บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ฝึกงาน

บ่ายวันนั้นศิรดาก็ถูกพี่ชายลากมาโรงแรมด้วยทันที นอกจากจะไม่สามารถปฏิเสธได้ยังต้องฝืนยิ้มทำหน้างอไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอจึงได้แต่แอบบ่นในใจ นี่ขนาดพี่รุตเพิ่งมาถึงวันแรกนะ นับต่อจากนี้เวลาสนุกของเธอคงหมดลงแน่ จนกว่าพี่ชายจะกลับเชียงใหม่

"พอดีเลยยายรดา มาพร้อมกับพี่เขา พ่อจะได้คุยเรื่องจะเรียนต่อหรือจะทำงาน"

แค่ประตูห้องเปิดออก ผู้เป็นพ่อที่เงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ก็เอ่ยทักทายลูกสาวที่แม้จะอยู่บ้านเดียวกัน แต่กลับไม่ค่อยได้เห็นหน้าสักเท่าไร

"พ่อพูดอย่างกับไม่ค่อยเจอยายรดางั้นแหละ" คำถามของพี่ชายเธอได้แต่เสียวสันหลัง เหลือบสายตามองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาเว้าวอน หวังว่าท่านจะเข้าใจ

"เอาแต่เที่ยวหรือไงเรา บ้านช่องไม่อยู่ ผมมาถึงเมื่อเช้าก็เพิ่งกลับมา"

"รดาแค่ไปนอนที่คอนโดค่ะ" เสียงตอบอ่อยๆ พลางส่งสายตามองหน้าคุณวิโรจน์ผู้เป็นพ่อด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ

"สรุปเราจะเอายังไง จะเรียน หรือจะทำงาน" ท่านได้แต่ยิ้มน้อยๆ ส่ายหน้าเบาๆ ให้ลูกสาวคนเล็ก และดูเหมือนพี่ชายเธอจะรู้ทันว่าพ่อแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

"พ่อก็ตามใจน้อง ถ้ายังหาที่เรียนไม่ได้ ก็ให้มาทำงานไปก่อน"

เมื่อคนตอบยังไม่มีคำตอบออกมา พี่ชายเธอจึงได้สรุปให้เสร็จสรรพ

"พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลย ตอนเช้าก็มาพร้อมพี่"

"ค่ะ" เธอจึงได้แต่รับคำเสียงอ่อยๆ

หลังจากรับคำสั่งจากพี่ชายที่ตั้งตนเป็นพ่ออีกคนของเธอ ศิรดาก็ได้แต่นั่งฟังพ่อปรึกษากับพี่รุตอยู่เงียบๆ ทั้งเข้าใจเรื่องที่ฟังอยู่บ้าง บางเรื่องก็ไม่เข้าใจนัก จนชื่อของคุณทินกร ราชศิริโสภณ ที่พ่อเธอเอ่ยถึงทำให้เธอสนใจขึ้นมาทันที เพราะนอกจากชื่อเจ้าสัวใหญ่ระดับประเทศแล้ว นั่นยังคือพ่อของยายจ๋าอีกด้วย

"คุณทินกรเขาให้เลขาติดต่อมาจะจองห้องของเรายี่สิบห้อง เป็นเวลาสามเดือน ขอห้องที่ดีที่สุดด้วย จะต้อนรับลูกค้าต่างประเทศ เห็นว่ามาดูงานกันยาวเลย"

"ก็ดีนี่ครับ พอดีแหละยายรดาจะได้มาเรียนรู้งานไปด้วย"

นอกจากเรื่องที่ได้ฟังจะน่าสนใจ แต่พอเธอต้องเข้าไปอยู่ในประโยคสนทนานั้นด้วย ก็ได้แต่แอบกลอกตากับตัวเอง หนีไม่รอดแน่ๆ งานนี้ แต่ก็ยังตั้งใจฟังเรื่องที่พ่อกับพี่ชายพูดคุยกันอยู่ด้วยความสนใจ

หลังจากพ่อกับพี่รุตคุยกันเสร็จ เธอคิดว่าคงจะได้เป็นอิสระสักที แม้จะแค่ช่วงบ่ายของวันนี้ก็ตาม แต่ที่ไหนได้เธอกลับถูกพี่ชายพาเดินเสียรอบโรงแรม แม้จะเคยมาที่นี่บ่อยๆ รู้เกือบทุกซอกทุกมุม แต่ก็ยังไม่เคยเข้าไปคลุกคลีกับพนักงาน จะมีคนที่รู้จักเธอก็คงจะเป็นพนักงานในชั้นบริหารที่พอจะเห็นหน้าเห็นตากันบ่อยๆ และอีกส่วนที่อาจจะคุ้นหน้าเคยเห็นบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก คงจะเป็นพนักงานในส่วนห้องอาหาร ในบางวันที่เธอได้มาทานข้าวกับพ่อหรือแม่ที่นี่

แต่วันนี้พี่รุตพาเธอไปทำความรู้จักกับพนักงานในหลายแผนกที่บางคนยังไม่เคยแม้จะเห็นหน้ากันสักครั้ง รอยยิ้มหวานที่ส่งยิ้มให้พนักงานยามเมื่อถูกแนะนำ เธอฉีกยิ้มจนปากแห้ง กว่าจะครบทุกแผนก มันไม่ง่ายสักนิดเลยนะเนี่ยไอ้การเริ่มงานเนี่ย

เธอแทบลากสังขารกลับบ้านด้วยความเมื่อยล้า เดินวนในโรงแรมอยู่หลายรอบขึ้นลิฟต์ลงลิฟต์อยู่หลายเที่ยว กลับมาถึงก็ทิ้งตัวนอนด้วยความหมดแรง

JaJa : เป็นไงบ้าง พี่รุตกลับยัง

เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า พร้อมข้อความที่ขึ้นโชว์อยู่หน้าจอโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความของใคร เธอก็รีบเปิดอ่านทันที

Sirada : ยังเลย

Sirada : (สติกเกอร์รูปหมาหมดแรง นอนลิ้นห้อย)

JaJa : ขนาดนั้นเลย

Sirada : เมื่อยขามาก แถมพรุ่งนี้ต้องเข้าไปทำงานที่โรงแรมด้วย

JaJa : ว่าจะชวนเที่ยวสักหน่อย งั้นพักผ่อนเถอะ สู้ๆ นะ

แม้จะไม่อยากตื่นเช้าเพื่อมาเริ่มงานที่โรงแรมสักเท่าไร แต่เพราะคำขู่ของพี่ชายเมื่อวานหลังอาหารค่ำ ทำให้เธอต้องลุกขึ้นแต่งตัวด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย และต้องให้ดูภูมิฐานน่าเชื่อถืออีกด้วย เมื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองจนดูดีแล้ว เธอก็ต้องรีบลงมาที่ห้องอาหารให้ทันพี่ชาย ลงมาถึงก็เห็นพี่รุตกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่กับคุณพ่อ โดยมีคุณรำไพเดินวนเวียนตักข้าวต้มเสิร์ฟให้ผู้เป็นสามี

"แต่งตัวสวยเชียวลูกแม่ พร้อมไหม"

"พร้อมมากค่ะ"

แม้คำตอบจะดูน่าฟัง แต่ท่าทางอ่อนแรงนั้นทำให้มีสายตาอีกสองคู่จ้องมองมา จนเธอต้องทำท่าทางให้ดูกระตือรือร้นขึ้นทันที

ศิรดานั่งรถตู้คันหรูไปพร้อมกับพี่ชาย ส่วนพ่อไปพร้อมกับแม่อีกคัน

ในช่วงเช้าของวันนี้เธอยังไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ได้แต่เดินตามพี่ชายต้อยๆ นั่งฟังเรื่องที่ชวนจะให้เคลิ้มหลับเสียอยู่หลายครั้ง จนเวลาเกือบจะเที่ยงเรื่องที่ได้ฟังทำให้ตาสว่างขึ้น

แค่เป็นเรื่องของคนบ้านข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นใครที่เกี่ยวข้องกับเขา ก็ทำให้เธอสนใจได้ทุกเรื่อง และวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อเธอได้ยินพี่ชายคุยโทรศัพท์กับพี่นที พี่ใหญ่ของบ้านราชศิริโสภณที่จะเข้ามาคุยเรื่องห้องพักที่เธอได้ยินเมื่อวาน ก็เผลอทำเธอแอบตื่นเต้นขึ้นมา พี่รุตนัดคุยกับพี่นทีที่ห้องอาหารของโรงแรมและก็ทำให้เธอได้ติดสอยห้อยตามไปด้วยนั่นแหละ

"อ้าว โดยพี่ชายเราลากมาทำงานด้วยนี่เอง ถึงว่ายายจ๋า นั่งเป็นหมาหงอยเลย" คำทักทายของพี่นทีทำให้เธอแทบจะทำหน้าไม่ถูก ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้ พลางแอบเหลือบสายตาไปมองพี่รุต

"ขืนไม่พามาทำงานด้วย คงจะเกเรอีกนานแน่ครับ" น้ำเสียงของพี่รุตยามเมื่อคุยกับพี่นที ดูออกจะน่าฟังกว่าที่เอ่ยถึงพี่ชายอีกคนของยายจ๋าเป็นไหนๆ

ถ้าเอ่ยถึงลูกชายคนรองบ้านนั้น อย่างชลันธร น้ำเสียงออกจะคล้ายคนไม่ชอบขี้หน้ากันอย่างนั้นแหละ ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ยังรู้สึกได้ แต่ตอนนี้หลังจากที่เธอได้รู้เรื่องของอดีตแฟนพี่ชาย ว่าครั้งหนึ่งพี่พิมพ์ก็เคยเป็นแฟนของเขา เธอจึงเริ่มพอจะเข้าใจที่คนสองคนดูไม่ชอบหน้ากัน และคนทางนั้นเหมือนจะพลอยไม่ชอบหน้าเธอไปด้วยอีกคน

"สงสัยพี่ต้องให้ยายจ๋าไปทำงานบ้างแล้ว รายนั้นดื้อด้านกว่ารดาเยอะ พูดไม่มีฟัง ดีแล้วที่รุตดึงรดามาทำงานด้วย พี่ล่ะกลัวยายจ๋าจะพารดาเสียคนเอา"

"ยายจ๋าไม่ได้ดื้อขนาดนั้นสักหน่อย พี่นทีใส่ร้าย" เธอได้แต่เถียงแทนเพื่อนเสียงอ่อยๆ

"ยังจะเถียง"

เสียงขุ่นของพี่รุตที่เอ่ยแกมดุ ทำให้เธอต้องหุบปากสนิท จนแทบจะไม่กล้าทานอาหารบนโต๊ะนั้นเลย จนเมื่อพี่รุตกับพี่นทีคุยเรื่องงานกันนั่นแหละ เธอจึงได้แต่นั่งทานข้าวไปอย่างเงียบๆ ฟังเรื่องงานที่พอเข้าใจได้ไปพลางๆ แล้วก็พยายามนึกถึงงานที่ตัวเองจะสามารถช่วยได้

ลูกค้าจากต่างประเทศ เด็กนักเรียนอินเตอร์อย่างเธอก็ไม่ด้อยภาษา อย่างน้อยคงพอช่วยพี่ชายได้เยอะอยู่หรอก

"ไปที่แผนกแม่บ้าน คุณนภารออยู่"

หลังเสร็จจากอาหารเที่ยง พี่นทีกลับไปแล้ว เธอจึงได้ขึ้นมาที่ห้องทำงานของพี่รุตอีกครั้ง

เสียงเข้มเอ่ยสั่งของพี่ชาย ทำให้เธอขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจนัก พี่รุตจะให้เธอไปทำอะไรที่แผนกแม่บ้าน

"คะ" ทนความสงสัยไว้ไม่ได้ เธอจึงได้เอ่ยถาม

"ไปทำงานที่แผนกแม่บ้าน คุณนภาจะสอนงานให้"

"คะ" เธออุทานเสียงหลง ฟังเข้าใจ แต่เหมือนไม่เข้าใจ

"ทำไม จะดูแลโรงแรมได้ ก็ต้องรู้ทุกแผนกในโรงแรม ไปอยู่แผนกแม่บ้านสามเดือน"

"สามเดือน"

ศิรดาสบสายตาคมของพี่ชายที่หรี่ตามองด้วยความหงุดหงิด ก็ทำให้เธอต้องรีบรับปากแล้วออกจากห้องมาทันที เดินตรงไปหาคุณนภาตามคำสั่ง
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel