ตอนที่ 3 พี่ชาย
สีหน้าแปลกใจของศิรดาหันหน้าไปมองคนขับรถยนต์คันหรู อย่างไม่อยากเชื่อเรื่องที่ได้ยินสักนิด ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ให้เห็น เห็นเพียงเรือนผมสีเทาสลวยนั้นที่ละปลายผมอยู่ที่หางตา จนเธอนึกอยากเอื้อมมือขึ้นไปปัดมันให้พ้น แต่พลันสายตาคมที่หันมามองเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกจ้องอยู่นาน สบตาเขาเธอก็รีบเบนสายตากลับมายังท้องถนนตรงหน้า
"รดา ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนค่ะ ตอนที่พี่รุตคบกับพี่พิมพ์ รดาเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนพวกพี่ก็เรียนจบ พี่ธรไปเรียนต่อเมืองนอก รดายิ่งไม่ทราบค่ะ ไม่เคยเห็นยายจ๋าพูดถึงด้วย"
เธอเอ่ยอธิบายเสียงอ่อย ไม่แน่ใจว่าที่เขาบอก เพราะต้องการอะไร คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว คนทั้งคู่เลิกกันได้อย่างไรแล้วตอนที่พี่พิมพ์มาคบกับพี่รุต ฟังจากน้ำเสียงเขา เหมือนมันจะมีเรื่องไม่ค่อยดีสักอย่างเกิดขึ้นแน่นอน
เขาไม่ได้เอ่ยตอบให้ความกระจ่างสักนิด ได้แต่ยักไหล่ให้ ครั้นเธอจะเอ่ยถามต่อก็ไม่กล้า ความเงียบจึงเข้าครอบงำภายในห้องโดยสารชวนให้อึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
คนที่ดูจีพีเอสแล้วบอกว่าให้เธอบอกทางอีกที สุดท้ายเขาก็มาจอดที่หน้าคอนโดอย่างที่เธอไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมาสักคำ
"ขอบคุณพี่ธรนะคะ เอ่อ... ขึ้นไปดื่มกาแฟก่อนไหมคะ" เสียงตะกุกตะกักที่เอ่ยชวนอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพียงเพราะชวนตามมารยาทไม่ได้หวังเรื่องอื่น แต่ไม่รู้ว่าคนฟังจะคิดอย่างไร เพราะสายตาที่เขาหันมามอง แล้วไอ้รอยยิ้มมุมปากนั่น มันชวนขนลุก
ศิรดาหน้าชาขึ้นมาทันที เมื่อเห็นมือเขาเอื้อมมาที่เก๊ะหน้ารถตรงหน้า เธอก็แค่เบี่ยงขาหลบให้เพราะไม่รู้ว่าเขาจะหยิบอะไร แต่พอเขาเปิดเก๊ะออก กล่องเล็กๆ หลายกล่องที่อยู่ในนั้นทำเอาเธอหน้าแดงขึ้นทันตา แม้จะยังไม่เคยใช้แต่ก็รู้ว่ามันคือกล่องถุงยางอนามัย
"ถะ...ถ้าพี่ธร ไม่สะดวก เอาไว้วันหลังรดาเลี้ยงขอบคุณแล้วกันนะคะ เธอรีบละล่ำละลักเอ่ยบอกทันที ที่เห็นเขาแกะกล่องแล้วหยิบซองเล็กๆ ด้านในออกมาหลายอัน เหน็บเข้ากระเป๋ากางเกงด้านหลัง มือก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว
"สะดวกสิ ทำไมจะไม่สะดวก สาวชวนขึ้นคอนโดทั้งที"
"เอ่อ..รดาแค่จะเลี้ยงกาแฟขอบคุณเฉยๆ ค่ะ"
"งั้นฉันแวะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อเอาก็ได้"
"ขอโทษที่ทำพี่ธรเข้าใจผิดค่ะ รดาไม่ได้หมายถึงแบบนั้นจริงๆ"
"ทีหลังก็อย่ามาเอ่ยชวนคนอื่นง่ายๆ แบบนี้ โดยเฉพาะฉัน แล้วถ้าจะให้ดีอย่าเที่ยวมาตามตอแย อย่ามาอ่อยมาทอดสะพานให้ฉันด้วยจะดีมาก บอกตรงๆ เลยนะ ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงจืดชืดแบบนี้ เห็นแล้วมันน่าเบื่อ" เขาละคำว่าโดยเฉพาะน้องไอ้รุตไว้ได้ทัน
ศิรดายืนมองดูรถคันหรูที่แล่นออกจากหน้าคอนโด แทบไม่รู้ตัวเองว่าเธอลงจากรถมาตอนไหน คำพูดของเขายังติดหูไม่จาง เธอก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองน่าเบื่อน่ารังเกียจขนาดนี้เลยหรือ เธอเพิ่งกระจ่างก็ตอนนี้ เหตุผลที่เขายอมรับปากยายจ๋ามาส่ง เพียงเพราะต้องการบอกให้เธออย่าไปวุ่นวายกับเขานั่นเอง นับว่าเขายังมีน้ำใจที่ไม่โพล่งด่าเธอต่อหน้าคนอื่น
สองมือเรียวประกบที่แก้มตัวเองแล้วก็ตีเบาๆ คล้ายเรียกสติตัวเอง หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็นั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทาครีมบำรุงแล้วก็ตบหน้าตัวเองเบาๆ อยู่แบบนั้น มองหน้าตัวเองในกระจกบานใหญ่แล้วก็ทำให้นึกถึงคำพูดเขาขึ้นมาอีกครั้ง อยู่มายี่สิบสองปีไม่เคยมีแฟน จะเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่านะ จืดชืดเห็นแล้วก็น่าเบื่อ คงไม่มีใครชอบคนแบบนี้ แบบที่เป็นเธออย่างนี้ซินะ
ยิ่งคิดถึงพี่พิมพ์ ก็ยิ่งทำให้นึกเปรียบเทียบกับตัวเองขึ้นมาเสียอย่างนั้น เธอยังจำพิมพ์พิมลแฟนของพี่รุตได้ดี ทั้งสวย ทั้งเปรี้ยว แต่งตัวก็เก่ง คุยก็เก่ง ไม่ได้เรียบๆ แบบเธอสักนิด แต่เมื่อคิดไปถึงอดีตแฟนของพี่ชายก็พลอยทำให้เธอสงสัยเรื่องราวของทั้งสามคนขึ้นมา น้ำเสียงที่เขาพูดมา เธอคิดว่าฟังไม่ผิดแน่ เหมือนมันต้องมีอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาจะบอกเธอทำไม ทั้งที่ทุกคนต่างก็แยกย้ายเลิกรากันไปหมดแล้ว
เสียงเคาะประตูห้องในช่วงเย็นของวันรุ่งขึ้น เธอไม่ได้แปลกใจเพราะรู้ว่าคนที่เคาะนั้นเป็นใคร ยายจ๋ามีคีย์การ์ดที่คอนโดเธอ เช่นเดียวกับที่เธอเองก็มีคีย์การ์ดของคอนโดเพื่อนเช่นกัน "ฮ๊า...ไปทำอะไรมาเนี่ย" เสียงร้องตกใจของคนที่รออยู่หน้าห้อง พอเธอเปิดประตูให้ ยายจ๋าก็ทำตาโต รีบเดินมาจับไหล่หมุนซ้ายหมุนขวาเสียสองรอบ "สวยเชียว มันต้องแบบนี้ซิ เพื่อนฉัน" "แค่ทำสีผมเอง ทำเป็นเวอร์ไปได้" "แต่สีน้ำตาลแบบนี้รับกับผิวดีจัง ดีกว่าผมดำเรียบๆ ตัดเป็นทรงนักเรียนม.ปลายอยู่ได้ แบบนี้มีหวังพี่ธรหลงเสน่ห์เธอแน่" "อาจจะหลง แต่หลงไปทางอื่นนะ" "อะไร เมื่อคืนอุตส่าห์เปิดทางให้ ไม่ชวนเขาขึ้นมาดื่มกาแฟล่ะ" ศิรดาได้แต่ยิ้มแห้ง ส่ายหน้าให้เพื่อนไม่เอ่ยเล่าเรื่องราวเมื่อคืนให้ฟัง "ทำผมซะสวยขนาดนี้งั้นเราไปเดินอวดผู้ชายกันดีกว่า จะได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้เขากับสีผมใหม่ด้วย แบบลูกคุณหนูหวานแหววเลิกใส่ได้แล้ว" สายธารพูดเองเออเองอยู่คนเดียว เสร็จแล้วก็ดันตัวเธอให้เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้วยเหตุผลที่จะออกไปเดินอวดผู้ชาย ศิรดาไม่แน่ใจว่าไอ้ที่มาเดินอวดผู้ชาย จะมีใครมองหรือเปล่า เพราะตัวเองก็ไม่ได้สนใจมองรอบข้างสักนิด เพราะได้ของพะรุงพะรังเต็มสองมือจนแทบจะไม่ได้หันไปทางไหน แถมยังถูกยายจ๋าลากเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ เสื้อผ้ากว่าสิบชุดที่ได้มา ยังไม่รวมเครื่องสำอางอีกหลายถุง แถมรองเท้าต้องเข้ากับชุดอีกสองคู่ จนท้ายที่สุดจนเธอต้องห้ามเพราะถือไม่ไหวแล้ว แต่คนชวนที่หอบถุงหลายสิบใบไม่ต่างจากเธอ กลับไม่มีท่าทีจะเหนื่อยสักนิด กว่าเธอจะชวนกลับได้เจ้าตัวก็ยังขอแถมเข้าร้านนี้อีกร้าน กว่าจะกลับถึงห้องก็เกือบจะสี่ทุ่ม แถมยายจ๋าตัวดียังจะชวนเธอลองชุดไปเฉิดฉายที่ผับเสียอีก จนเธอต้องเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะยังจำสีหน้าและคำพูดของเขาได้ดี ช่วงนี้คงต้องห่างๆ เขาไว้หน่อยจะดีกว่า เดี๋ยวจะถูกเข้าใจผิดไปเยอะกว่านี้ เธอก็แค่ชอบ ชอบมานาน และไม่เคยคิดว่าการแอบชอบของเธอจะทำให้เขารำคาญได้ขนาดนี้ "ไปเหอะนะ ใส่ชุดสวยๆ ไปอวดผู้ชาย ให้พี่ธรมันเสียดายเล่น" "หึ ไม่เอาหรอก พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านแต่เช้าพี่รุตมาน่ะ" ฟังคำปฏิเสธยายจ๋าก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยอย่างนึกเสียดาย แต่เมื่อเอ่ยถึงพี่รุตก็ทำให้ยายจ๋าหยุดเซ้าซี้ได้ทันที "แล้วพี่รุตจะกลับวันไหน" คนยังไม่ทันมาถึงก็ถูกถามถึงวันกลับ "เห็นว่ามาสักอาทิตย์นึงแหละมั้ง" ศิรดาเอ่ยอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะพี่รุตเอาแน่ไม่เคยได้สักที บอกมาแค่สองวันอยู่ถึงสองอาทิตย์ยังมี บางทีบอกมาสักอาทิตย์พรุ่งนี้กลับก็ยังเคย คนฟังจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ "งั้นก็อดไปนอนบ้านเราน่ะซิ" "ช่วงนี้น่าจะต้องทำตัวเรียบร้อยหน่อย ไม่งั้นโดนลากกลับไปเชียงใหม่ด้วยแน่" "โอเค งั้นเราคงต้องห่างกันสักพัก" เป็นที่รู้กันของสองสาว ว่าพี่รุตนั้นออกจะดุ แต่เป็นดุคนละแบบกับชลันธร พี่ชายเธอมักจะไม่พูดมาก ไม่กระทบกระเทียบเหมือนพี่ชายข้างบ้าน แต่พอเสียงเข้มต่ำเท่านั้นแหละ เป็นอันต้องวงแตกทุกที ซึ่งยายจ๋าก็มักจะไม่ค่อยชอบพี่ชายเธอนัก ด้วยเหตุผลที่ว่าเผด็จการเกินไป น้องสาวจะทำอะไรก็ไม่ได้ต้องอยู่ในกรอบตลอดเวลา ทำตัวราวกับเป็นพ่ออีกคนก็ไม่ปาน อยู่ใกล้กันเป็นอันต้องเถียงกันทุกทีจนบ่อยครั้งที่พี่รุตกลับมาจากเชียงใหม่ แล้วยายจ๋าจะต้องหนีหายไปสักพัก เพราะไม่อยากปะทะคารมด้วย