ตอนที่46 จากลา
ไป๋หลงและอู้เฉียงในตอนนี้ กำลัง นั่งคิดปรึกษาถึงผลการเร่งมิติเวลาให้ถึงขีดสุด เพราะผลข้างเคียงที่ตามมานั้นหนักหนาสาหัสพอสมควรเลยดีเดียว
" ไป๋หลงข้าตัดสินใจแล้วเอาตามที่เจ้าบอกนั้นแหละ...ข้าพร้อมรับผลที่ตาม " อู้เฉียงกล่าวตอบแก่ไป๋หลง
" อู้เฉียงนี้เจ้า... "
" ข้าเลือกสหายไม่ผิดจริงๆ " ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยตื้นตัน
ราฟาเอลเห็นทั้งสองตกลงกันได้ของเพียงยิ้มอ่อนและพูดออกมาด้วยความอบอุ่น
" เอาล่ะในเมื่อเจ้าทั้งสองตกลงกันได้แล้ว...ข้าจะเริ่มเริ่งเวลาในมิตินี้ในทันที!! " ราฟาเอลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
" ขอรับ!! "
" ขอรับ!! "
ไป๋หลงและอู้เฉียงกล่าวขึ้นพร้อมกัน..
หลังจากไป๋หลงและอู้เฉียงตอบตกลง ร่างของราฟาเอลก็ค่อยเปล่งแสงขึ้นพร้อมกับปีกคู่งามสีขาวบริสุทธิ์ทั้ง10คู่ แสดงให้เห็นถึงชนชั้นระดับมหาเทพ !! อย่างชัดเจนไป๋หลงและอู้เฉียงต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเป็นอย่างมาก
เส้นผมสีเหลืองทอง ราวกับทองคำชั้นดี นัยตาสีเหลือง ไม่ต่างอะไรกับเนื้อทองชั้นเลิศ ผิวขาวเนียนดุจหยก กำลังเปล่งแสงอ่อนๆออกมา
" พวกเจ้าทั้งสองคนหลับตาลงแล้วทำสมาธิ ถ้าพวกเจ้าสมาธิไม่ดีพอละก็อย่างน้อยก็พิการไปตลอดชีวิต อย่างมากก็แค่ตาย!! "
ที่ราฟาเอลกล่าวมานั้นไม่ใช่คำขู่แต่เป็นการเตือนว่าต้องตั้งมั่นในสมาธิอย่าหลุดออกจากสมาธิเด็ดขาด...
ไป๋หลงและอู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาจางๆแฝงไว้ด้วยความกังวล
" เอาละ..หลับตาเริ่มทำสมาธิได้!! "
เมื่อราฟาเอลเห็นว่าไป๋หลงและอู้เฉียงทำสมาธิได้แล้ว ราฟาเอลยกมือขวาอันเรียวงามก่อนจะมีลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นไปเป็นท้องฟ้า
ตอนนี้สภาพแวดลล้อมรอบๆตัวของไป๋หลงและอู้เฉียงกำลังผันเปลี่ยนไปเรื่อยๆรวมถึงร่างกายของทั้งสองเช่นกัน ไป๋หลงเส้นผมเริ่มยาวขึ้นเรื่อยๆร่างกาย ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นทีละนิดๆ อู้เฉียงก็ไม่ต่างกัน....
ทั้งไป๋หลงและอู้เฉียงรู้สึกสิ่งเดียวกันนั้นก็คือความเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อและกระดูกทุกชิ้นในร่างกายที่ถาโถมเข้ามา ไป๋หลง สีหน้าเริ่มขาวซีด ส่วนอู้เฉียงใบหน้าเขียวคล้ำเป็นอย่าง มาก เมื่อราฟาเอลเห็นท่าไม่ดี ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา...แต่นั้นทำให้สมาธิของราฟาเอลไม่คงที่ไปเชื่อครู่เช่นกันจึงส่งผลกระทบในการเร่งเวลาในครั้งนี้โดยตนนั้นไม่รู้ตัว.....
" อดทนไว้ทั้งสองคน!! "
ราฟาเอลกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงในขณะที่ยังเร่งเวลาในมิติอยู่ ผ่านไปสักระยะไป๋หลงและอู้เฉียงมีสีหน้าที่ดีขึ้น ผ่านไปหลายชั่วยามร่างกายของทั้งสองค่อยๆหยุดการเจริญเติบโต ซึ่งผลที่ได้นั้นเกินความคาดหมายของราฟาเอลไปมากโขจนมันตะหงิดใจแปลกๆ
ทั้งไป๋หลงและอู้เฉียงยังไม่รับรู้ถึงสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงเพราะมัวแต่หลับตาอยู่จึงไม่ทราบสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่ราฟาเอลจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงเรื่อยๆ
" ทั้งสองคน...ลืมตาได้แล้ว "
ราฟาเอลกล่าวจบไป๋หลงและอู้เฉียงลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ร่างกายของไป๋หลงนั้น มีมวลกล้ามเนื้อและร่างกายที่สมส่วนสมชายชาตรี ใบหน้าหล่อเหลาคนคาย ดวงตาสีแดงเลือด ราวกับเทพแห่งสงครามก็ไม่ปาน อู้เฉียงก็ไม่ต่างกันร่างกายทุกส่วนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ร่างสูงใหญ่บวกกับมวลกล้ามเนื้อเป็นมัดๆที่ผ่านการฝึกซ้อมมาส่งผลมาถึงในตอนนี้ด้วยเช่นกัน
ไป๋หลงแปลกใจมากจึงเอ่ยถามผู้เป็นแม่ซึ่งก็คือราฟาเอลทันที
" เอิ่ม..ท่านแม่ทำไมร่างกายของพวกข้า ถึงเปลี่ยนแปลงไปถึงเพียงนี้...ท่านแม่ตอนนี้พวกเราอายุเท่าไหร่เหรอขอรับ? "
อู้เฉียงก็มองมาที่ราฟาเอลด้วยความสงสัย เพราะในตอนนี้ทั้งสองแทบจะเรียกได้ว่าเป็นชายงามล่มเมืองอย่างแท้จริงทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังไม่...
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มอ่อนออกมาแล้วเอ่ยออกมา
" คือแม่เร่งเวลาผิดไปหน่อย..ย้ำว่าหน่อยเดียวเท่านั้นนะ!! ตอนนี้พวกเจ้าอายุประมาณ17ปี แม่เสียสมาธิไปชั่วครู่ทำให้เร่งเวลาจนเกินมาสิบปี "
อะไรนะ!!
อะไรนะ!!
ไป๋หลงและอู้เฉียงตกตะลึงในทันทีพอมาสำรวจดูดีๆแล้วเสื้อผ้าที่ตนใส่นั้นแทบจะใส่ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
" ท่านแม่...ข้าไม่โทษท่านหรอกทั้งหมดมันเป็นผลที่ข้าได้ตัดสินใจลงไป "
" ใช่แล้ว ท่านผู้อาวุโสท่านไม่ต้องโทษว่าเป็นความผิดของตนหรอก "
อู้เฉียงกล่าวเสริมทันทีเพราะกลัวว่าราฟาเอลจะกล่าวโทษตนเอง...
" เอาละ...ไป๋หลงถึงเวลาที่แม่ต้องไปแล้ว " ราฟาเอลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง
" ทำไมละ ยังไม่ถึง...จริงสิข้าลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยมัวแต่คิดแต่ที่จะออกไป ยกโทษให้ลูกที่เนรคุณด้วย " ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความสำนึก
ราฟาเอลเห็นเช่นนั้นเพียงเข้า สวมกอดไป๋หลงแล้วกล่าวออกมาด้วยความอบอุ่น
" ไม่เป็นอะไรลูกแม่ เจ้าอย่าโทษโกรธเคืองตัวเองเลย " ราฟาเอลกล่าวพร้อมกับค่อยสลายเป็นแสงไปทีละนิด
" ท่านแม่...ข้ารักท่านข้าจะตามไปช่วยท่านให้ได้ไม่ว่าจะใช้เวลาทั้งชีวิตข้าก็ตามที " ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด ราฟาเอลเช่นนั้นเพียงแค่ส่ายหัวเบาๆก่อนจะชี้มาตรงหน้าอกด้านซ้ายของไป๋หลง
" แม่อยู่ในนี้กับเจ้าตลอดเวลา..เจ้าเด็กโง่ "
ราฟาเอลกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนจะสลายกลายเป็นแสงหายไปในทันที อู้เฉียงเพียงแค่เข้าไปกอดคอไป๋หลงเท่านั้น
" เจ้าสามารถยืมกำลังข้าได้เสมอไป๋หลงไม่ว่าเจ้าจะเจอกับอะไร ข้าก็จะเผชิญมันไปพร้อมกับเจ้า " อู้เฉียงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ
" ข้าขอบใจเจ้ามากอู้เฉียง "
เพล้ง!!
ไป๋หลงและอู้เฉียงหันไปยังทิศทางที่เกิดเสียงคล้ายกับมีอะไรแตก ไป๋หลงสังเกตุเห็น สภาพแวดล้อมต่างๆรวมถึงท้องฟ้ารอบตัวๆของพวกตนนั้นกำลังแตกออกคล้ายกับกระจกที่แตกออกทีละนิด
ภายนอกนอกมิติ....
ตอนนี้มีผู้อาวุโสทั้ง13คนและแม่ทัพภายในป่าอสูรทำสีหน้าเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
หลังจากทราบว่าไป๋หยางนั้นออกไปหยุดฉางเฉินเพียงคนเดียว พร้อมกับไท่ซู่ที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้วยความสำนึกที่มิอาจห้ามไป๋หยางได้
" ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไงไท่ซู่!! ทำไมเจ้าไม่รีบรายงานเรื่องนี้ให้พวกเราทราบ " เสียงของ1ในผู้อาวุโสกลาวขึ้นด้วยความไม่พอใจ
ไท่ซู่ไม่กล่าวไม่ตอบเพียงนั่งคุกเข่าและก้มหน้าลงเท่านั้นสร้างความไม้พอใจให้กับผู้อาวุโสหลายคนในที่นี้
" ข้าขอทราบได้หรือไม่เหตุใดท่านไป๋หยางถึงออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ "
เสียงเต้าจี้ ที่เป็น1ในองค์รักษ์ของไป๋หยางกล่าวขึ้น ไท่ซู่ได้ยินเช่นนั้นเพียงตอบออกมาแบบสั้นๆ
" ท่านไป๋หยางไปทำตามสัญญา " ไท่ซู่เอ่ยออกมาก่อนจะยื่นสารที่ได้มาจากองค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงให้เต้าจี้ดู
เต้าจี้ รับสารนั้นมาแล้วเปิดอ่านในทันที ผ่านไปไม่ถึงสิบลมหายใจเต้าจี้ก็ตัวแข็งค้างในทันที
" เต้าจี้เจ้าเป็นอะไรไปดูหน้าเจ้าขาวซีดราวกับไร้โลหิตเช่นนี้ " 1ในแม่ทัพในป่าอสูรกล่าวขึ้นด้วยความผิดสังเกตุ จึงหยิบ สาร นั้นออกมาจากมือของเต้าจี้ ก่อนที่จะแม่ทัพคนนั้น จะตกตะลึงเนื้อหาในสารทันที ก่อนจะทำสารนั้นตกถึงพื้น
" พวกเจ้าเป็นอะไรกันไปหมดห้ะ!! " เสียงของหนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหยิบสารนั้นมาดู ก่อนจะสั่นสะท้านไปทั้งตัว
นี้มัน!!
ผู้อาวุโสเห็นเช่นนั้นก็กล่าวพร้อมกับระเบิดโทสะออกมาทันที
" ไท่ซู่เรื่องสำคัญนี้ทำไมเจ้าพึ่งจะมาบอกพวกเรา ฉางเฉิน กำลังรวบรวมกำลังพลทั่วยุทธภพ เพื่อบุกยึดทวีปจรัสแสง แล้วยึดวังหลวง แต่เป้าหมายแรกของมันก็คือ ทำลายป่าอสูรให้สิ้น!! "
หลังจากผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยความวิตกและโกรธเคืองจนเกือบจะสังหารไท่ซู่ทันใดนั้น...
เพล้ง!!
เสียงที่เกิดขึ้นเรียกให้ทุกคนในห้องนี้หันไปในทิศทางเดียวกัน ลูกบอสสีขาวกลมโตขนาดใหญ่เกิดรอยร้าว กำลังค่อยแตกออกเรื่อย สร้างความตกตะลึงภายในห้องนี้เป็นอย่างมาก
" เกิดอะไรขึ้น!! " หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวขึ้นด้วยความกังวล
" ข้าจะไปรู้รึ อาจจะเป็นอะไรออกมาก็ได้เตรียมรับมือ ถ้า เป็นตัวอันตรายละก็สังหารได้ทันที !! "
เต้าจี้เห็นเช่นนั้นคิ้วขมวดเข้าหากันทันที เพราะสัมผัสได้ถึงพลังที่ผันผวนกำลังออกมา ทางไท่ซู่เห็นเช่นนั้นก็เอ่ยออกมา...
" พวกท่านช้าก่อนอาจจะเป็นนายน้อยไป๋หลงก็ได้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ในตอนนั้นก็เหลือเพียงลูกบอสสีขาวขนาดใหญนีเท่านนั้น ท่านไป๋หยางได้เคลื่อนที่มาไว้ในห้องนี้ "
" รอดูไปก่อนถ้าสิ่งที่ออกมาไม่ใช่ท่านไป๋หลงและอู้เฉียงสังหารทันที " เสียงของเต้าจี้บอกกล่าวแก่ผู้อาวุโสและแม่ทัพอสูรที่อยู่ในห้องนี้
ทั้งหมดได้แต่เฝ้ารอและเตรียมรับมือทุกสิ่งที่ออกมาทันใดนั้นเต้าจี้ก็เอ่ยขึ้น..
มาแล้ว!!
ร่างสูงสง่าสองร่างก้าวเดินออกมา ใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายผมสีดำปลิวสไหวดวงตาสีแดงฉานกำลังจ้องมองบุคคลที่อยู่ในห้องนี้ด้วยความเรียบเฉย
ก่อนจะมีผู้อาวุโสคนนึงกล่าวขึ้น
" พวกเจ้าเป็นใครเหตุใดถึงออกมาจากในนั้นได้ "
"ข้าเหรอ ข้าคือ ไป๋หลงอย่างไรเล่ามองดูดีๆสิท่านผู้อาวุโสแล้วก็ท่านเต้าจี้หยุดปล่อยจิตสังหารออกมาได้แล้ว ท่านคิดจะสังหารพวกข้าหรืออย่างไรกัน "
ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทำให้บรรยากาศในห้องเงียบลงอย่างน่าประหลาด ก่อนที่ทุกคนน้องนี้จะประสานเสียงพร้อมกันด้วยความตกตะลึง
เมื่อกี้เจ้าว่าอะไรนะ!!
จบ......
