บท
ตั้งค่า

2 ผู้มาเยือน

ตอนที่ 2

ผู้มาเยือน

วันนี้เป็นวันที่สองที่ทั้งคู่นัดหยุดงานพร้อมกันจึงต่างใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่า อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันสำคัญ พิมประภาตั้งหน้าตั้งตารอวันวาเลนไทน์เพราะอยากรู้ว่าปีนี้คนรักของเธอจะเซอร์ไพรส์อะไร ความประทับใจจากปีก่อนๆทำให้เธอนั้นคาดหวังอยู่พอสมควร ปีนี้หญิงสาวอายุ 20 ปลาย ๆ เเล้ว เธออยากรีบแต่งงานสร้างครอบครัวและมีลูกสักสองคน แต่ก็ไม่เคยเปรยเรื่องนี้กับธีรเดชเลยสักครั้ง เพราะเห็นว่าชายหนุ่มทำงานหนักอยู่ทุกวันคิดว่าเขาคงยังไม่อยากแต่งงานเหมือนกับเธอ

พิมประภาได้สั่งทำเครื่องประดับจากทองคำสลักเป็นชื่อชายหนุ่คนรัก แหวนทองถูกเก็บไว้ในกล่องมิดชิด แอบซ่อนอยู่ในกระเป๋าของเธอ

ธีรเดชออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า เธอรู้ว่าเขาคงจะกลับมาพร้อมกับเซอร์ไพรส์อะไรบางอย่างแน่นอน

พิมประภาตั้งหน้าตั้งตารอ สั่งอาหารมื้อพิเศษ ตั้งใจว่าจะฉลองกับเขาเนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก

ช่วงเที่ยงธีรเดชกลับมาพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ ดอกลิลลี่หลากสีคือดอกไม้ที่ทำให้หญิงสาวยิ้มแก้มปริทุกครั้งที่ได้รับ พิมประภามีความทรงจำไม่ดีเกี่ยวกับดอกกุหลาบ เธอเคยถูกป้าแท้ๆที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กใช้ก้านกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามตี ทำให้หญิงสาวจำฝังใจและกลัวที่จะสัมผัสดอกไม้ชนิดนั้น

เธอเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ชายหนุ่มฟังตั้งแต่แรกที่ได้พบกัน เธอไม่เคยปิดบังเรื่องราวของตัวเองเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างให้คนรักรู้ โชคดีที่ธีรเดชใส่ใจและจดจำรายละเอียดได้ นับตั้งแต่นั้นเขาไม่เคยซื้อดอกกุหลาบให้เธอเลยแต่เปลี่ยนเป็นดอกไม้อื่นแทน

สองแลกเปลี่ยนของขวัญกันเหมือนทุกๆปี ชายหนุ่มซื้อแหวนเพชรให้หญิงสาวเหมือนปีที่แล้ว แต่จะเพิ่มขึ้นปีละ 1 กะรัตเสมอ เพชรราคาแพงหูฉี่ทำให้พิมประภาเกรงใจไม่กล้ารับ เธอรู้เพียงแต่ว่าครอบครัวของเขามีฐานะ จึงมีเงินมากพอที่จะซื้อของขวัญราคาแพงแบบนี้ให้ แต่พิมประภาไม่ได้คาดหวังของมีค่าเหล่านี้ สิ่งที่เธอต้องการคือคำขอแต่งงานจากเขาต่างหาก

หญิงสาวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทางและความรู้สึกนั้นให้ชายหนุ่มรู้ บางทีภายในปีนี้เธออาจจะหาเวลาคุยกับเขาอย่างจริงจัง ทั้งเธอและเขาต่างก็อายุมากขึ้นทุกวัน หากไม่ได้แต่งงานเกรงว่าในอนาคตข้างหน้าร่างกายของเธอจะไม่พร้อมตั้งครรภ์

ชายหนุ่มชอบของขวัญทุกชิ้นที่หญิงคนรักให้ แม้ว่าจะมีมูลค่าน้อยกว่าของขวัญจากเขา แต่หากพูดถึงคุณค่าทางจิตใจมันก็มีค่าไม่ต่างกัน

ของขวัญทุกชิ้นจากพิมประภาเต็มไปด้วย ความเอาใจใส่ มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาบนของขวัญทุกชิ้นที่ได้รับ

ขณะที่ทั้งสองกำลังสบตาซึ้ง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พิมประภารู้สึกแปลกใจปกติแล้วไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเยียนเธอกับธีรเดชถึงที่นี่

“เดี๋ยวผมไปเปิดเอง”

ประตูเปิดออกธีรเดชชะงักตกใจ เขาหันมามองที่พิมประภาขอร้องให้เธอไปรอในห้องนอนก่อน หญิงสาวไม่รู้ว่าคนที่มาเป็นใครแต่เธอก็ยังมีมารยาทยกมือไหว้ เพราะเห็นว่าอาวุโสกว่ามาก

“คุณย่า มาหาผมถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่าครับ”

หญิงสูงวัยวางกระเป๋าราคาเฉียดล้านลงบนโต๊ะ ปัทมวรรณเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ถึงแม้ว่าคอนโดนี้จะไม่ใช่ไก่กา เป็นคอนโดระดับพรีเมี่ยม ราคาหลักหลายล้าน แต่สำหรับเธอมันก็แค่ห้องรูหนูดีๆนี่เอง

“ย่ามาเอาคำตอบจากแก”

