บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 หนี...ทั้งที่ใจยังรัก

ตอนที่ 3

หนี...ทั้งที่ใจยังรัก

ท้องฟ้าของวันใหม่ที่นครนายกไม่ได้แตกต่างจากความรู้สึกในใจของเมริญานัก มันยังคง อึมครึม...เงียบงัน...และไร้ซึ่งแสงสว่าง ราวกับจะสะท้อนความมืดมิดในจิตใจของเธอ

เมริญายืนอยู่หน้าร้านขายข้าวแกงเล็กๆ ริมถนนสายหนึ่งที่เงียบสงบ มีต้นปีบเรียงรายสองข้างทาง ใบและดอกสีขาวนวลร่วงโรยเต็มพื้นดินส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยตามลมเข้าปะทะจมูก แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความงดงามใดๆ เลยในยามนี้ ร่างบางในชุดผ้าฝ้ายธรรมดาๆ ที่ดูเรียบง่ายจนแทบจะกลืนไปกับผู้คน หยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวมอย่างเคยชิน ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปในครัวหลังร้านที่เต็มไปด้วยไอร้อนระอุและกลิ่นอับชื้นจากหม้อแกงหลายใบที่กำลังเดือดปุดๆ เธอเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะแม่ครัวฝึกหัดของร้านอาหารตามสั่งแห่งนี้ ที่เจ้าของร้านคือป้าเดือนญาติห่างๆ ผู้ใจดีที่รับเธอเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย

ไม่มีใครในร้านแห่งนี้รู้เลยว่าผู้หญิงที่ก้มหน้าก้มตาเตรียมวัตถุดิบคนนี้ เพิ่งผ่านการแต่งงานที่รวดร้าวมาหมาดๆ

ไม่มีใครรู้ว่าเธอหนีออกมาจากบ้านสามีพร้อมกับลูกน้อยในท้องที่เป็นเหมือนแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตที่มืดมิดและที่สำคัญที่สุด...ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอยังคง...รักเขา ผู้ชายที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งก้อนนั้น รักทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้

“เม หนูไหวมั้ยลูก เห็นทำงานตั้งแต่ตีห้าจนถึงบ่ายสามแล้วนะ”

เสียงของป้าเดือนดังขึ้นเบื้องหลังด้วยความห่วงใย ขณะที่มืออันอ่อนล้ากำลังยกถาดกับข้าวที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ มาเติมหน้าร้าน เมริญาหันมายิ้มบางๆ ทั้งที่ใบหน้าซูบผอมและเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาตามกรอบหน้า

“ไหวค่ะป้า เมทำได้ค่ะ ไม่เหนื่อยเลย”

คำว่าไม่เหนื่อยที่เปล่งออกมานั้นง่ายเสียยิ่งกว่าการหายใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หัวใจของเธอกลับเหนื่อยล้าแทบขาดลมหายใจไปทุกนาทีที่ผ่านไป เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของอาการแพ้ท้องที่เริ่มกำเริบหนักขึ้น หรือเป็นเพราะหัวใจที่ยังคงปวดหนึบกับภาพจำเก่าๆ ของบ้านหลังเดิมที่เธอจากมา ภาพของเขา...ที่ยังคงชัดเจนในความทรงจำ

“เมื่อคืนฝันถึงเขาอีกแล้ว...”

เมริญาพึมพำกับตัวเองขณะนั่งล้างจานในอ่างน้ำท้ายร้าน มือบางถูไถจานชามไปมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่เผยให้เห็นเพียงความมืดมิดของยามเย็น เธอฝันถึงผู้ชายที่นั่งหันหลังให้เธอเสมอ...แม้ในความฝันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ฝันถึงคำพูดที่เขาเคยพูดกับเธอในคืนแต่งงาน...คำพูดที่กรีดแทงใจเธอจนเจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจ

“อย่าคิดเกินเลยไปจากสถานะที่เธอเป็น...ฉันไม่เคยต้องการเมียที่ไม่ได้เลือกเอง”

แม้ในความฝัน น้ำเสียงของเขาก็ยังคงเฉียบคม เย็นชา และไร้ความรู้สึกใดๆ เช่นเดิม และมันทำให้เธอตื่นขึ้นมาพร้อมหยาดน้ำตาที่เกาะพราวอยู่รอบขอบตาทุกคืนไม่เว้นแต่ละวัน

สามเดือนต่อมา...

เสียงหัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวอย่างชัดเจนดังกังวานไปทั่วห้องตรวจสีขาวสะอาดที่แสนอบอุ่นในโรงพยาบาล

ตุบ... ตุบ... ตุบ...

เมริญากุมมือแน่นจนปลายนิ้วซีดขาวขณะจ้องมองภาพบนหน้าจออัลตราซาวด์ที่หมุนเวียนไปมาช้าๆ ภาพของชีวิตเล็กๆ ที่กำลังเติบโตภายในกาย คุณหมอยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่มทุ้ม

“ลูกชายครับ...แข็งแรงดี ทั้งแม่และเด็ก”

คำว่า “ลูกชาย” ที่หลุดจากปากคุณหมอ ทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง หยาดน้ำตาที่กักเก็บไว้ตลอดเวลาพรั่งพรูออกมาทันทีโดยไม่ต้องร้องไห้ เธอไม่ได้กลัว...ไม่ได้เสียใจ... หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความสุข ความตื้นตัน และความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

เพราะเธอรู้ว่า ลูกคนนี้จะกลายเป็นชีวิตทั้งชีวิตของเธอ เป็นลมหายใจ เป็นความหวัง และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเหลืออยู่บนโลกใบนี้

คืนนั้น เธอกลับถึงบ้านเช่าหลังเล็กที่อยู่หลังร้านข้าวแกง ฝนตกปรอยๆ ละอองฝนโปรยปรายลงมาสัมผัสผืนใบไม้จนส่งกลิ่นสดชื่นและกลิ่นดินชื้นๆ ลอยอบอวลไปทั่วบริเวณ ราวกับธรรมชาติกำลัง โอบกอดเธอไว้ในยามที่ใจเปราะบาง

เมริญาห่มผ้านอนเงียบๆ บนฟูกเก่าๆ มือเรียวทาบลงบนหน้าท้องที่เริ่มนูนเล็กน้อยแล้วอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม

“ลูกครับ...หนูเป็นผู้ชายใช่ไหม” เธอพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก

“ถ้าลูกหน้าเหมือนพ่อ แม่จะรักให้มากขึ้นอีกเป็นสองเท่าเลยนะลูก...และแม่สัญญาว่า จะไม่พูดให้หนูเกลียดเขาเด็ดขาด...ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับแม่ก็ตาม”

อีกฟากหนึ่งของเมืองหลวง...

ปรเมศร์ยืนอยู่หน้าห้องนอนที่เคยเป็นห้องของเธอ ห้องที่ครั้งหนึ่งเคยมีกลิ่นอายของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่บัดนี้กลับเงียบสงัด มีเพียงตู้เสื้อผ้าที่เปิดทิ้งไว้เผยให้เห็นความว่างเปล่า

ไม่มีเสื้อผ้าของเธอ ไม่มีกระเป๋าเดินทาง ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย...ราวกับเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่ที่นี่มาก่อน

บนหมอนใบหนึ่งที่วางอยู่บนเตียง ยังคงมีรอยยับจากการกอดมานาน และตรงกลางเตียง มีเพียงผ้าห่มผืนเล็กๆ ผืนหนึ่ง...ผ้าห่มลายการ์ตูนหมีสีน้ำตาลที่เขาจำได้ว่าเธอเคยนั่งเย็บอย่างตั้งใจ มุมล่างถูกปักด้วยด้ายสีแดงเป็นคำว่าสำหรับลูกแม่

เขาหยิบมันขึ้นมาช้าๆ ผ้าห่มผืนเล็กๆ นั้นเบาราวกับไม่มีน้ำหนัก แต่กลับหนักอึ้งอยู่ในมือของเขา ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนขอบเตียงอย่างนิ่งงัน

เธอไปแล้ว...โดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

ไม่มีการโวยวาย ไม่มีน้ำตาต่อหน้า ไม่มีคำต่อว่าใดๆ

ไม่มีแม้แต่คำถามว่าทำไม

เขาควรจะรู้สึกดีใจใช่ไหม ที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย...หรือเขาควรจะรู้สึก...เจ็บปวดที่แม้แต่โอกาสจะขอโทษ...เขายังไม่เคยได้ใช้เลยแม้สักครั้งเดียว

ในความมืดมิดของห้องเช่า เมริญากำลังจรดปลายปากกาลงบนกระดาษในไดอารี่เล่มเก่าที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่รับฟังทุกความรู้สึกของเธอ เธอตั้งใจเขียนจดหมายถึงลูกน้อยในท้อง...

“ลูกแม่ชื่อ...พีคลูกคือจุดสูงสุดของหัวใจแม่ เป็นของขวัญล้ำค่าจากพระเจ้า ถึงแม้พ่อของลูกจะไม่เคยเลือกแม่เลยสักครั้งแต่แม่เลือกจะอยู่กับลูก...จนวันสุดท้ายของชีวิตแม่เอง...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel