ตอนที่ 2.4
สิ่งเดียวที่เธอจะทำได้ตอนนี้คือ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพรยศ ทำเหมือนเขาตายจากไปอย่างที่เธอเคยกระทำเคยคิดมาแล้วนั่นดีที่สุด และหยุดที่จะค้นหาความจริง ค้นหาเหตุผลที่ว่า พรยศทำไมถึงทิ้งเธอ เพราะปัญหาที่สำคัญที่กำลังทำให้เธอเดือดร้อนสุด ๆ คือการเริ่มงานในวันนี้ต่างหาก
ชามาเดินมาที่ห้องของญภาเพราะดีใจว่าเธอจะมีเพื่อนร่วมเดินทาง ต่อไปนี้ไม่ว่าเธอไปไหนญภาจะเป็นเหมือนเงาตามตัวเธอ ในขณะที่ญภายืนหน้าบึ้งมองเสื้อผ้าที่ธรรศสั่งให้คนเอามาให้เธอสวมใส่ในการทำงาน
“ผมทรงพุดเดิ้ลนี่เปลี่ยนซะ”
คำพูดของธรรศยังก้องอยู่ในหูของเธอ ทำให้เธอต้องมองดูตนเองในกระจกเงาบานใหญ่นานกว่าทุกครั้งหรืออาจจะเป็นครั้งแรกในรอบสองปี หลังจากที่เธอถูกพรยศทอดทิ้งให้เป็นแม่สายบัวหม้ายขันหมาก ก็ไม่เคยได้ใส่ใจดูแลตนเองเลย โดยเฉพาะเรื่องกระจก เธอไม่เคยได้มองดูหน้าของตนเองนานเกินหนึ่งวินาที
ผมดัดหยิกหน้าม้า ด้านหลังปล่อยยาวเกือบถึงบั้นเอวมันดูยุ่งเหยิง ปิดหน้าปิดตา เธอก็แค่ยกมือเสย ๆ ปัด ๆ แล้วก็ไปไหนต่อไหนโดยไม่มาเสียเวลากับการหวีหรือใส่น้ำมันต่าง ๆ ยิ่งใบหน้าหรือผิวพรรณเธอด้วยแล้ว ก็ไม่เคยได้ดูแล เรื่องอาหารการกินก็กินบ้างไม่กินบ้าง อย่างดีถ้าหิวก็บะหมี่ในเซเว่น
“พี่ญภาขา เสร็จหรือยังคะ ชาต้องไปเรียนแล้วนะ คุณน้ารอทานอาหารเช้าด้วย”
ชามาร้องทักเมื่อเปิดประตูเข้ามา แต่ก็ต้องนิ่งเมื่อมองเห็นญภายังอยู่ในชุดออกกำลังกาย
“น้าธรรศไม่ชอบคนไม่ตรงเวลานะพี่ญภา นี่ก็ใกล้เวลาอาหารเช้าแล้วด้วย วันนี้คุณน้าอนุญาตให้พี่ญภาขับรถไปกับชาได้”
“หา! อะไรนะคะ ให้ฉันขับรถไปกับคุณหรือคะ”
ญภาหันขวับมาหาชามาที่พยักหน้ารับด้วยความปรีดา เพราะเธอจะไม่ต้องนั่งรถไปกับคนขับแล้วก็แอบหนีคนขับรถเพื่อโดดเรียนอีกต่อไป
“มีอะไรหรือคะ”
คำถามนั้นทำให้ญภายกมือเกาหัวแกรก ๆ
“ฉันขับรถไม่เป็นค่ะ”
“จริงหรือคะ ตายล่ะ ความฝันของชาก็พังหมดสิ”
ชามานั่งลงด้วยสีหน้าที่แสดงความผิดหวัง
“แต่ฉันจะเรียนขับรถค่ะ สัญญา ฉันจะขับให้ได้”
ญภารีบเปลี่ยนเรื่องแล้วก็รีบคว้าเสื้อผ้าหายเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว เมื่อออกมาก็รีบจัดการรวบผมที่เคยปล่อยสยายรวบมัดเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง
“ไปค่ะ”
ญภาบอกชามาเมื่อจัดการกับผมอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเมื่อเธอรวบผมก็เผยใบหน้าหวานที่นวลเนียนสะอาดเอี่ยมตามธรรมชาติ ดูจิ้มลิ้มพริ้มเพราและหมดจดอย่างน่ามอง
“พี่ญภานี่ก็สวยไม่ใช่เล่นนะคะ”
ชามาเอ่ยชมเมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหารแล้วเห็นธรรศเผลอมองหน้าญภานิ่ง
“ดูผิวเผินเหมือนอายุรุ่นเดียวกับชาเลยด้วย”
ชามายังพูดต่อ เมื่อญภาเลือกที่จะยืนอยู่ใกล้ ๆ สาวใช้ที่มีหน้าที่ตักข้าวเสิร์ฟอาหาร
“มานั่งทานด้วยกันสิ”
ธรรศร้องบอกเธอ ก่อนจะมองหน้าสาวใช้ให้เพิ่มจานข้าวสำหรับเธอ
“คุณใช้รถคันเล็กนั่นนะ ไปกับชามาทุกที่ กลับให้ตรงเวลาอย่าพากันเถรไถล”
ญภายิ้มแหย ๆ
“ฉันยังขับรถไม่เป็นค่ะ”
“อะไรนะ คุณน่ะหรือขับรถไม่เป็น”
ธรรศร้องถาม ทำให้ญภาพยักหน้ารับ
“ใช่ค่ะ เพราะฉันเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงก็มักจะตกอยู่ในภวังค์ของโลกส่วนตัวทางบ้านเลยไม่ให้ฉันขับรถ”
เธออธิบาย
“แต่ที่นี่ต้องการคนที่เก่งและรู้รอบด้านสำหรับการทำงาน ไม่ได้ว่าจ้างใครเพื่อจะต้องมีคนมาคอยรับใช้อีกคน”
“ฉันออกก็ได้นี่คะ”
ญภาแย้งทำให้ธรรศหรี่ตามองหน้าเธอ
“คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วหรือ ถึงต้องการจะออกทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มงาน”
ธรรศมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของญภาอย่างสังเกต ทำให้ญภารีบหลุบเปลือกตาลงต่ำแล้วตักอาหารทานทันที แต่ก็ต้องนิ่งอึ้งเมื่อมองดูอาหารบนโต๊ะซึ่งล้วนเป็นอาหารกรีนคลีนเพื่อสุขภาพทั้งสิ้น
“ผมลืมบอกไป ตามเงื่อนไขของการทำงานที่นี่ คุณจะออกได้ก็ต่อเมื่อผ่านไปหนึ่งปี หนึ่งเดือนมีวันหยุดให้สองวัน”
“เจ้านายคะ หนึ่งเดือนต้องหยุดแปดวันสิคะ”
ญภาแย้ง
“ที่นี่ผมเป็นเจ้าของ ผมเป็นคนตั้งกฎ งานของผมไม่ขึ้นกับรัฐบาล”
ญภาเมินหน้าไปอีกทางด้วยความไม่สบอารมณ์
“ตามที่ฉันรู้มาคุณรับหน้าที่ในการบริหารในกลุ่ม TC กรุ๊ป ซึ่งมีศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทยและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน”
“ใช่ ผมนี่แหละ TC กรุ๊ปเป็นมหาชน”
“ฉันทราบค่ะ แต่ว่าฉันเรียนจบมาทางด้าน”
“ปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสาขาวิชาวิศวกรรมการเงิน..ผมทราบ ผมได้ยินจากปากคุณและดูวุฒิแล้ว แต่ว่าผมไม่ได้รับรับคุณเพื่อมาทำงานในตำแหน่งของบริษัทแต่ปรับเปลี่ยนเพื่อมาทำหน้าที่ดูแลชามา ซึ่งคุณก็คงจะสืบทราบมาก็เลยวางแผนเจ็บตัวเพื่อได้งาน”
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ได้..”
“นอกจากนี้TC กรุ๊ป ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ศูนย์การค้าดังๆในประเทศไทยหลายแบรนด์ และยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารใหญ่ซึ่งเป็นสำนักงานของหลายบริษัท และโรงแรมหรูระดับห้าดาวอีกด้วย คุณก็น่าจะสืบมาเรียบร้อยอีกเหมือนกัน เพียงแต่ผมยังไม่เข้าใจเจตนารมของคุณก็เท่านั้น”
ธรรศเริ่มตักอาหารทาน
“ที่นี่เข้ายากก็ออกยากเหมือนกัน ในเมื่อคุณได้เข้ามาแล้วก็ควรทำตัวให้ดี อย่าให้ผมจับได้ว่าวัตถุประสงค์ของการเข้ามาที่นี่ของคุณคืออะไร เหตุผลอะไรที่ใช้หลานสาวของผมเป็นเครื่องมือ”
ญภาหันไปมองหน้าชามาซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนัก
“ฉันก็บอกคุณไปหลายครั้งแล้วว่ามันบังเอิญ”
“ผมก็บอกคุณไปหลายครั้งแล้วเหมือนกันว่าไม่มีความบังเอิญในชีวิตของคนที่มีเป้าหมาย ผมจะฉีกหน้ากากคุณให้ได้”
ธรรศพูดจบก็ตักอาหารทานโดยไม่คิดจะใส่ใจเธออีก แต่สำหรับญภากลับรู้สึกเหมือนอาหารคลีนที่อยู่ตรงหน้ามันคือยาพิษที่เธอไม่อยากจะแตะต้อง
“จะมีคนขับรถไปส่งนะชามา ไปกับญภา เธอจะเป็นเสมือนเงาของชามา”
ธรรศมองมาหาญภา
“อย่าลืมบันทึกทุกอย่างในการทำงานมาส่งผม สิ่งที่ชามาได้เรียน คุณก็ต้องเรียนและสามารถนำกลับมาทบทวนให้ชามาได้ทราบ”
ธรรศพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยังรถที่มีคนขับและบอดี้การ์ดคอยดูแลและก็ขับรถนำหนึ่งคันขับตามไปอีกสองคัน