แขกผู้มาหาไม่อ้อมค้อม เธอรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพิมประภาและธีรเดชแต่ไม่เคยยอมรับหญิงสาว จึงให้เวลาหลานชายได้ทบทวนใหม่ และในวันนี้ถึงกำหนดที่เขาจะต้องให้คำตอบกับเธอคนเป็นย่าจึงรีบเดินทางมาที่นี่

“ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมจะไม่เลิกกับพิมพ์”

ชายหนุ่มหนักแน่น เขาไม่เคยขอให้ผู้เป็นย่ารอ เขาไม่แคร์หากต้องถูกตัดออกจากกองมรดก เขาไม่ใช่หลานชายเพียงคนเดียวแต่เพราะเป็นหลานคนโตจึงถูกคาดหวังมาก จนบางครั้งชายหนุ่มก็รู้สึกอึดอัด

“แกเป็นถึงหลานชายของคุณหญิงปัทมวรรณ เป็นผู้สืบทอดกิจการหมื่นล้าน แกจะมาอยู่กับผู้หญิงในห้องรูหนูแบบนี้ไม่ได้ ยังไงย่าก็ไม่มีทางยอม”

“ปล่อยให้ผมได้เลือกเส้นทางชีวิตของผมเองเถอะครับคุณย่า ผมยินดีที่จะไม่รับมรดกแม้แต่บาทเดียว ขอแค่ผมได้อยู่กับผู้หญิงที่ผมรัก”

คนเป็นย่าขัดใจ หลานชายของเธอถึงขั้นทิ้งเงินทองมูลค่านับหมื่นล้านบาทเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว ถ้าไม่ให้เรียกว่าหน้ามืดตามัวแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

เธอไม่ได้อคติกับพิมประภาเป็นการส่วนตัว แต่มองว่าหญิงสาวไม่เหมาะสมในทุกทุกอย่างจึงจำเป็นต้องกีดกัน

คุณหญิงปัทมวรรณพยายามเกลี้ยกล่อมให้หลานชายเข้าใจ ธีรเดชเป็นทายาทคนเดียวของลูกชายคนโตที่ล่วงลับ เขามีน้องสาว 2 คน แต่พวกเธอก็ไม่เหมาะที่จะบริหารงานใหญ่ อีกอย่างหลานชายคนอื่นๆก็พึ่งพาอาศัยไม่ได้ ดีแต่สร้างปัญหาไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับบริษัทเลย

คุณหญิงปัทมวรรณหนักใจ หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสร้างมาจะต้องพังทลายไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน

หญิงสูงวัยยอมไม่ได้ หากเธอต้องสูญเสีย ทุกอย่างไปคงนอนตายตาไม่หลับ

“ถ้าแกยังดื้อด้าน ย่าก็คงต้องใช้วิธีของย่า!”

ธีรเดชหน้าเครียด เขาต้องการมีชีวิตเรียบๆธรรมดากับพิมประภา ไม่ได้ต้องการครอบครอง เเย่งชิงสมบัติกับเหล่าญาติๆของตัวเอง

“ผมขอร้องเถอะครับคุณย่า ปล่อยผมไปเถอะ ผมแค่อยากมีชีวิตเรียบง่ายผมไม่ได้ต้องการเงินทอง ไม่ได้ต้องการตำแหน่งใหญ่โตอะไร ผมมีความสุขดีกับชีวิตแบบนี้”

ชายหนุ่มเอ่ยขอร้อง ทุกวันนี้แม้ว่าเขาจะเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือน แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป อาจจะมีขัดสนบ้างนิดๆหน่อยๆแต่ก็เป็นสีสันของชีวิตทำให้เขารู้จักคุณค่าของเงิน

“ย่าไม่ไว้ใจใครให้มาดูแลบริษัท กลับไปกับย่าเถอะนะธี หลานคนอื่นไม่มีใครได้เรื่องสักคน มีแต่จะสร้างปัญหาให้ย่าปวดหัว สงสารคนแก่อย่างย่าเถอะ ทุกวันนี้ย่านอนไม่หลับ มันทุกข์ใจเหลือเกิน”

ชายหนุ่มหนักใจ ห่วงย่าก็ห่วง แต่ห่วงความรู้สึกพิมประภามากกว่า รอบตัวคุณย่ามีแต่ คนคอยรายล้อมเอาอกเอาใจ หากเขากลับไปย่าก็แค่มีคนดูแลเพิ่ม ขณะที่พิมประภาต้องอยู่เพียงลำพัง ตัวคนเดียวไร้ญาติมิตรที่จริงใจ

ชายหนุ่มไม่รู้จะทำยังไงหากเลือกหญิงสาวเขาก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนอกตัญญู หากเลือกย่า เขาก็จะกลายเป็นผู้ชายที่แย่ ทิ้งแม้กระทั่งคนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน

“ย่าเข้าใจความรู้สึกดี ธีคงกลัวว่าแฟนจะลำบาก ไม่เป็นไร ย่าจะชดเชยช่วงเวลาที่เสียไปให้เขาเอง”

คุณหญิงปัทมวรรณเตรียมเงินจำนวนหนึ่งเอาไว้ โดยหวังว่าเงินนี้จะเพื่อเยียวยาจิตใจของ พิมประภาให้เธอนั้นรู้สึกเศร้าน้อยลงเมื่อธีรเดชจากไป

“ย่าให้เวลาแกตัดสินใจอีกหนึ่งเดือน ย่าหวังว่าแกจะคิดได้ว่าควรจะเลือกทางไหน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel