บทที่2.จบตอน
รามมองหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารตรงหน้าอย่างพอใจเงียบๆ ก่อนจะลงมือรับประทานอาหารของตนบ้าง คำแรกที่เขาได้ชิมรสอาหารรามก็รู้สึกว่าเขาไม่ผิดหวังเลยที่มาขอข้าวบ้านเธอกิน รสชาติผัดกะเพรากลมกล่อมอย่างลงตัวและไข่ดาวเป็นยางมะตูมอย่างที่เขาชอบแม้รสชาติจะเผ็ดไปบ้างเหมือนว่าเธอแกล้งเขาแต่รามกลับชอบรสชาตินี้เสียแล้ว และเขาก็ชอบรับประทานอาหารรสชาติจัดจ้าน เหมือนฝันคงจะคิดว่าเขาคงเหมือนชาวต่างชาติหรือลูกครึ่งทั่วไปที่ไม่กินอาหารรสเผ็ดร้อน ชายหนุ่มอมยิ้มกับตัวเองขณะตักข้าวใส่ปากไปเรื่อยๆ ด้วยความอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าทุกๆ วันมีเธอทำอาหารให้กินเดินไปรอบๆ บ้านทำนู่นทำนี่ และยิ้มให้เขาเวลาที่เขากลับเข้าบ้าน ตื่นเช้ามาก็เจอหน้าใสๆ ตาโตๆ ของเธอก็คงจะดีไม่น้อย.. เอ๊ะ นี่เขาคิดไปถึงไหนกัน รามสะดุดความคิดของตนเองและอิ่มพอดี ชายหนุ่มรวบช้อนพร้อมกับเหมือนฝันที่รวบช้อนยกน้ำขึ้นดื่มแล้วเก็บจานไปล้างทันทีเหมือนเป็นการไล่แขกทางอ้อม รามถึงกับเก้อไปเพราะไม่เคยเจอท่าทางแบบนี้จากใคร หญิงสาวที่เขาเคยควงซึ่งส่วนใหญ่จะอ้อยอิ่งเพื่อจะให้เขาอยู่กับพวกเธอนานๆ และทำอะไรต่อมิอะไรหลังจากนั้นก่อนจะแยกย้ายเมื่อสิ้นสุดการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
รามยืนอิงกรอบประตูห้องครัวมองร่างเล็กที่เช็ดล้างถ้วยชามเก็บกวาดห้องครัวเล็กๆ อย่างคล่องแคล่วซึ่งทำให้เขาประหลาดใจเขารู้ว่าก่อนหน้านี้เหมือนฝันเติบโตมาอย่างเพียบพร้อมนับว่าเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะคนหนึ่งมีคนรองมือรองเท้าคอยปรนนิบัติรับใช้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเธอสามารถทำเรื่องพวกนี้ได้คล่องแคล่วเหมือนทำมันทุกวันและไม่มีท่าทางหยิบโหย่งหรือเก้ๆ กังๆ ให้เห็น
“ฉันดูแลตัวเองและทำงานพวกนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ เคยเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนไปอยู่อังกฤษมาปีกว่า คุณแม่ของฉันท่านเป็นคนสวยและชอบทำอาหารเป็นแม่ศรีเรือนน่ารักและเก่งงานบ้านงานเรือน ท่านสอนฉันให้ทำเรื่องพวกนี้ด้วยแต่เก่งไม่เท่าท่านหรอกค่ะ หากท่านยังอยู่ฉันก็อาจจะเก่ง..” หญิงสาวบอกเขาเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่แต่น้ำเสียงของเธอค่อนข้างเศร้าสร้อยจนคนฟังใจเขวไปแต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้น..
“ก็นับว่าใช้ได้ อาหารที่เธอทำอร่อยมาก ฉันชอบและเธอก็จะทำให้ฉันกินทุกวัน..”
“อะไรนะคะ..” เหมือนฝันทำเสียงสูงรามเลิกคิ้วมองเธอขันๆ
“ที่ได้ยินน่ะถูกต้องแล้ว”
“เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคะคุณราม ไม่ว่าคุณจะเสนออะไรให้กับฉันก็ตามขอให้รู้เอาไว้ฉันไม่รับข้อเสนออะไรของคุณทั้งสิ้น” เธอกอดอกเชิดหน้าขึ้นมองเขาตาขุ่น รามยักไหล่แล้วเดินมาหาร่างเล็กที่ยืนอิงอ่างล้างจานอยู่ด้วยท่าทางเอื่อยๆ แต่แววตาของเขาจริงจังจนคนที่เชิดหน้าใส่เขาเมื่อครู่ขยับตัวหนีแต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนเมื่อสะโพกสวยติดกับอ่างล้างจานและมุมข้างๆ ก็เป็นชั้นเก็บของและในที่สุดเธอก็จนมุมเพราะร่างสูงใหญ่ของเขาก็มาหยุดตรงหน้าเท้าแขนคร่อมร่างเล็กของเธอไว้ เหมือนฝันเงยหน้ามองเขาตาโตแววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นซึ่งนั่นล่ะคือสิ่งที่รามต้องการ
“เธอต่างหากที่เข้าใจผิด มายดรีม..” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงพร่าเล็กน้อยแววตาพราวระยับพร้อมกับนิ้วแกร่งไล้แก้มใสเบาๆ เหมือนหยอกเย้า
“ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้นะ” เหมือนฝันบอกเสียงสั่นแล้วเอนกายหนีใบหน้าที่ก้มต่ำลงมาจนสุดกำลังรามหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วรวบเอวบางเข้ามาหาร่างแกร่งรัดร่างเล็กไว้ด้วยกำลังที่เหนือกว่า เหมือนฝันดิ้นขลุกขลักในวงแขนแข็งแรงมือน้อยพยายามดันอกกว้างไว้หน้านวลใสซีดสลับแดงด้วยความหวาดหวั่น
“มาเป็นผู้หญิงของฉันแล้วบ้านหลังนี้จะยังเป็นของเธอ”
“ไม่มีทาง.. ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ ออกไป..” หญิงสาวเริ่มทุบอกกว้างของเขาอย่างฉุนเฉียวแต่รามก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับแรงเท่ามดของเธอ มือใหญ่รวบข้อมือเล็กไว้อย่างง่ายดายแล้วกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นเมื่อแรงเสียดสีจากการดิ้นของเธอมันทำให้เขารู้สึกร้อนๆ ในกาย
“อยากฟังข้อเสนอที่ดีกว่านี้มั้ยมายดรีม”
“ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้นและฉันไม่ได้ชื่อมายดรีม คนบ้า ออกไปนะ”
“เธอเป็นมายดรีมของฉัน ฉันจะเรียกแบบนี้มีอะไรมั้ย”
“มี ฉันเกลียดขี้หน้าคุณ คนเลว กินข้าวบ้านเขาแล้วยังจะมาข่มขู่เจ้าของบ้านอีก นิสัยไม่ดี” หญิงสาวต่อว่าเขาหน้าดำหน้าแดง รามรู้สึกติดใจในคำพูดนั้นไม่น้อย
“เธอจะว่าฉันเนรคุณเหรอ”
“ใช่.. รู้ตัวด้วยเหรอ ถ้ารู้ตัวแล้วก็ออกไปจากบ้านฉันซะ..”
“บังเอิญว่าฉันไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่แล้วอีกอย่างเจ้าของบ้านก็แก้มห้อม หอม..” ไม่พูดเปล่าแต่รามหอมแก้มแดงๆ ด้วยความฉุนเฉียวของเธอหนักๆ เหมือนฝันแทบกรี๊ดพูดไม่ออกเลยทีเดียว
“เอาล่ะเลิกเล่นได้แล้ว มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า..” รามยิ้มบางๆ แล้วอุ้มร่างเล็กออกมาจากห้องครัวแล้วพาเธอไปยังห้องรับแขกของบ้านอย่างสบายๆ กับว่าเขาเป็นเจ้าของบ้านเหมือนฝันได้แต่ดิ้นอย่างบ้าคลั่งด้วยความหวาดหวั่น…
“ปล่อยนะคนบ้า ปล่อยฉันนะ..” เหมือนฝันหน้าซีดด้วยความหวาดหวั่นยิ่งเขารัดร่างเธอแน่นเข้าก็ยิ่งกลัว
“อย่าดิ้นนะไม่งั้นฉันจะโยนทิ้งเสียเดี๋ยวนี้” เขาขู่แล้วทำท่าจะปล่อยเธอจริงๆ เหมือนฝันใจหล่นวาบรีบเกี่ยวแขนคล้องคอเขาไว้ทันที
“ว้าย..”
“หึหึ เอาล่ะมานั่งคุยกันดีๆ ดีกว่า” ไอ้ที่ว่านั่งคุยกันดีๆ นั้นก็คือเธอต้องนั่งบนตักกว้างโดยมีวงแขนแข็งแรงโอบรัดไว้อย่างแน่นหนาจนเธอไม่มีทางจะหลุดพ้นจากวงแขนของเขาไปได้
“ไม่คุย ปล่อย..”
“โอเค ปล่อยก็ได้ ฉันอยากดื่มน้ำผลไม้เย็นๆ มีมั้ย”
“นี่คุณ ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของคุณนะ” เหมือนฝันหน้างอขุ่นเคืองอย่างที่สุดเขาบังอาจนักเข้ามาในบ้านของเธอมาโดยที่เธอไม่ได้อยากต้อนรับไม่พอ มาขอข้าวขอน้ำกินแล้วยังจะมาข่มขู่เธออย่างน่าไม่อายอีกด้วย...
“ก็เธอต้องรู้เอาไว้ว่าฉันชอบไม่ชอบอะไร เอาล่ะ ไปหาน้ำผลไม้มาให้ฉันแล้วเราจะมาคุยกัน หรือหากไม่อยากคุยกันก็ทำอย่างอื่นก็ได้นะ” เขาบอกหน้าตาเฉยแววตาพราวพรายแต่มีแววเอาจริงจนเหมือนฝันไม่กล้าจะขัดใจรีบไปหาสิ่งที่เขาต้องการมาทันที
“อ้อ.. ถ้าคิดจะแกล้งกันแบบผัดกะเพราเมื่อครู่ล่ะก็ เธอโดนลงโทษแน่ๆ” เสียงร้องตามหลังมาทำให้เหมือนฝันแอบย่นจมูกกับตัวเองอย่างหมั่นไส้คนรู้ทัน
“คนบ้า เล่นสงครามประสาทกันชัดๆ” เหมือนฝันบ่นไปก็รินน้ำส้มคั้นที่เธอเองก็มักมีติดตู้ไว้เป็นประจำใส่แก้วไปให้เขา
“ได้แล้วค่ะ ให้ป้อนด้วยมั้ยคะ” หญิงสาวยื่นแก้วน้ำส้มให้เขาปากเจ้ากรรมก็ดันไปถามเขาแบบนั้นเสียนี่
“แน่นอน เธอต้องป้อนฉันด้วย”
“อ๊ายยยย คนบ้า ฉันแค่ประชด” หญิงสาวหน้างอแล้วถอยออกมามองเขาดื่มน้ำส้มอย่างสบายอารมณ์อย่างหมั่นไส้เหลือกำลัง ตอนนี้เธอหวาดหวั่นไปเสียหมดจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว
“คุณจะเอายังไง ว่ามาเลยดีกว่าค่ะ”
“มานั่งตรงนี้สิ” เขาตบที่นั่งข้างๆ ตัวเองเหมือนฝันรีบส่ายหน้าหวือ รามเงยหน้ามองเธอด้วยแววตาที่ทำให้เหมือนฝันหนาวๆ ร้อนๆ
“รีบพูดธุระของคุณมาสิคะ แล้วก็รีบกลับไปได้แล้วฉันมีเรื่องต้องทำเยอะแยะไม่ได้นั่งกินนอนกินแล้วมาเที่ยวข่มขู่คนอื่นเขาเหมือนคุณ”
“หึหึ แหม ถือว่าเป็นคำชมนะเนี่ย”
“ว่ามาเลยค่ะว่าคุณจะเอายังไง”
“ก็อย่างที่บอกไงว่าให้เธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน แล้วบ้านหลังนี้จะยังเป็นของเธอแล้วพ่อของเธอก็จะปลอดภัย”
“เห็นแก่ตัวที่สุด.. ที่ครอบครัวของฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ ยังจะมีหน้ามาเสนออะไรทุเรศๆ แบบนี้อีกเหรอ” เหมือนฝันตวาดลั่นมองเขาอย่างขุ่นเคือง รามไหวไหล่เบ้ปากน้อยๆ อย่างน่าหมั่นไส้ที่สุด
“แล้วเธอรู้มั้ยว่าฉันต้องสูญเสียรายได้ไปกี่ร้อยล้านกับการกระทำของพ่อเธอ..” น้ำเสียงของเขาเยียบเย็นจนเหมือนฝันรู้สึกขนลุกแต่เธอจะไม่มีวันอ่อนข้อให้เขาในเมื่อสิ่งที่เขาทำกับพ่อของเธอมันก็หนักหนาเช่นกัน
“แต่คุณก็ทำร้ายพ่อของฉันปางตาย มันยังไม่พออีกเหรอ”
“ฉันไม่ได้ทำถึงขนาดนั้น คนอย่างฉันไม่มีทางรังแกคนไม่มีทางสู้หรอกมายดรีม”
“ก็สิ่งที่คุณทำอยู่นี่ล่ะที่เขาเรียกว่ารังแกคนไม่มีทางสู้” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าเขาอย่างฉุนเฉียว
“ก็จะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันรังแกคนไม่มีทางสู้ เธอน่าจะภูมิใจนะ เอาล่ะฉันจะใช้หนี้ให้พ่อของเธอด้วยก็แล้วกันถือว่าให้ค่าตัวเธอล่วงหน้าไปในตัว”
“เก็บเงินสกปรกของคุณไว้เถอะฉันไม่ต้องการ ถ้าจะให้ดีคุณควรกลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ออกไป..” เหมือนฝันเสียงดังชี้ไปที่ประตูอย่างไม่เกรงกลัวเขาเพราะตอนนี้เธอโกรธจนควันออกหูกับคำพูดที่แสนจะเห็นแก่ตัวและดูถูกเธอที่สุด
“ฉันให้เวลาเธอคิดห้าวัน.. ก่อนที่บ้านหลังนี้มันจะเป็นของฉันและหากมันเป็นของฉัน ฉันจะทำลายมันให้ไม่เหลือซากเลยคอยดูสิ ฉันกลับก่อนนะแล้วอีกห้าวันฉันจะมาเอาคำตอบแต่ฉันว่าเธอควรเก็บของไว้รอฉันมารับดีกว่า..” รามลุกขึ้นแล้วก้มหน้าลงมาใกล้จนเหมือนฝันผงะหนี หญิงสาวมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อแต่รามกลับยิ้มใส่เธอเหมือนจะยั่วให้สติแตกแล้วเขาก็ทำให้เธอสติแตกจริงๆ เมื่อเขาจูบแก้มนวลหนักๆ และจูบเรียวปากระเรื่อของเธอเร็วๆ ก่อนจะเดินจากไปอย่างสบายอารมณ์ปล่อยให้คนที่ถูกขโมยจูบยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่กับที่มองตามเขาด้วยความขุ่นใจอย่างที่สุด
“อี๊ คนบ้า สารเลว ร้ายกาจที่สุด..” เหมือนฝันทำได้แค่ว่าเขาลับหลังเท่านั้น มือเรียวยกขึ้นกุมแก้มนวลที่ร้อนผ่าวและคงจะแดงเห่อเหมือนโดนไฟลวกไปทั้งใบหน้าแล้วก็เป็นได้
“ฉันไม่มีวันยอมสยบให้คุณง่ายๆ หรอก..” หญิงสาวกัดฟันอย่างเจ็บใจมองคนที่เดินจากไปอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ...
