3หัวเราะ
คนเป็นพ่อด่าตามหลัง ก่อนทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา เห็นหน้าคาลาสทีไรเขาก็อดนึกถึงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เขายอมรับว่ารักเธอด้วยใจจริง แต่เพราะเขานั้นไม่สามารถหยุดความเจ้าชู้ของตัวเอง ทำให้อดีตภรรยาทนไม่ไหวตัดสินใจหอบลูกหนี
เวลานั้นเขาพยายามไม่ใส่ใจ เพราะรู้สึกโกรธที่ถูกอีกฝ่ายทอดทิ้งทำให้เขาต้องอับอาย แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มเบื่อกับการที่ต้องใช้ชีวิตเสเพล เมื่อได้รับสืบทอดธุรกิจจากผู้เป็นพ่อ เควินก็เริ่มห่างหายจากผู้หญิงเหล่านั้น
นานวันเข้าเขาจึงได้ตระหนักรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเพียงแค่หลงในรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเธอ แต่ความเป็นจริงหัวใจของเขามีเพียงแม่ของคาลาสเท่านั้น
เขาเคยพยายามที่จะง้อขอคืนดี น่าเสียดายที่อีกฝ่ายแต่งงานใหม่ เขาต้องทนเห็นผู้หญิงคนนั้นมีความสุขกับสามีใหม่ของเธอ เขาเกลียดมันแต่ก็ต้องยอมรับ ว่าผู้ชายคนนั้นทำให้แม่ของคาลาสมีความสุข
ชายวัยกลางคนถอนหายใจ หากย้อนเวลากลับไปเขาคงเลือกที่จะรักษาครอบครัวเอาไว้ให้ได้ บางทีคาลาสอาจจะรักเขาเท่าเทียมกับที่รักแม่ แต่มันคงสายไปแล้ว เควินรู้ดีว่าลูกชายนั้นรู้สึกยังไง คาลาสไม่เคยผูกพันกับเขามาก่อน เจอหน้ากันครั้งแรกก็ตอนที่อีกฝ่ายนั้นบรรลุนิติภาวะแล้ว
สำหรับเขาและลูกชายก็เปรียบเสมือนคนแปลกหน้า แม้จะอยู่ด้วยกันมานานกว่า 9 ปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มนั้นรักเขามากขึ้น
แม้เขาจะมีลูกสาวอีกหลายคน แต่ความโชคร้ายคือพวกเธอถูกผู้เป็นแม่เสี้ยมสอน จนเอาแต่หวังที่จะกอบโกยผลประโยชน์จากคนเป็นพ่ออย่างเขา
มาเฟียวัยกลางคนรู้สึกโดดเดี่ยว ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากการกระทำของเขาทั้งสิ้น
คาลาสตัดสินใจบินกลับเมืองไทย ก่อนที่เขานั้นจะเดินทางมาหาแม่ที่โรงเเรม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มาที่นี่นานนับปี อะไรก็เปลี่ยนไปมาก อาณาจักรโรงแรมนั้นใหญ่โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังปรับปรุงทุกอย่างจนดูมีมาตรฐาน
ชายหนุ่มเดินทางขึ้นมาชั้นบน ก่อนที่เขาจะยกมือไหว้พ่อเลี้ยง ผู้ชายที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กจนโต
คาลาสรักอีกฝ่ายเหมือนพ่อแท้ๆ เขายังจำได้ดีว่าอดุลย์นั้นดูแลเขาอย่างไรบ้าง
เมื่อตอนที่เขาอายุเจ็ดปี เคยเกือบจมน้ำแต่ก็ได้อีกฝ่ายกระโจนลงไปช่วยเหลือจนแทบเอาชีวิตไม่รอด และเมื่อตอนเขาอายุสิบห้า เคยถูกจับเพราะยกพวกไปตีกับสถาบันอื่นกลางดึก แต่อดุลย์ก็รีบมาประกันตัว ทั้งยังรับปากว่าจะไม่บอกแม่เขา
คาลาสเคารพอีกฝ่ายเหมือนพ่อแท้ๆ ว่าไปเขารักอดุลย์มากกว่าที่รักเควินเสียอีก
“พ่อสบายดีนะครับ”
“พ่อสบายดี คิดถึงคาลาสมากๆ เดี๋ยวนี้ดู ภูมิฐานขึ้นนะ”
อดุลย์สังเกตเห็นแววตาของอีกฝ่าย คาลาสดูเคร่งเครียด คล้ายกับว่ามีเรื่องให้ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา
“แม่อยู่ข้างใน กำลังคุยธุระอยู่ ไปดื่มกาแฟกับพ่อก่อนไหม”
ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนเดินตามชายวัยกลางคนลงไปที่ร้านกาแฟด้านล่าง แม้เขาจะเป็นมาเฟีย แต่มาอยู่กับอีกฝ่ายเขาก็กลายเพียงชายหนุ่มที่แสนอบอุ่น
คาลาสสังเกตว่าวันนี้พ่อเลี้ยงนั้นเดินกะเผลกจึงได้ช่วยประคองด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรหรือครับ พ่อเจ็บขาหรือเปล่า”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม ก่อนที่ชายไว้กลางคนจะหัวเราะเบาๆและเอ่ยขึ้น
“ช่วงนี้สายตาฝ้าฟาง วันก่อนเลยสะดุดตกลงมาจากบันได โชคดีที่ไม่ได้สูงมาก”
คาลาสขมวดคิ้ว เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่มีใครบอกเขาเลยสักคน หากคนที่คอยเลี้ยงเขามาเป็นอะไรไปเขาจะทำอย่างไร
“แม่เขาไม่อยากบอกกลัวว่าคาลาสจะไม่สบายใจ”
ชายวัยกลางคนอธิบาย เขารู้ว่าอีกฝ่ายงานยุ่ง จึงพยายามยับยั้งทุกคนไม่ให้โทรบอกคาลาสเรื่องที่เกิดขึ้น
อดุลย์รู้ดีว่าหากคาลาสรู้จะต้องรีบบินกลับมาดูอาการเขาอย่างแน่นอน
ชายวัยกลางคนมองชายหนุ่มที่เติบโต เขาเลี้ยงอีกฝ่ายมาตั้งแต่อายุยังน้อย เฝ้าดูพัฒนาการมาโดยตลอดจนถึงวันนี้คาลาสเติบโตขึ้นมาก ทั้งยังประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจจนมีชื่อเสียง
อดุลย์แต่งงานกับลินดามานานหลายปี เขาเป็นพ่อหม้ายลูกติด แต่ในเวลานั้นลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาถูกผู้เป็นแม่ของเธอพาตัวไป จนเมื่ออดีตภรรยาเสียชีวิต อารยาก็ได้กลับมาอยู่เมืองไทย เขาจึงได้รับเธอมาดูแล
อารยานั้นเป็นคนมองโลกในแง่ดี อาจเพราะเธอเติบโตมากับน้าสาว ทำให้อีกฝ่ายนั้นคอยสอนสิ่งดีๆให้เธออยู่เสมอ โชคดีที่อารยาไม่ได้ซึมซับนิสัยของแม่เธอมาเลย
อดุลย์ไม่อยากพาดพิงถึงอดีตภรรยาผู้ล่วงลับ แม้เธอนั้นจะทำเรื่องแย่ๆกับเขาไว้มาก แต่อย่างไรเธอก็เป็นแม่ของลูก และเธอก็จากไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในเวลานี้คืออโหสิกรรมให้แก่กัน ไม่มีเหตุผลที่ต้องมานั่งแค้นเคืองคนที่ตายไป
อดุลย์นึกขอบใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำที่ทอดทิ้งเขา ทำให้ได้เจอผู้หญิงดีๆอย่างลินดา
คาลาสเดินทางมาหาผู้เป็นแม่ เพราะระหว่างที่เขาดื่มกาแฟกับพ่อเลี้ยงนั้น แม่ก็เดินทางออกไปพร้อมกับเลขา ชายหนุ่มตามมาที่บริษัทใหญ่ซึ่งแม่ของเขานั้นต้องมาคุยงาน อีกทั้งบริษัทแห่งนี้ยังเป็นบริษัทของพ่อเพื่อนสนิทสมัยมัธยม ชายหนุ่มจึงตั้งใจจะเดินทางมาเยี่ยมอีกฝ่ายและมารับผู้เป็นแม่กลับบ้านด้วยกัน
“คาลาส นั่นนายเหรอ!”
เมธาเอ่ยทัก เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆเขาก็รีบตรงเข้ามาหา ทั้งสองทักทายเพราะไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
“ฉันเอง นายดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ”
ชายหนุ่มว่าอย่างนั้น เมธาดูโตขึ้นมาก และไม่ได้เซอร์แบบเมื่อก่อนอีกแล้ว เขาสลัดสไตล์เก่าๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นนักธุรกิจเต็มตัว
“ไม่ได้เจอกันนานแบบนี้เราไปสังสรรค์กันดีไหม”
“เอาสิ ที่ไหนดีล่ะ”
คาลาสเอ่ยถาม นี่ก็นานแล้วที่เขานั้นแทบไม่ได้กลับเมืองไทย ไม่รู้ว่ามีสถานบันเทิงดังๆที่ไหนบ้าง
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง แต่ก่อนอื่นฉันต้องไปประชุม เดี๋ยวฉันขอเบอร์นายไว้ดีกว่า”
ทั้งสองแลกช่องทางการติดต่อ ก่อนที่คาลาสนั้นจะรีบตรงเข้าไปหาผู้เป็นแม่ที่เดินออกมาพอดี หญิงวัยกลางคนดีใจ เธอรีบโผเข้ากอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทันที
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นบอกแม่เลย”
เธอเอ่ยถามก่อนจะมองสำรวจลูกชาย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นจะดูซูบกว่าครั้งที่แล้วที่เจอกัน หรือเควินใช้งานคาลาสหนักจนเกินไป เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเธอจะโทรไปต่อว่าให้เข็ด ทำร้ายเธอไม่พอยังกล้ามาทำร้ายลูกชายเธออีก
คนแบบเควินแย่จริงๆ ไม่รู้ว่าเธอหลวมตัวไปคบหากับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง นี่คือสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต และเป็นสิ่งที่ลินดาอยากจะลบเลือนออกไปจากความทรงจำ
แม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้รักเขาแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บปวดกับสิ่งที่เขาเคยกระทำเอาไว้
“เรากลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่าครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจับประคองผู้เป็นแม่ไปที่ รถคันหรู ซึ่งจอดอยู่หน้าบริษัท
