ตอนที่ 2.2
เสียงเคาะประตูห้องในเวลาตีห้าครึ่ง ดังขึ้นหลายครั้ง ซึ่งสำหรับญภามันไม่เหมือนเสียงปลุกเลยสักนิด ตรงข้ามกลับทำให้เธอนึกว่ามีเสียงกล่อมให้หลับต่อ แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเข้าสู่โหมดของความฝันในเวลาค่อนแจ้ง บานประตูก็ถูกไขออกด้วยมือใหญ่ของผู้เป็นทั้งเจ้าของบ้านและเจ้านายคนใหม่
สายตาคมกล้าเจิดจรัสที่คมกริบราวกับรังสีเอ็กซเรย์ ทอดมองดูใบหน้าหวานที่กำลังอมยิ้ม เหมือนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เธอมีความสุขจนไม่ยอมตื่น
ธรรศหยิบรีโมทลดระดับอุณหภูมิให้เหลือ สิบห้าองศา แล้วค่อย ๆ ดึงผ้าห่มออกมาจากร่างผอมจนแทบจะปลิวของญภา เขาโยนผ้าห่มลงไปที่พื้นแล้วหันหลังพิงผนังห้อง ทอดสายตามายังดวงหน้าหวานละไมของญภา จากนั้นอีกไม่นานเกินรอ ความอิ่มเอมเหมือนตกอยู่ภวังค์แห่งความสุขก็ค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเธอเริ่มขดงอเข่ามาหาอก
เมื่อความหนาวแล่นเข้าปกคลุมไปทั่วห้องก็ไม่อาจจะทำให้ญภาทนหลับต่อไปได้ เธอยื่นมือควานหาผ้าห่ม แต่ก็ไม่พบทำให้เธอจำต้องลุกนั่งแล้วมองหา แต่ทว่าสายตางามกลับตวัดไปเห็นเงาร่างของใครคนหนึ่งอยู่ไม่ห่างนัก
“โจรบุก โจร โจร”
เธอร้องตะโกนก้องพร้อมกับทะยานลงจากเตียงปรี่เข้าทำร้ายธรรศ ซึ่งเขาคาดการณ์ผิด คิดว่าเธอจะตกใจร้องเรียกให้คนช่วยหรือไม่ก็วิ่งออกไปนอกห้อง แต่เขาคิดผิดเมื่อไม่ทันระวังทำให้ถูกกำปั้นน้อยซัดเข้าที่ใบหน้า ก่อนจะหลีกหลบทั้งมือและเท้าของญภา
แต่ด้วยลีลาชั้นครูอย่างเขาไม่ยอมที่จะเจ็บตัวเป็นครั้งที่สองแน่ เมื่อเขาใช้เทคนิคและความช่ำชองเพียงเล็กน้อยเข้าประชิดร่างผอมเพรียวของญภาพร้อมกับใช้วงแขนที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดรวบรัดร่างบางให้ยอมจำนน
“ปล่อยนะ ปล่อย”
ญภาพยายามดิ้น แต่ทว่ากลิ่นสาบสาวที่หอมกรุ่นกลับทำให้หัวใจของชายหนุ่มที่พยายามจะหันหลังให้ผู้หญิงต้องเกิดความหวั่นไหวว้าวุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งความรู้สึกนี้มันหายไปจากใจของเขานานมากแล้วในขณะที่ญภาเองก็ใจเต้นแรงทั้งหวาดกลัวและตกใจระคนกัน แต่ทว่ากลิ่นอาฟเตอร์เชฟ ราคาแพงของผู้ชายที่คละคลุ้งอยู่ใกล้จมูกของเธอมันทำให้เธอเกิดความไม่แน่ใจว่าจะเป็นโจรมีระดับหรือใครสักคนที่คิดแกล้งเธอ
“ปล่อยนะ ปล่อยไอ้โจรห้าร้อยแกต้องการอะไร หา? ต้องการอะไร กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวฉันไอ้หน้ามืด ไอ้บ้ากาม แกไม่รู้สึกหรือไงว่าฉันผอมจนแทบไม่มีอะไรจะให้แกเชยชม แกยังหน้าด้านมากอดฉันไว้อีกหรือ หา..หรือรสนิยมแกชอบกระดานขัดเงา..”
ญภาตะโกนก้อง แต่คำพูดของเธอกลับทำให้ธรรศนึกขำ มันก็ใช่ ตอนนี้ร่างบางอรชรของเธอแนบอยู่กับร่างของเขา เธอผอมเกร็งบางจนแทบจะปลิว แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่นูนขึ้นมามันทำให้เขารู้ว่า กล้ามเนื้อที่โหนกนูนตามธรรมชาติส่วนนั้นไม่ได้แบนราบราวกับไข่ดาว
ญภาฉวยจังหวะที่เหมือนธรรศจะนิ่งเงียบเธอยกเท้าหมายจะกระทืบเท้าของเขาแต่ธรรศก็รู้เท่าทันเขาเหวี่ยงร่างของเธอให้ตกลงไปบนเตียงแล้วล็อคแขนขาของเธอไว้ด้วยศิลปะการต่อสู้แขนงหนึ่งซึ่งญภาไม่อาจจะดิ้นรนขัดขืนได้
“ปล่อยนะ ไอ้บ้าเอ๊ย..”
เธอผงกหัวแล้วร้องบอกเขา เป็นเวลาเดียวกับที่ธรรศโน้มใบหน้าต่ำลงไปหาเธอ ปลายจมูกโด่งเป็นสันกับริมฝีปากได้รูปที่รุมร้อนฉกทาบมายังพวงแก้มขาวของเธอเข้าพอดิบพอดี
หัวใจสาวน้อยหวีดผวาหวามขึ้นมาในบัดดล สัมผัสนี้แม้ว่าเขาจะไม่ตั้งใจ แต่มันเป็นครั้งแรกของเธอที่ถูกคนแปลกหน้าสัมผัสแตะต้อง ไม่เพียงแต่เธอที่ตกใจ ธรรศเองก็เช่นกัน เขาไม่คิดที่จะทำแบบนั้น จึงทำให้เขาเผลอคลายฝ่ามือออก เปิดโอกาสให้ญภาฉวยเวลานั้นตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของเขาเต็มแรง ตามด้วยเข่าลอย แต่ดีที่ธรรศหลบได้ทัน เขากลิ้งตัวออกห่างพร้อมกับเปิดไฟให้สว่างขึ้นทันที
“คุณ?!”
เมื่อมองเห็นชัดว่าเป็นใคร ญภาก็ยกมือชี้หน้าธรรศ
“ทำแบบนี้หมายความว่าไง คุณจะปล้ำฉันเหรอ” ญภาร้องถามทันที
“ผมว่าคุณสำรวจความคิดตนเองเสียใหม่ดีกว่านะ ถ้าคิดว่าผมจะกระโดดลงหลุมไปทำอะไรคุณแบบนั้น”
ธรรศมองหน้าเธอตรง ๆ พร้อมกับยกข้อมือมองนาฬิกา
“ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว ผมเคาะประตูเรียกตั้งนาน นอกจากคุณจะไม่ตื่นยังทำเหมือนเสียงเคาะประตูเป็นเสียงกล่อม ผมจำเป็นต้องเข้ามาดูแต่คุณก็โวยวายขึ้นก่อนมิหนำซ้ำยังเอียงแก้มมาหาจมูกผมอีก คุณทำแบบนี้หมายความว่าไง”
“อะไรนะ!”
ญภาเตรียมตอบโต้ แต่ธรรศเดินตรงไปที่ประตู
“ผมให้เวลาคุณจัดการทำธุระ สิบห้านาที ผมจะรอที่ห้องโถงชั้นบน”
เขาพูดจบก็เดินออกจากประตู ทิ้งร่องรอยความอับอายขายขี้หน้าไว้ให้ญภาที่ยกมือเช็ดแก้มจนแดง
“คนบ้า ผิดไม่ยอมรับผิด ดันมาโยนความผิดให้คนอื่นอีก นิสัย..”
เธอบ่นอุบก่อนจะเข้าห้องน้ำจัดการกับตนเอง
ญภาขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งแบ่งเป็นห้องกว้าง และส่วนที่มีเครื่องออกกำลังกายหลายชนิด ซึ่งมันกว้างขวางพอ ๆ กับสนามหญ้าด้านล่าง ญภามองหาธรรศ ซึ่งก็เห็นเขากำลังออกกำลังกายอยู่มุมหนึ่ง
“งานของฉันคืออะไรคะ”
ญภาร้องถามในขณะที่ธรรศยังคงออกกำลังกายอยู่
“คุณจะต้องแข็งแรง นั่นคืองานข้อที่หนึ่ง”
“มันเกี่ยวอะไรกับการที่ฉันต้องดูแลและคุ้มกันคุณชามาไม่ทราบคะเจ้านาย”
ธรรศก้าวออกมาจากเครื่องออกกำลังกายในสภาพที่เหงื่อซึมออกมาตามผิวหนังผสมผสานกับกลิ่นอาฟเตอร์เชฟหอม ๆ มันก่อให้เกิดความรู้สึกหนึ่งที่แวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ จนต้องหันข้างให้เขา เธอบอกตนเองว่าแม้ว่าปากเธอจะบอกว่าไม่ชอบหน้าผู้ชายคนนี้นัก แต่ในส่วนลึก ๆ ด้วยรูปร่างหน้าตาและบุคลิกที่แฝงไว้ด้วยความสุขุมลุ่มลึกดูเทห์ส่งให้เขาดูโดดเด่นสง่างามและอ่อนโยนอบอุ่นไปพร้อม ๆ กัน มันทำให้เธอเกิดความประหม่าอย่างไม่เคยเป็น
“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนี้อีก”
ธรรศเอ่ยขึ้นเมื่อมองสบตาของเธอ ทำให้เธอรีบหลุบเปลือกตาลงต่ำก่อนจะเมินไปอีกทาง
“เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่า คุณแอบรักผมมานานแสนนาน”
ญภาหันขวับมามองหน้าเขาพร้อมกับเตรียมอ้าปากตอบโต้
“เงื่อนไขของการทำงานคือคุณต้องแข็งแรง เพราะคุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่จะอยู่ใกล้ชิดกับชามาตลอดเวลา หากชามามีภัยคุณจะได้ปกป้องดูแลชามาได้ทันท่วงทีนั่นคือการฝึกศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเป็นการต่อสู้ผสมที่ผมจะเอามาสอนคุณ”
“ฉันพอเป็นอยู่บ้างค่ะ”
ญภาเชิดหน้าพูดราวกับอยากจะอวดว่าเธอก็มีดี
“งั้นมาทดสอบกัน”
ธรรศร้องบอกทำให้ญภานึกกระหยิ่มในใจ จากนั้นทั้งสองก็ตรงไปยังบริเวณที่จัดเตรียมไว้สำหรับการฝึกโดยเฉพาะ
“พร้อม เข้ามา”
ธรรศส่งสัญญาณให้เธอเข้าจู่โจมเขา โดยที่เขาได้แต่หลบหลีกเพื่อจะดูเทคนิคของเธอ แต่ญภาก็อยากจะอวดจึงปล่อยหมัดเด็ดที่เธอคิดว่าเหนือชั้นกว่าใคร ๆ ออกมาเต็มที่
“โอ๊ะ..”
แต่ญภาก็พลาดท่าเมื่อถูกธรรศล็อคร่างแล้วเหวี่ยงลงแทบพื้นพร้อมกดเธอไว้จนดิ้นไม่หลุด จากนั้นธรรศก็ปล่อยเธอ ทำให้ญภานึกโมโหและรู้สึกเสียหน้า เธอจึงใช้ทุกกระบวนท่าที่พอจะได้ร่ำเรียนและแอบฝึกด้วยตนเองตามอินเตอร์เน็ตมาบ้าง แต่ทว่าเธอก็ถูกธรรศกดล็อคเอาไว้ได้ทุกครั้ง
