บท
ตั้งค่า

4

มอเตอร์ไซน์มาส่งจอดหน้ารั้วสูงไม่ได้เข้าด้านใน ลมมะณีโบกมือลานิมิตร ชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่สะโอดสะองคล้ายผู้หญิง ก่อนพาร่างบอบบางสูง160 เซนติเมตร ซึ่งในชุดนักศึกษาเดินเข้าบ้านทางประตูเล็ก เด็กรับใช้คนหนึ่งเหมือนมายืนรอ บอกว่าป้าสกุลให้มาตาม ลมมะณีพยักหน้าและขอบใจ รีบเดินเข้าตึก

ป้าสกุลและแม่เป็นเพื่อนกันมานาน ติดตามคุณหญิงอมาเรียมาจากตระกูลเก่า ป้าสกุลพูดน้อย ไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้านายกับเธอเหมือนคนอื่นๆ ลมมะณีเชื่อฟังป้าสกุลเสมอ

“กลับมาช้าไม่กลัวคุณหมออาเธอร์ดุหรือไงหนูดา ผิดเวลามากนะวันนี้ ”

ลมมะณีวางหนังสือบนโต๊ะไม้สักมันวาวภายในห้องโถงกว้างก่อนเดินไปใกล้ป้าแม่บ้าน “ขอโทษค่ะ ที่ช้าเพราะดาไปหาพี่มา ป้ามีอะไรหรือคะ”

“เอาหนังสือไปเก็บมาช่วยเช็ดเครื่องเงิน เครื่องลายครามนะ คุณหมอกลับมาป้าไม่อยากโกหกว่าหนูช่วยงานแล้วทั้งๆ ที่ไม่ได้ช่วย ”

คนมาช้ารีบหยิบหนังสือเดินออกจากห้องรับแขกกว้างขวางที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเครื่องลายคราม เครื่องเงินเก่าแก่

เดินกลับไปที่บ้านเธอรีบเลยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้ามีแค่ผ้ากันเปื้อนสวมทับ ทว่าก่อนเดินออกจากบ้านรู้สึกวิงเวียนศีรษะจนเซ รู้สึกว่าร่างกายยังระบมอย่างมาก จึงรีบหายามากินก่อนออกไป

ที่ผ่านมาเธอเรียนเกรดเฉลี่ยแย่เสมอเพราะหัวไม่ค่อยดี ยิ่งตอนนี้ต้องทำงานทุกอย่างในบ้านแทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่อยากคิดเกรดจะแย่จนถึงขั้นตอนรีไทร์หรือเปล่า แต่ไม่ว่ายังไงต้องสู้ต่อไป ถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่เธอต้องมีความรู้บ้าง ไม่ต้องไปขอทานเขากินอย่างที่เคยโดนปรามาสไว้

ครู่ต่อมาเสียงรถมาจอดหน้ามุข เด็กรับใช้ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน รู้ว่าเป็นรถคุณหมอ ลมมะณีก้มหน้าก้มตาเช่นกันแต่เธอมีเรื่องให้คิดที่แตกต่างออกไป

ปิดเทอมนี้ต้องอยู่บ้าน เดี๋ยวนี้เธอกลัวการได้เห็นหน้าคุณหมอ ไม่เหมือนเมื่อก่อน เช้าสายบ่ายค่ำแค่คุณหมอมาที่บ้านเธอจะต้องดูแลอย่างดี ไม่ได้เข้าไปดูแลก็ทำทุกอย่างผ่านทางแม่แต่ตอนนี้หลบเขาก่อนดีที่สุด

“วันนี้คุณหมอกลับเร็วจังเลยค่ะ” ป้าสกุลออกไปต้อนรับเจ้านาย ลมมะณีไม่เหลือบมองใคร ตั้งใจทำงาน

“กลับบ้านเร็วเพราะมาดูว่าใครขี้เกียจบ้างจะได้ส่งไปทำงานที่อื่น ตอนนี้คนบ้านนี้ชักสบายกันใหญ่แล้ว ”

ลมมะณีรู้สึกเหมือนทุกคำพูดลงมาบนหัวเธอ มือเล็กชะงักการเช็ดถู

“ทุกคนออกไป ให้คนที่กินแรงคนอื่นทำคนเดียวบ้าง”

เด็กรับใช้ทุกคนมองหน้าลมมะณี ป้าสกุลบอกทุกคนให้ออกไป

“ป้าด้วยทำงานมาทั้งวันไปพักได้”

ทุกคนเดินออกจากห้องโถงใหญ่ ลมมะณีนั่งตัวเล็กลีบ สมองเริ่มมึนเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป เคนนำน้ำแร่ให้เจ้านายก่อนเดินออกไปอย่างรู้หน้าที่ ลมมะณีเหลือบมองอาเธอร์…ทำไมเขาเลือกมานั่งพักที่นี่ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมานั่งสักครั้งหรือต้องการควบคุมการทำงานของเธอ รู้สึกอึดอัดมาก เธอต้องพูดเพื่อไล่หมอ

“ดาจะเช็ดให้สะอาดค่ะ”

ไม่มีเสียงตอบรับ ลมมะณีนั่งเงียบ เช็ดไปเรื่อยๆ…

“วันนี้ไปไหนมาบ้าง”

ลมมะณีสะบัดหัว มองใบหน้าดิบเถื่อน แววตาเย็นชา สายตาที่ไม่เคยอ่อนโยนจ้องเธอเขม็ง เธอมองใบหน้าหมอเป็นภาพซ้อน “มีสอบค่ะ บอกไปแล้วเมื่อตอนเช้า”

“สอบอย่างเดียวไม่ได้ไปไหนกับใครมาใช่ไหม อย่าให้รู้ว่าโกหก ”

“ก็ต้องมีไปกินข้าว ไปห้องน้ำบ้างสิคะ” ไม่อยากบอกว่าไปที่ไหน เขาคงสีหน้าโหดกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ

“ยียวนขึ้นทุกวันนะ”

“ก็ใครชอบทำให้เห็น” ลมมะณีพึมพำ

“อะไรนะ”

“เปล่านิคะ”

“เปล่าตลอด แต่ที่ฉันรู้มาเธอไปกับผู้ชาย ไปโรงแรมไหนมาบอกมาเดี๋ยวนี้”

“คุณหมอคะ ดาไม่มี!” ลมมะณีตกใจรีบส่ายหน้า โรงแรมที่ไหน เอาอะไรมาพูด

“อย่าให้รู้ว่าไปนอนร้องครวญคราง ทำเรื่องอย่างว่ากับใครมา ไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแน่ๆ”

หน้าแดงก่ำ…ทำไมเขาพูดเสียงดังแบบนี้ เท่านี้เธอก็อายเด็กในบ้านมากเกินพอแล้ว เขาอยากให้คนอื่นๆ หัวเราะเยาะเธอไปถึงไหน

“ดาเปล่าทำซะหน่อยนะคะ” เธอยังพึมพำ

“กลับมาเพลีย ตาลอยขนาดนี้เชื่อยาก ทำงานเสร็จขึ้นไปหาฉันบนห้องด้วย”

“ดาอยากพักค่ะ” ง่วงเต็มที ร่างกายเธอรองรับอารมณ์เขาไม่ไหวอีกแล้วในวันนี้

“จากวันนั้นจนวันนี้ เธอพักได้เมื่อไม่มีลมหายใจ เหมือนน้องสาวฉันไงกำลังพัก หรืออยากพักแบบนั้นฉันจะจัดให้ ฉันทำได้นะ เธอก็รู้หมออย่างฉันเลือดเย็นขนาดไหน กรีดเนื้อหนังคนถลกฉันสามารถนะ”

“เรื่องตายของคนอื่นไม่น่ากลัวสำหรับคุณหมอสินะ พูดบ่อยจัง…”

คนฟังรู้สึกเบื่อ ช่วงนี้เธอชอบพึมพำคนเดียวแต่เขาก็ได้ยินทุกครั้งและแน่นอนร่างใหญ่ปรี่เข้ามาหาดึงร่างเธอให้ลุกขึ้น แจกันลายครามที่กอดแน่นโดนดึงออกไป ลมมะณียืนตัวแข็ง ดวงตามองจ้องขอความเห็นใจ

“ขอโทษค่ะแต่อยากขอพักแค่สองชั่วโมงก็ได้ …”

มือใหญ่เหวี่ยงร่างบางจนเซไปที่ตู้โชว์ไม้สักขนาดใหญ่ มือบางกุมมันไว้เป็นที่พักพิง สายตาดุไม่มองเธออีกแล้ว ลมมะณีหายง่วง น้ำตาไหลซึมออกมาแต่เธอป้ายมันทิ้ง

“งานตรงนี้ให้เวลาครึ่งชั่วโมงและขึ้นไปหาฉัน” ร่างใหญ่เดินขึ้นบันไดไป คนด้านหลังเหลือบมองงานอีกหลายชิ้นที่รออยู่ ป้ายน้ำตาอีกครั้ง รีบเร่งงานให้ทันเวลาที่กำหนด

เอาแต่ใจตัวเอง อะไรของหมอเนี่ย…

อาเธอร์นั่งลงบนโซฟาในห้องนอนกว้าง รู้สึกหดหู่ใจทุกครั้งเมื่อมาอยู่คนเดียว การทำงานฆ่าเวลาดีที่สุดสำหรับตน แต่วันนี้รู้สึกเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้อยากพักเรื่องงานที่โรงพยาบาลสักเดือน ไปผ่อนคลายความเครียดบ้างทว่าคนไข้ที่รอคิวผ่าตัดมีอีกหลายราย จะมอบให้หมอคนอื่นๆ ดูแลแทนก็ไม่ใช่วิสัยของเขา ถ้ามีเหตุจำเป็นจริงๆ ถึงจะทำ

เมื่อเช้าเข้าไปหาน้องสาวและคู่หมั้นอาการคนทั้งสองยังไม่ดีขึ้น ยังนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา หมอที่แสนเข้มแข็ง เห็นการพรากจากมามากมายก้มหน้าใช้สองมือบีบขมับ

ถ้าวันนั้นเขาไม่ขัดใจน้องสาว คงไม่เกิดเรื่องราวเศร้าโศกนี้ขึ้นมา ถ้าให้ผู้ชายคนนั้นตายไปก่อนหน้านั้น น้องสาวและว่าที่เจ้าสาวคงไม่นอนเป็นผักแบบนี้

อารมณ์ปวดร้าวเก็บซ่อนไม่ได้ สองมือกวาดแก้วน้ำ เหยือกน้ำบนโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์

ปัง! แก้วน้ำกระทบพื้น ผนังห้อง แตกกระจาย

แม่กับพ่อคงด่าทอ ท่านคงไม่มีความสุขแม้สักนาทีเพราะตนดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวไม่ได้ ผู้ชายที่ดูภายนอกเข้มแข็งดุจหินผาน้ำตาตกใน จมในม่านหมอกของความเศร้าสลด

อีกไม่กี่เดือนน้องสาวจะเรียนจบ กำลังจะมีการเฉลิมฉลองที่คฤหาสน์คณิสรก่อนม่านมุกจะส่งไปเรียนต่อ แต่กลับจับได้ว่าไอ้วีระเดชลูกชายแม่บ้านเก่าแก่แอบคบน้องสาวตน

กล้าลองดีกับมันเลยได้ลิ้มรสความหาญกล้านั้น ที่ผ่านมามันอยู่สุขสบายมานานเกินไป ยังจำคำที่พ่อเคยฝากฝังไว้ได้ ชื่อนายวีระเดชและน้องสาวติดหูกว่าคนอื่นไม่ได้พูดคุยสนิทเขาไม่เคยลืม แต่ตอนนั้นอยากฆ่ามันให้แหลกคามือ แต่ทำได้คือซ้อมปางตายจับขังในห้องใต้ดิน

กำลังจะส่งตัวมันไปอยู่ไกลหูไกลตาน้องสาวก็กลับมาโดยไม่บอกไม่กล่าว อาการที่น้องสาวแสดงว่าแคร์ไอ้ผู้ชายคนนั้นมาก ทำให้เขาแค้นมากขึ้น ม่านมุกขอร้องให้ปล่อยมันไป

“น้องต้องไปเรียนต่อทันทีพี่จะไว้ชีวิตมัน” เขาต่อรอง ไม่อยากให้น้องสาวเสียอนาคตเพราะขี้ข้าในบ้าน ชีวิตม่านมุกยังต้องเจออะไรอีกมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel