บท
ตั้งค่า

1. บทนำ

ณ บ้านธรรมรักษ์วาณิช

“เมธา” นักธุรกิจเชื้อสายจีนกำลังพูดคุยกับแม่ของเขา ที่เข้ามาห้ามปรามไม่ให้เขาเดินทางไปอังกฤษเพื่อแสดงความยินดีกับลูกสาวคนเล็กของเขา ที่เกิดกับ”กุลมาศ”สาวใช้ภายในบ้านที่เขาหลงรักเธออย่างสุดหัวใจ แต่เธอได้เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อน เพราะถูกแม่ของเขาใช้งานอย่างหนักจนทำให้ป่วยเข้าโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตลงในที่สุด จึงทำให้”อัญริสา”เด็กเรียบร้อยอ่อนหวานที่กำลังโตขึ้น ต้องอยู่แบบโดดเดี่ยวและโดนลูกหลานในตระกูลกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ ในเมื่อทุกคนไม่ยอมรับเธอให้เป็นลูกหลานในตระกูล จึงทำให้เขาต้องจำใจส่งอัญริสาไปอยู่อังกฤษเพียงลำพัง เพื่อที่เธอจะได้มีชีวิตที่ดีกว่าที่นี่

“แม่ไม่ให้แกไปหานังเด็กนั่นหรอกเมธา แค่แกส่งเสียมันเรียนจนจบถึงเมืองนอกเมืองนาก็ดีแค่ไหนแล้ว นี่ยังจะไปยินดีอะไรกับมันอีก ถ้าแกไปหาเด็กนั่น เมียแกแล้วก็ลูกๆของแกจะคิดยังไงห้ะ ที่แกไปสนใจใส่ใจแต่ลูกเมียน้อยน่ะ” อาเจิน ซึ่งเป็นแม่ของเมธาและเป็นผู้อวุฒิโสคนเดียวในบ้าน พูดออกมาอย่างไร้เยื้อใยกับลูกสาวของลูกชายคนนี้ ที่เกิดมากับสาวใช้ที่แอบลักลอบได้เสียกันจนมีตัวกลากินีมาประจานความน่าอับอายนี้

“แต่นั่นลูกสาวผมนะครับคุณแม่ เขาแทบจะไม่ได้อะไรจากผมเลย ต่างจากลูกๆของดวงรัตน์ที่ได้ทุกอย่างทั้งความรัก ความเอาใจใส่ และการยอมรับจากทุกคน พวกเขายังจะต้องคิดอะไรอีก ผมแค่อยากจะไปหาลูก อยากไปแสดงความยินดีกับเขาในฐานะพ่อบ้างก็เท่านั้น” เมธาพูดออกไปแบบจริงจัง เพราะเขาไปแสดงความยินดีกับลูกๆของเขาทุกคน แต่ทำไมพอถึงทีของอัญริสา แม่ของเขาถึงต้องทำถึงขนาดนี้

“ก็ใครบอกให้มันดันเกิดเป็นลูกของนังกุลมาศล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียแล้วก็ยังหน้าด้านมายั่วยวนจนมีมารหัวขนออกมาประจานตัวแกน่ะ แกกับมันอาจไม่อาย แต่ฉันกับดวงรัตน์แล้วก็ทุกคนน่ะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว ที่ลูกชายหลับหูหลับตาไปเอาคนใช้ทำเมียอีกคนน่ะ ฉันอาย” อาเจินพูดด่าลูกชายออกไปอย่างอดไม่ได้ เมื่อเธอนึกถึงอดีตขึ้นมาแล้วก็โมโห เธออุตส่าห์หาเมียดีๆที่คู่ควรมาให้ แต่ลูกชายก็ไม่รักดี ไปเอาคนใช้มาทำเมียจนได้

“คุณแม่คะ ใจเย็นๆเถอะค่ะ ส่วนคุณเมธา คุณก็ไม่ต้องไปสิคะ แค่ส่งดอกไม้ไปให้ก็พอ ลูกสาวคุณมันก็ไม่ว่าอะไรคุณหรอก ร้อยวันพันปีคุณกับเด็กนั่นก็แทบจะไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว คุณไปหรือไม่ไป มันไม่สำคัญหรอกค่ะ” ดวงรันต์พูดบอกสามีออกไป เพื่อห้ามไม่ให้เขาไปหายัยเด็กนอกคอกนั่นอีกคน

“จริงค่ะ อีกอย่างถ้าคุณพ่อไปหายัยอันนาที่อังกฤษ แล้วงานวันเกิดของธารินล่ะคะ คุณพ่อจะไม่อยู่เหรอคะ คุณพ่อจะรักลูกเมียน้อยมากกว่าธารินเหรอคะ” ธารินลูกสาวคนที่สามวัยสี่สิบแปดปีพูดออกไปแบบไม่ยอม เพราะเธอจะไม่มีวันยอมให้พ่อของเธอรักอีลูกเมียน้อยนั่นมากกว่าเด็ดขาด

“เฮ้อ ผมล่ะเบื่อพ่อจริงๆ จะสนใจมันอะไรนักหนา จะทำอะไรก็ทำเถอะ ผมไปนะ ไม่มีเวลามาฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอก” ธีทัต ลูกชายคนที่สองวัยสามสิบปีพูดออกไป พร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินออกไปกลางวงสนทนานั้น เพราะเขาเบื่อที่จะฟังเรื่องของอัญริสาแล้ว ขนาดไม่อยู่ที่นี่มาสิบปี แต่ก็ยังตามมาหลอกหลอนทำให้ทุกคนทะเลาะกันได้จนถึงทุกวันนี้ได้ แค่คิดเขาก็เอือมแล้ว

ส่วนธาดา ลูกชายคนแรกของเมธาในวันสามสิบสองปีก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และนั่งฟังแบบเงียบๆ เพราะเข้าใจสถานการณ์ของบ้านนี้ที่มีต่ออัญริสาเป็นอย่างดี จึงเลือกที่จะนั่งนิ่งๆและดูบทสรุปต่อไป

“เห็นไหมเมธา ทั้งเมียและลูกของแก มีใครอยากจะให้แกไปบ้าง แกตัดยัยเด็กนั่นมันออกไปจากชีวิตของครอบครัวเราไปแล้ว แกก็อย่าไปสนใจเลย ปล่อยเด็กนั่นไปซะ แล้วก็อยู่ฉลองวันเกิดให้ธารินซะ แม่จะไม่พูดมากแล้ว นี่เป็นคำสั่ง” อาเจินพูดบอกไปเสียงเข้ม พร้อมกับใช้สายตามองไปที่ลูกชายคนโตของเธออย่างโมโห ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

“คิดให้ดีๆนะคะคุณพ่อ จะเลือกหนูหรือว่ายัยลูกนอกคอกนั่น ไปเถอะค่ะคุณแม่ หนูไม่อยากจะเห็นหน้าคุณพ่อแล้ว เราตามอาม่าไปกันเถอะค่ะ” ธารินพูดออกไปแล้วชวนแม่ของเธอให้ตามย่าของเธอออกไป เพราะตอนนี้คงไม่มีใครอยากจะคุยกับพ่อของเธอหรอก

“พ่อขอโทษนะอันนา พ่อคงไม่ได้ไปหาลูกแล้ว...” เมธาพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ ที่ไม่สามารถไปหาลูกสาวคนเล็กได้ ทำไมนะ ทำไมเขาต้องเกิดมาในตระกูลนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นลูกสาวของเขาก็ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้

“เดี๋ยวผมไปหาอันนาที่อังกฤษเองครับพ่อ ในเมื่ออาม่าแล้วก็ทุกคนไม่ให้พ่อไป ผมในฐานะพี่ชายของอันนา ผมจะไปแสดงความยินดีกับน้องสาวของผมเองครับ พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไปหาน้องเอง” ธาดาพูดบอกไปแล้วมองผู้เป็นพ่ออย่างสงสารที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ แม้กระทั่งจะไปหาอัญริสาหรือเปิดเผยว่าเธอเป็นลูกอีกคนก็ยังทำไม่ได้

“ลูกพูดจริงเหรอธาดา ลูกจะไปหาน้องแทนพ่อจริงๆใช่ไหม” เมธาหันมามองลูกชายคนโตอย่างมีความหวัง เพราะธาดาเป็นเพียงคนเดียวที่ยอมรับอัญริสา เขาจึงรู้สึกมีหวังขึ้นมานิดๆว่าถ้าเขาเป็นอะไรไป ธาดาจะไม่มีวันทิ้งอัญริสา

“ครับพ่อ ผมจะอ้างว่ามีงานที่อังกฤษ อาม่ากับคุณแม่ท่านไม่ยุ่งเรื่องงานอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ พ่ออยากให้ผมเอาอะไรไปให้น้องก็เตรียมไว้ก็แล้วกันนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะให้เลขาจัดหาตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษ” ธาดาพูดบอกไปแบบนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มให้ผู้เป็นพ่อไปแบบรักใคร่ เพราะท่านก็ทุกข์ใจกับการไม่ได้ดูแลอัญริสามามากพอแล้ว อะไรที่เขาทำให้ท่านมีความสุขได้เขาก็อยากทำ

“ขอบใจนะธาดา พ่อไม่เคยผิดหวังในตัวลูกเลย ขอบคุณที่รักและเอ็นดูน้องนะลูก” เมธาเข้าไปกอดลูกชายอย่างซาบซึ้งใจ จนธาดายิ้มออกมาแล้วกอดพ่อของเขาตอบ

“ขอบคุณทำไมครับ อันนาก็น้องของผม ผมก็ต้องรักและเอ็นดูเขาอยู่แล้ว พ่อไม่ต้องคิดมากนะครับ” ธาดาบอกไปก็ยิ้ม เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เกียจชังอัญริสาเหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ กลับกัน เขาออกจะสงสารเธอด้วยซ้ำที่ถูกทุกคนกลั่นแกล้งและผลักไสอย่างนั้น พอเขาโตพอที่จะไปเรียนต่อ มันจึงทำให้เขาเลือกที่จะไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพื่อที่จะได้ไปดูแลอัญริสาในฐานะพี่ชายบ้าง อย่างน้อยก็ให้เธอรับรู้ว่าเธอก็ยังมีเขาที่รักและห่วงเธอด้วยใจจริง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel