บท
ตั้งค่า

ตอนที่48 เทพมารตกสวรรค์ ภาค 2 กำเนิดจอมราชันย์

ยอดฝีมือที่โดนปิดผนึก 1

               

            ลึกเข้าไปในหุบเขาแห่งหนึ่งในทวีปมังกร เป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและอสูรมากมาย ทำให้ไม่มีผู้คนเข้ามาในในหุบเขาแห่งนี้ แต่ก็มักจะมีพวกมั่นใจในฝีมือของตัวเองมากเกินไปสุดท้ายก็ไม่มีใครได้ออกมาจากหุบเขาแห่งนี้....

" ท่านลุง...เป็นความจริงอย่างงั้นหรือที่ว่าเมื่อพันปี!! ก่อนมีคนมียอดฝีมือคนหนึ่งโดนผนึกไว้ในหุบเขาแห่งนี้ "  เด็กหนุึ่มรูปร่างสูงสง่า ผิวพรรณขาวดุจหิมะ กล้ามเนื้ออันอุดมสมบูรณ์ กับดวงตาสีเลือดคู่งาม กล่าวออกมา

" ฮ่าๆๆๆ!! เจ้าเชื่อเรื่องที่เล่าต่อกันมาด้วยเหรอพ่อหนุ่ม เด็กรุ่นเจ้าไม่มีใครเขาคิดว่าเรื่องที่เล่าต่อกันมาเป็นความจริงหรอก...เรื่องเล่านี้ก็ผ่านมาเกือบพันปีแล้ว "

"  ถึงเป็นเรื่องเล่าข้าก็อยากฟังอยู่ดี..แล้วท่านลุงพอรู้ไหมว่าเหตุใดยอดฝีมือคนนั้นถึงโดนผนึกทั้งๆที่เขาเก่งถึงเพียงนั้น... "  เด็กหนุ่มกล่าวถามซึ่งก็คือไป๋หลงนั้นเอง

" เท่าที่ข้าจำได้ว่ากันว่า..เขานั้นได้ฝ่าฝืนลิขิตฟ้า..จึงโดนลงโทษโดยการถูกผนึกอยู่ในที่แห่งนี้  " 

    ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ผสานมือขอบคุณ ที่ไป๋หลงได้ออกสืบหาข่าสารเกี่ยวกับเรื่องยอดฝีมือที่โดนผนึกนั้น ต้องย้อนกลับไปตอนที่ไป๋หลงแยกกับอู้เฉียงและสองพี่น้องมู่.....

" เอาละในอีก1เดือนหลังจากนี้เราจะมาเจอกันตรงนี้ที่เดิม " ไป๋หลงกล่าวบอกแก่อู้เฉียงที่กำลังสีหน้าไม่สู้ดีนัก

" เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหมเรื่องนี้มันเสี่ยงมากนะ...เจ้าอาจจะตาย!!ก็ได้ " อู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงไป๋หลง 

    ไป๋หลงไดยินเช่นนั้นก็เข้ามาตบบ่าของอู้เฉียง..

" ปากเจ้านี้..มีไว้แช่งข้าหรืออย่างไร ข้าไม่มีทางตายหรอกน่า เจ้าอย่าได้เป็นห่วงเลยเอาละนี้มันก็ผ่านมานานแล้ว เราแยกกันไปทำหน้าที่เถอะก่อนที่ท่านพ่อจะมาถึงเรื่องทุกอย่างที่นี้จะต้องจบลงทั้งหมด!! "

       ไป๋หลงแค่นเสียงเย็นยะเยือกออกมา..อู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ต้องทำตามที่ไป๋หลงได้บอกเอาไว้..

" ข้าเข้าใจแล้ว ดูแลตัวเองด้วยถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นเจ้าต้องรีบหนีทันทีเข้าใจไหมไป๋หลง " 

" ข้าเข้าใจแล้ว...อู้เฉียงเจ้าทำตัวอย่างกับเป็นภรรยาข้าเลยนะ "  ไป๋หลงกล่าวติดตลกเล็กน้อย

หึ!!

      อู้เฉียงเพียงส่งเสียงออกมาก่อนจะใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนยอดไม้แล้วหายไปในทันที...

" เอาละ...ข้าก็ต้องทำเรื่องของข้าเช่นกัน ก่อนอื่นก็ไปที่หมู่บ้านข้างหน้าก่อนดีกว่า.. " 

     ไป่หลงใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงหน้าหมู่บ้านซึ่งไม่มีการตรวจคนเข้าหมู่บ้านมีเพียงแค่กำแพงที่ทำจากไม้และอักขระที่ลงทับไว้ที่เห็นด้วยตาเปล่าซึ่งอาจจะเป็น       อักรขระป้องกันระดับต่ำเพียงเท่านั้น...

      หลังไป๋หลงเข้ามาในหมู่บ้านก็ต้องตกเป็นเป้าสายตามากมายเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับองค์ชายที่ไหนสักแห่งหนีออกมาเที่ยวเล่นเสพสุข ความหล่อเหลานั้นได้ตราตรึงลงไปในสายตาของสตรีทั้งหลายที่มองด้วยสายตาเป็นมัน

     แตกต่างจากฝ่ายชายที่มีแต่สายตาอาฆาตแค้นส่งมาไป๋หลงก็ไม่ได้สนใจอะไรเพียงเดินตรงไปที่ร้ายน้ำชาที่ตั้งอยู่ตรงตรอกซอยสุดหัวมุม 

หืม?...ร้านน้ำชายอดฝีมือ

      ไป๋หลงเดินเข้ามาอ่านป้ายร้านใกล้ๆก็รู้สึกสงสัยแต่ทันยังไม่ทันได้เข้าร้านก็มีอะไรบางอย่างพุ่งออกมาจากร้านน้ำชา

ตึงง!!

    เป็นร่างของชายอ้วนท้วมใบหน้าดุดันแผลเป็นที่ด้านตาซ้ายสร้างความน่ากลัวของชายผู้นี้...

" จะ..เจ้ากล้าเตะข้าก็มาจากร้านอย่างงั้นรึ..เจ้าไม่รู้เหรอว่าเป็นลูกใคร " ชายร่างท้วมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองสี่ส่วนและหวาดกลัวหกส่วน

" กับพวกที่กล้ามาฉวยโอกาศกับพนักงานของร้านข้า ยังคิดจะพูดอีกเหรอ..ไสหัวออกไป!! เด็กๆจัดการโยนเจ้าหมูอ้วนอัปลักษ์ตัวนี้ออกไปไกลๆร้านข้า "

" ขอรับเจ๋ใหญ่ "  

     ชายร่างอ้วนยังไม่ทันได้กล่าวอะไรออกมาจากปากก็โดนจับโยนทิ้งใกล้กองขยะสร้างความอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก..

" บัดซบ!! แค่ร้านน้ำชากระจอกๆคอยดูเถอะข้าจะไปขอให้ท่านพ่อส่งยอดฝีมือมาให้ข้าแล้วถล่มร้านเจ้าซะ ทีนี้ข้าจะจับเจ้าทำเมียซะ ลองดูว่ายังปากกล้าแบบนี้ได้อีกรึเปล่า ฮ่าๆๆๆ "

    ไป๋หลงที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็เพียงมองด้วยสายตาเรียบๆเท่านั้นก่อนจะเดินเข้าร้านน้ำชาแห่งนี้....

 

   ภายในร้านตกแต่งได้เรียบง่ายมีใบชาวางเรียงรายสองทางเดินบรรยากาศสดชื่นราวกับอยู่ในสวนสมุนไพรชั้นเลิศก็ไม่ปานโคมไฟละย้า สวยงานสร้างบรรยากาศให้ร้านน่าดึงดูดไป๋หลงเห็นก็อดชมเชยไม่ได้...

     พนักงานในร้านเมื่อเห็นไป๋หลงเข้ามาก็เข้ามาถามไป๋หลงทันทีด้วยท่าทีเขิลอายเพราะไป๋หลงในตอนนี้ด้วยเสื้อผ้าที่เผยให้เห็นถึงช่วงอกเผยให้เห็นถึงกล้าวอกอันหนักแน่นบวกกับใบหน้าอันหล่อเหลา ทำให้พนักงานในร้านหลายคนหันมามองไป๋หลงเป็นตาเดียวกัน...

" คะ..คือว่าไม่ทราบว่าคุณชายต้องการสั่งอะไรหรือไม่เจ้าค่ะ " พนักงานสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม กล่าวด้วยท่าทีเขิลอาย ลูกข้าชายคนอื่นในร้านถึงกับพากันสาปแช่งไป๋หลงเลยทีเดียว

" พี่สาว...ข้าขอชาที่ดีที่สุดในร้านก็แล้วกัน " ไป๋หลงกล่าวพลางส่งยิ้มให้พอเป็นมารยาท แต่กลับทำให้หญิงสาวนางนั้นหน้าแดงระเรื่อทันที

" ดะ..ได้เจ้าค่ะโปรดรอสักครู่เดี๋ยวข้าจะนำมาให้ " พนักงานสาวกล่าวเสร็จกำลังจะเดินไปด้วยความเขิลอาย...

" ช้าก่อนพี่สาวข้าอยาก...จะรู้เรื่องเล่าเกี่ยวกับยอดฝีมือที่โดนผนึกเมื่อพันปีที่แล้ว ที่หุบเขาแห่งนั้น "  

    ไป๋หลงจับมือพนักงานสาวไว้แต่ด้วยไป๋หลงไปจับมือกระทันหันทำให้พนักงานสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะชักมือกลับมา

" ระ.เรื่องนั้น คือว่า.. "  พนักงาวยังกล่าวไม่ทันจบก็มีเสียงนึงดังขึ้น

" นี้เจ้าคิดจะฉวยโอกาสกับพนักงานข้าอีกคนอย่างงั้นรึ...เจ้าชั่งกล้าเพียงหน้าตาดีหน่อยอย่าคิดว่าผู้หญิงเขาจะหลงกลเจ้า...เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างข้าจะโยนเจ้าออกจากร้านเช่นเดียวกับเจ้าหมูอัปลักษ์นั้น "  หญิงสาวที่ดูสง่าและแผ่ออร่าความแข็งแกร่งออกมาไป๋หลง เข้าใจได้ทันที ว่าชื่อร้านน้ำชาน แห่งนี้มาจากบุคคลตรงหน้านี้แน่นอน

" ช้าก่อน..เขาไม่ได้ฉวยโอกาศข้าเขาแค่อย่ากทราบข่าวแค่นั้นเอง.. " พนักงานสาวช่วยแก้ต่างให้ไป๋หลง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นผล

" แต่มันก็จับมือเจ้าโดยที่เจ้าไม่รู้ตัวนั้นแหละเขาเรียกว่าฉวยโอกาสใช่ไหมหรือข้าพูดผิด..." 

" เรื่องนั้นมัน... " พนักงานสาวมองหน้าไป๋หลง แต่ก็ต้องหลบสายตาเพราะความหล่อเหลาของไป๋หลง ทำให้พนักงานสาวไม่กล้าสู้หน้า

      ไป๋หลงเพียงนั่งอยู่กับที่เท่านั้นไม่ได้แสดงท่าทีเดือดร้อนอะไรออกมา สร้างความเดือดดาลให้กับผู้จัดการร้านยิ่งขึ้นไปอีก

" นี้เจ้า..ขนาดนางยังช่วยเจ้าแล้วเจ้ายังมีหน้ามานั่งเฉยแบบนี้อีกอย่างงั้นรึ สาวเลว!!ที่สุด "  ผู้จัดการร้ากล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล

" ข้าทำอะไรผิดเล่าข้าไม่ได้ฉวยโอกาสข้าเพียงนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องจะถามเลยจับมือพี่สาวคนนั้นไว้ ข้ายอมรับผิดว่าข้าไปจับมือพี่สาวคนนั้นโดยนางไม่รู้ตัว แต่ก็เพื่อจะถามหาข่าวเท่านั้น..ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง "

     ไป๋หลงกล่าวอธิบายด้วยความสุขุม...

" ข้าไม่สนจะออกไปดีๆหรือให้ข้าเตะเจ้าออกไป "

      ไป๋หลงได้แต่เหนื่อยหน่ายใจไป๋หลงยอมรับว่าร้านชานี้เป็นร้านที่ดี แต่ เรื่องอารมณ์และการใช้เหตุผลควรปรับปรุงอย่างยิ่ง...

" ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าข้าจะได้กินน้ำชาและข่าวสารที่ข้าต้องการ และจะออกไปทันทีเมื่อข้าเสร็จธุระ โปรดเข้าใจด้วยข้ามีเรื่องสำคัญที่ข้าต้องทำจริงๆ " 

    ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความนอบโน้มและเคารพแต่ดูเหมือนแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ทำให้ไป๋หลงเริ่มเคืองขึ้นมา...

" เอาแต่ใจตัวเองหาข้ออ้างไปเรื่อยไม่มีใครสั่งสอนเจ้าหรืออย่างไรพ่อกับแม่เจ้าละ เลี้ยงยังไงถึงได้ ทำให้ลูกเห็นแก่ตัวเช่นนี้... " 

   

     ไป๋หลงทีได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนเชือกฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลง บรรยากาศภายในร้านเริ่มหนาวเย็นขึ้น รอบผนังเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็ง ขณะนั้นเองไป๋หลงลุกขึ้นยืนและกล่าวน้ำเสียงอันเเสนเย็นชากับดวงตาสีแดงฉานกำลังจ้องมองผู้จัดการสาวคนนั้น ทำให้ผู้จัดการคนนั้นสั่นสะท้าน!!ไปทั้งตัวในทันที...

" ในเมื่อพูดดีๆกันไม่เข้าใจ ยังรามปามมาถึงพ่อกับแม่ข้าอีกเห็นทีข้าคงจะอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วท่านจะเสียใจที่พูดแบบนี้ออกมา!! "

จบ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel