ยอมให้จากไปเพื่อให้เธอมีความสุข(2)
“เราคงต้องขายที่ดินบางส่วนเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ในทุกอย่างที่เราลงทุนไป”
วายุเรียกหัวหน้าคนงานเข้ามาปรึกษาพูดคุยถึงทางออกแม้กระทั่งเงิน 200,000 บาทที่เขาตัดสินใจโอนให้กับวีระไปก็เป็นเงินที่เขาหยิบยืมจากเพื่อนสมัยเรียนเพราะเขาไม่ต้องการให้เกวลินต้องลำบากในวันที่เขาไม่เหลืออะไรและเขาคิดว่าถ้าเขาบอกสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เธอต้องหย่ากับเขา วายุกลัวว่าเกวลินจะไม่ยอมไปแต่เขาจะไม่มีทางยอมให้เธอกับลูกต้องมาลำบากในวันที่ไร่ของเขาล้มแบบนี้
“ถ้าเราขายตอนนี้เราก็จะเก็บพืชผลที่เราอุตส่าห์เฝ้าฟูมฟักไม่ทันแล้วก็ต้องขายด้วยกันหลายร้อยไร่กว่าที่เราจะใช้หนี้หมด”
หัวหน้าคนงานไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาช่วยเพราะหนี้จำนวนหลายล้านบาทคนงานธรรมดาก็คงไม่มีทางที่จะหาเงินจำนวนนั้นมาให้เจ้านายได้
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราค่อยเริ่มกันใหม่ ก่อนหน้านี้เราก็มีแค่ไร่ลมหนาวถ้าสุดท้ายจะไม่เหลืออะไรก็ยังมีไร่นี้ให้เราได้ซบเป็นไออุ่น ผมสัญญาว่าจะไม่ทิ้งคนงานสักคน เราจะสู้ไปด้วยกัน”
วายุไม่ได้ห่วงตัวเองแต่เขาห่วงชีวิตครอบครัวของคนงานในไร่มากกว่า สำหรับตัวเขาเองถ้าสุดท้ายต้องกลับไปเหลือแค่เพียงศูนย์เขาก็พร้อมจะเจอกับปัญหา แต่เขาจะไม่มีทางปล่อยให้พนักงานคนงานในไร่กลายเป็นแค่คนตกงานเพราะทุกคนอยู่เคียงข้างเขามาตลอด เขาจะต้องทำให้ทุกคนอยู่ให้ได้ไม่ว่าเขาจะต้องเหนื่อยหรือเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
“ผมขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อยได้ไหมครับ” หัวหน้าคนงานที่รับรู้ทุกอย่างทนเก็บความรู้สึกไว้ไม่ไหว
“ที่คุณเกวลินไปแบบนี้เธอไม่รู้ใช่ไหมครับว่ากำลังเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับคุณ”
“ไม่รู้และผมจะไม่มีทางให้เธอรู้ด้วย เธอเสียสละมามากพอแล้วที่ยอมแต่งงานกับผมเพื่อให้เรามีโอกาสได้ซื้อที่ดินจำนวนมาก แต่ในเมื่อสุดท้ายทุกอย่างมันพังลง เธอไม่ควรต้องมาอยู่ลำบากหรือมารับรู้ปัญหาอะไรอีก ชีวิตของเธอควรจะมีความสุขมากกว่านี้ ผมอยากเห็นเธอและลูกได้มีความสุขกับชีวิตที่ไม่มีคนขี้แพ้อย่างผมอยู่ใกล้ๆ”
หัวหน้าคนงานถึงกับตกใจเมื่อได้ยินจากปากเจ้านายว่าเกวลินไม่ได้จากไปแค่เพียงคนเดียว แต่เธอยังมีอีกหนึ่งชีวิตไปด้วยแต่สุดท้ายคนงานก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของเจ้านายเพราะไม่มีใครรู้ดีเท่ากับคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันสิ่งเดียวที่คนงานในไร่ทำได้ตอนนี้คือการช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์และอยู่เป็นกำลังใจให้กับเจ้านายของเขา
