บท
ตั้งค่า

ตอนที่2

โต๊ะอาหารที่อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะของสามคนพ่อลูกที่ดูมีความสุขจนหญิงสาวอีกคนที่ร่วมโต๊ะอาหารด้วยได้แต่มอง

"คุณพ่อขา รุ้งอยากได้รถคันใหม่ค่ะ" เสียงของลูกสาวคนรองนามว่าสายรุ้งเอ่ยออดอ้อนขอรถคันใหม่กับผู้เป็นพ่อ

"พ่อเพิ่งถอยให้เมื่อเดือนก่อนเองนะลูก จะเอาคันใหม่อีกแล้วเหรอ"

"รุ้งไปดูหมอมาเขาทักว่ารถที่รุ้งใช้อยู่มันไม่เป็นมงคลน่ะสิคะ" ลูกสาวคนรองยกอ้างเรื่องเหนือความเชื่อขึ้นมาเพราะรู้ว่าพ่อเชื่อคำพูดของเธอแน่ๆ

"ถ้างั้นก็ได้ลูก อยากได้คันไหนล่ะเดี๋ยวพ่อซื้อให้"

"กรี๊ด คุณพ่อใจดีจังเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ" หญิงสาวลุกขึ้นกอดหอมผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจ

"แล้วฝนล่ะลูก อยากได้อะไรหรือเปล่า" เสียงทุ้มเอ่ยถามลูกสาวคนโตที่ไม่ขออะไรเลย

"ไม่ค่ะ ฝนแค่อยากให้คุณพ่อเข้าร่วมหุ้นบริษัทของต้นน่ะค่ะ" สายฝนลูกสาวคนโตของบ้านเอ่ยขอให้ผู้เป็นพ่อเข้ามาเป็นหุ้นส่วนให้กับบริษัทที่เพิ่งสร้างใหม่ของคนรัก

"ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ขยันทำงานแบบนี้สิดี ถ้าอยากจะแต่งเมื่อไหร่ก็บอกนะลูก" ท่านสุธีหรือที่ลูกๆ ต่างเรียกว่าพ่อ ตามใจลูกสาวทั้งสองคนอย่างไม่มีข้อกังขา แต่ผิดกับลูกสาวอีกคนซี่งเป็นลูกคนเล็กที่ท่านไม่เคยแม้แต่จะใส่ใจดูแล

"แล้วธารล่ะจ๊ะ ไม่ขออะไรคุณพ่อบ้างเหรอ" เสียงของพี่สาวคนรองเอ่ยถามเธอด้วยความเย้ยหยัน

"ธาร.."

"ให้มันเรียนให้จบก่อนเถอะ แค่สงเสียให้เรียนก็บุญนักหนาแล้ว" ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยผู้เป็นพ่อก็แทรกขึ้นเสียแล้ว

"ธารไม่มีอะไรที่อยากได้ค่ะ" สายธารลูกสาวคนสุดท้องของบ้าน ที่เกิดมาพร้อมกับความมืดมน เธอไม่เคยได้ของขวัญจากพ่อแม้แต่ชิ้นเดียวตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยได้มีความสุขเหมือนพี่น้องอีกสองคน

"ต่อให้อยากได้ฉันก็ไม่คิดซื้อให้แกหรอก แค่กินข้าวด้วยกันก็เสียอารมณ์เต็มที" คำพูดที่ออกจากปากของคนเป็นพ่อกรีดแทงไปถึงขั้นหัวใจของเธอ

"ธ..ธารขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ" หญิงสาวที่ยังไม่ทันได้กินอิ่ม แต่ต้องรีบลุกขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อพูด

สายธารเดินออกจากบ้านหลังใหญ่เพื่อรอขึ้นรถประจำทางไปมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีรถขับเหมือนพี่ทั้งสองคน พ่อไม่เคยคิดจะซื้อให้เธออยู่แล้วและเธอก็ไม่กล้าจะขอ

หญิงสาวแสนอาภัพเกิดมาไร้ความรักจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะวันที่เธอเกิดคือวันที่แม่ของเธอจากไปหลังจากคลอดเธอ ท่านยืนยันที่จะเก็บเธอไว้ทั้งที่รู้ตนเองไม่แข็งแรง เธอจึงกลายเป็นลูกที่พ่อเกลียดมากที่สุด

"เฮ้อ.." ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันทีที่เดินพ้นรั้วบ้านหลังใหญ่ เธอไม่รู้ว่าเธอทำผิดอะไร หรือผิดที่เธอเกิดมาแล้วทำให้แม่ต้องตาย แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเธอไม่ใช่หรือ

ร่างบางน่าทะนุถนอมอยู่ในชุดนักศึกษาตัวโคร่ง ขาเรียวสวยก้าวเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งที่เธอมุ่งมั่นตั้งใจสอบเข้ามาเรียนโดยไม่ผ่านการใช้เส้นแต่อย่างใด คณะคหกรรมคือสิ่งที่เธอเลือกแม้พี่สาวทั้งสองคนจะเรียนจบบริหารก็ตาม แต่เพราะเธอเป็นลูกนอกคอกพ่อจึงไม่ค่อยสนใจว่าเธอจะเรียนอะไร

สายธารนั่งเรียนคนเดียวเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร และไม่มีใครอยากที่จะเข้ามาคุยกับเธอ ใบหน้าสวย แววตาเศร้า สีหน้าเรียบนิ่งของเธอเรียกความสนใจจากผู้ชายหลายคนได้ไม่น้อย แต่สายธารก็ไม่เคยคิดมีแฟนหรือสานสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น เธอเชื่อว่าตัวเธอเกิดมาเพื่ออยู่คนเดียวจะดีกว่า

พอถึงเวลาเลิกเรียนเธอก็แค่กลับบ้านหมกตัวอยู่แต่ในห้องของตนเอง ไม่พูดไม่จากับใคร เหล่าแม่บ้านก็ไม่ได้เห็นเธอเป็นคุณหนู ทุกคนไม่มีใครใส่ใจเธอ ไม่มีเคยมีใครเข้าใจความรู้สึกของเธอเลย

"ทำไมแม่ถึงให้ธารเกิดมาล่ะคะ" ถ้าแม่ไม่เลือกเก็บเธอเอาไว้ แม่ก็คงไม่จากไป พ่อก็คงไม่เกลียดเธอ

ก๊อก~ ก๊อก~ เสียงประตูห้องถูกเคาะเสียงดังทำให้เจ้าของห้องรีบปาดน้ำตาออกลวกๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดไม่ให้คนที่เคาะรอนาน

"คุณท่านเรียกพบค่ะ!" น้ำเสียงกระชากของแม่บ้านสาวบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่ต้องเสียเวลามาตามเธอ

"ขอบคุณค่ะ" สายธารก้มหัวน้อยๆ รีบเดินตามไปทันที เธอไม่กล้าขัดคำสั่งใครเพราะคนอย่างเธอไม่มีิสิทธิ์ออกเสียงใดๆ ทั้งนั้น

"คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ" เมื่อมาถึงก็เห็นทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตา พี่สาวทั้งสองคนมองที่เธอด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความเป็นมิตร

"นั่งลง" เสียงคำสั่งสั้นๆ ของผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกสาวคนเล็กโดยไม่มองหน้า

สายธารนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กซึ่งเป็นที่ประจำของเธอ ผิดกับพี่สาวสองคนที่ได้นั่งขนานข้างกับผู้เป็นพ่อ เธอไม่เคยได้แม้แต่จะเฉียดเข้าใกล้ท่าน เพียงแค่เดินผ่านท่านยังไม่แลตามองเธอ

"ที่พ่อเรียกทุกคนมาวันนี้ พ่อตั้งใจคุยเรื่องงานที่บริษัท"

"โธ่! พ่อคะ หนูยังไม่อยากทำงานนะคะ ให้พี่ฝนไปทำก่อนเลยค่ะ เรียกจบปริญญาโทมาตั้งนานแล้วไม่เริ่มงานสักที" สายรุ้งโยนให้พี่สาวคนโตเพราะตัวเองยังไม่อยากทำงาน

"เอ้า! ยัยรุ้งทำไมโยนให้พี่ล่ะ ช่วงนี้พี่ต้องช่วยบริษัทของต้นนะ" สายฝนเถียงกลับ เธอยังต้องคอยช่วยคนรักในการสร้างบริษัทใหม่ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับอาหารเสริม

สายธารนั่งมองพี่ๆ ทั้งสองคนเกี่ยงกันไปมา เธอเองก็อยากมีประโยชน์ให้ครอบครัวบ้าง แต่พ่อคงไม่ต้องการความหวังดีจากเธอ

"อีกแค่ปีเดียวยัยธารก็จบแล้ว ให้มันไปช่วยบริษัทพ่อสิคะ"

"หึ! จบคหกรรมจะไปทำอะไรได้ อย่างมากก็เป็นคนทำงานในครัว" พี่สาวคนโตมองน้องสาวด้วยสายตาดูถูก สายธารเลือกคหกรรมเพราะใจรัก แต่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้คนรอบข้างได้เลย

หญิงสาวนั่งฟังทุกคนในครอบครัวตัดสินเธอโดยไม่ทีปากเสียง ไม่ว่าจะโดนดูถูกมากแค่ไหนสายธารก็ทำได้แค่เพียงนิ่งไม่โต้ตอบอะไรกลับไป

"เอาล่ะๆ ไม่ต้องเถียงกัน พ่อไม่ได้จะบังคับถ้าลูกๆ ยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าในอนาคตพ่อทำงานไม่ไหวคงต้องส่งต่อบริษัทให้คนที่ไว้ใจได้"

"ต้นไงคะคุณพ่อ ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ คุณพ่อไว้ใจต้นได้เลยค่ะ" สายฝนเสนอชื่อคนรักของตัวเองเข้ามา

"ไหนว่าพี่ต้นจะเปิดบริษัทตัวเองไงคะ"

"เอ๊ะ! จะอะไรกับพี่นักหนายัยรุ้ง" สองพี่น้องเริ่มเถียงกันอีกครั้ง

"พอแล้วๆ พ่อยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ก็คงให้ลูกทั้งสองคนดูแลต่อนั่นแหละ" ท่านสุธีเน้นคำว่าทั้งสองคนทั้งที่ตนเองมีลูกสาวสามคน นั่นก็เท่ากับว่าสายธารไม่มีสิทธิ์ใดๆ อย่างชัดเจน

"ส่วนสายธาร แกเรียนจบแล้วจะอยู่บ้านหลังนี้ต่อหรือจะไปที่ไหนก็แล้วแต่แกนะ ฉันส่งเสียแกแค่เรียนจบเท่านั้น"

"..ค่ะ..คุณพ่อ" สายธารนั่งก้มหน้า กำมือแน่นพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอเหมือนคนที่กำลังถูกทิ้ง แต่เธอไม่เคยโกรธสิ่งที่พ่อทำเลยสักครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel