บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 : สถานการณ์นี้ไม่หนีก็ตาย

ตอนที่

[1]

สถานการณ์นี้ไม่หนีก็ตาย

ท่ามกลางเสียงความรื่นเริงอันดังครึกโครมที่กระจายไปทั่วบริเวณ ผู้คนใบหน้าต่างเต็มไปด้วยความสุข ร่วมฉลองและอวยพรให้กับเจ้าของงานนี้กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง วันนี้เป็นวันเกิดของอดีตเจิ้งกวนโหวฮูหยินหรือก็คือมารดาของเจิ้งกวนโหวคนปัจจุบัน ตระกูลเจิ้งมีน้ำหนักในพระทัยฝ่าบาทเพียงใดมิมีผู้ใดไม่รู้ ดังนั้นงานในวันนี้หากผู้ใดมีโอกาสต่างก็เลือกที่จะเข้าร่วมอย่างไม่มีปฏิเสธ ทว่า…มิมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าไม่ไกลจากสถานที่จัดงานที่พวกเขาสนุกอยู่นั้น อีกด้านกำลังมีคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่ราวกับจะฆ่าแกงกันก็ไม่ปาน

เจิ้งกวนโหว หรือนามหนึ่งคือ เจิ้งซวี่จื่อ เขากำลังใช้สายตาอันแดงก่ำเต็มไปด้วยโทสะมองไปยังสตรีน้อยนางหนึ่งที่กระทำการต่ำช้าเพียงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการราวกับจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตกเสียตรงนี้ ชายหนุ่มขบฟันแน่นจนปรากฏเป็นสันกรามปูดโปนมองสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงแก่ผู้ที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก แต่กระนั้น อันลู่เพ่ย ก็ยังทำใจกล้า พยายามที่จะนำมือของตนเข้าไปแตะต้องเขาอย่างไม่กลัวตายราวกับว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้ตนสมหวัง

หากคืนนี้นางและเจิ้งกวนโหวไม่ตกล่องปล่องชิ้นกัน เห็นทีว่าสองแม่ลูกนั่นคงต้องฉกฉวยโอกาสนี้ไปเป็นแน่!

“สตรีแพศยาอย่ามาแตะต้องตัวข้า!!” ทว่าเขากลับถอยกายออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่ามือของอันลู่เพ่ยจะมาถึงตัว น้ำเสียงตวาดลั่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความผิดหวัง…

“เจ้าอย่าคิดว่าจะทำ…สำเร็จ” จะเห็นได้ว่าเขาพยายามใช้ความอดทนเป็นอย่างมากที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ มือของชายหนุ่มกำแน่น พลางสลับกับใช้เล็บจิกเข้าไปที่ร่างกายของตนเองเพื่อหวังให้ความเจ็บปวดดึงไม่ให้สติของตนจมลงไปในห้วงอารมณ์ที่อันลู่เพ่ยปรารถนาอยากจะให้เป็น พร้อมกันนั้นก็พยายามที่จะเปิดประตูออกไปจากห้องนอนส่วนตัวของตนเองเพื่อไปยังด้านนอก

แต่ทว่ามันกลับถูกปิดจากด้านนอก…

หากเป็นยามปกติ ต่อให้มีประตูสิบบานเขาก็เปิดออกไปได้ แต่ยามนี้นั้นมันไม่ปกติ ร่างกายของเขาราวกับขี้ผึ้งลนไฟพร้อมที่จะหลอมละลายได้ทุกเมื่อ อารมณ์ปรารถนาที่พุ่งสูงอยากจะปลดปล่อยอยู่รอมร่อ แต่ถึงกระนั้นต้องมิใช่กับสตรีที่เป็นตัวต้นเหตุและเต็มไปด้วยความน่ารังเกียจเช่นคนที่อยู่ตรงหน้าเขาผู้นี้

อันลู่เพ่ย สตรีไร้ยางอายที่วางยาปลุกกำหนัดเขา!

เขาไม่รู้ว่านางทำได้อย่างไร เพราะเขาไม่ได้จิบชาในงานแม้แต่หยดเดียว

“ท่านโหว อย่าได้ฝืนตนเองเช่นนั้นเลย ให้ข้าช่วยเถิด…”

อันลู่เพ่ยเห็นว่าอีกคนเริ่มทำร้ายตัวเองมากขึ้นจึงรีบห้ามปรามเขา ยาตัวนี้แรงนัก ผู้ที่ขายให้นางบอกว่าหากเขาไม่ได้ปลดปล่อยภายในครึ่งชั่วยาวคนผู้นั้นอาจจะธาตุไฟเข้าแทรกได้

มิใช่ว่าตนไม่เป็นห่วงเรื่องความอันตรายของเขา แต่หากเขาปรารถนามาก เขาก็จะยิ่งปฏิเสธนางได้ยากมิใช่หรือ เช่นนั้นแผนการของนางก็จะสำเร็จ

แต่ทว่าดูเหมือนว่านางจะดูถูกความอดทนของเจิ้งกวนโหวมากเกินไป เพราะยามนี้จวนจะครบครึ่งชั่วยามแล้ว แต่บุรุษผู้นี้ก็ยังอดทนที่จะไม่เข้ามาใกล้ชิดนางได้ ทั้งที่นางในยามนี้แทบจะเปิดเปลือยร่างกายจนหมดแล้วเหลือเพียงผ้าบาง ๆ เท่านั้น แต่สายตาของเขาที่มองมากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง

แต่นางไม่อาจจะรั้งรอต่อไปได้อีกแล้ว

ในตอนนั้นที่อันลู่เพ่ยขยับกายเข้าไปหาคนตรงหน้าและเป็นจังหวะเดียวที่เจิ้งซวี่จื่อหยิบเอาเชิงเทียนจะฟาดเข้าไปที่หัวของตนเอง

“ท่านโหวอย่า!!”

อันลู่เพ่ยเห็นเช่นนั้นจึงได้ถลากายเข้าไปเพื่อห้ามปรามอีกฝ่ายก่อนจะเกิดเหตุการณ์ยื้อยุดกันเกิดขึ้น

และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อทั้งสองร่างทรงตัวไม่ได้และล้มลงไปพร้อมกัน แต่สิ่งที่แย่นั้นคือร่างของอันลู่เพ่ยอยู่เบื้องล่างและเพราะแรงกระแทกที่เกิดขึ้นที่ศีรษะทำให้ร่างของหญิงสาวเมื่อล้มลงก็แน่นิ่งไปทันที

และเหตุการณ์การล้มลงนี้ก็ทำให้สติของเจิ้งกวนโหวนั้นกระเจิดกระเจิงไปเช่นกัน สายตารังเกียจนั้นไม่มีอีกแล้ว…ทิ้งไว้เพียงสายตาของสัตว์ร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อเท่านั้น!

นัยน์ตาแดงก่ำของชายหนุ่มจ้องมองร่างที่อยู่ภายใต้ร่างกายของเขาราวกับมองเหยื่ออันโอชะ เสียงหายใจฟืดฟาดบ่งบอกว่าความอดทนของเขาถึงขีดสุดแล้ว

แควก!

.

.

.

เฮือก!

ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับร่างที่กระตุกเกร็ง ก่อนที่จะพยายามสูดลมหายใจเข้าราวกับขาดอากาศหายใจมาเนิ่นนาน

ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความอึดอัดทรมาน การจมน้ำมันนี่มันช่างทรมานจริง ๆ หากไม่เพราะเป็นตะคริวร่วมด้วย เธอคงเอาตัวรอดได้ไปนานแล้ว

ทว่าเมื่อตั้งสติดี ๆ เพ่ยเพ่ย ก็พบกับความแปลกประหลาดบางอย่าง เหมือนว่า…เธอจะไม่ได้อยู่ในน้ำอย่างที่คิด ทั้งที่จำได้ล่าสุดเธอกำลังจมน้ำอยู่แท้ ๆ

แล้วทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดราวกับมีแรงกดดันมหาศาลมากมายที่ล้อมรอบตัวเธอราวกับจมน้ำขนาดนี้นะ ไหนจะความมืดมิดนี้อีก

แพขนตางอนพยายามที่จะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเพื่อดูว่าเธอกำลังอยู่ในสถานการณ์ไหนกันแน่ และเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏขึ้น ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

!!!

ร่างของเธอตอนนี้กำลังถูกทาบทับด้วยคนผู้หนึ่ง เขาไม่ได้ทับไว้ธรรมดาทว่าส่วนล่างนั้นก็กำลังรังแกเธออย่างหนักเช่นกัน คิดแล้วความเจ็บปวดและความจุกเสียดก็จู่โจมความรู้สึกของเธอเข้าทันใด

“นี่คุณหยุดนะ!” เพ่ยเพ่ยพยายามห้ามปรามเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีสติเลยแม้แต่น้อย ร่างหนานั้นกระแทกกระทั้นเบื้องล่างของเธอราวกับโกรธกันมาเป็นสิบชาติ เพ่ยเพ่ยที่โสดมาทั้งชีวิตไม่ได้คาดคิดเลยว่าตนเองจะมาพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะใช้เล็บจิกเข้าไปที่ผิวหนังของคนที่กำลังกระทำเธอราวกับว่านี่เป็นหนทางเดียวที่จะหยุดเขาได้ มันบ้าคลั่งพอ ๆ กับคนที่อยู่บนร่างของเธอ

สุดท้ายเมื่อหมดแรง เธอก็ได้แต่ปล่อยให้พายุที่โหมกระหน่ำนี้มันจบลงด้วยตัวของมันเอง

แต่เพ่ยเพ่ยกลับไม่คาดคิดว่าพายุลูกนี้ไหนเลยมันจะจบง่าย ๆ เพราะเมื่อลูกนี้จบลงมันก็มีลูกใหม่มาเรื่อย ๆ หญิงสาวจึงราวกับหุ่นเชิดที่ถูกคนที่แรงเยอะกว่าชักจูงไปได้ตามใจ

ครั้งแรกของเธอ ทำไมมันถึงไม่เหมือนที่เคยคาดหวังเอาไว้

กับคนแปลกหน้าเนี่ยนะ!?

น่าผิดหวังจริง ๆ

คิดอยู่ไม่นานด้วยความอ่อนเพลียเพ่ยเพ่ยก็หลับลงไปทั้งอย่างนั้น ก่อนที่สะดุ้งตื่นอีกครั้งเพราะเสียงกรีดร้องของใครบางคน

“กรี๊ดดดดดดดด”

เพ่ยเพ่ยลืมตาขึ้นเพื่อมองไปยังผู้มาใหม่ ก็พบว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่ในชุดโบราณที่เธอเคยเห็นในซีรีส์ คนตรงหน้าสวยไม่น้อย แต่ใบหน้าคนสวยกลับเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปจากห้องและปิดประตูเสียงดัง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!

หญิงสาวมองไปยังด้านข้างของตนเองก็พบว่ามีคนที่รังแกเธอนอนอยู่ แม้จะอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติแต่ก็ยอมรับว่าเขาหล่อมาก ๆ มากแบบหาตามท้องถนนไม่ได้ง่าย ๆ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เธอต้องคิดก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงมาอยู่ในสภาพนี้ และก่อนที่จะมีใครเข้ามาเห็นอีก

ในระหว่างที่เพ่ยเพ่ยกำลังนึกถึงเรื่องต่าง ๆ อยู่นั้น ภาพต่าง ๆ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวจนใบหน้างามบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ไม่นานจะเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก แล้วรีบหันไปมองที่คนที่อยู่ด้านข้างตนอีกครั้ง

ซวยแล้ว

ซวยขนานแท้!

นี่เธอข้ามมิติมาอยู่ในยุคโบราณและดันมาอยู่ในร่างของคนที่มีนิสัยชั่วช้า หนึ่งในนั้นคือวางยาปลุกกำหนัดของคนที่อยู่ด้านข้าง คนที่ขึ้นชื่อเรื่องเด็ดขาดไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรกับเขาแบบซึ่ง ๆ หน้า

เจิ้งกวนโหว เจิ้งซวี่จื่อ หรือตำแหน่งในราชการของเขาก็คือใต้เท้าผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขึ้นตรงกับฮ่องเต้ ฉายา มัจจุราชไร้ใจ หากผู้ใดกระทำผิดเขาไม่เคยละเว้นไปโดยง่าย แต่อันลู่เพ่ยหรือร่างที่เธอได้เข้ามาอยู่ตอนนี้กลับคิดวางยาเขาเพราะได้ยินว่าคนที่ตนเกลียดชังคิดจะแต่งงานกับเขาเนี่ยนะ เพียงเพราะอยากเอาชนะคนผู้นั้น เลยได้คิดแผนการที่สิ้นคิดแบบนี้

สิ้นคิดจริง ๆ

แล้วทำไมอันลู่เพ่ยคนนั้นไม่อยู่รับผลการกระทำของตนเอง แต่กลับเป็นเธอเพ่ยเพ่ยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยต้องมารับกรรมแทนเล่า!!

เพ่ยเพ่ยตบหน้าผากตนเองด้วยความกลัดกลุ้ม

อีกทั้งเมื่อรู้แล้วว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ตนเองคงไม่รอดแน่ ๆ เพ่ยเพ่ยเลยรีบจัดการแต่งตัว แม้ว่าจะอยากอาบน้ำมากแค่ไหนเพราะเนื้อตัวตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเหนอะหนะ เพราะอะไรคงไม่ต้องเดา แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว

เธอต้องหนีเท่านั้น!!

หากเป็นนิยายที่เธอเคยอ่าน ถ้าทะลุมิติมาต่างโลกในคนที่นิสัยร้ายกาจแบบนี้ก็คงต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนใหม่เพื่อให้คนยอมรับ แต่กับอันลู่เพ่ยคนนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องราวมันจะไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะสตรีผู้นี้นั้นร้ายมาตั้งแต่เกิดแล้วกระมัง แล้วแบบนี้เธอจะมาจะมัวเปลี่ยนตัวเองทำไม สู้หนีไปจะดีกว่า โจทก์เยอะขนาดนี้

หนีเท่านั้นถึงจะเป็นทางรอด!!

คิดแล้วก็สอดส่องสายตาไปรอบห้องก่อนจะพบกับเงินปึกใหญ่ที่วางอยู่ นี่คงเป็นเงินของคนคนนั้น ไหน ๆ เจ้าของร่างนี้ก็ทำให้เขาเกลียดแล้ว เช่นนั้นทำอีกสักอย่างก็แล้วกัน มันไม่มีทางเลือกจริง ๆ คิดแล้วมือเรียวขาวก็รีบกวาดเงินที่วางอยู่มาทั้งหมดแล้วยัดใส่ช่องเก็บเงินที่อยู่ในชุดตัวยาวที่สวมอยู่เอาไว้ ก่อนที่สองเท้าจะรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อตรงไปยังประตูใหญ่ไปที่อยู่เบื้องหน้า…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel