ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
ช่วงเย็นของวัน น้ำฟ้ายืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ในอาการตกตะลึง ไม่ต่างจากสาวเทียมร่างใหญ่ที่ยืนมองด้วยความชื่นชม เมื่อจัดการแปลงโฉมนางก้นครัวให้สวยพริ้งในชุดราตรีสีม่วงคว้านลึกทั้งหน้าและหลังพอดีตัวเพื่ออวดรูปร่าง โดยเฉพาะเนินอกขาวสล้างที่ช่างอวบอิ่มเกินตัวเหลือเกิน และคงเป็นที่ต้องตาต้องใจบรรดาเศรษฐีรุ่นใหญ่แน่ๆ ผู้ลงมือแปลงโฉมให้กับน้ำฟ้าจึงยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ทะ...ทำไม ทำไมฉันต้องใส่ชุดแบบนี้”
น้ำฟ้าครางถามเสียงแผ่วเบาและไม่มั่นคงนัก หลังได้สำรวจตัวเองในกระจกจนแทบลืมหายใจ เนื้อหนังมังสาที่พยายามแอบซ่อนในตอนนี้มันกำลังโชว์อะร้าอร่ามแทบทุกสัดส่วน ทรวงอกใหญ่เกินตัวกำลังสะท้อนขึ้นลงตามลมหายใจของเจ้าตัว สองมือเล็กเลื่อนขึ้นมาปิดบังหน้าอกล้นทะลักของตัวเองเอาไว้อย่างหวาดกลัว เธอกลัวว่าสิ่งที่เคยหลีกหนีมาตั้งแต่เด็กจะเกิดจริง ‘คนพวกนี้จะพาเธอไปที่ไหนกันแน่’ น้ำฟ้าได้เพ้อถามตัวเองจนร่างกายแทบไร้แรง หนี! เธอต้องหนีให้ได้
“เราต้องไปงานโชว์ตัว แต่วันนี้คุณสวยมาก ใครๆ เห็นต้องชอบ”
สาวเทียมเอ่ยบอกพลางหมุนตัวของหญิงสาวที่ตนได้แปลงโฉมให้กลายเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ และดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง สวยงามไร้ที่ติ พร้อมเพ่งพิศ สาวสวยอีกครั้ง สองแก้มนั่นแดงเรื่อ ริมฝีปากบางเป็นกระจับ ช่วงเอวและสะโพกงามงอนผึ่งผายได้อย่างลงตัว ไม่น่าเชื่อว่ามาดามหลี่จะตาแหลมได้มากขนาดนี้และคงได้ราคาสูงสมใจมาดามหลี่เป็นแน่
“ฉันไม่ไป ไม่ไปไหนทั้งนั้น” น้ำฟ้าบอกปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วเดินหนี ปัดมือใหญ่ของสาวเทียมออกห่าง
“ไม่ได้! ฉันต้องพาคุณไปส่งให้ถึงมือมาดามหลี่” สาวเทียมตอบเสียงเข้มแล้วหันไปเร่งจัดเก็บอุปกรณ์แต่งหน้า ก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ ที่สำคัญ สาวเทียมต้องไปรับค่าจ้างจากมาดามหลี่ เมื่อพาหญิงสาวคนนี้ไปส่งถึงมือเท่านั้น
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ไป พวกคุณเป็นใครกันแน่ แล้วมาดามหลี่เกี่ยวอะไร มาดามหลี่ไปไหน” น้ำฟ้าถามสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อประตูห้องที่ปิดสนิทอยู่นานนับชั่วโมงถูกเปิดออกพร้อมชายร่างสูงใหญ่ใส่ชุดสูทเดินเข้ามาสามคน ด้วยหน้าตาถมึงทึง
“อย่าขัดขืนดีกว่าคุณน้อง คุณไม่มีทางหนีไปไหนได้หรอก ไปหามาดาม หลี่ซะ”
ตาดุๆ ของสาวเทียมหรี่มอง จะนึกเห็นใจก็เห็นใจอยู่หรอกแต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ จึงทำได้เพียงเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วรั้งข้อมือของหญิงสาวให้เดินออกจากห้องไปดีๆ น้ำฟ้าขืนตัวไว้
“ไม่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ช่วยด้วย! ” น้ำฟ้าร้องตะโกน หนึ่งในชายร่างสูงเดินเข้ามากระชากท่อนแขนของน้ำฟ้าแล้วเงื้อมือขึ้นสูง หมายจะตบสั่งสอน
“หยุดนะ! ” สาวเทียมหันไปตะคอกใส่บรรดาชายร่างใหญ่แล้วมองตาดุ “มาดามหลี่ บอกห้ามแตะต้อง ไม่งั้นของจะช้ำ” สั่งเสียงเข้ม ชายคนนั้นจึงลดมือลงและเดินออกไปยืนตัวตรงรอรับ แต่ในใจนั่นเดือดดาลเหลือทน
“คุณคะ อย่าพาฉันไปเลยนะ ฉันไม่อยากไป มาดามหลี่จะทำอะไรกับฉัน” น้ำฟ้าร้องถามเมื่อตัวเธอถูกรั้งให้ออกมาจากห้องพักได้สำเร็จ ฉุดกระชากน้ำฟ้าให้ไปที่ลิฟต์ เพื่อไปยังอีกห้องหมายเลข 2808 ชั้นที่ 102 ของโรงแรมตระกูลจาง
“อย่าขัดขืนเลยคุณน้อง เข้าไปเถอะ” สาวเทียมร่างใหญ่พยายาม โน้มน้าวหญิงสาว พร้อมออกแรงบีบต้นแขนเรียวของน้ำฟ้า เมื่อหันไปเห็นกลุ่มคนเดินออกมาจากลิฟต์ที่พวกตนไม่อยากพบเจอมากที่สุด ตามออกมาติดๆ สาวเทียมรีบพยักพเยิดให้รีบๆ เดินไปยังห้องที่ใช้ประมูล
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! ช่วยด้วยค่ะ! ได้โปรดปล่อยฉันเถอะนะ ฉันขอร้อง” น้ำฟ้าขืนตัวและร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเดินห่างจากลิฟต์และถูกบังคับให้เดินมาจนถึงหน้าห้องหมายเลข 2808 เสียงเอะอะนั่นทำให้ชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวออกจากลิฟต์หันมองด้วยความสงสัย
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีการส่งเสียงดัง รบกวนแขกห้องอื่นๆ หยางหมิง” ทายาทตระกูลจางเอ่ยขึ้น พลางหันไปมองหญิงสาวที่ถูกฉุดกระชากให้เข้าไปยังห้องหมายเลข 2808 ที่ตนทันได้เห็นหน้าเพียงเสี้ยววินาที คิ้วเข้มขมวดด้วยความสงสัย กฎของที่นี่คือห้ามส่งเสียงดัง แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น ใครกล้าแหกกฎและท้าทายเขางั้นหรือ
“เดี๋ยว ผมสั่งให้พนักงานไปสืบให้ครับ คุณริคกี้”
หยางหมิง เลขาหนุ่มตอบกลับนายใหญ่ผู้ที่มีใบหน้าราบเรียบ เย็นชาและโหดร้ายได้ตลอดเวลาหากใครกระทำการให้ไม่พอใจและคิดแข็งข้อ ก่อนหันไปมองภาพเบื้องหน้าแล้วให้นึกสังหรณ์ใจ อะไรกันเขาและคุณริคกี้ไม่อยู่เพียงแค่สามวันที่โรงแรมแห่งนี้ก็เกิดเรื่องงั้นหรือ แล้วผู้จัดการโรงแรมไม่ตรวจสอบคนเข้าพักหรือไง ถึงปล่อยคนเหล่านั้นมาสร้างความรำคาญให้กับแขกคนอื่นๆ
“งั้นนายรีบไปจัดการซะ ฉันจะลองเดินสำรวจ แถวๆ นี้ดูก่อน” จางเหวิน หรือริคกี้ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงและยังเป็นผู้กุมอำนาจการบริหารธุรกิจนับพันล้านของตระกูลพูดขึ้น ทำให้หยางหมิงต้องหันกลับไปมองผู้เป็นนายด้วยความสงสัย เพราะปกติไม่เคยเห็นเอ่ยปากว่าจะเดินสำรวจ แค่ชี้นิ้วสั่ง ก็มีคนจัดการให้แล้ว แต่ครั้งนี้มา แปลกมาก?
