บท
ตั้งค่า

บทที่02 นางร้ายแวมไพร์กับองครักษ์หมาป่า

บทที่02

นางร้ายแวมไพร์กับองครักษ์หมาป่า

ห๊ะ?!

ลีแอนด์เหลือกตามองใบหน้าครึ่งซีกที่เห็นเพียงริมฝีปากหยักหนาขององครักษ์หนุ่มเท่านั้น ร่างสมส่วนในชุดองครักษ์เต็มยศดูองอาจและสง่างาม เธอจำได้ว่ามักจะเห็นเขาเดินตามคล้อยหลังท่านพ่ออยู่เสมอ

เขาคือ วูล์ฟ องครักษ์ประจำกายของดยุคปีศาจลูเซียส ลูเซ็ตต้า

มีข่าวลือว่า ตั้งแต่เขารับหน้าที่ ไม่เคยมีนักฆ่าคนใดเคยลอบสังหารได้สำเร็จ และไม่เคยโผล่มีใครโผล่หัวมาให้ท่านดยุคได้ระคายเคืองสายตาเลย หรือจะพูดง่ายๆ ว่าก่อนที่จะปรากฏตัวสังหาร ก็ถูกฆ่าไปก่อนแล้วนั่นเอง

เขาจึงเป็นองครักษ์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเร็วและความร้ายกาจ มีแต่คนว่าสมแล้วที่เป็นองครักษ์ของดยุคปีศาจอย่างลูเซียสได้

แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกตกอกตกใจมากไปกว่าใบหน้าของเขาที่ซ้อนทับกับภาพเปิดตัวเกม Love of the devil!

หมอนี่เป็นรูทลับ

เขาจะมาเป็นองครักษ์ให้ลีแอนด์ในตอนที่องครักษ์เก่าของลีแอนด์ถูกลอบสังหาร (ในเกมจะบอกว่าตายอย่างปริศนา แต่ในความจริงเป็นนักฆ่าจาก 1 ในพระเอกที่ส่งมาฆ่าลีแอนด์) การที่จะทำให้เขาปรากฏตัวที่โรงเรียนได้นั้น จะต้องทำให้พวกพระเอกรักนางเอกทุกคน รวมไปถึงค่าความเชื่อใจอีกด้วย เพราะมันจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้นางร้ายอย่างลีแอนด์กลั่นแกล้งนางเอกอย่างโหดร้าย จนพวกพระเอกส่งนักฆ่ามาแก้แค้นให้ แต่ถ้าหากค่าความรักไม่มากพอ นางเอกก็จะถูกกลั่นแกล้งฟรีไป และรูทลับก็จะไม่โผล่ออกมา

และถ้านางเอกสามารถจีบรูทลับได้ นางร้ายอย่างเธอก็จะตายด้วยคมดาบของรูทลับ

"ฉันเกลียดเธอ" ร่างสูงเน้นประโยคเดิมอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าไม่ต้องรอให้หมอนี่รักนางเอกหรอก แค่ตอนนี้หมอนี่ก็อยากจะฆ่าเธอจะตายแล้ว!

เขาเป็นเพียงเด็กที่ถูกดยุคปีศาจเก็บมาเลี้ยง

เพราะเขาเป็นจุดด่างพร้อยของเผ่าพันธุ์หมาป่า เขา...ไม่มีพลังเวท

เมื่อปีศาจมีอายุ 5 ขวบจะถูกวัดพลังเวทในตัว แม้จะไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองมีพลังเวทอะไร แต่ก็สามารถบอกได้ว่ามีหรือไม่ รวมไปถึงบอกพลังธาตุหลักของพลังเวทอีกด้วย แม้ปีศาจจะมีข้อได้เปรียบกว่าพวกเผ่าอื่น เพราะมีพลังของเผ่าพันธุ์อยู่แต่เผ่าหมาป่าของเขานั้น พลังเผ่าพันธุ์มีเพียงการเพิ่มพลังกายแล้วก็สามารถแปลงร่างได้เท่านั้น ไม่มีลูกเล่นหรือพิสดารแบบเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นเผ่าของเขาจึงให้ความสำคัญกับพลังเวทเฉพาะตัวของแต่ละตนเป็นอย่างมาก

