บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

ที่บ้านคุณปู่วิศาล หลังจากที่ท่านได้คุยกับธาวินหลานชายคนเล็กเรื่องการแต่งงานระหว่างธาวินกับมุกเรียง สายตาและท่าทางของคุณปู่มองชายหนุ่มอย่างลุ้น ๆ

“เป็นไงตามาร์ช แกจะตกลงตามที่ปู่ร้องขอไหม”

ธาวินมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจน คุณปู่ถึงกับยิ้มไม่หุบที่หลานชายคนเล็กของเขาชอบและถูกใจมุกเรียง ท่านถึงกลับตบหัวเข่าดังฉาด

“รู้ไหมว่าปู่ลุ้นใจแทบขาด กลัวมาร์ชจะปฏิเสธ”

ธาวินหันหน้าไปมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวซึ่งกำลังตั้งใจจัดอาหารลงบนโต๊ะ

เพ็ญเพียรคนรับใช้และเป็นญาติของคุณวิศาลคนหนึ่งเดินมาเรียกทั้งคู่

“คุณปู่คะ คุณมาร์ชคะ เชิญที่โต๊ะอาหารค่ะ วันนี้คุณมุกลงมือทำอาหารเอง เพียรได้ชิมแล้วนะคะ บอกได้เลยว่าฝีมือของคุณมุกสุดยอดจริง ๆ มีรสมือที่ดีมาก เพียรอยากให้ทั้งคุณปู่และคุณมาร์ชลองชิมฝีมือของเธอค่ะ”

“อร่อยจริง ๆ หรือครับน้าเพ็ญเพียร” ธาวินถาม

คุณวิศาลยิ้มพราว คิดแต่เพียงว่าท่านเลือกคู่ครองให้หลานชายได้แบบไม่ผิดหวังแน่ ๆ

“จริงค่ะคุณมาร์ช รู้ไหมคะ นอกจากครูมุกจะเก่งในเรื่องการงาน เธอจะเป็นถึงรองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้ว ยังเก่งทั้งงานในบ้านอีก จะหาผู้หญิงครบเครื่องแบบนี้ได้ที่ไหนคะ เพ็ญเพียรว่า เธอเหมาะสมกับคุณมาร์ชมากจริง ๆ ค่ะ”

เพ็ญเพียรพลอยดีใจและยินดีไปกับชายหนุ่มด้วย หากว่าเขาตกลงใจที่จะแต่งงานกับมุกเรียง ถือได้ว่าทั้งคู่จะเป็นคู่ครองที่เหมาะสมกันมากที่สุด

“แล้วความสวยของคุณมุกก็ไม่เป็นสองรองใครเลยใช่ไหมคะ” เพ็ญเพียรยังชมเธอไม่ขาดปาก

“สวยครับ” ธาวินตอบออกมาด้วยใจจริง สายตาของเขามองตามหญิงสาวที่เยื้องย่างจัดวางของอยู่บนโต๊ะกินข้าว

คุณปู่หันมาขยิบตาให้หลานชาย “ไปสิ ไปกินข้าวกัน” ธาวินลุกขึ้นมาช่วยประคองคุณปู่

มุกเรียงกำลังวางจานใบสุดท้ายที่ใส่เครื่องเคียงของน้ำพริกลงเรือลงบนโต๊ะ หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับคุณปู่และธาวิน เธอยังเดินเข้ามาขยับเก้าอี้ให้คุณปู่นั่งด้วย

ธาวินละสายตาจากใบหน้าของหญิงสาวไม่ได้เลย เขาส่งยิ้มหวาน ๆ ให้เธอตลอดเวลา มุกเรียงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงข้ามกันกับเขา

“อะแฮ่ม พี่มาร์ชจะมองหน้ามุกแบบนี้ไปอีกนานไหมคะ” พูดพลางออกอาการหัวเราะนิด ๆ

คุณปู่และเพ็ญเพียรมองหน้ากันแล้วยิ้มไม่หุบ ต่างมีอาการลุ้น เมื่อเห็นทั้งคู่สบสายตากันแบบแปลกไป ดูเหมือนหนุ่มกำลังจีบสาว และสาวกำลังจีบหนุ่ม

“พี่มาร์ชลองชิมอาหารฝีมือของมุกสิคะ” เธอเอ่ยปากกับเขา นั่งทำหน้าแดงอยู่ตอนนี้ พลางตักน้ำพริกที่รสชาติร้อนแรงลงไปในจานของธาวิน เพ็ญเพียรที่ตักกับข้าวให้คุณปู่อยู่ถึงกับออกอาการหัวเราะ ยิ่งเห็นคุณธาวินเขินเป็นครั้งแรก คุณปู่ก็พลอยทำหน้าระรื่นไปด้วย บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปด้วยความสนุกและเป็นกันเอง

หนุ่มสาวยังมีอาการเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเก้อเขิน เป็นเหมือนนัดบอดให้มารู้จักกัน ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่ก็คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เคยสนิทชิดเชื้อกันมาตั้งแต่หนหลัง มันเป็นการคุ้นเคยและเล่นด้วยกันแบบเด็ก ๆ เท่านั้น แต่ด้วยการเรียนและภาระหน้าที่ของแต่ละคนทำให้เหินห่างกัน ไม่ได้พบปะกันบ่อย ๆ เหมือนเดิม

เมื่อคุณปู่พยายามชักนำทั้งสองคนให้มาเจอกัน และเล่าเรื่องของแต่ละคนให้อีกฝ่ายฟัง เหมือนกล่อมให้ทั้งคู่เห็นความน่ารักสดใส และอยากให้ทั้งสองมาเจอกัน ลองเรียนรู้ ก่อนที่คุณปู่จะตบท้ายว่าอยากให้ธาวินกับมุกเรียงลงเอยกัน

เมื่อทั้งสองคนไม่ปฏิเสธ และต่างแสดงท่าทีว่าสนใจอีกฝ่าย การนัดกันกินข้าวในมื้อเย็นวันนี้จึงเกิดขึ้น

ผ่านไปเกือบสี่สิบนาที ระหว่างที่กินข้าวกันไป ได้ยินแต่เสียงของคุณปู่ และเพ็ญเพียรที่คุยกัน สองหนุ่มสาวได้แต่เงยหน้ามองสบตากันเป็นบางครั้ง ออกอาการเขินอายกันเสียมากกว่า

“เป็นยังไงคะ คุณมาร์ชกินไปตั้งสองจานใหญ่ ๆ แหนะ” เพ็ญเพียรถาม

“อร่อยมากครับ ไม่ได้กินอาหารอะไรอร่อยแบบนี้มาตั้งนานแล้ว” ปากตอบเพ็ญเพียร แต่สายตาจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาว

“ปากหวานเหมือนกันนะคะคุณมาร์ช”

มุกเรียงที่ได้รับคำชมได้แต่นั่งยิ้มหวานสบตากับเขา

ปู่วิศาลหายใจแบบโล่ง ๆ เรื่องที่ท่านรับปากกับปู่ทินกร คุณปู่ของมุกเรียงเอาไว้ ว่าหากมีลูกมีหลานจะให้เกี่ยวดองกันให้ได้ ตอนนี้เริ่มจะเข้าเค้าเป็นจริงขึ้นมา

“มาร์ชพาน้องมุกไปเดินเล่นให้อาหารย่อยในสวนไป” คุณปู่ให้ไอเดีย

“เอ่อ...ให้มุกจัดการความเรียบร้อยในครัวก่อนนะคะ พี่มาร์ชนั่งรอก่อนค่ะ”

“ไม่ต้องค่ะคุณมุก คุณมาร์ชค่ะรีบพากันไปเดินเล่นเถอะค่ะ แค่คุณมุกเป็นคนทำอาหารให้พวกเรากินวันนี้กันจนอิ่มก็โอเคแล้ว ที่เหลือให้น้าจัดการนะคะ”

เพ็ญเพียรรีบลุกขึ้น เลื่อนเก้าอี้ให้มุกเรียง พลางส่งสายตาและทำหน้าพยักพเยิดให้กับคุณธาวิน

“มันน่าจะไม่เหมาะนะคะเพ็ญเพียร ให้มุกช่วยทำเถอะค่ะ มุกว่า มุก... เอ่อ...”

“ไปเถอะค่ะ ไป เรื่องจานชามแค่นี้ มันเป็นหน้าที่ของเพ็ญเพียรที่ทำทุกวันอยู่แล้วค่ะ” เพ็ญเพียรไล่หลัง ผลักเธอเบา ๆ ก่อนจะจับมือของธาวินให้จับมือน้อย ๆ ของมุกเรียง หนุ่มสาวถึงกับออกอาการเขินหนักกับการกระทำของเพ็ญเพียร

คุณปู่วิศาลยกหน้าขึ้นมองสองหนุ่มสาว

“ถ้าหลานทั้งสองคนไม่ขัดข้อง อีกสองเดือนปู่จะจัดงานแต่งงานให้ นี่เป็นฤกษ์ที่เร็วที่สุดแล้ว”

“นั่นนะสิคะ คุณมาร์ชกับคุณมุกจะเขินกันทำไม มีเวลาให้เขินกันอีกไม่นานแล้ว” เมื่อโดนแซวทั้งคู่ก็แทบเดินขาขวิดออกไปด้านนอก ได้ยินเสียงหัวเราะของคุณปู่กับเพ็ญเพียรดังมาตามหลัง คงจะสมใจของคนทั้งคู่ที่ออกอาการลุ้นอย่างหนัก

ทั้งสองเดินลงไปจนถึงสวนด้านหลังบ้านของปู่วิศาล

“ปล่อยมือของมุกได้แล้วมั้งคะพี่มาร์ช” หญิงสาวยิ้มหวาน ธาวินรีบปล่อยมือของเธอ แล้วทำท่าเก้อ ๆ

“พี่มาร์ชไม่เคยมีแฟนหรือคะ จนถึงป่านนี้” มุกเรียงเอ่ยถามพร้อมกับส่งรอยยิ้มของเธอหวานจนจับใจไปให้ชายหนุ่ม

“ใครบอกมุกจ๊ะ”

“คุณปู่ค่ะ”

“ถ้าพี่บอกมุกว่า พี่ยังไม่เคยมีแฟน มุกจะเชื่อพี่ไหม”

ทั้งคู่เดินไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวน มองไปยังสวนดอกไม้ฝีมือการปลูกของเพ็ญเพียร

“ถ้าพี่มาร์ชอยากให้เชื่อ มุกก็จะเชื่อค่ะ แต่พี่มาร์ชออกจะเป็นคนหน้าตาดี ทั้งหล่อ ทั้งสมาร์ตขนาดนี้” เธอออกปากชมเขาไปตรง ๆ แต่เมื่อเห็นสายตาของธาวินที่จ้องสบก็ออกอาการเขินเสียเอง

“ตอนที่เรียนหนังสือ พี่คิดแค่ว่าต้องได้เกรดดี ๆ และต้องทำยังไงก็ได้ให้คุณพ่อของพี่ภูมิใจ พี่ดีใจทุกครั้งที่เห็นคุณพ่อยิ้ม แล้วก็เอ่ยปากชมพี่ และพี่ชอบนะที่คุณพ่อเอาเรื่องของพี่ไปอวดให้เพื่อน ๆ ของคุณพ่อฟัง แค่นี้พี่ก็มีความสุขแล้ว”

“พี่มาร์ชเรียนเก่งนี่คะ ไม่ต้องพยายามมากเหมือนมุก” เธอรู้ว่าเขามักติดท็อปของโรงเรียนเสมอ มีชื่อเสียงในโรงเรียนมากพอสมควร และยังเคยเป็นตัวแทนไปประกวดในงานวิชาการต่าง ๆ ทั้งใน และต่างประเทศ

“มุกก็เรียนจบและได้เกียรตินิยมไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้ก็นำหน้าพี่แล้วด้วย”

“มุกทำงานในสายนี้นี่คะ ก็เลยต้องไปให้สุด ๆ วุฒิการศึกษาก็เป็นแค่ใบประกาศให้คนรู้ว่า เรามีคำอะไรนำหน้าแค่นั้นค่ะ”

“มุกเก่งมากแล้วจ้ะ แล้วต่อไปมุกคิดว่าจะเรียนให้จบ ดร. เลยไหม”

“ไม่แล้วพี่มาร์ช แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ การเรียนหนัก ๆ บางครั้งก็ทำให้มุกเครียด”

ทั้งสองนิ่งเงียบ เหมือนกับหมดเรื่องคุย จู่ ๆ ธาวินก็ส่งมือมาจับมือของหญิงสาวแน่น เธอหันหน้าไปมองเขาทันที มุกเรียงได้เจอกับสายตาของธาวินจ้องสบตามาแบบมีนัย หญิงสาวใจเต้นแรงตุ๊บ ๆ

“พี่อยากให้มุกรู้จากปากของพี่ พี่ถามหัวใจตัวเองแล้ว พี่อยากแต่งงานกับมุกนะ นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกกับมุกวันนี้”

มุกเรียงถึงกับตกตะลึง คำสารภาพออกมาตรง ๆ ของเขาเล่นงานให้ร่างกายของเธอมีเลือดเดือดพล่าน ตื่นเต้นจนร่างกายสูบฉีดโลหิตไปทั่วใบหน้า จนใบหน้าของเธอร้อนออกมาผ่าว ๆ ร้อนจนถึงใบหู

ธาวินอมยิ้มที่เห็นอาการกระดากอายของมุกเรียงได้อย่างชัดเจน เขาบีบกระชับมือของเธอให้แน่นกว่าเดิม

“พี่เลยอยากจะมาถามมุกด้วยตัวเองว่า มุกพร้อมที่จะแต่งงานกับพี่ไหม มุกอยากเป็นภรรยาของพี่ไหม” น้ำเสียงที่สุดแสนจะจริงใจ พร้อมกับใบหน้าและสายตาที่มุ่งมั่น

มุกเรียงหัวใจเต้นเร็ว เกิดมายังไม่เคยมีแฟนสักครั้ง หนุ่ม ๆ แทบไม่ได้เฉียดเข้าใกล้เธอ จู่ ๆ พี่มาร์ชมาสารภาพความรู้สึก และขอเธอแบบนี้ หญิงสาวตัวสั่นไปหมดแล้ว มือที่ถูกธาวินกุมอยู่เย็นเฉียบ เขามองหน้าเธอแล้วยิ้ม ๆ เห็นใบหน้าแดงของมุกเรียงแดงระเรื่อ ใบหูทั้งสองข้างของเธอก็ออกสีแดงไปด้วย จากการเป็นคนพูดเก่งคุยจ้อ พอเจอมุกนี้ของธาวิน เธอถึงกับเหวอไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว

ธาวินยกนิ้วเชยปลายคางของมุกเรียงที่ก้มหน้ามองต่ำ

“ว่าไง ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยสิครับ” สายตาที่แสนจะอ้อนวอน มุกเรียงพยักหน้าน้อย ๆ แทนคำตอบ ธาวินก็พอจะรู้คำตอบแล้วว่า มุกเรียงยินดีที่จะแต่งงานกับเขา เพียงแต่เขาอยากได้ยินจากปากของหญิงสาวเท่านั้น

“พี่มาร์ชคะ มุกอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์ค่ะ แต่มุกจะพยายามเป็นภรรยาที่ดี แล้วจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มุกยินดีแต่งงานกับพี่ค่ะ” เธอยกมุมปากเป็นรอยยิ้มพิมพ์ใจ

มือแข็งแรงของเขาดึงเธอเข้ามากอด ก่อนที่เขาจะจุมพิตเธอที่กลางหน้าผาก

“พี่ไม่ได้ต้องการคนที่สมบูรณ์พร้อม แต่ในเวลาที่พี่เหนื่อยจากทำงาน กลับมาถึงบ้านแล้วพี่ได้เจอมุกที่คอยให้กำลังใจพี่เสมอแค่นี้ก็พอแล้ว”

มุกเรียงเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าของธาวินก็ฉกลงมาทันที ริมฝีปากหนาได้รูปของเขาก็ปิดปากของเธอเสียสนิท ปลายลิ้นเรียวควานหาความหวานละมุนในโพรงปากของเธออย่างดูดดื่ม เธอรู้สึกอิ่มเอมไปกับรสจูบของเขา เสียงของสองหัวใจที่เต้นดังสอดคล้องประสานเหมือนเป็นหนึ่งเดียว

ตั้งแต่วันนั้น ทั้งคู่ก็ตัวติดกัน นัดเจอกันทุกวัน คุยกันทุกเรื่อง ทำตัวเหมือนคนรักที่กำลังดูใจกันและพร้อมที่จะแต่งงานกันแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel