ตอนที่45 ตอนพิเศษ อดีตของไป๋หยางและฉางเฉิน
" เฮ้..ไป๋หยางฝีมือเจ้ายังไม่ตกลงเลยนะ สมแล้วที่เป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียว ของข้า " ร่างของบุรุษผู้หนึ่ง เส้นผมสีฟ้าราวกับน้ำทะเล ดวงตาสีม่วง ร่างกายสันทัดและอุดมไปด้วยมัดกล้าย ซึ่งนั้นก็คือ ฉางเฉินนั้นเอง เมื่อครั้งยังเคยอยู่สถาบันเดียวกันกับไป๋หยาง
" เจ้าก็เช่นกัน ฉางเฉินฝีมือเจ้าพัฒนาได้ไวมาก..อีกไม่นานเจ้าต้องขึ้นเป็นศิษย์หลักของสถาบันแห่งนี้ได้แน่ "
ซึ่งคนที่กล่าวตอบฉางเฉินนั้นก็คือ ไป๋หยาง นั้นเอง เส้นผมสีดำมันวาว ดวงตาสีเทา ผิวพรรณผุดผ่อง กับ เขาที่งอกออกมาเพียงน้อยนิด ทั้งไป๋หยางและฉางเฉินในตอนนั้นต่างเป็น ชายงามล่มเมืองได้เลย ด้วย อายุเพียง 27 ปีทั้งคู่ ระดับพลังของสั้งสองก็ขึ้นเทียบเท่ากัน ไป๋หยางในตอนนั้น อยู่ขอบเขต ราชันอสูรที่แท้จริง ส่วน ทางฉางเฉินนั้น อยู่ ระดับราชันที่แท้จริง
เพราะต่างฝ่าย ต่างเป็นคนละเผ่าพันธ์กันการเปรียบเทียบค่าพลังจึงไม่ต่างกันเท่าใด เพราะสถาบันที่ ไป๋หยางและฉางเฉินศึกษาอยู่นั้น เป็นกลาง ไม่ว่าเผ่าพันธ์ไหนก็สามารถเข้ามาได้ เพียงแค่มีความสามารถเพียงพอ
" ไป๋หยางเจ้าและข้ามาทำสัญญากัน" ฉางเฉินกล่าวกัน
ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
" สัญญาอะไรอย่างงั้นรึ? "
เมื่อฉางเฉินได้ยินเช่นนั้นก็คลี่ยิ้มออกมาทันที
" สัญญาก็คือ...ไม่ว่าเจ้าหรือข้า ถ้าคนใดคนหนึ่งเดินทางผิดอีกคนนึงจะต้องช่วยให้กลับมายังทางที่ถูกต้อง "
ไป๋หยางนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบแก่ฉางเฉิน
" ไม่น่าเชื่อ!! คนอย่างเจ้าคิดเรื่องแบบนี้ก็เป็นด้วย นึกว่าคิดเป็นแต่เรื่องใช้กำลัง ฮ่าๆๆๆ "
ไป๋หยางกล่าวหยอกล้อแก่ฉางเฉิน เมื่อฉางเฉินได้ยินเช่นนั้น ก็เพียงแค่ส่งเสียง หึ ในลำคอเท่านั้น
" เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าเสนอมาข้าก็จะสนองให้ มาทำสัญญากัน " ไป๋หยางกล่าวจบก็นำมีดออกก่อนจะกรีดไปที่ฝ่ามือข้างขวาทันที เมื่อฉางเฉินเห็นเช่นนั้น ก็เข้าใจความหมายได้ทันที ก่อนจะนำมีดมากรีด ที่ฝ่ามือด้านขวาของตนองเช่นกัน
" ข้า ไป๋หยาง ผู้นำป่าอสูรคนถัดไปขอให้สัตย์สัญญา!! "
" ข้า ฉางเฉิน ขอให้สัตย์สัญญา!! "
ฮ่าๆๆๆ!!
หลัจากที่ไป๋หยางและฉางเฉินนำมีดมากรีดฝ่ามือ เสร็จ ก็หยดเลือดลงไปในแม่น้ำ เปรียบ เสมือน สายน้ำที่มิอาจหวนกลับ สัญญาก็เช่นกัน
ผ่านไปหลายวัน ไป๋หยาง สังเกตุเห็น ฉางเฉินมีท่าทีแปลกไป จนรู้สึกเป็นกังวลใจจึงเข้าไปกล่าวถาม
" ฉางเฉิน เจ้าเป็นอะไรรึเปล่าหลายวันมานี้ ข้าเห็นเจ้าเอาแต่นิ่งเงียบ เหมือนกำลังมีเรื่องกังวลใจ "
หลังจากไป๋หยางสบตากับฉางเฉินคล้ายมีบางอย่างแปลกไป แปลกไปจนน่ากลัว
" ข้าไม่เป็นอะไร...ข้าขอตัว " ฉางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็น
" เจ้ามีอะไรก็บอกข้าได้นะ ข้าพร้อมช่วยเจ้าเสมอ " ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยความหวังดี
" อืม...ขอบใจเจ้ามาก"
นั้นคือคำพูดที่ฉางเฉินทิ้งเอาไว้ ก่อนจะเดินหายไป หลังจากวันนั้นไป๋หยางก็ได้ยินข่าวบางอย่างที่ศิษย์ในสำนักพูดคุยกัน
" นี้ๆ เป็นความจริง อย่างงั้นรึ ที่ ตระกูลของฉางเฉิน โดนฆ่าล้างทั้งตระกูล " ศิษย์ในสำนักคนหนึ่งกล่าวขึ้น
" ชู่ววว!! เจ้าอย่าพูดดังไป เรื่องนี้ใครได้ยินจะซวยเอาได้ ว่าก็ว่าเถอะ ข้าก็สงสารเจ้าฉางเฉินมันนะ เป็นคนเดียวทั้งตระกูลที่รอด " ศิษย์ ร่างอ้วนตึ้ยนุ้ยกล่าวขึ้น
" ตอนนี้พวกที่มันฆ่าล้างตระกูลฉาง มันยังไม่รู้ว่าฉางเฉินมีชีวิตอยู่โชคดีของมันละนะ ที่ ตอนนั้นเจ้าฉางเฉินมันไม่ได้อยู่ที่บ้าน "
" ข้าว่าเราหยุดคุยกันเพียงเท่านี้เถิดใครได้ยินจะซวยเอาได้ " ศิษย์หญิงที่หน้าตาน่ารักในระดับนึงกล่าว บอกแก่สหายทั้งหมด
" มีอีกอย่างที่ข้าพึ่งรู้มา คนของราชวงศ์ในทวีปจรัสแสงเป็นคนส่งนักฆ่ามาเพื่อตามหาอะไรบางอย่าง ซึ่งดูเหมือนว่าทางตระกูลฉางนั้นจะไม่ยอมบอก จึงทำให้เกิดเรื่องขึ้น " ศิษย์อีกคนนึงกล่าวเสริมข้อมูล
ไป๋หยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวทันทีก่อนจะรีบเข้ามาถามศิษย์ร่วมสถาบันด้วยกัน ด้วยท่าทีที่แตกตื่น
" เรื่องที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดอย่างงั้นรึ!! " เหล่าศิษย์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบทันที
" ใช่แล้ว ศิษย์พี่ไป๋หยางพวก เราได้ยินเขาพูดกันแบบนี้ ทั้งสถาบันต่างก็รู้กันทั่วไปหมดแล้ว อ้ะ...ถ้าจำไม่ผิดศิษย์พี่ไป๋หยาง สนิทกับ ศิษย์พี่ฉางเฉิน ใช่หรือไม่? "
ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็ พยักหน้า กล่าวตอบทันที
" ศิษย์พี่ไป๋หยางได้โปรดไปช่วยห้าม ศิษย์พี่ฉางเฉินด้วย ศิษย์พี่ฉางเฉินกำลังจะไปแก้แค้น พวกที่ ล้างสังหารตระกูลของตัวเอง.. "
อะไรนะ!!!
ไป๋หยางหลังจากได้ยินเช่น ก็รีบออกจากสถาบันในทันที แล้วเร่งความเร็วไปยังสถานที่ ที่ไป๋หยางคาดว่าฉางเฉินอยู่ที่นั้น และเป็นแบบนั้นจริงๆ
" ไง...ไป๋หยางข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องมา " ฉางเฉินกล่าวด้วยความเหม่อลอย
" อย่าได้คิดทำอะไรโง่ๆเชียว..ฉางเฉิน เจ้าในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้หรอก ถ้าเจ้าไปมีแต่ตายเปล่า " ไป๋หยางกล่าวออกมาตามตรงไม่มีอ้อมค้อม ฉางเฉินที่ได้ยินก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรกลับมา
" เพราะแบบนั้นไง...ไป๋หยาง ข้าจึงอยากให้เจ้าช่วย มาร่วมมือกับข้าแล้วช่วยข้าล้างแค้นพวกมันด้วย..ข้าขอร้องสหาย " ฉางเฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเย็น
" ขอปฏิเสธ..ข้าขอโทษเจ้าด้วยข้าไม่สามารถ ทำตามที่เจ้าขอมาได้ " ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกผิด
" ไหนว่าเจ้าพร้อมช่วยข้าเสมอไง ไป๋หยาง!! " ฉางเฉินกล่าวออกมาโดยเน้นย้ำ
" เรื่องนั้น... " ไป๋หยางไม่สามารถหาคำพูดมาพูดได้ ฉางเฉินเห็นเช่นนั้น คิดเอาไว้อยู่แล้ว ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเรียบ
" หลีกทางด้วย..ไป๋หยาง "
ไม่!!
ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง ฉางเฉนได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มคิ้วขมวด
" หมายความว่ายังไง.. "
" ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าไปเด็ดขาด เพราะเจ้ากำลังเดินทางผิดอยู่ มันเป็นหน้าที่ข้าที่ข้าจะชักจูงเจ้ากลับมา " ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยความหนักแน่น
ฉางเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เกิดโทสะทันที
" เป็นสิ่งที่ผิดอย่างรึ!! ไม่ ไม่ใช่ ไป๋หยางเจ้าไม่เข้าใจหรอก ว่าตอนนี้ข้ารู้สึกยังไงเคียดแค้นแค่ไหน พ่อข้า แม่ น้อง รวมถึงข้ารับใช้ทั้งหมดในตระกูลโดนสังหารจนหมดสิ้น แบบนี้ยังจะให้ข้า นิ่งอยู่เฉยได้อีกอย่างงั้นเหรอ "
ฉางเฉินกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาลจนถึงที่สุด
" แล้วเจ้าคิดว่า เจ้าสามารถชนะพวกมันได้ทั้งหมดอย่างงั้นเหรอ เจ้าคิดดูสิ อีกอย่างถ้าเจ้าตาย คิดหรือว่าพ่อแม่และน้องของเจ้าจะดีใจ ถ้าพวกเขายังอยู่เขาก็จะทำแบบเดียวกับข้า " ไป๋หยางพยามกล่าวอธิบาย เพื่อให้ฉางเฉินฟังแต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์
" ถึงข้าตายไป ก็ไม่มีใครเสียใจ ก่อนข้าจะตายข้าจะลากพวกมันลงนรกไปด้วย พวกราชวงศ์จรัสแสง บัดซบ!! ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กและคนชรา แบบนี้จะปล่อยให้ข้า ทนต่อไปได้อย่างไร...เพราะฉะนั้นหลีกทางซะไป๋หยาง!! หาไม่แล้ว.. "
" ข้าจะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อโค่นเจ้าซะ!! "
ฉางเฉินได้ยินเช่นนั้น ก็ระเบิดโทสะออกมาทันที
ไป๋หยางงงงงงง!!
ตู้มมม!!
ฉางเฉินระเบิดพลังระดับราชันที่แท้ระดับ6 ออกมาทันทีก่อนจะรัวหมัดใส่ไป๋หยางไม่ยั้ง ไป๋หยางก็หาได้ประมาท ระเบิดพลัง ราชันอสูรที่แท้จริง ระดับ6 ออกมาเช่นกัน
ไป๋หยางและฉางเฉินต่างโลมลันกันไปมา จนในที่สุดฉางเฉินก็ใช้กระบ่วนท่าภายในตระกูลออกมาทันที
กรงเล็บมังกร!!
ไป๋หยางเห็นเช่นนั้นก็ใช้กระบวนท่าออกมาด้วยเช่นกัน
อาภรณ์อสูร!!
กรงเล็บมังกรของฉางเฺฉินนั้นโดนป้องกันไว้ได้แต่ ไป๋หยางเองก็โดนผลกระทบจากพลังไม่น้อยก่อนจะผละถอยไปหลายก้าว
" ไป๋หยาง ถ้าเจ้ายังไม่หลีกทางให้ข้า ครั้งต่อไปเจ้าถึงตายแน่...ข้าไม่อยากสังหารสหายตัวเองหรอกนะ ได้โปรด " ฉางเฉินกล่าวออกมาด้วยความท้อใจ
" ข้อโทษด้วย ข้าไม่อาจทำเช่นนั้นได้ "
ฉางเฉินได้ยินเช่นนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังทันที
" เตรียมรับผลที่เจ้าเลือกไว้ได้เลย เพราะ ครั้งนี้ ข้าจะทำให้มันเป็นมหาสงครามขนาดย่อมๆเอง "
ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ประมาทอีกต่อไป ก่อนจะตัดสินใจเรียกวิชาที่สืบทอดกันมาในตระกูล
จำแลงร่างเทพอสูร!!
หลังจากไป๋หลงเรียกใช้วิชานี้แล้วร่างกายก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น เกือบ5เมตร ปีกกระดูกข้างหลังที่โผล่ออกมา เขาขนาดใหญ่กลางหน้าผาก มัดกล้ามเป็นมัดๆ ดวงตาสีแดงฉานร่างกาย ทั้งหมด เป็นสีดำทมิฬทั้งหมด ระดับพลังกระโดดข้ามขั้นมาอยู่ที่ จักรพรรดิ์ขั้นที่1 !! ซึ่งเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่ฉีกกฏของยุทธภพเลยก็ว่าได้เป็นอย่างมากแต่ก็มักจะมีผลค้างเคียงและระยะเวลาในการใช้เสมอ
" ฉางเฉิน ในเมื่อเจ้าไม่ยอมฟังข้า ข้าจักทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดเจ้าไว้ตั้งแต่ตอนนี้ "
ฉางเฉินได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสนเย็นชาและแข็งกร้าวทันที...
" ไป๋หยางเจ้ารู้หรือไม่ทำไมตระกูลข้าถึงโดนฆ่าตายจนหมด เพราะพวกมันต้องการวิชาที่ ตระกูลของเราเป็นผู้สืบทอดมา...วิชาแบบนี้ถ้าข้ารู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นข้าคงทำลายวิชาบ้า!! นี้ไปแล้ว ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นไป๋หยาง อำนาจและพลังที่พวกมันใฝ่หา "
มหาวิชาเทพมังกรล้างสวรรค์!!
ข้างบนท้องฟ้านั้นอยู่ๆก็คล้ายมีบางสิ่ง บางอย่างแหวกว่ายอยู่กลางนภา ไป๋หยางเห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึงและสั่นสะท้านในทันที เพราะ มันคือมังกรสีเงิน ดวงตาสีน้ำเงินที่เกรี้ยวกราด
" ยังไม่หมดเพียงเท่านี้...ขั้นตอนสุดท้าย "
ฉางเฉินกล่าวอย่างมีเลศนัยทันใดนั้นเอง...
สถิต!!
ร่างของฉางเฉินกลายเป็นแสงแล้วพุ่งไปยังส่วนหัวของมังกรตัวนั้นทันที... ก่อนที่มังกรตัวนั้นจะล่อนลงสู่พื้น
จักรพรรดิ์ที่แท้จริงขั้นที่1!!
ไป๋หยางเห็นเช่นนั้นก็สั่นสะท้านในทันที ไม่แปลกใจเลยทำไมพวกราชวงศ์ ถึงต้องการวิชานี้นัก วิชานี้แทบจะเรียกได้ว่าฉีกกฏเกณฑ์ ของยุทธภพโดยสิ้นเชิง
" ไป๋หยางถ้าเจ้ายังไม่หลีกเจ้าได้ตายจริงๆแน่!! เจ้าจะหลีกทางให้ข้าได้รึยัง"
ฉางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังขณะอยู่ในร่างมังกรสีเงินยักษ์ใหญ่
" ไม่!! "
ไป๋หยางกล่าวออกมาทั้งๆที่ตอนนี้ก็เห็นความต่างของระดับขั้นพลัง แต่ที่ไป๋หยางยังอยู่ได้เพราะแรงใจและคำสัญญา
" เช่นนั้น...ถ้าเจ้าตาย!!ก็อย่าถือโทษโกรธข้าก็แล้วกัน "
ลมหายใจเทพมังกร!!
ฝ่ามือเทพอสูร!!
ไป๋หยางและฉางเฉินนั้น ต่อสู้กันเจ็ดวันเจ็ดคืน เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สั่นคลอนทวีปได้ เพราะ บริเวณ ที่ทั้งสองต่อสู้กันนั้นกลายเป็นหลุมลึกเกือบ10เมตร บ้างก็เป็นลอยกงเล็บของสัตว์ขนาดใหญ่ ในระหว่างที่ทั้งสองสู้กันนั้นใช่ว่าจะไม่มีคนรู้แต่...
ระดับพลังที่ห่างชั้นกันเกินไปทำให้ไม่ใครสามารถเข้าไปใกล้ได้ บางคนถึงกับพลังภายในปั่นป่วนจนกระอักโลหิตออกมา
" บัดซบ!! นี้พวกมันยังเป็นมนุษย์กันหรือไม่พลังระดับนั้นมันเกินขอบเขตมนุษย์ไปแล้ว " ชายวัยกลางคน ท่าทางภูมิฐานดีใช่ย่อย กำลังจดจ้องการต่อสู้ที่อยู่ห่างไกลออกป
" ข้าได้ยินมาว่าพวกมันเป็นศิษย์ของสถาบันกลาง ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนี้.. " ชายร่างท้วมกล่าวออกมา
" เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!! ระดับพลังแบบนั้นมันใช่ศิษย์ของสถาบันกลางแล้ว " ชายอีกคนกล่าวขัดแย้งออกมา
ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆนั้นไม่มีใครสามารถเข้าไปใกล้ได้แม้แต่คนเดียว ต่างถกเถียงกันไปมาว่าใครกำลังต่อสู้อยู่กันแน่..
" แฮกๆๆ!! อึก... " ไป๋หยางที่ตอนนี้นั้นไม่เหลือพลังในการใช้สู้อีกต่อไปแล้ว แขนขวา บิดเบี้ยวงอ บาดแผลสาหัส อย่างมาก มีบาดแผลขนาดใหญ่ตามตัวหลายแห่ง พร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำโต
" ปะ..ไป๋หยางเจ้าทำได้แสบมากไม่คิดเลยว่า พลังห่างชั้นกันขนาดนั้นเจ้ายังพลิกกับมาจนเป็นเหตุให้ข้าต้องอยู่สภาพแบบนี้ได้ " ฉางเฉินในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในร่างมังกรอีกต่อไป เผยให้เห็น ผมที่กระเสิง บาดแผลทั่วตัว พลังก็แทบจะหมดแล้วเช่นกัน
" ข้าบอกแล้วว่าข้าจะให้เจ้าผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด!! "
ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยึดมั่นแต่แฝงไปด้วยความเหนื่อยล้า...
ฉางเฉินได้ยินเช่นนั้นก็เค้นเสียงออกมา เป็นน้ำเสียงที่ห่างเกินยิ่งนัก
" ไป๋หยางแห่งป่าอสูร...ครั้งนี้ข้าจะยอมถอยไปก่อนแต่เมื่อไหร่ที่ข้าฝื้นคืนกำลังและแข็งแกร่งกว่านี้ ข้าจะทำสงครามกับพวกราชวงศ์ บัดซบ!! นั้นแน่นอนอีกอย่าง.... "
" เจอกันครั้งหน้าเราคือศัตรู!!"
ไป๋หยางที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับพูดอะไรไม่ออกได้แต่โทษตัวเองว่าไร้ความสามารถ ที่มิอาจดึงสหายเพียงคนเดียวออกมาจากหนทางแห่งความเกรียดชังได้...
จบ..
