ตอนที่ 6 ครอบครัว
ตอนที่ 6 ครอบครัว
เช้าวันรุ่งขึ้น
พราวมุกตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ วันนี้เธอตื่นแต่เช้าเตรียมตัวเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
"ตะวันตื่น...เช้าแล้ว" เธอได้ยินเสียงแม่ตื่นนานแล้ว เหมือนว่าท่านกำลังจะเตรียมตัวทำกับข้าวอยู่ในครัวที่ชั้นล่าง ซึ่งเธออยากลงไปช่วยแม่ทำกับข้าวแต่ไม่กล้า เพราะความที่เธอทำอะไรไม่เป็นเลย จึงอยากให้เพื่อนไปช่วยเปิดทางให้
"เฮ้ย...ทำไมวันนี้แกตื่นเช้าจังวะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเนี่ย" ฝ่ามือเรียวสวยยกขึ้นแตะหน้าผากเพื่อนเบาๆ ตะวันรู้สึกแปลกใจปกติพราวมุกจะชอบตื่นสายแถมยังนอนขี้เซาแต่วันนี้กลับตื่นแต่เช้า
"เปล่า...ฉันอยากลงไปช่วยแม่ทำกับข้าว"
"แกทำเป็นเหรอ"
"หึ...ไม่เป็น" พราวมุกส่ายหน้าให้เพื่อน
"ก็ฉันอยากหัดทำไง แกพาไปหน่อยสิ" ตะวันพยักหน้าเข้าใจ
"แกอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเหรอเนี่ย โอ้โหเตรียมตัวพร้อมมาก แป๊บนึงๆ" ตะวันลุกขึ้นจากที่นอน เธอหยิบอุปกรณ์แล้วเดินออกจากห้องนอนไปเข้าห้องน้ำ
สักพักตะวันก็กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง เธอแต่งตัวจนเสร็จจากนั้นจึงพาเพื่อนเดินลงชั้นล่างไปช่วยแม่ทำกับข้าว เพื่อหาประสบการณ์การทำกับข้าวจากแม่ของเธอนี่แหละ
"แม่คะ หนูพาเพื่อนมาช่วยทำกับข้าวค่ะ" เสียงของตะวันเอ่ยบอกแม่ของเธอด้วยรอยยิ้ม ส่วนตัวของตะวันเองทำกินเองพอได้ แต่คงไม่เหมาะถ้าจะให้คนอื่นกินด้วย เอาเป็นว่าทำได้แต่ไม่ค่อยอร่อย แต่ถ้าได้ทำบ่อยๆฝีมือก็คงจะดีขึ้น
"ไม่ต้องหรอกลูก อาหารบ้านแม่มุกคงทำไม่เป็นหรอก" แม่หันมายิ้มให้พราวมุก แค่มีน้ำใจช่วย แม่ก็ดีใจแล้ว
"แม่คะ ไม่ว่าจะอาหารบ้านมันหรืออาหารบ้านเรา มันก็ทำไม่เป็นทั้งนั้นแหละค่ะ มันอยากหัดทำ" ตะวันช่วยอธิบายให้แม่เข้าใจ
"อยากหัดเหรอลูก" แม่ก็คิดว่าพราวมุกอยากจะโชว์ฝีมือซะอีก
"ค่ะ หนูอยากหัดทำกับข้าว แม่ช่วยสอนให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ" ความตั้งใจของเธอมาเต็มร้อย อยากจะลบคำดูถูกของพี่ชายตัวเองให้สิ้น
"ได้ลูกได้ ช่วงแรกๆเป็นลูกมือมองๆช่วยแม่ไปก่อนเป็นไง"
"ได้ค่ะ หนูทำอะไรดีคะ" คนไม่เคยเข้าครัวเลย แม้แต่หยิบจับแค่ของง่ายๆก็ดูเก้ๆกังๆไปหมด
"หั่นผักให้แม่แล้วกัน" ง่ายที่สุดแล้ว! ส่วนตะวันเธอเดินไปช่วยแม่ของเธอเก็บล้าง
"หั่นยังไงคะ" ห๊า...หั่นผักก็ยังไม่เป็น
"หั่นแบบนี้ลูก" แม่ลองหั่นให้มุกดูเป็นตัวอย่าง เป็นจังหวะที่เฮียกล้าเดินผ่านมาเห็นและได้ยินเข้าพอดี เขาแอบอมยิ้มไม่ได้ว่าอะไร ตั้งใจเดินมาเรียกตะวันเฉยๆ
"ตะวันน้องรัก..."
