เพลิงรักนางซิน

324.0K · จบแล้ว
รินธารา
175
บท
17.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“อันนา นี่แกไปแอบดูแดเนียลมันมีเซ็กส์มาเหรอ” “แกจะเสียงดังทำไมเนี่ย ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ไอ้แดเนียลนั่นแหละมันไม่ระวังเอง แกรู้ไหมมันจัดทีซั่มเลยนะ แกเอ้ย แซ่บนัวๆเลยจ้า” “เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ถ้าเมื่อคืนแดเนียลมันเอาสาวๆไปกินที่ห้อง แล้วแกล่ะไปจัดการตัวเองที่ไหน” “ก็ห้องรับแขกตรงข้ามห้องแดเนียลนั่นแหละ” “แต่นั่นมันห้องคุณคาเมรอนคู่อริของแกไม่ใช่เหรอ เห้ย อันนา แกอย่าบอกนะว่าแกไปช่วยตัวเองในห้องเขาน่ะ” “อืม แล้วเขาก็เห็นเต็มๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเลยแก อื้อ อย่าถามได้ไหมอ่ะ ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอายเนี่ย” คาเมรอน พอลสัน อายุ 32 ปี หนุ่มนักธุรกิจด้านเทคโลโลยีที่กำลังเป็นที่จับตามองของทุกคน ต้องมาเจอกับ”อัญริสา” ยัยตัวแสบสุดโหดที่ทำให้เขาหัวร้อนทุกครั้งที่เจอ จนเขาคิดว่าผู้ชายคนไหนที่ได้เธอไปเป็นเมียจะต้องซวยไปตลอดชีวิตแน่ๆ แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งมันกลับกลายเป็นเขาซะเองที่เป็นสามีของเธอ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ายัยโหดนี่แอบซ่อนความแซ่บไว้ขนาดนี้ เขาจึงคิดที่จะจัดการปราบเธอ ไม่ให้เธอไปแรดอ่อยผู้ชายหน้าไหนได้อีก อันนา อัญริสา สกุลเกียรติ อายุ 25 ปี สาวสวยหน้าคมสุดแซ่บ ที่ชอบปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ ต้องมาเจอกับผู้ชายปากปีจอที่กวนสุดๆอย่าง “คาเมรอน” ที่ทั้งหื่นทั้งลามกใส่เธอแบบหน้าด้านๆ จนเธอคิดว่าผู้ชายอย่างเขาจะไม่มีวันได้เห็นขาอ่อนของเธอเด็ดขาด แต่ที่ไหนได้ เขาดันมาเป็นสามีของเธอซะนี่ แถมเขายังสาวๆตามติดเป็นพรวน เธอจึงต้องประกาศศักดาให้ทุกคนรู้ไปเลยว่า “ผัวข้าใครอย่าแตะ”

นิยายรักโรแมนติกประธานนอกใจรักหวานๆโรงแรม/มหาลัยโรแมนติก25+3Pมีลูกหนุ่มเจ้าสำราญ

1. บทนำ

ณ บ้านธรรมรักษ์วาณิช

“เมธา” นักธุรกิจเชื้อสายจีนกำลังพูดคุยกับแม่ของเขา ที่เข้ามาห้ามปรามไม่ให้เขาเดินทางไปอังกฤษเพื่อแสดงความยินดีกับลูกสาวคนเล็กของเขา ที่เกิดกับ”กุลมาศ”สาวใช้ภายในบ้านที่เขาหลงรักเธออย่างสุดหัวใจ แต่เธอได้เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อน เพราะถูกแม่ของเขาใช้งานอย่างหนักจนทำให้ป่วยเข้าโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตลงในที่สุด จึงทำให้”อัญริสา”เด็กเรียบร้อยอ่อนหวานที่กำลังโตขึ้น ต้องอยู่แบบโดดเดี่ยวและโดนลูกหลานในตระกูลกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ ในเมื่อทุกคนไม่ยอมรับเธอให้เป็นลูกหลานในตระกูล จึงทำให้เขาต้องจำใจส่งอัญริสาไปอยู่อังกฤษเพียงลำพัง เพื่อที่เธอจะได้มีชีวิตที่ดีกว่าที่นี่

“แม่ไม่ให้แกไปหานังเด็กนั่นหรอกเมธา แค่แกส่งเสียมันเรียนจนจบถึงเมืองนอกเมืองนาก็ดีแค่ไหนแล้ว นี่ยังจะไปยินดีอะไรกับมันอีก ถ้าแกไปหาเด็กนั่น เมียแกแล้วก็ลูกๆของแกจะคิดยังไงห้ะ ที่แกไปสนใจใส่ใจแต่ลูกเมียน้อยน่ะ” อาเจิน ซึ่งเป็นแม่ของเมธาและเป็นผู้อวุฒิโสคนเดียวในบ้าน พูดออกมาอย่างไร้เยื้อใยกับลูกสาวของลูกชายคนนี้ ที่เกิดมากับสาวใช้ที่แอบลักลอบได้เสียกันจนมีตัวกลากินีมาประจานความน่าอับอายนี้

“แต่นั่นลูกสาวผมนะครับคุณแม่ เขาแทบจะไม่ได้อะไรจากผมเลย ต่างจากลูกๆของดวงรัตน์ที่ได้ทุกอย่างทั้งความรัก ความเอาใจใส่ และการยอมรับจากทุกคน พวกเขายังจะต้องคิดอะไรอีก ผมแค่อยากจะไปหาลูก อยากไปแสดงความยินดีกับเขาในฐานะพ่อบ้างก็เท่านั้น” เมธาพูดออกไปแบบจริงจัง เพราะเขาไปแสดงความยินดีกับลูกๆของเขาทุกคน แต่ทำไมพอถึงทีของอัญริสา แม่ของเขาถึงต้องทำถึงขนาดนี้

“ก็ใครบอกให้มันดันเกิดเป็นลูกของนังกุลมาศล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียแล้วก็ยังหน้าด้านมายั่วยวนจนมีมารหัวขนออกมาประจานตัวแกน่ะ แกกับมันอาจไม่อาย แต่ฉันกับดวงรัตน์แล้วก็ทุกคนน่ะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว ที่ลูกชายหลับหูหลับตาไปเอาคนใช้ทำเมียอีกคนน่ะ ฉันอาย” อาเจินพูดด่าลูกชายออกไปอย่างอดไม่ได้ เมื่อเธอนึกถึงอดีตขึ้นมาแล้วก็โมโห เธออุตส่าห์หาเมียดีๆที่คู่ควรมาให้ แต่ลูกชายก็ไม่รักดี ไปเอาคนใช้มาทำเมียจนได้

“คุณแม่คะ ใจเย็นๆเถอะค่ะ ส่วนคุณเมธา คุณก็ไม่ต้องไปสิคะ แค่ส่งดอกไม้ไปให้ก็พอ ลูกสาวคุณมันก็ไม่ว่าอะไรคุณหรอก ร้อยวันพันปีคุณกับเด็กนั่นก็แทบจะไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว คุณไปหรือไม่ไป มันไม่สำคัญหรอกค่ะ” ดวงรันต์พูดบอกสามีออกไป เพื่อห้ามไม่ให้เขาไปหายัยเด็กนอกคอกนั่นอีกคน

“จริงค่ะ อีกอย่างถ้าคุณพ่อไปหายัยอันนาที่อังกฤษ แล้วงานวันเกิดของธารินล่ะคะ คุณพ่อจะไม่อยู่เหรอคะ คุณพ่อจะรักลูกเมียน้อยมากกว่าธารินเหรอคะ” ธารินลูกสาวคนที่สามวัยสี่สิบแปดปีพูดออกไปแบบไม่ยอม เพราะเธอจะไม่มีวันยอมให้พ่อของเธอรักอีลูกเมียน้อยนั่นมากกว่าเด็ดขาด

“เฮ้อ ผมล่ะเบื่อพ่อจริงๆ จะสนใจมันอะไรนักหนา จะทำอะไรก็ทำเถอะ ผมไปนะ ไม่มีเวลามาฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอก” ธีทัต ลูกชายคนที่สองวัยสามสิบปีพูดออกไป พร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินออกไปกลางวงสนทนานั้น เพราะเขาเบื่อที่จะฟังเรื่องของอัญริสาแล้ว ขนาดไม่อยู่ที่นี่มาสิบปี แต่ก็ยังตามมาหลอกหลอนทำให้ทุกคนทะเลาะกันได้จนถึงทุกวันนี้ได้ แค่คิดเขาก็เอือมแล้ว

ส่วนธาดา ลูกชายคนแรกของเมธาในวันสามสิบสองปีก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และนั่งฟังแบบเงียบๆ เพราะเข้าใจสถานการณ์ของบ้านนี้ที่มีต่ออัญริสาเป็นอย่างดี จึงเลือกที่จะนั่งนิ่งๆและดูบทสรุปต่อไป

“เห็นไหมเมธา ทั้งเมียและลูกของแก มีใครอยากจะให้แกไปบ้าง แกตัดยัยเด็กนั่นมันออกไปจากชีวิตของครอบครัวเราไปแล้ว แกก็อย่าไปสนใจเลย ปล่อยเด็กนั่นไปซะ แล้วก็อยู่ฉลองวันเกิดให้ธารินซะ แม่จะไม่พูดมากแล้ว นี่เป็นคำสั่ง” อาเจินพูดบอกไปเสียงเข้ม พร้อมกับใช้สายตามองไปที่ลูกชายคนโตของเธออย่างโมโห ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

“คิดให้ดีๆนะคะคุณพ่อ จะเลือกหนูหรือว่ายัยลูกนอกคอกนั่น ไปเถอะค่ะคุณแม่ หนูไม่อยากจะเห็นหน้าคุณพ่อแล้ว เราตามอาม่าไปกันเถอะค่ะ” ธารินพูดออกไปแล้วชวนแม่ของเธอให้ตามย่าของเธอออกไป เพราะตอนนี้คงไม่มีใครอยากจะคุยกับพ่อของเธอหรอก

“พ่อขอโทษนะอันนา พ่อคงไม่ได้ไปหาลูกแล้ว...” เมธาพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ ที่ไม่สามารถไปหาลูกสาวคนเล็กได้ ทำไมนะ ทำไมเขาต้องเกิดมาในตระกูลนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นลูกสาวของเขาก็ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้

“เดี๋ยวผมไปหาอันนาที่อังกฤษเองครับพ่อ ในเมื่ออาม่าแล้วก็ทุกคนไม่ให้พ่อไป ผมในฐานะพี่ชายของอันนา ผมจะไปแสดงความยินดีกับน้องสาวของผมเองครับ พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไปหาน้องเอง” ธาดาพูดบอกไปแล้วมองผู้เป็นพ่ออย่างสงสารที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ แม้กระทั่งจะไปหาอัญริสาหรือเปิดเผยว่าเธอเป็นลูกอีกคนก็ยังทำไม่ได้

“ลูกพูดจริงเหรอธาดา ลูกจะไปหาน้องแทนพ่อจริงๆใช่ไหม” เมธาหันมามองลูกชายคนโตอย่างมีความหวัง เพราะธาดาเป็นเพียงคนเดียวที่ยอมรับอัญริสา เขาจึงรู้สึกมีหวังขึ้นมานิดๆว่าถ้าเขาเป็นอะไรไป ธาดาจะไม่มีวันทิ้งอัญริสา

“ครับพ่อ ผมจะอ้างว่ามีงานที่อังกฤษ อาม่ากับคุณแม่ท่านไม่ยุ่งเรื่องงานอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ พ่ออยากให้ผมเอาอะไรไปให้น้องก็เตรียมไว้ก็แล้วกันนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะให้เลขาจัดหาตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษ” ธาดาพูดบอกไปแบบนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มให้ผู้เป็นพ่อไปแบบรักใคร่ เพราะท่านก็ทุกข์ใจกับการไม่ได้ดูแลอัญริสามามากพอแล้ว อะไรที่เขาทำให้ท่านมีความสุขได้เขาก็อยากทำ

“ขอบใจนะธาดา พ่อไม่เคยผิดหวังในตัวลูกเลย ขอบคุณที่รักและเอ็นดูน้องนะลูก” เมธาเข้าไปกอดลูกชายอย่างซาบซึ้งใจ จนธาดายิ้มออกมาแล้วกอดพ่อของเขาตอบ

“ขอบคุณทำไมครับ อันนาก็น้องของผม ผมก็ต้องรักและเอ็นดูเขาอยู่แล้ว พ่อไม่ต้องคิดมากนะครับ” ธาดาบอกไปก็ยิ้ม เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เกียจชังอัญริสาเหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ กลับกัน เขาออกจะสงสารเธอด้วยซ้ำที่ถูกทุกคนกลั่นแกล้งและผลักไสอย่างนั้น พอเขาโตพอที่จะไปเรียนต่อ มันจึงทำให้เขาเลือกที่จะไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพื่อที่จะได้ไปดูแลอัญริสาในฐานะพี่ชายบ้าง อย่างน้อยก็ให้เธอรับรู้ว่าเธอก็ยังมีเขาที่รักและห่วงเธอด้วยใจจริง