

ในฐานะนักเขียนนิยาย เรื่องราวร่านสวาทผิดศีลธรรมมันถูกรังสรรค์อยู่บ่อยๆ แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความจริงแล้วมันรู้สึกแบบนี้เองงั้นหรือ พระเจ้า ขอโทษนะฉันไม่เคยนึกถึงจิตใจพวกเธอเลย ตัวละครของฉัน

ฉันนั่งแท็กซี่กลับมาเอารถของตัวเอง สว่างโร่ขนาดนี้ รถฉันจอดที่ผับอยู่คันเดียว เพิ่มความอายเข้าไปอีก เฮ้ออ ยูมิ เจ้าของผับเขาคงเอือมระอาเธอแล้วสินะ ฉันถอนหายใจคอตก แล้วขึ้นรถ ขับกลับห้องโสโครกของฉัน

[Talk คริสเตียน]

“กลับมาตอนไหน เคท” ผมถามเธออย่างหงุดหงิด แต่เธอกลับชงกาแฟกินอย่างสบายใจ

“พึ่งลงเครื่องก็มานี่เลย”

“แล้วทำไมไม่บอกก่อนจะมา” ผมมองหน้าเธอไม่สบอารมณ์นัก แต่เธอก็ไม่สนใจไยดีเหมือนเคย

“อ้าวก็ไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่นี่”

"...."

“ปกติสาวๆ ที่คุณพามา คุณก็ไล่กลับตั้งแต่พวกเธอตื่นกันไม่ใช่หรือ ใครจะไปรู้ว่าจะมานั่งกินกาแฟกันจนสายเหมือนคู่แต่งงานใหม่แบบนี้” เธอพูดแล้วเหลือบมองแก้วกาแฟสองใบบนโต๊ะกินข้าว

"...."

“แล้วนั่นอะไร ทำไมทำหน้าไม่สบอารมณ์ขนาดนั้น แคร์เธอขนาดนั้นเลยรึ” ผมไม่ตอบ ไม่สิ ตอบไม่ได้ต่างหาก

“เธอกลับไปพักคอนโดเธอเถอะ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่าง” ผมทำท่าทีเรียบเฉยใส่เธอ ปกติก็เรียบเฉยแบบนี้แหละ

“อะไรกันที่รัก แฟนบินกลับมาจากต่างประเทศทั้งที คุณไล่กลับห้องไปเนี่ยนะ”

เธอเริ่มกระเซ้าแหย่ แล้วมากอดผมจากด้านหลัง เอาหน้าสวยๆ ของเธอซุกมาตรงซอกคอ ส่วนที่อ่อนไหวของที่สุดซึ่งเธอรู้ดี มือบางลูบไล้ช้าๆ ตรงเป้ากางเกงเหมือนอย่างชอบทำ

ผมปัดมือ แล้วดันเธอออกเบาๆ ก็แค่ยังไม่อยากทำกับเธอตอนนี้ เพราะเมื่อกี้เพิ่งอิ่มมาจนเรียกว่าจุกเลยล่ะ

จริงๆ เคทเป็นคนร้อนแรงแล้วเก่งเรื่องอย่างว่ามาก ที่ผมคบกับเธอมานาน แล้วให้สถานะเธอใช้คำว่าแฟน เพราะเคทเป็นคนไม่เรื่องเยอะ เธอไม่มีปัญหาเรื่องที่ผมจะไปเอาใครต่อใคร

เธอเป็นทั้งคู่นอนและควบตำแหน่งแฟนได้เพราะมันเป็นไม้กันหมาได้พอสมควร กับผู้หญิงที่ชอบเข้าหาผมเพื่อหวังอย่างอื่นนอกจากการมีเซ็กซ์ แล้วผมก็ไม่เคยคิดว่าอยากมีแฟนจริงๆ กับใครเลยสักครั้ง ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จนกระทั่งเจอยัยนั่น สีหน้าของเธอตอนเห็นเคทฉายชัด คงตกใจน่าดู แล้วผมก็โง่อีกแล้วที่ไม่ได้ขออะไรไว้ติดต่อเธอเลย

“หืม คุณปฏิเสธฉันงั้นเหรอคริส ครั้งแรกเลยนะคะ” เธอเริ่มสงสัยแต่สีหน้ายังเรียบเฉย

“ผมไม่มีอารมณ์”

“งั้นเหรอ ยัยนั่นคงเด็ดพอตัวสินะถึงทำให้คุณอิ่มได้” เธอเริ่มแซวออกไปทางค่อนแคะมากกว่า

“ไม่เกี่ยวกับเธอ ไม่ต้องไปพูดถึงเธอ” ผมเริ่มโมโหที่เธอพาดพิงถึงยูมิ ยูมิไม่ได้ผิดอะไร

“อุ้ยตาย พูดถึงก็ไม่ได้ เอาเถอะๆ ฉันไม่สนใจหรอก เดี๋ยวคุณก็เบื่อเอง แต่ฉันไม่กลับห้องหรอก ฉันจะพักที่นี่”

เธอยืนยันแบบนั้น แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่ได้มีคอนโดที่เดียว ให้เธออยู่ไปละกัน

ที่มหาลัย

“ไอ้โชน มึงติดต่อมะปรางแล้วขอเบอร์ยูมิให้กูหน่อยสิ” ผมบอกเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันเชิงขอร้อง

“เหอะ ไอ้เวรนี่ มึงพูดจากับเธอแบบนั้นต่อหน้าเพื่อนของเธอ มะปรางมันคงจะให้หรอก มันไม่ตบหน้ามึงก็บุญแล้ว” ร่างใหญ่พูดจาไม่สบอารมณ์

“เออ แล้วกูจะทำไง”

“แล้วมึงจะสนทำไม มึงก็หาเอาใหม่ๆ เด็ดๆ สิ” มันออกไอเดียได้น่าสนใจมาก หมอนี่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้หรือไงว่ะ

“เออ เข้าท่าอยู่ความคิดดี” ผมเริ่มคล้อยตามคำพูดมัน ก็ทำไมล่ะ ผมไม่ใช่คนชอบยึดติดนี่

“ก็แค่นั่นแหละ อย่างมึงต้องแบบนี้สิ”

[Talk ยูมิ]

ฉันนั่งจมอยู่หน้าคอมอีกแล้วทุกคน ความรู้สึกประเดประดามาไม่ยอมหยุด ฉันเล่นชู้กับแฟนชาวบ้าน นี่ฉันเล่นชู้กับแฟนชาวบ้าน พระเจ้ามันหลอกหลอนฉันเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อ ตัวละครของฉันคงรู้สึกเหมือนกันสินะ นี่ฉันควรเลิกเขียนแนวอีโรติก มาเขียนแนวโรแมนติกแทนดีมั้ย เริ่มไม่เมกเซนต์กับวิถีชีวิตตัวเองแล้ว งื้อ

ทำงานไม่รู้เรื่องเลย

แล้วเสียงมือถือก็ดังขึ้น ฉันควานไปรับแบบไม่ได้ดูเบอร์หน้าจอ

“ค่ะ”

“ยูมิ”

“เดฟ” ฉันลากเสียงยาวเพราะอดดีใจไม่ได้ เมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร

“อะไรกันน้ำเสียงดีใจขนาดนั้น” เสียงปลายสายก็ดูดีใจเหมือนกันแหละ

“ฮือ นิยายฉันตันอีกแล้ว” ฉันดีใจมากที่เขาโทรมา ฉันมีเพื่อนน้อย พอได้คุยกับคนที่สนใจเรื่องของฉันมันรู้สึกดี

“งั้นหรอ ออกมาเปิดหูเปิดตามั้ย วันนี้ฉันว่าง ฉันจะพาเที่ยว” เสียงปลายสายสดใสเริ่มออกไอเดีย แล้วฉันก็ไม่ปฎิเสธด้วย

“โอ๊ะ ดีเลยงั้น ฉันไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ”

“ไม่เอาเสื้อแมลงสาบแทะนะ” เขาดักเอาไว้อย่างขบขัน

“ฮ่าๆๆ รู้อยู่ ไม่ทำให้อายหรอกน่า แล้วเจอกันที่ไหน”

“มาที่ร้าน XXX ร้านนั่งชิลล์ เดี๋ยวส่งโลเคชั่นให้”

“รับทราบค่ะ”

“ครับผม”

ฉันเชื่อนะว่าปลายสายก็กำลังยิ้มเหมือนกันกับฉัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel