6. พ่อรักลูกนะ
“เรานี่มันหลงตัวเองหนักเลยนะ ฮ่าๆ ไว้พี่เห็นจริงๆพี่ถึงจะเชื่อ ขี้โม้แบบนี้พี่ไม่เชื่อหรอก” ธาดาบอกไปแบบแกล้งน้องสาว ก่อนจะขยี้ผมของอัญริสาไปแบบเอ็นดู
“ไม่ได้ขี้โม้นะคะ เดี๋ยวพี่ธาดาก็รู้เองแหละ ว่าแต่มากี่วันคะ อันนาจะได้แพลนให้พี่ธาดาพาอันนาไปเที่ยว” อัญริสาถามออกไปแบบอยากรู้ ว่าพี่ชายของเธอจะอยู่ที่นี่กี่วัน
“พี่มาได้แค่สามวันเอง เพราะต้องกลับไปประชุมที่บริษัทด้วย เราอยากจะไปไหนจัดทริปมาเลย ส่วนคุณพ่อท่านอยากจะมาหาอันนามากนะ แต่เราก็รู้นิว่ามาไม่ได้เพราะอะไร คุณพ่อท่านก็เลยฝากให้พี่เอาของขวัญมาให้เราด้วย นี่สร้อย ส่วนนี่เป็นข้อความจากคุณพ่อ เปิดดูสิ ” ธาดาพูดอธิบายให้น้องสาวเข้าใจออกไปก็ยิ้ม พร้อมกับชูสร้อยที่พ่อของเขาบอกให้เอามาให้กับน้องสาว
“ขอบคุณนะคะพี่ธาดา” อัญริสารับสร้อยและการ์ดใบเล็กๆมาก็เอ่ยขอบคุณพี่ชายไป ก่อนจะค่อยๆเปิดอ่านข้อความจากพ่อของเธอ
“อันนาลูกรัก ลูกอาจจะกำลังโกรธและกำลังน้อยใจพ่อที่ไม่ได้ไปหาลูก แต่พ่อก็อยากจะให้ลูกรู้เอาไว้นะ ว่าพ่อภูมิใจและยินดีกับความสำเร็จของลูกในครั้งนี้มาก แม่ของลูกที่อยู่บนฟ้าก็คงจะดีใจไม่แพ้พ่อแน่ๆ ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ได้มาแสดงความยินดีกับลูกด้วยตัวเอง แต่พ่อก็มอบสิ่งที่มีค่าฝากไปให้กับลูกด้วยนะ หวังว่าลูกจะชอบมันนะอันนา พ่ออาจเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดูแลลูกให้ดีแบบพ่อคนอื่นๆ แต่พ่อก็รักลูกสุดหัวใจนะอันนา จากพ่อ” อันนาอ่านไปก็น้ำตาคลอเบ้าออกมาอย่างอดไม่ได้ เธอเองก็ไม่ได้โกรธอะไรพ่อหรอก เพราะเข้าใจว่าพ่อของเธอต้องการที่จะปกป้องเธอจากทุกคน ท่านถึงทำแบบนี้ แต่บางครั้งเธอก็ต้องการให้พ่อมาอยู่กับเธอบ้าง แต่มันก็เป็นได้แค่ความฝันเท่านั้น
จากนั้นอันนาก็เปิดดูล็อกเก็ตที่พ่วงมากับสร้อยนี้ดูว่าด้านในเป็นอะไร จนในที่สุดเธอก็เปิดมาเจอภาพของเธอที่ถ่ายร่วมกับพ่อและแม่ในตอนเด็กๆ อัญริสามองแล้วก็ยิ้มออกมาแล้วเอามือลูบที่ล็อกเก็ตนั่นเบาๆ
“คุณพ่อ คุณแม่ อือๆ” อัญริสาพูดไปนั้นก็ร้องไห้ออกมา จนธาดาและมาเรียมองแบบตกใจ ก่อนที่ธาดาจะโผล่เข้ากอดน้องสาวอย่างสงสาร
“ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวนะอันนา เรายังมีพ่อ มีพี่ และมีป้ามาเรียอยู่ พวกเราทุกคนรักอันนานะ” ธาดาบอกไปแล้วก็เอามือลูบหัวของอัญริสาอย่างสงสารเธอ เพราะนี่ก็นานแล้วที่เธอไม่ได้เจอพ่อเลย
“อันนาก็รักคุณพ่อ รักพี่ธาดาค่ะ อือๆ ป้ามาเรียด้วยนะคะ” อัญริสาพูดบอกไปก็ทั้งยิ้มทั้งร้องไห้ จนมาเรียมองแล้วก็อดสงสารไม่เด็กคนนี้ไม่ได้
“งั้นก็หยุดร้องได้แล้วนะคนเก่ง อายคนอื่นเข้าบ้างสิ เห็นไหม เขามองกันหมดแล้วเนี่ย” ธาดาพูดบอกไปในขณะที่โอบกอดน้องสาวอยู่ ก่อนจะเอามือเช็ดน้ำตาให้กับน้องสาวไปอย่างอ่อนโยน
“ค่ะ ก็อันนาอ่านแล้วซึ้งนิคะ ไหนจะรูปของคุณพ่อกับคุณแม่อีก อันนาจะใส่มันไว้ค่ะ พี่ธาดาใส่ให้อันนาหน่อยสิคะ” อัญริสาบอกไปก็ส่งสร้อยให้กับพี่ชายให้ใส่ให้เธอ ก่อนจะเอามือมาเช็ดน้ำตาของตัวเองที่แก้มออกไปให้หมด แล้วก็พยายามยิ้มออกมา
“โอเค มาเดี๋ยวพี่ใส่ให้ ป้ามาเรียครับ ถ่ายรูปให้ผมหน่อย ผมจะส่งไปให้คุณพ่อดู” ธาดาบอกไปก็ส่งโทรศัพท์มือถือให้กับมาเรียไป
“เอาสวยๆนะคะป้ามาเรีย” อัญริสาพูดแล้วก็ยิ้มใส่กล้องไปแบบน่ารัก พร้อมกับธาดาที่กำลังใส่สร้อยให้กับน้องสาวด้านหลัง ก็โผล่หน้ามายิ้มอย่างน่ารัก จนคนอื่นที่เห็นและไม่รู้จักทั้งสองก็คิดว่าเป็นคู่รักมากกว่าพี่น้องซะอีก เพราะทั้งสองดูสนิทสนมและน่ารักมาก แถมอายุดูจะห่างกันหลายปีทีเดียว
จากนั้นธาดาก็เอาโทรศัพท์จากมาเรียมา แล้วหยิบขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับน้องสาวของตัวเองอย่างน่ารัก ก่อนจะสับเปลี่ยนกันถ่ายร่วมกับอัญริสาอย่างมีความสุข แล้วเขาก็ส่งภาพทั้งหมดไปให้กับเมธาผู้เป็นพ่อได้ดู พอเสร็จก็พากันไปทานอาหารกลางวันเพื่อฉลองให้กับอัญริสากันอย่างชื่นมื่น
ณ คฤหาสน์ตระกูลพอลสัน
หลังจากที่คาเมรอนกลับมาที่บ้าน เขาก็เปลี่ยนชุดใหม่แล้วมานั่งจิบกาแฟแบบชิวๆอย่างระงับอารมณ์โกรธก่อนหน้านี้ อยู่ที่สวนสไตล์อังกฤษของคฤหาสน์หลังนี้ ที่คุณดรุณีภรรยาของน้าเบนจามินเชิญเขาให้อยู่ที่นี่ หลังจากที่เดินทางมายังประเทศอังกฤษเพื่อเซ็นต์สัญญาทางการค้ากับนักธุรกิจของที่นี่ และเขาก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อเพื่อแสดงความยินดีกับลูกพี่ลูกน้องที่กำลังเรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารพอดีอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณคาเมรอนคะ พอดีบุษทำขนมไทยไว้ ก็เลยลองเอามาให้คุณชิมค่ะ ลองดูนะคะ” บุษกรเดินเข้ามาหาคาเมรอน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของว่าที่สามีของเธอด้วยรอยยิ้ม เพราะโอกาสที่จะได้เจอเขาไม่ได้มีมาบ่อยๆ เธอจึงใช้จังหวะนี้ในการทำความรู้จักกับเขา เพราะคาเมรอนนั้นถือว่ารวยกว่าเดเมี่ยนมากถ้าเธอเปลี่ยนจากเดเมี่ยนเป็นเขาได้ มันก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอ
“ขอบคุณ แต่ผมไม่ชอบของหวาน มันเลี่ยน เอากลับไปให้น้องชายผมทานเถอะ” คาเมรอนพูดบอกไปแบบนิ่งๆ พร้อมกับทำสายตามองคู่หมั้นของลูกพี่ลูน้องของตัวเองแบบไม่ชอบใจนัก เพราะเธอทำสายตามองเขาในแบบที่ไม่ควรเลยสักนิด
บุษกรได้ยินคำตอบแบบนั้นเธอก็เจ็บใจและคิดว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก เธอจึงแกล้งเอามือปัดบัดลอยไข่หวานที่เธอทำมาหกใส่ขากางเกงของคาเมรอนแบบตั้งใจ
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะเอากลับไป ว้าย เพล้ง ขอโทษค่ะคุณคาเมรอน ฉันนี่ซุ่มซ่ามจริงๆเลย เดี๋ยวฉันช่วยเช็ดให้นะคะ” บุษกรพูดบอกไป พร้อมกับรีบเอามือไปปัดเศษขนมพวกนั้นออกมาจากกางเกงของคาเมรอน จนมือของเธอมันไปใกล้กับเป้ากางเกงของเขา แล้วเธอก็จงใจก้มให้เขาได้เห็นหน้าอกหน้าใจของเธอแบบยั่วๆ