"อ้าวเฮียตื่นแล้วเหรอ"
"ไม่ต้องมาทำเป็นเนียน ไปช่วยเฮียขนของลงจากรถเดี๋ยวนี้" โธ่...นึกว่าเรื่องอะไร ยืนกอดอกพิงประตูห้องครัวนึกว่าเท่นักหรือไง!...ตะวันคิดในใจ
"รับทราบค่ะ..." จานชามที่ตะวันกำลังจะลงมือล้างจึงถูกปล่อยเอาไว้ก่อน
ส่วนพราวมุก บนหลังรถก็มีของของเธออยู่ด้วยเช่นกัน เธอต้องไปช่วยขนของพวกนั้นลงจากรถก่อน เธอทำท่าจะลุกตามเพื่อนออกไป แต่!!
"มุกอยู่ทำกับข้าวเถอะ ของมุกพี่ขนลงมาให้หมดแล้วเหลือแต่ของไอ้ตะวัน" ตะวันได้ยินแบบนี้เธอก็ทำหน้าไม่พอใจพี่ชายของเธอทันที
"ชิ!! คนใจดำ คนไม่มีน้ำใจ...แล้วบอกว่าไม่ชอบๆ ดูการกระทำของตัวเองก่อนเถอะ สองมาตรฐานชัดๆ" ตะวันเดินไปบ่นไปท่าทางหัวเสีย แต่พอเดินมาถึงที่รถปรากฏว่าเฮียกล้าขนของลงมาให้หมดแล้ว เขาแค่แกล้งยัยน้องสาวของเขาเล่นเท่านั้น
"ไหนล่ะ" ของด้านบนหลังรถไม่มีแล้ว ตั้งใจว่าพี่ซะเยอะเลย
"เมื่อกี้ใครนะว่าเฮียใจดำ และไม่มีน้ำใจด้วย"
"เฮียอยากแกล้งทำไมล่ะ ขอโทษค่ะ...อย่าบอกนะว่าที่เรียกมาเนี่ยเฮียอยากคุยกับหนูตามลำพัง"
"อือ..." เขาพยักหน้า
"คุยอะไร ว่ามาดิ"
"จะออกไปทำงานกับเฮียวันนี้เลยหรือเปล่า"
"นั่นแน่...เฮียก็ไปถามเพื่อนหนูดูสิ จะมาถามหนูได้ยังไง"
"เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าแสนรู้ให้มันมากนัก แกต้องไปด้วยจะให้มุกไปกับเฮียสองคนได้ยังไง เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็เข้าใจผิดหมด"
"เฮียไม่ชอบเพื่อนหนูจริงๆเหรอ"
"ตะวัน!" เฮียกล้ากำลังจะอ้าปากบ่นน้องสาว แต่เป็นจังหวะที่เฮียสิงห์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านพอดี ตะวันจึงวิ่งไปหาเฮียสิงห์โดยที่ไม่ได้สนใจเฮียกล้าอีก
"เฮียสิงห์มาแล้ว..."
"มีอะไรตะวัน เห็นหน้าเฮียดีใจขนาดนี้เชียว"
"เรื่องที่เราคุยกันไว้เมื่อวานไง"
"ตะวัน...ให้มันน้อยๆหน่อยนะ" เสียงเฮียกล้าบ่นตามหลังน้องสาวออกไป ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจว่าตะวันกับเฮียสิงห์จะคุยอะไรกัน เขาเดินกลับเข้ามาในห้องครัวอีกครั้ง
"มุก...วันนี้ไปทำงานกับเฮียเลยมั้ย"
"ไปค่ะ ไปวันนี้เลย" เสียงหวานๆอมยิ้มตอบ สีหน้าของเธอดูตื่นเต้นมากอย่างกับเด็กกำลังจะได้ไปเที่ยวสวนสนุก
"มีเสื้อแขนยาวมั้ย อาจจะต้องออกแดดด้วยนะ"
"เสื้อแขนยาวมีค่ะ แต่เป็นเสื้อกันหนาว" ที่นี่ไม่มีฤดูหนาว คงไม่เหมือนกับบ้านของเธอ
"ถ้างั้นเดี๋ยวเฮียหาหมวกหาเสื้อให้"
"กล้าจะให้น้องไปทำงานตรงไหน"
"วันนี้ผมว่าจะให้ตะวันมันพามุกเดินดูอุปกรณ์ในร้านไปก่อน ก่อนที่จะขายเราจะต้องรู้จักสินค้าในร้านให้ได้ก่อน" ไม่จำเป็นต้องรู้จักหมดก็ได้
"ยากมั้ยคะ"
"ไม่ยากหรอก ถ้าตั้งใจ แต่ของบางอย่างมันก็อยู่กลางแจ้งบ้าง อยู่ในโกดังบ้าง ต้องเดินดูวันนี้ทั้งวันก็ไม่รู้จะดูหมดหรือเปล่า"
"หนูจะตั้งใจทำงานค่ะ"
"ดีมาก..." เฮียกล้าเดินไปช่วยแม่ล้างจานแทนยัยน้องสาวที่ตอนนี้น่าจะกำลังซุบซิบอยู่กับเฮียสิงห์
"เฮียกล้าคะ หนูไม่เอาค่าแรงได้มั้ยคะ ขอเป็นค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ แค่นี้ก็พอแล้ว" เธอหมายถึงอยู่ก็อยู่ฟรีแล้ว กินก็ฟรีอีก ขอทำงานแลกข้าวแล้วกัน
"รับเอาไว้เถอะ งานไม่ได้สบายอย่างที่คิด ส่วนค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ คิดซะว่าเป็นสวัสดิการก็แล้วกันไม่ต้องคิดมาก"
"แต่ว่า..." พราวมุกกลัวว่าตัวเองจะทำงานไม่คุ้มกับค่าแรงที่เขาจะจ่ายให้น่ะสิ
"ยัยหนูมุกเชื่อพี่เขาเถอะ ไม่ต้องเกรงใจพี่เขาหรอก ส่งผักที่หั่นแล้วมาให้แม่" พราวมุกส่งจานผักที่หั่นแล้วให้แม่ ท่านหันไปผัดผักอยู่ที่หน้าเตา ส่วนเฮียกล้าก็ช่วยแม่ล้างจานไปจนเสร็จ
ทางด้านตะวันกับเฮียสิงห์ พี่ชายกับน้องสาวที่กำลังคุยกัน
"มีอะไรให้เฮียช่วยก็ว่ามา"
"เอาหูมา..." สองพี่น้องทำท่ากระซิบกระซาบกันใหญ่ ในขณะที่เฮียผาเดินเข้ามาพอดี แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เดินผ่านไปเหมือนไม่เห็นอะไร เพราะทุกๆเช้าลูกชายบ้านนี้จะต้องมากินข้าวเช้าที่นี่เป็นเพื่อนแม่ทุกวันเป็นประจำ
"โถ่เรื่องแค่นี้เอง..." เรื่องที่น้องขอ เฮียสิงห์ไม่มีปัญหา เขาช่วยได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ตะวันอยากได้ เฮียสิงห์อยากให้ตะวันคิดให้ดีๆก่อน
"ตะวัน...เฮียมีคำถาม" สีหน้าของเฮียสิงห์ค่อนข้างหนักใจ
"ถามอะไรคะ"
"ตะวันรักเพื่อนคนนี้มากมั้ย"
"รักสิอยู่ด้วยกันมาตั้งสี่ปีเต็ม มุกเป็นผู้หญิงอ่อนหวานน่ารัก จริงๆนะ" ตะวันยืนยัน
"เรื่องนั้นเฮียรู้ แต่ที่เฮียถามเพราะเฮียกลัวว่าไอ้กล้ามันจะทำให้เพื่อนของเราเสียใจ ตะวันก็เห็น เฮียกล้าของตะวันเคยจริงจังกับใครที่ไหน หมาหยอกไก่ไปวันๆ ถ้ามันไม่จริงจังกับมุก ตะวันอาจจะเสียเพื่อนนะ อีกอย่างเพื่อนของเราถูกเลี้ยงมาในแบบคุณหนู อนาคตตะวันคิดว่าเพื่อนของตะวันคนนี้จะอยู่กับพวกเราได้มั้ย"
เฮียสิงห์พูดในฐานะพี่ชายคนหนึ่งอยากให้น้องสาวคิดให้ดีๆก่อน และพูดในฐานะที่เห็นพราวมุกเป็นน้องสาวด้วย ทุกเส้นทางของความรักมันย่อมมีอุปสรรคของมันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่ห่างกันมาก ระยะทาง การเลี้ยงดู และอะไรอีกหลายๆอย่าง ดูแล้วอาจจะไปกันไม่รอด
"ก็จริง...แต่หนูมองว่าความน่ารักของเพื่อนหนูน่าจะเอาเฮียกล้าอยู่ แล้วหนูก็คิดว่าเฮียกล้าคงไม่ทำร้ายเพื่อนหนู ขนาดนั้น..." ตะวันทำท่าคิดแล้วพูดต่อว่า...
"หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่เฮียกล้าไม่ยอมจีบเพื่อนหนูสักที ยุเท่าไหร่ก็ยุไม่ขึ้น"
"เฮียว่าน่าจะใช่นะ มันคงรู้ตัวมันแหละ เรื่องนี้ให้มันเป็นคนตัดสินใจเองเถอะ ถ้ามันจีบแสดงว่ามันจริงจัง แต่ถ้ามันไม่จีบก็แสดงว่ามันยังไม่มั่นใจตัวมันเอง"
"เสียดาย...เฮียเอามั้ย เพื่อนหนูน่ารักนะ"
"ไม่เอา...เฮียขี้เกียจเลี้ยงเด็ก แค่แกคนเดียวหัวเฮียก็ปวดวันเว้นวันแล้ว"
"แต่ยังไงเฮียต้องมาเอาหนูไปนะ" ก็เรื่องที่ตกลงกันเมื่อสักครู่นี่นั่นแหละ เปิดทางก่อนส่วนเฮียกล้าจะตัดสินใจยังไงก็สุดแล้วแต่
"ได้...สายๆหน่อยแล้วกัน จะได้เนียน" เพราะร้านขายวัสดุก่อสร้างของเฮียกล้า กับร้านขายอุปกรณ์การเกษตรของเฮียสิงห์อยู่ใกล้ๆกัน
"โอเคค่ะ"
"ว่าแต่เฮียสิงห์ของหนูไม่คิดจะมีใครบ้างเหรอคะ"
"ยังไม่ถูกใจ...แล้วเราล่ะ"
"หนูเคยชอบผู้ชายคนหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่แต่ไม่เคยเจอเขามานานมากแล้ว"
"คนที่นี่เหรอ"
"แถวๆนี้แหละ" ตอบพี่ชายเขินๆ
"มีเมียไปแล้วมั้ง"
"หนูก็ว่าอย่างนั้น"
"ใคร..."
"ไม่บอก!" และแล้วตะวันก็ลุกเดินหนีพี่ชายเข้าบ้านไป เรื่องอะไรจะอยู่ให้ถาม!
"อ้าว...ไอ้นี่ มาคุยกันก่อนสิ ไอ้ตะวันตัวแสบ!"
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันอิ่มแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนแม่รำเพยช่วงเวลาว่างๆท่านก็ไม่ได้อยู่เฉย ปลูกพริกปลูกผักกินเองอยู่ทางด้านหลังบ้าน ตามประสาคนหยุดไม่ได้ ถึงแม้ว่าลูกๆของท่านบอกให้พักผ่อน แต่ท่านก็ยังดื้อที่จะทำ บอกว่าอยากกินผักปลอดสารพิษ ลูกๆทุกคนจึงปล่อยให้ท่านทำไป
