บทย่อ
เพราะเคยใช้ 'หัวใจ' มากกว่า 'สมอง' แล้วมันเจ็บ! ต่อก็ไปก็จะ 'รัก' อย่าง 'ฉลาด' แบบมี 'เหตุผล' และเพราะใช้เหตุผลมากมายมาไตร่ตรอง จึงเจอสาเหตุมากมายให้ ไม่รัก! เสี่ยวป๋าย เรียกสั้นๆว่า ป๋าย ปัจจุบัน อายุ20ปี แต่ชีวิตยัง Move On จากวันที่ถูกทิ้งตอนอายุ 18ปี ไม่ได้ ปีสาม คณะ 'ถาปัตย์ Status ที่เผยแพร่ครั้งสุดท้ายเมื่อสองปีก่อน 'เป็นเพื่อนอยู่ดีๆมาขอเป็นแฟน เป็นแฟนมาเป็นปี เสือกอยากกลับไปเป็นเพื่อน ความสัมพันธ์เหี้ยๆ' เจย์เดน ปัจจุบันอายุ 20ปี แต่อยากจะย้อนกลับไป ตอนอายุ 18ปี ปีสาม คณะดนตรี ถ้าวันนั้นไม่เหี้ย ไม่โง่ ไม่ใช้แต่อารมณ์ ก็คงไม่ต้องมารู้สึก 'เสียดาย' เหมือนทุกวันนี้ Status ที่เพิ่งเคยเผยแพร่เป็นครั้งแรก 'อยากเปลี่ยนจากแฟนเก่าเป็นผัวคนปัจจุบันต้องทำไงครับ?'
1 เพราะเพื่อนควรเป็นแค่เพื่อน
20th October 2020
ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน วันนี้เป็นวันที่ฉันเกิด ซึ่งมันควรจะเป็นวันที่น่ายินดี อ่า...ใช่ ฉันเคยยินดีกับวันเกิดของตัวเอง เคยคิดว่ามันคือวันสำคัญและตื่นเต้นทุกครั้งที่วันนี้มาถึง แต่ความน่ายินดีเหล่านั้นมันสิ้นสุดลงเมื่อสองปีก่อน เพราะคนเฮงซวยที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนและแฟนเก่าของฉัน ไอ้เจย์เดน!
09.15 AM : 55/555
ความฝันของฉันคือการมีบ้านสวยๆ ที่สร้างด้วยสองมือของฉันเอง เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้เลือกเรียนสถาปัตย์ ฉันฝึกวาดรูปและเขียนแบบตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าตัวเองชอบอะไร ไปติวเพื่อสอบเข้าคณะที่ใฝ่ฝัน ฉันทำมันได้สำเร็จ ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปีสาม คณะสถาปัตยกรรม ในมหาวิทยาลัยที่ใครๆก็อยากจะสอบเข้าให้ได้ ฉันมีเพื่อนที่คณะอยู่สามคน เราสนิทกันมาตั้งแต่รับน้องปีหนึ่ง ตอนนี้ก็อยู่บ้านเช่าใกล้ๆมหาลัยด้วยกัน คืองานมันเยอะ ถ้าจะต้องไปกลับบ้านทุกวัน ฉันก็ไม่ไหว ก็เลยต้องออกมาเช่าบ้านกับเพื่อน ซึ่งมันก็ลงตัวดี และเราเรียกบ้านเช่าของเราว่า 55/555 ตามเลขที่บ้าน แถมยังเปลี่ยนชื่อไลน์กลุ่มเป็นแบบเดียวกัน
“ต้า! ให้ไวดิ! มึงจะแต่งหน้าทำห่าอะไร?! จะไปพรีเซนต์ไม่ทันอยู่แล้ว!” ไอ้คนที่เปิดประตูห้องแล้วโผล่หน้ามาบ่น มันชื่อหลุยส์ เป็นหนุ่มเจ้าชู้ หน้าตาดี บ้านมีฐานะ แต่ปากหมาไม่รับประทาน มันบ่นและด่าได้ทุกอย่าง ด่าได้ทุกคน โดยเฉพาะกับตาต้า หญิงสาวที่ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวอะไรทั้งนั้น
“เออๆ กูแต่งหน้านิดหน่อยมาทำเป็นบ่น! ขอกูสวยบ้างไม่ได้ไง?!” ตาต้าเบ้ปากใส่หลุยส์ แล้วก็หันไปทาลิปสติก
“ไม่นิดมั๊ง? กูนั่งเฝ้ามึงแต่งหน้ามาครึ่งชั่วโมงแล้ว จะไปเล่นงิ้วเหรอวะ?” ฉันที่นอนห้องเดียวกับตาต้า และก็คือคนที่มองมันแต่งหน้าอยู่พักใหญ่ อดที่บ่นให้กับความเยอะไม่รู้จักเวลาร่ำเวลาของมันไม่ได้จริงๆ พอบ่นเสร็จ ก็คว้าเป้ขึ้นสะพายหลังแล้วออกจากห้องนอน ฉันก็พอจะแต่งหน้าบ้างในบางเวลา แต่ถ้าในช่วงเวลาที่เร่งรีบแบบนี้ ก็ลืมไปได้เลย พร้อมพลีชีพเผยหน้าสด ดีกว่าไปพรีเซนต์งานที่ทำมาตลอดทั้งอาทิตย์ไม่ทัน และพอฉันเดินลงมาที่หน้าบ้าน ก็ได้เห็นเพื่อนคนสุดท้ายของแก๊งเรานั่งสูบบุหรี่อยู่
“สุขสันต์วันเกิด” ไทเกอร์เอ่ยขึ้น เมื่อหันเห็นฉัน มันเป็นคนพูดน้อย นิ่ง สุขุม แต่ความจำดีมาก เพราะมันจำวันเกิดของฉันได้เสมอ
“ขอบใจ ไหนของขวัญ?” ฉันแบมือไปตรงหน้ามัน
“หึ” มันส่ายหน้า
“อะไร? จำวันเกิดกูได้ แต่ไม่มีของขวัญให้อะนะ?”
“เอาไป” แล้วมันก็วางซองบุหรี่ลงบนมือ
“กูไม่สูบ”
“ฝากไว้หน่อย...”
“ประจำ! เดี๋ยวกูจะเก็บค่าฝากแล้วนะ” ฉันเอาบุหรี่มาเก็บไว้ในกระเป๋า ไทเกอร์มันชอบฝากบุหรี่ไว้กับฉัน เพราะมันไม่พกกระเป๋า แล้วพอมันจะสูบก็ต้องมาขอจากฉัน เพราะแบบนี้เพื่อนคนอื่นในคณะถึงเข้าใจผิด คิดว่าเราเป็นแฟนกัน ทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่ใช่โดยสิ้นเชิง และฉันเข็ดแล้ว...กับการเอาเพื่อนมาทำแฟน!
“ไอ้ป๋ายๆ” อ่า...บอกไปหรือยังนะว่าชื่อของฉันคือเสี่ยวป๋าย แต่ขอเถอะ...เรียกว่าป๋ายก็พอ เพราะฉันไม่ใช่นางเอกหนังจีนกำลังภายในน่ะสิ คือแม่ตั้งชื่อฉันตามนางเอกหนังจีนที่เขาชอบดูตอนที่ตั้งท้องฉันน่ะ
“อะไร?” ฉันหันไปหาตาต้าที่วิ่งเข้ามากอด
“แฮ๊ปปี้เบิร์ดเดย์นะเพื่อนรัก...กูรักมึงมากกก มากๆๆ”
“ตอแหล...อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร?”
“งื้อ! กูไม่ได้ตอแหล...แต่ที่อ้อนอ่ะ อยากให้คืนนี้พวกเราสี่คนไปฉลองวันเกิดมึงกัน พวกเราทำงานพรีเซนต์กันมาเป็นอาทิตย์แทบไม่ได้พัก มันก็ต้องฉลองกันหน่อยปะ? นะๆ ไปนั่งร้านเหล้ากันเถอะ...กูไม่ได้เมามานานแล้วอะ”
“คือมึงอยากเมาไงต้า ไม่เห็นต้องอ้างวันเกิดป๋ายเลย” หลุยส์แย้งขึ้นมา
“เสือก!”
“ปากดีแต่เช้า! เดี๋ยวจับจูบแม่ง!”
“อี๋! จูบมึง กูไปจูบกับหมาดีกว่า! เพราะปากมึงก็ไม่เห็นจะต่างจากปากหมาตรงไหน!”
“พอๆ มึงสองคนไม่กัดกันสักวันได้ปะ? ขึ้นรถ!” ฉันหันไปดุเพื่อน ก่อนจะเดินตามไทเกอร์ไปที่รถของมัน ในทุกวันเราจะไปเรียนด้วยรถของไทเกอร์ สลับกับรถของหลุยส์ เพราะฉันกับตาต้า...ไม่มีรถ ฉันไม่มีเพราะบ้านไม่ได้เหลือเฟือจนมีเงินพอมาซื้อรถให้ฉันขับมาเรียน ส่วนตาต้าไม่มี เพราะมันขับรถไม่เป็น และเพราะที่จริงแม่มันจ้างคนขับรถส่วนตัวไว้ให้แล้ว แต่มันดันจ้างคนขับรถคนนั้นให้ไม่ต้องมาตามติดมันอีกที มันโกหกแม่ว่าอยู่คอนโดสุดหรูที่แม่มันซื้อไว้ให้และที่มาอยู่บ้านเช่ากับพวกเรา ที่จริงตาต้าไม่ต่างอะไรจากลูกคุณหนูที่แม่ประคบประหงมดั่งไข่ในหิน แต่มันน่ะมีสกิลขั้นเทพที่ใครก็สู้ไม่ได้ นั่นก็คือการสร้างเรื่องโกหกไงล่ะ
แล้วถ้าใครที่สงสัยถึงชื่อที่ฉันเคยได้เอ่ยถึงไปในตอนแรก ฉันก็กำลังจะบอกว่าฉันมีเพื่อนสองกลุ่มน่ะ กลุ่มนี้คือเพื่อนมหาลัย และอีกกลุ่มก็คือเพื่อนมัธยม และไอ้บ้านั่น! ก็คือเพื่อนมัธยมของฉันเอง
LINE : 20th October (5)
White : @Pai เย็นนี้มาที่ห้องซ้อมด้วย
Pai : ไปทำไม วันนี้กูไม่ว่าง
White : บอกให้มาก็มา
Vintage : วันนี้วันครบรอบวง มึงต้องมา
Retro : มึงคือส่วนหนึ่ง ไม่มาไม่ได้
Pai : เออๆ
อย่างที่เห็น...เพื่อนอีกกลุ่มของฉันคือเพื่อนเก่าที่คบมานาน กลุ่มนี้ถ้าไม่นับรวมฉันก็จะมีอยู่สี่คน พวกมันฟอร์มวงดนตรีร่วมกัน ทำกันมาตั้งแต่ที่เรียนมัธยม เริ่มจากไม่มีใครสักคนที่ฟังเพลงพวกมันเลยนอกจากฉัน จนตอนนี้ถือว่าเป็นวงอินดี้ที่ดังมาก ในยูทูปมียอดวิวเป็นหลักสิบล้าน ทั้งๆที่เป็นวงไม่มีค่าย ส่วนเพจในเฟสบุคก็มีคนกดไลค์ตั้งหลายแสน ไม่ต้องพูดถึงยอดฟอลโล่ไอจีของพวกมันเลย สมาชิกในวงก็มี วินเทจกับเรโทรคู่พี่น้องฝาแฝดนรก วินเทจเป็นแฝดพี่ ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำกับเล่นกีตาร์ ส่วนเรโทรเป็นแฝดน้อง เล่นกลอง สองคนนี้นิสัยต่างคล้ายๆกันคือพูดมากและชอบกวนประสาทเป็นที่สุด อีกคนคือไวท์ ผู้หญิงหนึ่งเดียวในวง ยัยนี่คือเพื่อนรักของฉัน มันเป็นผู้ฟังที่ดีเพราะเป็นคนพูดน้อย และมันก็อาจจะเป็นคนที่เข้าใจฉันมากที่สุด ไวท์เล่นเบส บางทีก็มีร้องประสานบ้าง แล้วแต่เพลง ส่วนคนสุดท้าย...เจย์เดน ตำแหน่งกีตาร์โซโล่และหัวหน้าวง ผู้ชายคนนี้หาความดีไม่ได้ นอกจากรวยด้วยเงินพ่อเงินแม่ และหน้าตา ที่ฉันกล้าพูดเพราะเจอมากับตัว โอเค...ยอมรับว่าตอนเป็นเพื่อนมันดีมาก แต่พอคบเป็นแฟน...บอกเลยว่านิสัยแย่สุดๆ ทั้งโมโหร้าย เอาแต่ใจ บ้าอำนาจ ชอบเป็นใหญ่ เลวร้ายที่สุดคือมันเจ้าชู้! และที่ฉันเลิกกับมันเพราะมันทิ้งฉัน! มันขอยกเลิกสถานะแฟนเพื่อกลับไปเป็นเพื่อน อ้างคำสัญญาเดิมๆที่เคยให้กัน...หึ! นี่แหละสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เพศชาย!
พวกมันทั้งหมดเลือกเรียนคณะดนตรี และฟอร์มวงขึ้นมาในชื่อว่า 20th October ซึ่งก็คือวันเกิดของฉันนั่นเอง ถามว่าฉันไปเกี่ยวข้องกับพวกมันได้ยังไงน่ะเหรอ? คงต้องย้อนไปตั้งแต่มัธยมปลายปีหนึ่ง ฉันสนิทกับไวท์ และไวท์ก็พาไปสนิทกับแฝดนรกที่พ่วงเจย์เดนมาด้วย เราเลยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่พวกมันซ้อมดนตรี ฉันก็ไปนั่งวาดรูปรอ มันเป็นแบบนั้นมาเสมอ...จนกระทั่งหนึ่งในพวกมันต้องการจะเป็นแฟนกับฉัน ในวันเกิดอายุครบสิบหกย่างเข้าสิบเจ็ด หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป...จากธรรมดากลายเป็นดี จากดีกลายเป็นดีมาก จากดีมากก็ดิ่งลงเหว ดิ่งลึกลงเรื่อยๆ จนฉันจมอยู่ในอดีต เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
16.45 PM : The Band
ฉันมาที่ห้องซ้อมตามที่ไวท์กับวินเทจและเรโทรต้องการ ฉันรู้ว่าวันนี้คือวันครบรอบการฟอร์มวงของเพื่อนๆ แต่พวกมันล่ะ? จะจำได้หรือเปล่าว่าวันที่มันก่อตั้งวงขึ้นมาก็คือวันเกิดของฉันเหมือนกัน และขนาดชื่อวงของพวกมันก็คือวันเกิดของฉันด้วย
“มาแล้วเหรอ?” วินเทจหันมาเห็นฉันที่เดินเข้ามาในห้องซ้อมเป็นคนแรก จากนั้นพวกมันก็หันมามองฉัน ยกเว้นแต่ไอ้ขี้เก็กเจย์เดน
“อะไร?”
“เดี๋ยวซ้อมก่อนสองชั่วโมง แล้วค่อยออกไปเลี้ยงวงนะ” เรโทรว่า
“เลี้ยงวงอะไร?”
“ก็วันนี้วันครบรอบวงไง” ไวท์เสียบสายเบสแล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉัน
“กูไม่ว่าง มีนัดแล้ว” พอฉันตอบไปแบบนั้น เจย์เดนที่กำลังตั้งสายกีตาร์อยู่ ก็หันมามองหน้าฉันทันที
“จะมีนัดได้ไง? วันนี้ในทุกปี พวกเราต้องอยู่ด้วยกัน”
“ก็อยู่ด้วยกันมาทุกปีแล้วไง กูจะไปกับเพื่อนบ้างไม่ได้เหรอ?” คือฉันนัดกับตาต้า หลุยส์และไทเกอร์ไว้แล้ว
“แล้วพวกกูไม่ใช่เพื่อนมึงเหรอ?” เจย์เดนเป็นพวกที่ใครขัดใจไม่ได้ พอไม่ได้ดั่งใจขึ้นมาหน่อย มันก็เริ่มไม่พอใจ
“เออ เพื่อน!” ฉันกระแทกเสียงตอบ
“งั้นมึงก็ต้องอยู่กับพวกกู ไปยกเลิกนัดเพื่อนใหม่มึงซะ”
“...”
“เงียบ? จะไม่ไปยกเลิก?”
“ทำไมกูต้องทำตามที่มึงต้องการ? เพื่อนฝั่งนั้นนัดกูก่อน! พวกมันอยากฉลองวันเกิดให้กู! ในขณะที่พวกมึงจำไม่ได้ด้วยซ้ำ! ว่าวันนี้เป็นวันเกิดกู! มึงสนใจแค่ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวงอะ!”
“ใจเย็นป๋าย ทำไมพวกกูจะจำวันเกิดมึงไม่ได้” วินเทจเริ่มไกล่เกลี่ย
“วันเกิดมึงก็คือวันครบรอบวง พวกกูไม่ลืมหรอก” เรโทรเสริม
“แล้วมันสำคัญอะไรขนาดนั้น? มึงไม่อยากอยู่กับพวกกูก็พูดมา อยากจะไปนัวเนียกับไอ้เหี้ยไทเกอร์นั่นก็พูดมาเลย”
“เจย์เดน...มากไป”
“เออ! ถ้ากูจะไปนัวเนียกับใครแล้วมึงจะเสือกอะไร! วันนี้วันเกิดกู! จะอยู่กับใครกูเลือกเอง!” ฉันจ้องหน้าเจย์เดน คว้ากระเป๋าขึ้นสะพาย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องซ้อมทันที
หมั่บ!
แต่แล้วไอ้คนนิสัยเลวก็เข้ามาคว้าแขนฉันไว้
“มึงยอมรับแล้วใช่ไหมว่าคบกับมันอยู่?!”
“ปล่อย!”
“ตอบมา!”
“จะคบหรือไม่คบแล้วมึงเสือกอะไร?! เป็นแค่เพื่อนอย่ามาวางอำนาจ!”
“ป๋าย!”
“ทำไม?!”
“อยากลองดีเหรอวะ?! มึงยังรักกูอยู่จะไปคบกับไอ้เหี้ยนั่นได้ไง!”
“หึ! ใครบอกว่ากูยังรักมึง? ยอมเป็นเพื่อนด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว! คิดเหรอว่าถ้าตอนแรกเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาก่อน แล้วมึงจะได้ยืนอยู่ตรงหน้ากูแบบนี้! ด่าว่ากูแบบนี้!” ฉันสะบัดแขนออกจากมือเจย์เดน ผลักมันออกห่าง แล้วก็เดินออกมาทันที...บ้าจริง! ฉันจะร้องไห้เพราะมันอีกทำไม?! ไอ้คนเฮงซวย! ฉันขอแนะนำเลยนะ ใครก็ตามที่คิดจะเอาเพื่อนมาทำแฟน คิดดูให้ดีๆ เพราะสุดท้ายก็อาจจะต้องเสียทั้งเพื่อนทั้งแฟนไปในเวลาเดียวกัน! แล้วไอ้คำที่บอกว่าเลิกกันแล้วก็กลับไปเป็นเพื่อนกันได้ มันอาจเป็นแค่คำโกหก!