เผ่าหมาป่าไม่มีที่ตั้งหลักแน่นอน จะย้ายที่อยู่อาศัยไปเรื่อยๆ บางที่ก็เป็นที่รกร้าง บางที่ก็หนาวเย็น บางที่ก็เป็นป่า และบางที่...ก็ต้องแย่งชิง

เขาคือตัวถ่วงของเผ่า

พี่ชายของเขาเป็นนักรบของเผ่าหมาป่า เพราะพะวงหน้าพะวงหลังเป็นห่วงเขา พี่ชายเขาจึงพลาดท่าบาดเจ็บสาหัส พื้นที่ตรงนั้นพวกเขาไม่สามารถแย่งชิงมาได้ หลังจากนั้นเขาก็ถูกขับไล่ออกจากเผ่า โดยที่ไม่รู้เลยว่าพี่ชายของเขาเป็นตายร้ายดียังไง

เขาในร่างหมาป่าขนสีดำสนิทเดินอย่างอ่อนแรงท่ามกลางหิมะที่ตกมาโปรยปราย ความหนาวเย็นแผ่ไปทั่วร่างกาย รวมไปถึงความสิ้นหวังที่เกาะกุมในหัวใจ ความรู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายบาดเจ็บ และยังเป็นตัวปัญหาของเผ่าทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตต่อ

และในตอนนั้นมือสีขาวซีดที่ยื่นมาหาเขา...มือที่มอบความหวังให้กับเขา

ท่านลูเซียส ลูเซ็ตต้า

ชายที่เขาสาบานว่าจะภักดีและปกป้องไปตลอดชีวิต

แต่ในตอนนี้ผู้ที่เขาจะต้องปกป้องคือยัยเด็กปีศาจปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่กำลังนั่งมองเขาตาแป๋วอย่างสนอกสนใจ จนเขารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ

"มองอะไร"

"มองหมา"

"..." เขาเลือกที่จะเงียบ แม้ในใจจะไม่พอใจแค่ไหน แต่เขาจะทำอะไรได้ ในเมื่อเป็นคำสั่งของดยุคเขาก็ต้องปกป้องยัยเด็กปีศาจนี่ ไม่ว่ายัยนี่จะมีสายเลือดเดียวกับท่านดยุคหรือไม่มี เขาก็ไม่คิดสนใจหรอก เพราะสำหรับเขา เขามีเพียงท่านดยุคเท่านั้น...

และยัยเด็กนี่ก็พรากเขาไปจากท่านดยุค!

"ฉันเกลียดเธอ" เขาพูดไปรอบที่สาม แต่ใบหน้าน่ารักนั่นก็ไม่แสดงท่าทีรู้สึกผิดหรือหงุดหงิดแม้แต่น้อย ที่เห็นคงมีเพียงความขบขันผสมกับความเบื่อหน่ายของเด็กน้อยเท่านั้น

"รู้แล้วน่า แล้วก็เวลาอยู่กับฉันห้ามพกดาบด้วย" เด็กสาวชี้ไปที่ดาบสีเงินที่เขาเหน็บไว้ข้างกาย

"ทำไม"

"เผื่อนายเจอยัยผู้หญิงผมบ๊อบสั้นสีเงิน แล้วหน้ามืดมาฆ่าฉันน่ะสิ! "

ในตัวเกมจีบหนุ่ม จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการคือตอนอายุ 15 ปี ที่นางเอกสามารถสอบเข้าโรงเรียนเดวิลได้ แม้จะมีหลายจุดที่ทำให้เธอสงสัยคือทำไมมนุษย์อย่างนางเอกถึงได้ทุนจากจอมมารให้มาศึกษาต่อที่โรงเรียนปีศาจ และทำไมนางเอกถึงกล้าเข้ามาในดงปีศาจทั้งๆ ที่ตัวเองมีสิ่งที่ดึงดูดให้พวกปีศาจมาฆ่า

มันคงจะมีเบื้องหลัง...แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องสนใจ

เพราะการที่เธออ่านไกด์เกมแบบหลักๆ อย่างว่าใครคือตัวละครหลัก ฉากในรูทต่างๆ แต่เธอไม่เคยสนใจในรายละเอียดปลีกย่อย ทำให้เธอไม่รู้เลยว่าพวกตัวเอกมีพลังอะไร

แต่สิ่งที่เธอรู้คือพวกตัวเอกจะต้องเป็นแมรี่ซูแน่นอน...

นั่นแหละคือเป้าหมายของเธอ หาคู่ซ้อมมือ!

แล้วยิ่งมีพลังเวทมนตร์แบบแฟนตาซีมาเกี่ยว การต่อสู้คงน่าสนุกน่าดู แค่คิดก็เผลอหัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมาเสียแล้ว หึๆๆๆ

โดยไม่รู้เลยว่ากำลังทำให้องครักษ์จำเป็นมองมาอย่างรังเกียจ

ลีแอนด์ปิดหนังสือบนตักลงหลังจากที่อ่านจนจบ นี่เป็นหนังสือหลักพลังเวทมนตร์เบื้องต้นที่ควรรู้ ถึงจะยังไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังหรือเปล่า แต่นางร้ายแบบเธอผู้ผลิตเกมคงใส่ออฟชั่นมาให้ด้วยแหละน่า

และเพื่อการเตรียมการสำหรับสงคราม (?) กับเหล่าตัวเอก

นางร้ายคนนี้จะไม่ยอมแพ้พวกแมรี่ซูแบบนั้นแน่!

วูล์ฟยืนพิงต้นไม้ในร่มเงา ทอดสายตาที่อยู่ใต้ผมดกดำไปยังร่างเล็กของเด็กสาวตัวน้อยวัยสามขวบที่วิ่งเหยาะๆ ในสนามหญ้ากลางคฤหาสน์ โดยมีคบไฟสีเงินสว่างอยู่เต็มสนาม ทั้งๆ ที่วันนี้พระจันทร์เกือบเต็มดวงทำให้มีแสงมากพอที่จะเห็นสิ่งรอบกาย แต่เด็กสาวก็ยังร้องขอให้เขาหาคบไฟมาจุดรอบสนามอยู่ดี

'ฉันไม่ชอบความมืด...' นั่นเป็นคำตอบที่ทำเอาเขาอยากจะหัวเราะออกมา แวมไพร์ไม่ชอบความมืด? มันเป็นเรื่องตลกขบขันประเภทใดกัน

ใบหน้าสีขาวซีดตามประสาปีศาจไม่เคยโดนแดดตอนนี้เริ่มแดงก่ำที่มาพร้อมหยาดเหงื่อ แต่ดวงตากลมโตกลับมีประกายสนุกสนานอย่างที่เขาไม่เข้าใจ

เอาเถอะ แค่ไม่สร้างปัญหาอะไรให้เขาก็พอ

วูล์ฟตัดสินใจทรุดตัวลงเอนหลังพิงต้นไม้พลางหลับตาพริ้ม แม้ตาจะหลับ แต่หูเขาก็กระดิกไปมาเพื่อฟังเสียงรอบกาย ถึงนี่จะเป็นหน้าที่ที่ต้องจำใจทำ แต่นั่นก็เป็นคำสั่งของท่านดยุค เขาจะทำพลาดไม่ได้...

ผ่านไปไม่นานเขาก็รู้สึกไออุ่นที่ทรุดตัวลงมานั่งพิงเขาอย่างไม่ถามความเห็น เสียงหอบแฮ่กๆ จากร่างเล็กรบกวนเขาไม่น้อย

"ลุก"

"ฉันเหนื่อย"

"รำคาญ"

"ขอพักหน่อยสิ"

"งั้นก็ขึ้นไปนอน"

"เฮ้ยย! "

เขาลุกขึ้นยืนอย่างไม่ไยดีร่างเล็กที่เอนมาพักพิง ก้มตัวมองใบหน้าเล็กงอง้ำพลางเบะปากอย่างไม่ชอบใจอย่างนึกรำคาญ อย่าคิดว่าการที่เขายอมติดตามมาด้วย แล้วตัวเองจะทำอะไรก็ได้นะ เขาไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้เขา โดยเฉพาะการสัมผัสตัว แล้วยิ่งเป็นเด็กสาวที่ทำให้เขาหงุดหงิดใจก็ยิ่งไม่ชอบ!

"แต่ฉันพึ่งตื่น ฉันยังไม่ง่วง"

"ทำไรก็ทำ แต่อย่ามาเข้าใกล้ฉัน"

"เหอะ ใครจะอยากเข้าใกล้หมาแบบนายไม่ทราบ" เสียงเล็กบ่นอุบอิบ แต่มีหรือที่หูหมาป่าอย่างเขาจะไม่ได้ยิน แต่เขาเลือกที่จะเมินมันอย่างไม่คิดสนใจ หากเด็กสาวไม่ยอมนอน เขาก็ไปไหนไม่ได้เหมือนกัน

น่ารำคาญจริง

"นี่ ทำไมถึงรังเกียจฉันนักหนา"

เพราะเธอทำให้ฉันไม่สามารถปกป้องท่านดยุคได้

"หรือเพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงผมบ๊อบสั้นสีเงินกับตาสีเขียว? "

"อะไรของเธอ"

"เฮ้อ ขอโทษนะที่ฉันมีผมสีดำกับดวงตาสีแดง"

"พูดมาก" แถมยังพูดอะไรที่เขาไม่เข้าใจอีกต่างหาก

"ช่างเถอะ นายจะรังเกียจฉันก็รังเกียจไป เพราะฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว" ร่างเล็กยักไหล่เบาๆ "อย่างน้อยก็อย่าเอาดาบมาฟันฉันตัวขาดสองท่อนก็แล้วกัน"

กล่าวจบร่างเล็กก็ถอนหายใจเสียงดัง แล้วลุกเดินเตาะแตะเข้าคฤหาสน์ไปอย่างไม่คิดสนใจเขาอีก

วูล์ฟคิดว่า คุณหนูแห่งตระกูลลูเซตต้าเป็นพวกเพี้ยนอย่างแท้จริง

ตอนนี้ลีแอนด์กำลังแช่ตัวอยู่ในน้ำอย่างสงบ ความอุ่นจากน้ำทำให้ร่างกายที่ออกกำลังกายมาอย่างหนักผ่อนคลายไม่น้อย โชคดีที่ปีศาจมีพละกำลังกายมากกว่ามนุษย์ ทำให้เธอลองฝึกกระบวนท่าที่เธอเคยรู้มาจากโลกเก่าได้อย่างไม่ติดขัด แถมร่างนี้ก็ยืดหยุ่นมากจนเธอชอบใจไม่น้อย

แม้จะอยู่ท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างไม่ชอบใจของเจ้าหมาองครักษ์ก็ตาม

นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 1

จากรูทลับที่ควรโผล่มาตอนที่เธอเข้าโรงเรียนไปเกือบเทอม กลับมาโผล่เป็นองครักษ์ของเธอตั้งแต่สามขวบ เธอไม่รู้ว่ามันจะเกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ แต่ก็ช่างมันเถอะ!

ตอนนี้ใกล้ได้เวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว เด็กสาวรู้ดีว่าแม้เธอจะไม่ชอบเวลาตอนกลางคืน เพราะมันมีความมืดที่เธอกลัวอยู่ แต่เธอก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในตอนกลางวันได้เช่นกัน

อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีอายุ 200 ปี เธอถึงจะสามารถออกแดดได้อย่างไม่กลัวถูกเผาแบบท่านพ่อของเธอ

แต่อย่างที่รู้ว่าเธอเกลียดความมืด แล้วตอนกลางคืนมันจะมีปีศาจตัวไหนออกมาเพ่นพ่านกันล่ะ แล้วอีกอย่างตัวเธอเป็นคนชอบงานเทศกาลรื่นเริง ชอบความคึกคักของผู้คน ในยามราตรีที่เงียบเหงาแบบนี้ เธอไม่ค่อยชอบใจนัก...

งั้นก่อนที่พลังของเธอจะตื่น เธอจะพักเรื่องพลังแล้วหันไปค้นคว้าวิธีอยู่ในแดดดีกว่า

ที่โลกนี้มันจะมีครีมกันแดดอยู่ไหมนะ?

ตอนนี้เธอมีอายุ 4 ขวบแล้ว

เพราะเธอรู้สึกว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะออกไปเจอสังคมภายนอก เธอจึงขอให้ท่านพ่อไม่จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ และเธอก็ไม่คิดคบค้าสมาคมกับใครด้วย ตระกูลลูเซตต้าเป็นตระกูลที่มีอำนาจรองลงมาจากจอมมารผู้ปกครองดินแดน หากตระกูลลูเซตต้าบอกว่าไม่ ก็คือไม่ จะมีใครกล้าคิดว่าลูเซตต้าเสียมารยาทกัน?

1 ปีที่ผ่านมา เด็กสาวเพียงออกกำลังกายและยืดหยุ่นร่างกายเท่านั้น ร่างนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้ นอกนั้นคือเวลาค้นคว้าคิดค้นยาขึ้น

ยาที่จะทำให้เธอสามารถทนทานกับแดดได้

เธอเพียงต้องค้นคว้าและวิจัยเท่านั้น ส่วนพวกสมุนไพรหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นล้วนได้รับความสนับสนุนจากดยุคปีศาจที่เต็มใจ (แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าท่านพ่อเห็นเป็นเพียงการละเล่นของเด็กเท่านั้น) ตอนนี้จะบอกว่าประสบความสำเร็จก็ไม่ถูกนัก

ยังขาดอะไรไปนะ...

เด็กสาวจมความคิดอยู่ตรงหน้าหม้อยาที่กำลังเดือดปุดๆ ในใจแม้จะหงุดหงิดที่เธอหาคำตอบไม่ได้สักที แต่ก็รู้ดีว่าปัญหาพวกนี้ต้องใช้สติและความเยือกเย็น ใจร้อนไปก็เท่านั้น...

อย่างน้อยในโลกเก่า นอกจากเธอจะชื่นชอบการต่อสู้จนเป็นอาเจ๊คุมซอยแล้ว เธอยังชอบค้นคว้าอีกด้วย อะไรที่สงสัยเธอจะค้นหาคำตอบอย่างถึงที่สุด จะบอกว่าเป็นพวกดันทุรังก็ไม่ผิดนัก

ตอนแรกท่านดยุคก็คิดจะหาผู้เชี่ยวชาญมาชี้แนะให้ แต่ทุกวันนี้อาจารย์ที่มาสอนเธอก็ล้วนเป็นผู้มีความรู้ขั้นสูง ขนาดเธอไปถามแล้วยังไม่ได้คำตอบ แล้วท่านดยุคจะหาใครมาสอนเธอกันล่ะ?

เธอเลยต้องมาลำบากในทุกๆ วันนี่ไงล่ะ

"เฮ้อ..." พอคิดไม่ออกก็ช่างมันดีกว่า

เด็กสาวถอดเสื้อคลุมตัวนอกที่เอาไว้กันความร้อนพาดไว้บนเก้าอี้ นี่เป็นหนึ่งในห้องลับที่ต่อเติมเอาจากห้องนอนของเธอ เพื่อความสะดวกในหลายๆ อย่าง จะบอกว่าเธอขี้เกียจก็ได้นะ

"ชักช้า"

พอออกมาจากห้องลับก็พบกับร่างสูงในชุดองครักษ์ที่นั่งกระดิกเท้าบนโซฟากลางห้องของเธอ มือหนาใช้ส้อมจิ้มเข้าที่เค้กแล้วยัดเข้าปากแบบไม่สนว่าเจ้าของเค้กจะรู้สึกยังไง

ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อรูทลับก็นะ...

เกลียดขี้หน้ากันเหมือนเดิม

แต่จริงๆ จะบอกว่าเกลียดกันก็ไม่ถูก เพราะเธอรู้สึกเฉยๆ กับพ่อหมาป่าที่ชอบแย่งขนมเธออยู่ตลอดอยู่แล้ว เพราะเธอรู้ถึงเหตุผลที่อีกฝ่ายไม่ชอบขี้หน้าเธออยู่ แต่จะโทษว่าเป็นความผิดเธอได้ยังไง เธอไม่ได้ขอให้ท่านพ่อเอาองครักษ์ของตัวเองมาให้สักหน่อย //ยักไหล่

"นายก็กินขนมของฉันอีกแล้ว" เด็กสาวบ่นออกมา ก่อนจะพาร่างเล็กเดินเตาะแตะไปนั่งโซฟาอีกฝั่ง มือบางยกจานเค้กอีกจานขึ้นมาแล้วจ้วงกินอย่างหิวกระหาย

แม้จะบอกว่าอีกฝ่ายแย่งขนม แต่จริงๆ เธอก็เตรียมมาเผื่อพ่อหมาป่าคนนี้หลังจากที่รู้ว่าหมอนี่ชอบกินของหวานนั่นแหละ แหม ขนมที่ให้เธอกินก็ต้องราดเลือดอันเข้มข้นอยู่แล้ว ไม่มีใครพิศวาสชอบกินเลือดแบบเธอกับท่านพ่อหรอกน่า

"แล้วเป็นไง"

"สนใจฉันด้วยหรือไง" เด็กสาวยักคิ้วให้อย่างกวนๆ

"เหอะ ฉันแค่อยากนอนตอนกลางคืนแบบปีศาจปกติเท่านั้นแหละ"

จะบอกว่าเป็นเพราะเธอเลยต้องถ่างตาตื่นมาดูแลเธอใช่ไหม? เหอะ!

"ขาดอะไรสักอย่างฉันยังไม่แน่ใจ" เธอบอกออกไปอย่างไม่คิดปิดบัง ไม่ใช่เพราะเธอเชื่อใจพ่อองครักษ์หมาป่านี่ แต่เธอเชื่อในความภักดีของเขาที่มีต่อดยุคลูเซียส ท่านพ่อของเธอต่างหากเพราะเธอจำได้ว่าในฉาก CG Bad END ของเธอ ตอนที่หมอนี่ตัดสินใจลงดาบฟันร่างของเธอขาดเป็นสองท่อน

หมอนี่ร้องไห้...

เพราะความรักโง่ๆ นั่นแหละ มันช่างไร้สาระเสียจริงๆ

"จริงๆ รอไป 200 ปีก็ไม่เสียหายสักหน่อย จะรีบไปทำไมกัน" ร่างสูงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แอบเหล่มองเลือดที่ไหลมุมปากจากการกินเลอะเทอะของเด็กสาวอย่างแหยงๆ

"เพราะไม่มีเวลาแล้วต่างหาก" เด็กสาวทำหน้ายุ่งคิ้วขมวด ไม่รู้ว่าเคยมีใครบอกเธอหรือไม่ว่าเธอทำตัวเกินเด็กไปมาก แต่คนที่ไม่สนใจคนรอบข้างแบบเธอ ถึงรู้ไปก็คงไม่สนอะไรหรอก

จะว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียดีล่ะ

"เพราะพวกตัวเอกอย่างพวกนายมันเป็นพวกเก่งเกินมนุษย์มนา เป็นพวกขี้โกงที่อาศัยหน้าตาหล่อๆ หลอกลวงหญิงสาวน่ะสิ! ถึงฉันจะไม่ได้กลัวพวกนาย แต่ฉันก็ไม่อยากไปเจอพวกนายแบบอ่อนเป็นลูกไก่ รอให้พวกนายเชือดหรอกนะ! "

เสียงเล็กบ่นงุ้งงิ้งนั่นไม่ได้ทำให้เขาสนใจอะไรมากนัก เขาเลิกสนใจคำพูดที่ไม่รู้เรื่องของยัยคุณหนูเพี้ยนนี่ตั้งนานแล้ว หรือมันอาจจะเป็นผลข้างเคียงของการที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือก็ได้ ใครจะไปรู้

พอเห็นท่าทางไม่สนใจไยดีของพ่อองครักษ์เธอก็หันกลับมาคิดค้นสูตรยาต่อ

เธอจะเก่งได้ยังไงถ้าเธอไม่มีประสบการณ์! แล้วประสบการณ์ดีๆ ในตอนกลางคืนมันมีเหรอ? มีแต่พวกปีศาจชั้นเลวเท่านั้นแหละที่จะมาอยู่ในความทรงจำของเธอ เธอจะต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่างเลยนะ!

ชีวิตแวมไพร์นี่มันลำบากจริงๆ

แล้วถ้าจะถามว่าทำไมตอนอายุ 15 เธอถึงสามารถเข้าเรียนได้แบบปีศาจปกติ นั่นก็เพราะโรงเรียนเดวิลไม่มีตอนกลางวันยังไงล่ะ อาจจะเป็นเพราะที่ตั้งที่อยู่ในหุบเขาลึกก็เป็นได้ ทำให้บรรยากาศหนาวเย็นอยู่ตลอด ถึงมันจะดูน่ากลัวและน่าขนลุก แต่สำหรับปีศาจของแบบนี้มันก็เป็นของคู่กันไม่ใช่เหรอ?

ในอดีตปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตตอนกลางคืน แต่เมื่อมีสนธิสัญญาสันติภาพกับมนุษย์ การเจรจาหรือการค้าขายล้วนต้องทำในตอนกลางวันที่เป็นความสะดวกของมนุษย์แทบทั้งสิ้น ตอนแรกปีศาจก็ต่อต้านอยู่หรอก แต่พอเห็นว่าตอนกลางคืนมันอันตรายสำหรับมนุษย์จึงจำใจมาเป็นฝ่ายใช้วิถีการนอนแบบพวกมนุษย์แทน

(ทำนองว่าเวลามีการค้าขาย พอมนุษย์เดินทางในตอนกลางคืนแล้วชอบตายห่าก่อนที่สินค้าจะมาส่ง จนขาดทุนกันไปเป็นแถบๆ นั่นแหละ ปีศาจจึงจำใจยอมรับอย่างเสียไม่ได้)

ยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนที่ท้องฟ้าจะเช้า...

"ฉันจะค้นคว้าอีกสักหน่อย นายกลับไปนอนเลยก็ได้"

"ฉันยังกินขนมไม่เสร็จ" จะทำไรก็ทำ ฉันจะอยู่ตรงนี้นี่แหละ

"ขอบคุณ"

นอกจากความรู้ที่ก้าวหน้าแล้ว ก็คงเป็นพรสวรรค์ในการแปลภาษาของวูล์ฟล่ะมั้งที่เธอพัฒนาขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel