บทนำ
บริษัท Ai ภายในประเทศ
“เซบัสคะ เดี๋ยววันนี้ผู้บริหารคนใหม่จะเข้าบริษัทนะคะ ยังไงฝากคุณแนะนำฝ่ายผลิตและแผนกอื่นๆ ด้วยแล้วกัน พอดี ริสาต้องไปรับลูกที่โรงเรียน” สาวสวยวัย 30 เอ่ยบอกเพื่อนร่วมงาน
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
“นี่ค่ะ เอกสารของคุณแอสตั้นคร่าวๆ และอ้อ พรุ่งนี้ทนายคนใหม่ก็น่าจะเข้ามาทำงานด้วยเหมือนกันค่ะ”
“ทนายคนใหม่? ”
“ใช่ค่ะ พอดีมารับหน้าที่แทนคนเก่า เห็นว่าเป็นลูกชายของคุณคานน์แหนะ นี่ริสายังงงว่าทำไมไม่ทำงานที่บริษัทตัวเอง บริษัทของครอบครัวเขาก็ใหญ่ใช่ย่อยนะคะ ดูท่าน่าจะอยากมาหาประสบการณ์” ริสาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าผมทำหน้างงๆ ผมจึงตอบกับเธอเพียงสั้นๆ ไปว่า
“อ้อ ครับ”
“งั้นเดี๋ยวริสาฝากด้วยนะคะ ไม่เข้าใจตรงไหนก็โทรไลน์มาได้ตลอดเลยค่ะ”
“ครับผม” ผมยิ้มให้เธอ และมองธอเดินออกจากห้องไปจนลับสายตา
หลังจากริสาเดินออกไป ผมนั่งอยู่ในห้องทำงาน พลางมองเอกสารที่หญิงสาวฝากมาให้เกี่ยวกับ “แอสตั้น” แน่นอนว่าผมยังไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ความเป็นเจ้านายของบริษัท Ai และตำแหน่งใหม่ที่เขาจะได้รับ ทำให้ผมอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ การได้ร่วมงานกับเจ้านายเก่งๆ มันเป็นอะไรที่ท้าทาย ผมชอบทำงานกับคนเก่งๆ
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูข่าวสารในบริษัทอย่างเร็วๆ หยุดนิ่งที่ข่าวเรื่องการเข้ารับตำแหน่งของแอสตั้น แม้ว่าจะยังไม่ค่อยรู้จักเขาสักเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าผมเชื่อว่าเขาเก่งฉกาจไม่แพ้กัน จากข่าวลือในบริษัทก็ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่มีอำนาจและความสามารถไม่ธรรมดา
ส่วน…. “ทนายคนใหม่…” เซบัสพึมพำกับตัวเอง พลางนึกถึงเรื่องที่ริสาพูดถึงทนายที่ชื่ออาเทอร์ ทนายคนใหม่ที่เป็นลูกชายของคานน์ เซบัสเคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยพบตัวจริงอีกนั่นแหละ
ความคิดต่างๆ ต้องหยุดลง เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องตัดสินใจลุกจากโต๊ะทำงาน ไปที่ห้องประชุมเพื่อเตรียมต้อนรับแอสตั้นในวันรุ่งขึ้น เมื่อผมสะสางงานเสร็จก็ว่าจะออกไปผ่าอนคลายตามประสาหนุ่มโสดสักหน่อย
X - Xo Club
ร้านเหล้าสไตล์กึ่งผับกึ่งบาร์ ด้านในถูกตกแต่งอย่างทันสมัย สร้างบรรยากาศเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ผสมผสานกับการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นอินดัสเทียล พร้อมกับแสงไฟที่ไม่จ้าจนเกินไป ทำให้ผู้ที่มาใช้บริการต่างรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง เสียงของดนตรีสดที่ไม่ดังมากไปยิ่งสร้างบรรยากาศให้ดูน่าค้นหา
ชายหนุ่มในชุดดูดี เสื้อเชิตสีขาวด้านใน มีแจ็กเก็ตหนังสีดำดีไซน์เท่ๆ กับกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูป ด้วยความสูงถึง 190 ทำให้ชายหนุ่มต่างเป็นที่สะดุดตามากยิ่งนัก คนที่พึ่งลงเครื่องหลังจากบินลากยาวมาสิบชั่วโมงเต็ม แทนที่จะพัก แต่เขากลับเลือกที่จะท่องราตรี
“Hi … มาคนเดียวหรอคะหนุ่มหล่อ”
สาวสวยหนึ่งในสมาชิกบัตรวีไอพีของร้านได้เอ่ยทักทายขึ้น พร้อมทั้งยังเอื้อมมือมาไล้ที่ไหล่กว้างเบาๆ
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ชอบผู้หญิง”
แน่นอนว่าเขาก็พูดตัดรำคาญไปงั้นๆ แหละ
หญิงสาวเดินหน้าหงอยกลับโต๊ะอย่างเซ็งๆ
“ว่าไงแอนนี่ สรุปได้คอนแทคเขามาบ้างป่ะ? ”
มารีน สาวสวยลูกครึ่งไทย อเมริกัน เธออายุ 25 เท่าๆ กับหญิงสาวที่พึ่งเดินกลับมายังโต๊ะเอ่ยถามกับเพื่อนสาวหน้าตาดีลูกเสี้ยวขึ้น
“ได้มากับผีน่ะสิ เขาบอกว่าเขาไม่ชอบผู้หญิง แม่งเป็นเก้งหน้าตาดีก็ไม่บอก” คนพึ่งกลับมายังหัวโต๊ะก็เอ่ยขึ้นอย่างคนหัวเสีย
“หล่อขนาดนี้ ให้ฟรีฉันก็เเอาว่ะแก ถึงจะเก้งจะกวางก็เหอะ น่ากินชะมัด” พูดพลางเลียริมฝีปากไปพลาง
“พอเลยยัยรีน แกนี่ก็นะ”
“แล้วไหนล่ะพี่ชายสุดหล่อของแกอ่ะ ไหนบอกจะมา ไม่เห็นมาสักที”
“นั่นไง มาละ ตายยากชะมัด” แอนนี่เอ่ยถึงลูกพี่ลูกน้องห่างๆ
ซึ่งนั้นก็คือผมเองคร้าบ เซบัส หนุ่มหล่อ หน้าตาดี ดีกรีจบนอก เอ้ย!! เอาล่ะๆ ยกยอตัวเองพอประมาณ แต่เรื่องมันสมองของผมเนี่ยรับรองไม่เป็นสองรองใคร
“เฮย์ สาวๆ ”
“พี่เซบัส ด้านนี้ค้าา” มารีนเอ่ยทักพร้อมกวักมือเรียก
ผมก็โบกมือโบกไม้ตามประสา แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามันจะดันไปสะดุดตาใครอีกคนเข้าให้ เขาหันมามองทางผม มองดูจนกระทั่งผมเดินผ่านเขาไป ไม่มีใครเคยบอกเคยสอนรึไง ว่าห้ามมองคนอื่นด้วยหางตา
คนอะไร หน้าตาก็ดี ตัวก็หอม หล่อก็หล่ออยู่หรอกนะ แต่แอบเสียมารยาทเป็นบ้า!!
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็นั่งอยู่โต๊ะไม่ไกลเขามากเท่าไหร่ ดูท่าแล้วพ่อหนุ่มมั่นหน้าคนนั้นน่าจะมาคนเดียว เลยเลือกนั่งที่เก้าอี้บาร์
“มองอะไรคะพี่เซบัส ถ้ามองพ่อหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นพี่ก็มาถูกทางแล้วล่ะค่ะ เมื่อกี้แอนนี่เดินไปขอคอนแทค พี่รู้มั้ยคะ เขาบอกแอนนี่ว่ายังไง? ”
ผมก็ทำหน้าทำตาด้วยความไคร่รู้
“บอกว่ายังไงหรอครับ? ” ถามพร้อมเลิกคิ้วขึ้นสูง
“เขาบอกเขาไม่ชอบผู้หญิงค่ะ ..ชิ!!”
พอผมได้ฟังเท่านั้นแหละครับ ใบหน้าของผมมันดันร้อนผ่าวจนตัวผมเองรู้สึกได้ มันบ้าไปแล้ว ผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชายนะ คร้าบบ ผมชอบผู้หญิง
ร่างสูงยังคงนั่งนิ่งๆ แม้ว่าเพลงจะสนุกแค่ไหน แม้แต่ส่ายหัวเขาก็ยังไม่!! หรือว่าจะเป็นหุ่นยนต์จำแลงมา!!
ต่างจากอีกโต๊ะ ที่ตอนนี้คนทั้งสามเริ่มกึ่มเมา ก่อนที่ผมจะขอตัวจากสาวๆ เพื่อไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเดินแสงของไฟบวกกับลวดลายของมัน บวกกับความกึ่มเมาของผม มันทำให้ตาลายชะมัด ผมเดินเซหน่อยๆ จนไปชนกับอกกว้างของใครบางคนเข้า
พลั่กกก!!
“โอ้ว!! ขอโทษครับ”
ผมรีบเอ่ยปากขอโทษเขา แต่เขายังคงไม่ตอบ นิ่งงันอยู่อย่างนั้น นี่นายเป็นไบ้รึยังไง ผมก็เอาแต่บ่นกับตัวเอง ก็ใครจะไปกล้ามีเรื่องกับเขากันล่ะครับ ตัวโตซะขนาดนั้น ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้หันหน้ามองเขาเลยด้วยซ้พำเพราะความรีบ
ถึงผมจะเดินจากมา แต่ว่าน้ำหอมโทนอ่อนๆ กลิ่นสปอร์ตยังคงเตะจมูกของผมอยู่ นี่ผมเป็นอะไรไปวะครับเนี่ย สาบานเลยครับสาบาน ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมไม่เคยคิดอะไรกับผู้ชาย แต่ทำไมตอนนี้ผมดันมีอาการแปลกๆ
สักพัก ผมก็เริ่มเดินไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ ก็คนมันเมาอะเน้อ เข้าห้องน้ำบ่อยเป็นธรรมดา
‘โอ๊ะ แม่เจ้า!!’ นี่นายเป็นเทพห้องน้ำสถิตรึยังไงกันครับเนี่ย มารอบนี้ก็เจอเจ้าหน้าหล่อตัวหอมคนนั้นอีกแล้ว ที่ผมจำได้เพราะกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมันล้วนๆ เลยครับ จำหน้านะหรอ หื่อ!! ไม่มีทาง ผมจำได้เพราะกลิ่นหอมนั้นต่างหาก
แต่!!!
แต่ไม่ทันที่ผมจะเดินเข้าห้องน้ำดี กลับเดินชนกันอีกรอบจนได้ ครั้งนี้ผมชนเข้ากับเขาแรงมาก จนร่างของผมเซถลาไปตรงข้างๆ มุมกระจกใสของห้องน้ำ ส่วนคนที่กำลังเอามือยันผนังไว้ ก็ยืนคร่อมร่างของผมอยู่
ตอนนี้ริมฝีปากของเรามันบดเบียดกัน มันคงเรื่องบังเอิญสินะ แต่ที่ไม่บังเอิญก็เพราะว่า ไอ้คนตัวหอม มันดันมาบดจูบและแทรกลิ้นนุ่มนิ่มของมันดันเข้ามาจาบจ้วงเอาจูบแรกของผมน่ะสิครับ
แม่เจ้าโว้ย!! จูบแรกของผม
อื้อ… อื้อ …. ร่างเล็กของผมพยายามขัดขืนอย่างที่สุด แต่แล้ว บทมันจะถอนจูบ มันก็ถอนจูบซะอย่างนั้น ถึงผมจะเมา แต่ความจำผมดีนะครับ แน่นอนว่าผมจำใครคนนั้นได้ คนที่มาขโมยจูบแรกของผม
เช้าวันต่อมา
Ai Artificial
“พี่เซบัสคะ คุณแอสตันให้เข้าพบช่วงสิบโมงนะคะ ที่ห้องเมเนเจอร์ค่ะ” เสียงของน้องริสาคนดีคนเดิมเอ่ยบอกกับผม
“ครับ”
เมื่อมองเวลาก็เห็นว่าใกล้ๆ จะสิบโมงแล้ว ผมจึงรีบเดินไปห้องเมเนเจอร์ตามที่ริสาบอกก่อนหน้านี้
มือของผมกดออดประตูด้านหน้า ผมยืนรอประตูกระจกสีขาวขุ่นค่อยๆ กางอ้าแยกออกจากกัน ก่อนที่ผมจะค่อยๆ เดินเข้าไป แต่แล้ว!! ผมก็อึ้งกิมกี่สิครับ นี่มันนายคนเมื่อคืน ไอ้บ้าที่มันมาขโมยจูบแรกของผม …
ผมและไอ้คนตัวสูงยืนมองหน้ากันนิ่งๆ คือผมต้องแกล้งเป็นจำไม่ได้ หรือต้องอะไรยังไงกันหรอวะครับ สีหน้าของผมตอนนี้มันเหมือนจะปิดไม่มิดเลยด้วยซ้ำ ก็ไอ้อาการตกใจของผมนี่สิ ใครไม่รู้ก็บ้า!!
