บท
ตั้งค่า

บทที่ 1. เจ้าชายตัวร้ายกับสาวใช้เอาแต่ใจ

“วันๆ เอาแต่อาละวาด ไม่ได้ช่วยสร้างประโยชน์อะไรเล้ย...”

หญิงสาวกอดอกมองคนที่นั่งหน้าบูดหน้างออยู่บนวีลแชร์ มองออกไปยังสวนด้านนอกทำเหมือนไม่รับรู้การมาถึงของเธอ

“ฉันบอกให้ทุกคนออกไปไม่ใช่หรือไง เสนอหน้าอยู่ทำไม”

เขาพูดโดยไม่หันมามองด้วยซ้ำ หญิงสาวส่ายหน้าแล้วถอนใจอย่างระอา

“เอาแต่ใจ นี่คนอายุสามสิบหรือสามขวบกันแน่”

วาสิฏฐีเดินไปหยุดตรงหน้าของเขา พลางยิ้มเยาะ ธีรดลเงยหน้ามองหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจ แต่หญิงสาวทำไม่รู้ไม่ชี้

“นี่เธอ... เธอเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน”

“ฉันก็เป็นพยาบาลประจำตัวของคุณไง เอาล่ะ มากินข้าวแล้วก็กินยาได้แล้ว จะได้มาทำกายภาพฯ กัน”

หญิงสาวไม่สนใจท่าทางกราดเกรี้ยวของเขาเดินไปยกถาดอาหารมาวางที่โต๊ะที่ระเบียงกว้างแล้วเดินมาเข็นวีลแชร์ของเขาไปโดยไม่สนใจท่าทีขัดขืนของชายหนุ่ม

“นี่เธอ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่กิน อย่ามายุ่งกับฉัน หูแตกหรือไง”

ธีรดลโวยวายพยายามขัดขืนแม่พยาบาลจอมวุ่นวายที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาตลอดเวลาที่เขากลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน นี่เข้าเดือนที่หกแล้วที่วาสิฏฐี เข้ามาวุ่นวายกับเขาเจ้ากี้เจ้าการทุกอย่างทั้งที่เขาไม่ได้อยากทำกายภาพบำบัด และไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาอยากอยู่คนเดียวไม่อยากรักษาตัวให้หาย ทั้งบาดแผลในใจและกาย อยากจะหายไปจากโลกนี้เสียด้วยซ้ำ...

“หูไม่ได้แตกและได้ยินทุกคำ”

“ได้ยินแล้วยังจะมายุ่งอีก”

“ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะนี่คือหน้าที่ของฉัน เอาล่ะอย่าพูดมาก มากินข้าวได้แล้วค่ะ” หญิงสาวไม่สนใจท่าทางเหมือนเด็กสามขวบของเขาแต่ตักข้าวมาตรงปากของเขา

“อ้าปากสิคะ”

วาสิฏฐีบอกพร้อมด้วยสีหน้าขึงขัง ธีรดลตวัดสายตาคมเข้มมองอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่งแดงก่ำด้วยความกราดเกรี้ยว หากเป็นคนอื่นคงกลัวจนหัวหด แต่ขอโทษ ไม่ใช่เธอแน่นอน วาสิฏฐีฉีกยิ้มหวานให้เขา

“กินเองไม่ได้ก็ต้องป้อนไงคะ คุณหนูธีม...”

นอกจากไม่กลัวแล้วยังมีหน้าใจกล้ายั่วแหย่เขาอีก ธีรดลมองเธอตาขุ่นเข้ม

“ไม่ต้องมายุ่ง”

“ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะคุณเป็นคนไข้ของฉัน”

“คุณราวีคนไข้ไม่เลิกแบบนี้ทุกคนเลยรึไง”

“อะไรกันคุณ นี่เขาเรียกว่าดูแลเอาใจใส่คนไข้อย่างดีต่างหากล่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยีไม่ยี่หระต่อสายตาขวางๆ ของเขา

“เอ้า อ้าปาก กินข้าวเสียทีสิคะ จะได้กินยา ฉันมีอย่างอื่นต้องทำต่อ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กที่จะต้องมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำคุณทั้งวัน”

“ฉันไม่กิน และฉันก็ไม่ใช่เด็กสามขวบ”

“เฮ๊อะทำตัวยิ่งกว่าเด็กสามขวบอีก” หญิงสาวพูดเบาๆ พลางย่นจมูกใส่เขา ธีรดลเห็นท่าทางของเธอแล้วก็ชักสีหน้าทันที

“ฉันไม่กิน”

“คุณต้องกิน ถ้าไม่กินดีๆ ล่ะก็ ฉันจะยัดใส่ปากคุณแล้วนะ”

หญิงสาวท่าทางขึงขังขึ้นทำท่าจะยัดข้าวใส่ปากของเขาจริงๆ ธีรดลหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอวดดีทำกับเขาถึงขนาดนี้ เจ้าหล่อนควรพินอบพิเทา เอาอกเอาใจเขาสิ เพราะเขาเป็นนายจ้างและยังเป็นคนไข้ของเธอด้วย แล้วนี่เธอมาแสดงความอวดดีแบบนี้กับเขาได้อย่างไรกัน

“กินสิคะ..”

เธอย้ำอีก หนุ่มสาวจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร และในที่สุดเขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเมื่อเธอทำท่าจะยัดข้าวใส่ปากของเขาจริงๆ ทั้งยังบีบปลายคางของเขาไว้อย่างมั่นคงอีกด้วย

“กินแล้วกิน ปล่อยได้แล้วยายบ้า”

ธีรดลสะบัดตัวจนหลุดจากพันธนาการของเธอ แต่ก็ยังมองคนตรงหน้าตาขุ่นขวางอยู่เช่นเดิม

“แค่นี้ก็เรียบร้อย ทำให้ต้องเสียพลังงานทำไมเยอะแยะก็ไม่รู้”

หญิงสาวผละออกไปแล้วหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะเดินไปเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีอีกด้วย

ธีรดลกระแทกลมหายใจอย่างหงุดหงิดที่ไม่สามารถเอาชนะเธอได้ หลายต่อหลายครั้งที่เขาพยายามขัดขืนและจะเอาชนะเธอ แต่ไม่เคยสำเร็จเลย ทั้งยังโดนเจ้าหล่อนเอาคืนจนเขาพ่ายไม่เป็นท่า

“อยากเอาชนะฉันก็ต้องทำกายภาพบำบัดให้ตัวเองหายดีนะคะ จะได้ไม่มานั่งหน้างอเป็นเจ้าชายหัวร้อนอยู่แบบนี้”

เสียงใสๆ ของเธอแว่วมาเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร ธีรดลปรายตามองคนที่กำลังจัดที่นอนของเขาไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทางสบายๆ ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น

“ยายปีศาจร้าย”

“ได้ยินนะค้าว่าพูดอะไรคุณหนูธีม”

ธีรดลกระแทกลมหายใจหนักๆ เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ ยายปีศาจร้ายหูดีจริงเชียว ขนาดเขาพูดเบาๆ กับตัวเอง เจ้าหล่อนยังไงได้ยิน ทางด้านวาสิฏฐีนั้นปรายตามองชายหนุ่มที่กินข้าวอย่างกระแทกกระทั้นยิ้มๆ

“เป็นไงบ้างหนูวา...” น้ำเสียงเอื้ออาทรของคุณนรา ทำให้หญิงสาวต้องถอนใจออกมาหนักๆ ก่อนจะยิ้มกว้างให้ผู้สูงวัย

“ไม่เท่าไหร่ค่ะคุณแม่ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว นี่แค่เด็กสามขวบเอาแต่ใจ” คุณนราหัวเราะลั่นเลยทีเดียวกับคำพูดเปรียบเปรยของเธอ

“ก็ว่าไปนั่น”

“ไม่เกินความจริงเลยค่ะ”

“แต่แม่ว่า ตอนเด็กตาธีมแกไม่ได้ดื้อขนาดนี้นะ”

“โอยยย... หวังว่าวาคงไม่เจอเด็กเกเรมากกว่านี้นะคะ แค่นี้วาก็แทบหมดแรงแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกยิ้มๆ

“เอาเถอะๆ ยังไงแม่ก็ขอบใจหนูวานะที่ไม่ถอดใจเสียก่อน ตาธีมน่ะดื้อแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก อยากเอาชนะ อยากเป็นที่หนึ่งตลอดแหละ ถ้าจับจุดถูกก็จะกำราบได้ง่าย เชื่อแม่สิ”

“จริงค่ะ วาเห็นด้วย” สองสาวต่างวัยคุยกันอย่างสนุกสนานทำให้คนที่เพิ่งพาตัวเองออกมาจากห้องของตัวเองหลังจากที่เก็บตัวเงียบมาทั้งวัน

“นี่มันเวลาทำงานไม่ใช่หรือไง มานั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่ตรงนี้ทำไม”

“ตาธีม... ดูพูดเข้าลูกคนนี้นี่” คุณนราทำเสียงปรามลูกชาย

“ผมต้องการคนป้อนข้าว” พูดจบเขาก็พากดปุ่มพาวีลแชร์คันเก่งของตนจากไป วาสิฏฐีกับคุณนราอ้าปากค้างมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ

“สงสัยวันนี้ฝนจะตก”

“สงสัยว่า คงอยากเอาชนะหนูวา” แล้วทั้งสองก็หัวเราะให้กัน

“สู้ๆ นะหนูวา แม่อยากเห็นตาธีมเดินได้ และยิ้มได้อีกครั้ง”

“ค่ะ วาจะพยายาม”

“สู้ๆ” คุณนรายิ้มให้พร้อมกับทำท่าประกอบให้กำลังใจหญิงสาวที่นางหมายมั่นว่าอยากได้มาเป็นสะใภ้ ถ้าหากนางไม่คาดหวังสูงมากเกินไป ก็อยากจะให้เธอลงเอยกับธีรดล

“หวังว่าฉันคงจะสมหวังนะ หากพลาดจากหนูวาไปฉันก็คงเสียดายแย่” ผู้สูงวัยพูดคนเดียวอย่างมีความหวังเมื่อหญิงสาวเดินจากไปแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel