Chapter 2
ข้อเสนองานเงินดี
คืนนั้นขวัญรักเข้าเวปไซต์หางาน จดรายชื่อบริษัท เน้นที่คำประกาศว่า “รับสมัครด่วน” รุ่งเช้าก็นั่งรถเมลไปยื่นใบสมัคร
เธอสมัครงานไปสามแห่งจนเวลาคล้อยมาบ่ายกว่า ท้องเริ่มร้องครวญหิว บริษัทที่มาสมัครงานในแห่งสุดท้ายของวันอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า หญิงสาวจึงตั้งใจมาหาอะไรกิน
ราคาอาหารในศูนย์อาหารแพงจนตกใจ สุดท้ายมาหยุดที่ร้านฟาสท์ฟูด สั่งแฮมเบอร์เกอร์ราคาถูกสุดกับน้ำอัดลมหนึ่งแก้ว ระหว่างกินอาหารก็ดูในมือถือ หวังคิดจะหาสมัครงานอีกสักที่
“กวาง...กวางใช่ไหม”
สาวกางเกงขาสั้น เสื้อเฉียงเปลือยไหล่ข้างหนึ่งร้องทัก
“เราเดียร์ไง จำได้ไหม”
ขวัญรักขมวดคิ้ว นึกย้อนความทรงจำ เพราะสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอสวยสะพรั่ง อกเป็นอก เอวเป็นเอว ผมยาวสยาย ผิวพรรณผุดผ่อง
“ที่เคยเรียนปวช.ตอนปีหนึ่งด้วยกันไง”
เธอพยักหน้า คลับคล้ายคลับคลาว่ามีเพื่อนชื่อนี้
“เราเรียนเทอมเดียวแล้วก็ลาออก”
อีกฝ่ายเล่า ขวัญรักจำได้แล้ว แต่ก่อนเพื่อนไม่สวยขนาดนี้
“กวางล่ะเป็นยังไงบ้าง เรียนจบปวช.แล้วสิ”
เดียร์เลื่อนเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเธอ
“ใช่ ฉันกำลังหางานอยู่เลย”
เพื่อนเก่าความเป็นอยู่ดี ท่าทางสมบูรณ์พูนสุข แต่งหน้าแต่งตาสวยงาม
“แล้วได้งานหรือยังล่ะ”
เดียร์พินิจมองเธอเช่นเดียวกัน นึกทึ่งในความผิวดีตามธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่งมากมายของขวัญรัก
“ยัง...สมัครไปหลายที่แล้ว งานสมัยนี้หาย๊าก...ยาก”
เธอระบาย
“แล้วเดียร์ล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดี...ชีวิตเราก็ไปเรื่อย ๆ”
เจ้าตัวยกมือที่ทาเล็บสีแดงขึ้นสางผม
“แอดเฟซแอดไลน์กันไว้หน่อยสิ เผื่อมีอะไรคุยกันอีก”
คนแต่งตัวสวยเปิดกระเป๋าสะพายใบแค่คืบ หยิบมือถือราคาแพงขึ้นกด เล่นเอาขวัญรักอายในความเก่าของมือถือตน
“เรียบร้อย ไว้ค่อยคุยกันในเฟซนะ”
เดียร์ยิ้มหวาน แล้วลาจากไป ขวัญรักกลับบ้านด้วยอาการเครียดจนหนักไหล่ เจอแม่ที่ป้ายรถเมลหน้าซอย
“เงินหักหนี้นอกระบบแล้วแม่เหลือสามหมื่นนะ”
แม่แจงหน้าเศร้า
“กวางจะรีบหางานให้ได้เร็ว ๆ ค่ะแม่ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระ”
“แม่ว่าจะบอกเลิกจ้างป้าจีน ไม่ต้องให้แกมาเฝ้ายายตอนกวางวันแล้ว เปลืองเงิน ต้องลดค่าใช้จ่าย”
เธอเห็นดีด้วย
“เราทำขนมขายดีไหม”
“แล้วใครจะดูยายละจ๊ะ กวางต้องไปหาสมัครงาน”
ดูเหมือนหนทางอยู่รอดของครอบครัวเธอช่างริบหรี่เหลือเกิน
“กวางจะเอาเสื้อผ้าไปขายตลาดนัดค่ะ ได้ตัวละห้าบาทสิบบาทก็ยังดี พอให้มีรายได้เข้ามาบ้าง”
ขวัญรักไม่ยอมแพ้ ใช้ทุกอย่างเท่าที่มีมาเป็นทุนเพื่อให้ครอบครัวมีเงินประทังชีวิต
คืนนั้นระหว่างที่พักเหนื่อยจากการค้นเสื้อผ้าในตู้กับเก้ง เธอล้าจนเผลอระบายความในใจลงในเฟซบุค มีเพื่อนมากดถูกใจหลายคน หนึ่งในนั้นคือเดียร์
เสื้อผ้ามือสองทำให้เงินให้ขวัญรักหลายร้อยอยู่ แต่หากจะขายต่อเธอต้องหาแหล่งซื้อเสื้อผ้าแบบขายส่ง ซึ่งมีแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น ทั้งค่าซื้อเสื้อผ้า ค่ารถไปรับ ไหนจะข้อจำกัดเรื่องความสะอาดจากเชื้อโรคในบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงอีกนั่นล่ะ
หญิงสาวกำลังคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ก็ได้ยินเสียงโครมครามขึ้นในครัว แม่นั่งเอามือยันพื้น ส่วนอีกมือกุมหน้าอก
“แม่เป็นอะไรจ๊ะ”
เธอร้องเสียงหลง พุ่งเข้าไปพยุงร่างท่านขึ้น
“แม่ไม่เป็นไร แค่วูบไป”
แต่หน้าผู้พูดซีดเหลือเกิน
“แม่นั่งพักก่อนนะจ๊ะ”
แวบหนึ่งขวัญรักเห็นแม่กับน้องชายมองสบตากัน หลังจากพามานั่งในห้องรับแขกแล้วเธอเรียกน้องชายไปในครัวเพื่อถามความ
“เก้งมีอะไรปิดบังพี่หรือเปล่า”
หนุ่มมัธยมหลบตา
“บอกพี่มา เกี่ยวกับอาการของแม่ใช่ไหม เก้งคงไม่อยากเห็นแม่แย่ไปกว่านี้ เพราะฉะนั้นบอกความจริงพี่มา”
เธอขู่แบบนิ่ม ๆ
“แม่ให้ผมปิดพี่กวางไว้ แม่เป็นโรคหัวใจ หมอแนะนำให้ผ่าตัดยิ่งเร็วยิ่งดี”
ขวัญรักอ้าปากค้าง แทบล้มทั้งยืนกับความจริงที่ได้รับรู้
“แม่กลัวพี่เป็นห่วงจนเรียนไม่จบ เลยให้ผมปิดบังไว้”
“นานขนาดไหนแล้ว”
เธอกลืนก้อนแข็ง ๆ ลงลำคอ ไม่คิดเลยว่ามารดาจะสู้อดทนต่อความเจ็บปวดของโรคมาจนถึงตอนนี้
“ปีกว่า ๆ แล้วพี่ ถ้าจะรอคิวผ่าตัดโรงพยาบาลรัฐบาลก็อีกเป็นปี”
ขวัญรักอยากร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก เมื่อนึกถึงความย่ำแย่ในระบบบริการสาธารณสุขประเทศไทย หากเพียงแต่เธอมีเงิน ขวัญรักจะพาแม่ไปรักษาในโรงพยาบาลที่ดีที่สุด เสียค่ารักษาเท่าไรก็เท่ากัน
“พี่กวางทำตัวนิ่ง ๆ ไว้นะ อย่าให้แม่รู้ว่าพี่รู้อาการของแม่แล้ว ผมสงสารแม่ แกจะยิ่งคิดมาก”
เธอพยักหน้า โบกมือให้เก้งออกไป หญิงสาวยันมือกับโต๊ะเตรียมอาหารกลางครัว รวบรวมสติไม่ให้ตนเองล้มพับไปเสียก่อน
บทเวลาชีวิตคนเราจะโชคร้าย ทุกอย่างประดังประเดเข้ามาไม่ต่างกับพายุลูกใหญ่ หนทางข้างหน้าช่างมืดมนกว่าที่คิด นอกจากชีวิตของยายที่จะตายวันตายพรุ่งเพราะนอนติดเตียง ยังมีแม่ที่ร่างกายกายเต็มไปด้วยโรคภัยรอการรักษาอีก
ขวัญรักหลับตาพนมมือตั้งจิตอธิษฐาน เธอขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์สากลโลก ดลบันดาลให้เจอทางออกของปัญหา ทางไม่มีผิดกฎหมายแล้วนั้น ขวัญรักยอมทำตามทุกทาง
คำอธิษฐานของเธอเป็นจริงจากมือถือเก่า จากเสียงข้อความเข้า เมื่อกดดูผู้ส่งมาคือเดียร์
Dearest:ว่างไหม เห็นกวางโพสต์ในเฟซ มีปัญหาเรื่องเงินเหรอ
กวางน้อย:จ้ะ
Dearest:อยากได้งานเงินดี ๆ ไหม
ขวัญรักตาวาว พิมพ์ตอบมือสั่น
กวางน้อย:ถ้าไม่ใช่งานผิดกฎหมาย หรือทำบาป เรายอมทำ ตอนนี้ต้องการเงินมารักษาแม่กับยาย น้องเราก็ยังต้องเรียน
Dearest:ไม่ว่างานอะไรก็ทำใช่ไหม
กวางน้อย:จ้ะ
Dearest:เราเป็นเด็กเสี่ยนะ
กวางน้อย:เราขอไม่ทำงานผิดศีล ผิดลูกเมียใคร
เดียร์ส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะมาให้
Dearest:เราเข้าใจ ตอบเรามาก่อน กวางเคยมีแฟน เคยมีอะไรกับผู้ชายมาแล้วหรือยัง
กวางน้อย:ยัง
ขวัญรักหน้าแดง
Dearset:ไม่โกหกเราแน่นะ
กวางน้อย:จริง สาบานได้
Dearest:งั้นเราจะพาไปเจอเจ้านายเก่าเรา เขารู้จักคนเยอะ แขกหลายคนชอบนอนกับสาวบริสุทธิ์ เคยเห็นบางคนจ่ายเป็นแสน ๆ
กวางน้อย:เขาเป็นพวกโรคจิตหรือเปล่า
Dearest:เจ้านายเราเขาค่อนข้างสกรีนคน ขออย่างเดียวเขาถามอะไรก็ตอบตามตรง
กวางน้อย:เดียร์แนะนำให้เราขายตัวเหรอ
Dearest:เรียกว่าใช้ร่างกายทำมาหากินดีกว่านะ วงการนี้ระยะเวลาทำงานสั้น รีบกอบโกยแล้วไปทำกิจการเล็ก ๆ ของเราดีกว่า หรือกวางคิดว่าจะหาเงินได้แบบทันที มารักษาแม่กับยายล่ะ
ขวัญรักกัดริมฝีปาก ถึงกับพูดไม่ออก
Dearest:ไว้ค่อยคุยรายละเอียดกัน เจอกันพรุ่งนี้ที่ห้างเดิมนะตอนเที่ยง เราจะพาไปร้าน
กวางน้อย:ขอเวลาเราคิดหน่อยได้ไหม มันเรื่องใหญ่เลยนะ
Dearest:ให้เวลาคิดคืนหนึ่ง พรุ่งนี้สิบโมงเช้าบอกด้วย แล้วค่อยว่ากัน บาย
เธอมองประโยคสุดท้ายจากเพื่อนนิ่ง หูได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังมาจากห้องนั่งเล่น เดินไปดูก็ปรากฏแม่นอนพิงโซฟานวมบุหนังปลอม ท่านหลับตาหมดเรี่ยวแรง ยายดูรายการในโทรทัศน์นิ่ง เก้งนั่งลงบนพื้น เอาการบ้านขึ้นมาทำบนโต๊ะรับแขก
นี่คือสามชีวิตในบ้านนี้ ที่ขวัญรักต้องรับผิดชอบ ข้อเสนอเพื่อนนำไปสู่อาชีพน่ารังเกียจในสายตาบางคน เธอยกมือขึ้นลูบแขนตนอย่างสั่นสะท้าน
ร่างกายนี้กำลังจะถูกขาย กำลังจะถูกตีราคา แล้วแต่ว่าโชคชะตาจะพาผู้ซื้อแบบไหนมาจ่ายค่าตัวเธอ...มันคุ้มแล้วละหรือ
ทันใดนั้นในสมองก็เกิดคำถาม อะไรที่คุ้ม เธอกำลังช่างน้ำหนักกับอะไร ความสาวบริสุทธิ์ของตัวเองกับชีวิตคนในครอบครัวอย่างนั้นหรือ
ขวัญรักหลับตาเลียริมฝีปากตนที่แห้งผาก เธอตัดสินใจได้แล้วว่าตาชั่งควรเอียงไปทางไหน หนึ่งชีวิตแลกกับสามชีวิต เพื่อให้คนในครอบครัวกินอิ่ม มีเงินรักษาตัว มีบ้านคุ้มกะลาหัว แค่แลกกับให้ผู้ชายสักคนมาสร้างรอยราคี ...ราคาแค่นี้คุ้มจะตาย
