ตอนที่ 3 เสียตัวครั้งแรกเกินความคาดหมาย /2
ภัทรพลกระเด้งสะโพกเข้าสู่ช่องแคบที่กำลังตอดตุบๆ เธอทำให้เขาเจียนคลั่ง โหมพละกำลังที่มีจนเหงื่อท่วมตัว ความเป็นชายสั่นระริกเมื่อร่องสาวกระตุกอีกครั้ง เขากระแทกกระทั้นกายถาโถมจนกระทั่งลำชายปลดปล่อยธารน้ำขุ่นข้นออกมา
“อาห์!!!”
เมื่อพายุสวาทสงบ ลินดาก็ถูกดึงขึ้นไปบนร่างหนา เธอไล้ปลายนิ้วไปทั่วดวงหน้าคมเข้ม ริมฝีปากที่สัมผัสทั่วร่างเธอ ก่อนจะมองเข้าไปในแววตาคมกริบ
“อีกสองวันจะพาไปสตูดิโอ”
“จริงเหรอคะ”
“พี่ไม่เคยผิดคำพูดกับใคร” ชายหนุ่มทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “พี่”
“ค่ะ พี่” ลินดายิ้ม จูบซอกคอชื้นเหงื่อของเขา “ดีใจจัง เหมือนเราขยับเข้าใกล้กันอีกขั้น”
“แค่พูดว่าพี่น่ะเหรอ”
“ค่ะ ไม่รู้ว่าหนูทำให้พี่พอใจมากน้อยแค่ไหน แต่พี่ยอมพาหนูไปสตูดิโอก็น่าจะยืนยันได้ว่า หนูทำให้พี่พอใจ”
“นั่นสินะ แล้วตอนนี้มันก็แข็งขึ้นมาอีกแล้วสิ”
“กรี๊ดดดด” ลินดาร้องลั่นเมื่อเขาพลิกเธอให้นอนหงายแล้วเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมอีกครั้งและอีกครั้ง
“เข้ามาสิ”
ลินดามองห้องซ้อมร้องเพลงด้วยความตื่นเต้น ในนี้มีเครื่องดนตรีทุกชนิด แต่ภัทรพลเลือกที่จะไปนั่งเล่นเปียโนหลังใหญ่
“คิดว่าร้องเพลงอะไรดีที่สุด”
หญิงสาวยิ้มเก้อเขินพลางนึกถึงเพลงโปรดที่ชอบฟังและร้องบ่อยสุด
“เลือกได้ไหม ของซาซ่าค่ะ”
“งั้นร้องให้ฟังหน่อย” ภัทรพลบอกสั้นๆ ยกแขนขึ้นกอดอกรอฟังเสียงร้องของเธอ
ลินดากระแอมกระไอสักพักก็เปล่งเสียงอันไพเราะร้องเพลงโปรด แค่ท่อนแรกก็ทำให้นักแต่งเพลงมือดีถึงกับอึ้ง ไม่ใช่เพราะมากมายราวกับต้องมนตร์สะกด แต่น้ำเสียงของเธอมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เธอร้องเพลงของนักร้องดังในยุค 90 ซึ่งเธอเกิดหลังจากนั้นมาก จะต้องชอบร้องเพลงนี้ขนาดไหนถึงจะร้องได้ดีขนาดคนฟังคิดว่าเป็นเพลงของเธอเอง
เมื่อร้องจบเธอก็บิดกายไปมาแล้วรอฟังคำวิจารณ์จากกรรมการหนุ่มรูปงาม ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้า ประกบฝ่ามือกับใบหน้าอ่อนเยาว์ ตาคมกริบจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตก่อนที่เขาจะแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากเธอ
“ไม่เหมือนต้นฉบับเลย” เขากระซิบ ยกมือขยี้ผมเธอไปมา “เพลงอื่นล่ะ”
แม้คำวิจารณ์จะทำให้ใจเธอแฟบลงพอสมควรแต่ก็ยังไม่ละทิ้งความพยายาม ลินดานึกถึงเพลงที่ชอบร้องเพื่อเวลาร้องออกมาจะได้ถูกใจกรรมการ
“รักคงยังไม่พอ ของพี่เสือ ธนพลค่ะ”
“หืมม์? เพลงผู้ชาย?”
“ใช่ค่ะ”
“เอาสิ จะลองฟังดู” นักแต่งเพลงหนุ่มแอบคิดว่าคราวนี้ลินดาน่าจะพลาดแน่ๆ การร้องเสียงผู้หญิงในบทเพลงของศิลปินชายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าฝึกฝนด้วยความรักที่จะร้องเพลงจริงๆ ก็ทำได้
ลินดานิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะเงยหน้าเป่าปากแล้วคิดว่ากำลังยืนอยู่กลางเวทีคอนเสิร์ต แสงไฟจากสปอร์ตไลท์ส่องกระทบตรงมาที่เธอ เสียงหวานเริ่มเปล่งออกมาร้องเพลงศิลปินชายคนโปรด แต่ร้องในแบบฉบับของเธอซึ่งไร้ดนตรีประกอบเช่นเดียวกัน
“เฮ้ย!!” ภัทรพลอุทานดวงตาเบิกกว้างมากกว่าเดิม นอกจากจะอึ้งแล้วยังเพิ่มความทึ่งเข้ามาเติมด้วย ไม่คิดเลยว่าลินดาเด็กบ้านนอกผู้ซึ่งเคยชนะการประกวดร้องเพลงตั้งแต่ป.5 แถมยังเป็นเวทีการประกวดเดียวในชีวิตจะร้องเพลงได้ไพเราะเพราะพริ้งออกมาราวกับเป็นเพลงของเธอโดยเฉพาะ
น้ำเสียงของเธอมีพลังมาก เส้นเสียงของเธอสวยเหมือนรูปร่างหน้าตาของเธอ ถ้าไม่มีแว่นตาบนใบหน้า เด็กบ้านนอกคนนี้จะเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างที่เขาเคยเห็นมาทุกซอกทุกมุมแล้ว
“ใช้ได้ไหมคะ”
ภัทรพลเดินมาหาเธออีกครั้งก่อนจะถอดแว่นตาหนาเตอะของเธอออก
“ถ้าไม่มีแว่น ออร่าเธอจะจับมาก”
“แต่ถ้าไม่ใส่แว่น หนูก็มองไม่เห็นนะคะ” เธอยกมือไล่คว้าแว่นตาตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมให้
ร่างสูงเดินไปหยุดข้างหลังกอดร่างเล็กเอาไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่าง ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะเลื่อนขึ้นมานวดคลึงเต้าเต่งที่รู้ดีว่าสวยเพียงใด
“พี่ไม่อยากให้ลินเห็นใครทั้งนั้นนอกจากพี่”
“พี่หนุ่ม!” มือเล็กยกขึ้นตะปบมือใหญ่ที่ยังนวดคลึงโนมเนื้อจนปลายยอดแข็งชัน “อย่าค่ะ เผื่อใครเข้ามาจะเห็นเข้า”
เสียวก็เสียว อยากไปต่อก็อยาก แต่กลัวจะมีคนเห็นมันน่าอายเกินไป แต่การผลักไสเขาก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ริมฝีปากภัทรพลแนบลงกับซอกคอหอมกรุ่น เลือดในกายของเธอเริ่มร้อนระอุ ลมหายใจเริ่มเปลี่ยนจังหวะ และเมื่อมือใหญ่สอดเข้ามาในกางเกงขาสั้น ต้นขาของลินดาก็สั่น
“อยากถอดจังเลย เกะกะอ่ะ”
“ไม่ดีมั้งคะ” เธอแย้งเสียงสั่น
“เมื่อคืนลินยังยั่วพี่ได้เลย เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มก็แหบพร่าเหมือนกัน
“แต่ว่า...”
“ถ้าอยากเป็นนักร้องก็อย่าขัดใจพี่สิ รู้รึเปล่าว่าพี่เป็นคนเห็นแก่ตัว ถ้าทำอะไรแล้วไม่คุ้มค่าก็ไม่ทำหรอก”
“อ๊ะ!!!” ลินดาคราง ก่อนจะบังคับเสียงให้เปล่งออกไปตามที่ใจสั่นๆ นึกขึ้นได้ “พี่หนุ่มพาหนูมาที่นี่เพราะนอนกับหนูหรือคะ ถ้าพี่ไม่ได้นอนกับหนู พี่จะฟังหนูร้องเพลงไหมคะ”
