ตอนที่ 5
ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร รู้สึกยินดีที่จะได้เห็นธาวินเป็นฝั่งเป็นฝา คุณภารดี ภูริตา คุณวิศาล เพ็ญเพียร และธาวินพูดคุยกันอย่างออกรส พร้อมกับรับประทานอาหารไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
มุกเรียงพูดน้อย ไม่ค่อยจ้อเหมือนเวลาไปที่บ้านของคุณปู่ และตลอดเวลาที่กินข้าวด้วยกัน คุณกมลก็พูดจาแขวะคนนั้นนิดคนนี้หน่อยตามนิสัยที่เป็นคนปากไม่ดี แต่ทุกคนคิดว่าคุณกมลพูดเล่นสนุกสนานเท่านั้น
“ไม่เปลี่ยนใจแน่หรือหนูมุก” คุณปู่เอ่ยถามหลังจากรับประทานของหวานกันแล้ว
“เรื่องอะไรครับคุณพ่อที่ว่าเปลี่ยนใจ” คุณกมลแทรกขึ้นมา มีความหวัง ท่านคิดว่ามุกเรียงอาจจะคุยกับคุณวิศาลเรื่องที่เธอจะยกเลิกการแต่งงาน รอยยิ้มฉายชัดบนใบหน้าของคุณกมล เขาลุ้นในสิ่งที่เธอกำลังพูดมันออกมา
“หนุ่มสาวสองคนนี้ เขามาบอกกับฉันว่า เขาจะจดทะเบียนกันก็พอ และนับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป หลังกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ฉันจะส่งหลานของฉันสองคนเข้าหอ” คำตอบของคุณวิศาล ทำให้หน้าที่ยิ้มของคุณกมลเมื่อกี้หุบลงไปทันที
“หา! มิน่า ทุกคนถึงได้พลอยตื่นเต้นทำเหมือนมื้อเย็นมื้อนี้เป็นมื้อที่พิเศษที่สุด แหม... แล้วทำไมไม่มีใครปริปากบอกผมกันสักคน เห็นผมนั่งหัวหงอกหัวดำอยู่ตรงนี้กันไหม” เขาลั่นปากพูดคำที่ขัดหูดังขึ้นมาอีก และทำเสียงฟึดฟัดออกมาจากจมูก
“ก็อยากให้คุณพ่อประหลาดใจไงคะ” ภูริตายิ้มหวาน แต่ผู้เป็นพ่อกับนั่งหน้างอไม่พอใจ
“พรุ่งนี้ฤกษ์ดีเวลาสิบโมงเก้านาที ภาโทร. ไปนัดกับท่านนายอำเภอให้ทั้งคู่แล้วว่า จะพาลูกสองคนไปจดทะเบียนสมรสกัน” คุณภารดีออกอาการดีใจทั้งสีหน้าและแววตาที่จะได้ลูกสะใภ้
คุณกมลฟังแล้วก็ขัดใจ มองใบหน้ามุกเรียงแบบคาดโทษ เขาไม่ยินดีอะไรกับใครทั้งนั้น ยกน้ำขึ้นดื่มอึก ๆ เหมือนกำลังจะให้น้ำเย็น ๆ นั้นดับความร้อนรุ่มที่อยู่ภายในหัวใจ
“ตอนนี้ภาก็แก่แล้ว ภาอยากอุ้มหลาน อีกอย่างมัดหมี่ก็ไม่ยอมหาแฟนให้ตัวเองสักที เหมือนมาร์ชถ้าคุณปู่ไม่หามาให้ ก็คงหลบหลีกที่จะหาสาว ๆ เพราะไม่ใช่นิสัยของมาร์ช”
ธาวินยิ้ม ดีใจที่คุณแม่การันตีให้เขาแบบนี้ มุกเรียงจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ประตูดิน และไม่นิยมมีสาว ๆ มากหน้าหลายตา
“เฮ้อ... เมียก็ต้องให้ปู่หาให้ มันใช่เหรอ” คำหยัน ๆ ดังขึ้นอีกครา
“ผมรักมุกครับ และผมก็มั่นใจว่ามุกก็รักผม เราสองคนแต่งงานกันเพราะความรัก ถึงแม้ว่า ความรักของเราสองคนเริ่มต้นมาจากคุณปู่แนะนำก็จริง แต่ผมมั่นใจว่า ผมรักมุก และผมได้เลือกเธอให้มาเป็นแม่ของลูกของผมแล้วครับ”
สีหน้าของธาวินเบิกบานหัวใจพองโต เขาจับกระชับมือของมุกเรียงแล้วบีบตามจังหวะเสียงของหัวใจตัวเอง
มุกเรียงยิ้มหวาน ๆ ตอบให้กับธาวิน
“จะดีหรือ หนูมุกก็เป็นถึงอาจงอาจารย์ ไม่จัดงานแต่งงาน คนเขาจะนินทาเอาได้นะ หาว่าไม่มีปัญญา แล้วอีกอย่าง...”
คุณกมลกำลังจะร่ายยาว คุณวิศาลดักคอลูกชาย
“อ้าว... ไม่ดีกับแกหรือ ที่แกจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพื่อจัดงานแต่ง กลัวนักไม่ใช่หรือว่าจะต้องใช้เงินเยอะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เงินของแก”
“หึ” คุณกมลทำเสียงออกมาจากจมูก เขากำลังถูกคนทั้งบ้านรุม จะแสดงอาการขัดใจมากกว่านี้ก็แสดงออกมาไม่ได้ เพราะในขณะนี้คุณวิศาลใหญ่สุด
“มุกเอาเสื้อผ้ามาหมดแล้วครับคุณปู่” ธาวินพูด พลางจ้องมองใบหน้ากับจับมือมุกเรียงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เขาดีใจเช่นกันที่มุกเรียงตัดสินใจเช่นนี้ คนที่ชอบความเรียบง่ายอย่างธาวินก็คิดแบบเดียวกับเธอ
“ถ้าเป็นสมัยก่อน แถวบ้านนอกก็ต้องพากันนินทาว่า หนีตามกันมา หนูมุกก็จะโดนข้อหา บ้าผัวหอบผ้าหนีตามกัน น่าอายชะมัดเลย” คำกระแนะกระแหน
“คุณพี่คะ” ภารดีหันไปมองหน้าสามีพร้อมส่งสายตาปราม
“นี่มันยุคไหนแล้วคะคุณพ่อ” ภูริตาผสมโรงไปอีกคน
“คนปากไม่ดี มันก็แบบนี้แหละยายหมี่เอ๊ย แม่ภาก็เหมือนกัน แม่ลูกคู่นี้ยังไม่ชินกับนิสัยของพ่อแกอีกหรือ ที่ชอบขัดไปซะทุกเรื่องน่ะ” พ่อสามีหันไปพูดกับลูกสะใภ้ คนที่โดนว่าถึงกับหน้าเสียและรู้สึกหัวร้อนขึ้นไปอีก
“จิ๋มเติมน้ำเย็นให้ฉันอีกสิ” เขาหันไปตวาดคนรับใช้ จิ๋มกระวีกระวาดเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำของคุณกมล
“เรื่องแต่งงานมันแค่เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตของเราสองคนเท่านั้นค่ะ มุกถือว่าแค่ครอบครัวของพี่มาร์ชให้เกียรติมุกที่สุดแล้วที่ร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมยินดีกับมุกและพี่มาร์ช เพียงเท่านี้ มุกก็พอใจแล้วค่ะ ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดงานแต่งงานอะไรให้ใหญ่โต งานแต่งงานที่ใหญ่โตก็ไม่ได้รับประกันว่า คนสองคนที่ตกลงใจแต่งงานกัน จะอยู่กันรอดนะคะ มันมีปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่างค่ะที่จะทำให้คนเราอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ ดาราบางคนจัดงานเสียใหญ่โต ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อยู่กันหม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิกกันแล้ว” ภูริตาส่งเสริมคำพูดของมุกเรียง
“ใช่ มันมีปัจจัยหลายอย่าง ข้อตกลงของคนสองคนเท่านั้น” คุณกมลพูดดี แต่สายตาส่งไปถึงมุกเรียง เขายิ้มให้แบบร้าย ๆ เหมือนต้องการสื่อสารกับมุกเรียงว่าเธอกำลังเล่นอยู่กับใคร ระวังตัวเอาไว้ให้ดี
แววตากล้าและมุ่งมั่นของมุกเรียงจ้องสบกับคุณกมลอย่างไม่กริ่งเกรง ทำให้คุณกมลรู้ว่าที่มุกเรียงตัดสินใจแต่งงานกับธาวินและขนเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี่วันนี้ เพราะหญิงสาวกำลังประกาศสงครามท้าทายเขา แสดงว่ามุกเรียงยอมรับข้อเสนอที่เขายื่นให้กับเธอ ‘เธอกับฉันเราต้องได้เห็นดีกันแน่ อย่าคิดว่าถ้าเธอไม่ท้องฉันจะยอม คอยดูก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะร่างสัญญาส่งไปให้เธอทางอีเมล’ คุณกมลได้แต่คิด
“อย่าลืมรีบทำหลานให้แม่ของเราให้ได้ภายในปีนี้ก็แล้วกัน” เขาย้ำกับธาวิน แต่สายตามองตรงไปที่มุกเรียง
“ใช่ ๆ แม่อยากอุ้มหลาน หนูมุกไม่ต้องคุมอะไรทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ”
“ถ้าเป็นหลานสาวคงสวยน่ารัก ออกมาหน้าตาแบ๊ว ๆ นะคะ เหมือนมุกเรียง ถ้าเป็นเด็กผู้ชายได้จมูกเหมือนคุณปู่ก็คงเจ๋งไปเลย” ภูริตาสนับสนุนคำพูดของคุณแม่
“น้าขอเลี้ยงนะคะ” เพ็ญเพียรรีบยกมือ
“ให้ช่วยกันเลี้ยงทุกคนเลยครับ” ธาวินรู้สึกดี มุกเรียงคือคนที่เข้ามาเติมเต็มความสุขในหัวใจของเขาได้จริง ๆ แค่คิดว่าจะมีลูกด้วยกันก็อิ่มอุ่นไปทั้งดวงใจแล้ว
คุณกมลลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะอาหาร
“อ้าว... นั่นแกจะไปไหน” คุณวิศาลถามลูกชาย
“กินอิ่มกันแล้ว ก็ต้องไปยืดเส้นยืดสาย จะให้นั่งจุมปุ๊กอยู่กันตรงนี้หรือไงครับ”
ทั้งพ่อ ภรรยา ลูกสาว และเพ็ญเพียรต่างมองคุณกมลและพากันส่ายหน้า
“อย่าไปถือสาคุณพ่อนะจ๊ะหนูมุก คุณพ่อเป็นคนแสดงออกไม่ค่อยเก่ง จริง ๆ คุณพ่อดีใจด้วยซ้ำที่เห็นมาร์ชได้แต่งงาน เอ่ยปากบ่นกับแม่เหมือนกันว่า อยากมีหลาน” คุณภารดีแก้ต่างให้สามี
“เหรอ แสดงออกไม่ค่อยเก่งจริง ๆ ซะด้วย” ผู้เป็นพ่อพูดหยัน ๆ ส่งเสียงตามหลังลูกชายที่กำลังเดินพ้นประตูออกไป
“คุณปู่คะ ได้ฤกษ์ส่งเข้าหอกี่โมงคะ” จิ๋มโพล่งถามขึ้น
“เอาให้ไวที่สุดใช่ไหมมาร์ช” ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม หันมามองหน้าของเจ้าบ่าวเจ้าสาวหมาด ๆ ที่เพิ่งตกลงใจอยู่ด้วยกัน ธาวินและมุกเรียงนั่งหน้าแดงด้วยกันทั้งคู่
“สามทุ่ม” คุณปู่บอกเอง
คุณภารดีลุกขึ้นเดินมาจับมือมุกเรียง ภูริตาก็เดินเข้ามาหาเธอด้วยอีกคน
“แม่ว่า หนูมุกไปที่ห้องแม่ก่อนดีกว่า แม่มีของจะให้ลูกจ้ะ”
“พี่ก็มีของจะให้มุกเหมือนกัน” มุกเรียงดีใจที่ทั้งคุณแม่และพี่สาวของธาวินดีกับเธอ แต่ก็ยังหนักใจกับอุปสรรคชิ้นใหญ่ ก้างชิ้นโต อย่างคุณลุงกมล มุกเรียงเชื่อในความดีของตัวเอง สักวันคุณลุงกมลคงเปลี่ยนใจได้ในที่สุด เธอเชื่อมั่นแบบนั้น
เวลา 21.00 น.
“อ้าว... คุณพี่คะ ทำไมเปลี่ยนชุดนอนไวจัง” ภารดีเดินเข้าไปเขย่าตัวของสามีที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง พอเห็นหน้าของภรรยา คุณกมลก็หันหลังให้
“ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ พอไม่ได้อะไรดั่งใจก็ทำเป็นงอน คุณพ่อให้ภามาตามคุณพี่ค่ะ” เธอเดินไปทางที่สามีหันหน้าหนี พอเห็นหน้าเธอ ก็รีบหมุนตัวหันไปอีกทาง
“คุณพ่อยื่นคำขาด ถ้าคุณไม่ไปที่ห้องนอนของตามาร์ชเดี๋ยวนี้ ปีนี้ท่านจะไม่ให้เงินคุณพี่สักกะแดงเดียว”
“ตั้งสิบล้าน” เขาตะโกนลั่น รีบลนลานลงจากเตียง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเดินนำหน้าภรรยาฉับ ๆ ยอมทำตามที่คุณวิศาลสั่งแบบไม่ลังเล ภารดีได้แต่ส่ายหน้า เพราะคุณกมลเป็นแบบนี้ ทำให้เธอต้องห่างไกลจากลูกชายคนโต ‘มารุต’ ภารดีได้แต่ถอนหายใจ เดินตามหลังสามีเข้าไปในห้องนอนของบุตรชายคนเล็ก
