6“นะ… นายครับ”
วิคเตอร์อาบน้ำแต่งตัวในห้อง ในขณะที่หมอพุทธิพงษ์ หรือหมอพุทธ รักษาอาการบาดเจ็บของนับดาว เขาเคยรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อโจเซฟ ทำให้เขาได้รู้จักกับวิคเตอร์
“เอาเธอไปโรงพยาบาลดีกว่าไหม?” พุทธิพงษ์เอ่ยกับวิคเตอร์ อาการบาดเจ็บของหญิงสาวที่นอนนิ่งบนเตียงมีไม่มาก แต่เขากลัวเธอช้ำในมากกว่า
“มึงจะเอาไปก็ได้นะ กูจะไปเคลียร์ของล็อตใหม่” วิคเตอร์เอ่ยเสียงเรียบ ไม่ได้สนใจอะไรในตัวของเธอมากมายนัก
“เฮ้อ!” หมอหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา จะพาไปมันก็พาไปได้ แต่เขาอยากถามเพื่อความแน่ใจ ในเมื่อรถของวิคเตอร์ขับชนเธอ พุทธิพงษ์ก็อยากให้วิคเตอร์รับผิดชอบมากกว่านี้
“กูไปแล้ว มึงจัดการให้ด้วยแล้วกัน” วิคเตอร์เอ่ยแล้วเดินออกไปข้างนอก ขณะที่พุทธิพงษ์จะช้อนกายหญิงสาวขึ้น เธอก็รู้สึกตัวพอดี
“คุณเป็นใครคะ?” นับดาวเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้า เขาอยู่ในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตา พุทธิพงษ์มองใบหน้าสวยหวานของนับดาว ก่อนจะยิ้มให้เธอเบา ๆ เขารู้สึกเบาใจขึ้นมา เมื่อได้เห็นหญิงสาวรู้สึกตัวแล้ว และอาการไม่น่าเป็นห่วง
“ผมเป็นหมอ”
“หมอเหรอคะ?” หญิงสาวเอียงหน้าถาม
“ครับ คุณรู้สึกปวดหัว คลื่นไส้ไหมครับ”
“ไม่ค่ะ แค่เจ็บหลังนิดหน่อย” หญิงสาวยิ้มพลางตอบคำถามหมอหนุ่ม
“ไปตรวจที่โรงพยาบาลกันดีกว่าไหม? จะได้เบาใจ”
“ไม่ค่ะ แล้ว…” หญิงสาวกวาดสายตามองหาวิคเตอร์ แต่ก็ไม่เจอเขา ภายในห้องหรูหรา ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง บ่งบอกถึงฐานะเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี
“มันไม่อยู่หรอก ว่าแต่คุณไม่ไปโรงพยาบาลจริง ๆเหรอ?”
“ค่ะ”
“งั้นผมจะให้ลูกน้องวิคเตอร์ตามไปเอายาที่โรงพยาบาลให้นะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” นับดาวยกมือไหว้หมอหนุ่มอย่างนอบน้อม หมอหนุ่มเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋า แล้วสะพายออกไป เขาต้องไปทำงานต่อ ที่เขามาเพราะถูกลูกน้องของวิคเตอร์โทรจิก เขาเลยต้องรีบมา
นับดาวเดินออกมาจากห้อง แล้วสำรวจทั่วบ้าน เธอไม่ได้ถูกชนแรงหรอก เพราะรถเบรคทัน เธอตกใจที่รถมาประชิดตัวเธอ ทั้งที่เธอตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น แต่มันก็อดตกใจจนเป็นลมไปไม่ได้
“ในที่สุดฉันก็ได้มาคฤหาสน์หลังนี้” นับดาวยกยิ้มมุมปาก เท่าที่เธอศึกษาข้อมูลของคฤหาสน์แห่งนี้ น้อยคนนักที่จะได้เข้ามา เพราะเจ้าของคฤหาสน์ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย
กำแพงสูงและลูกน้องเฝ้าอยู่รอบ ๆ ผู้บุกรุกไม่สามารถเข้ามาได้ง่าย ๆ
นับดาวมอบรอบๆ คฤหาสน์มันช่างสวยงาม ภายในเป็นโทนสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีของเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง เธอเดินสำรวจความงามภายในบ้านอย่างลืมตัว
นาฬิกาปนฝาผนังบ่งบอกว่าเป็นเวลาตีสอง แสงไฟจากสปอร์ตไลท์ ส่องสว่างไปทั่วบริเวณรอบนอกตัวคฤหาสน์ นับดาวเดินออกไป ข้าง ๆ คฤหาสน์ มีสวนไม้ดอกสีสันนานาพันธุ์ ปลูกเต็มสวนสวยงามไปหมด นับดาวยื่นมือเรียวเล็กไปจับดอกกุหลาบสีแดงสด ก่อนจะใช้จมูกสูดดมความหอมจากดอกไม้งามนั้น
ด้านวิคเตอร์ ปลายกระบอกปืนมันวาวของเขาเล็งไปที่ร่างของชายที่ถูกซ้อมจนสะบักสะบอม ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ เขาทำมาหลายครั้ง และนับครั้งไม่ถ้วน
“คิดก็โกงของกูเหรอ?”
“อย่าทำผมเลยครับนาย ตำรวจตรวจหนักมาก ผมมัวแต่เร่งรีบเอาของมาไม่ได้เช็คให้มันเรียบร้อย” ชายคนนั้นยกมือไหว้ประหลก ๆ พยายามอธิบายให้ชายหนุ่มรุ่นลูกเข้าใจ
“มึงคิดว่ากูโง่เหรอ? ของที่ส่งมามันครบมาตั้งแต่เกาะแล้ว มึงทำงานกับกูมาหลายปี ไม่คิดว่ามึงจะกล้าทำแบบนี้ ของที่เหลืออยู่ไหน”
“นะ…นายครับ ผมไม่รู้ ผมพลาดไปแล้วครับนาย” ชายคนนั้นหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นเทิ้มไปทั้งกายเพราะความกลัว
“กูจ้างมึงทำ ไม่ได้ให้มึงทำฟรี ๆ ในเมื่อมึงทำพลาด กูก็ไม่จำเป็นต้องเก็บคนไร้ประโยชน์แบบมึงเอาไว้”
“นะ… นายครับ”
ปัง! ปัง! ปัง! สิ้นเสียงปืน ชายคนนั้นก็ล้มลงแน่นิ่งทันที วิคเตอร์หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กขึ้นมาเช็ดมือตัวเอง แล้วเดินไปหาลูกน้อง
“เคลียร์ให้เรียบร้อย ส่วนพวกของที่มันขาดไปพวกมึงเอาของสำรองส่งไปก่อน แล้วอย่าลืมไปตามหาด้วย ว่าไอ้คนทรยศ มันเอาของ ๆ กูไปไว้ไหน หรือมันแอบเอาไปขายให้ใคร”
“ครับนาย” ลูกน้องทั้งสามรับคำ
วิคเตอร์ลงจากรถสปอร์ตสุดหรู เวลาตอนนี้บ่งบอกว่าตี3แล้ว ชายหนุ่มชำเลืองมองร่างบางผ่านกระจกใส ซึ่งตอนนี้กำลังง่วนทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัว เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะคิดว่าเป็นสาวใช้ในบ้าน
เขาถอดชุดสูทราคาแพงโยนหวือลงบนโต๊ะ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตจนหมด สาปเสื้อแยกออก เผยให้เห็นลอนกล้ามเนื้อเป็นลอนสวย เขากำลังเดินไปขึ้นบันได
เคร้ง!
ปลายเท้าชะงัก เมื่อได้ยินเสียงดังอยู่ในครัว ปลายคิ้วเข้มของชายหนุ่มจรดกันทันที เขาก้าวเท้าไปอย่างเงียบเชียบเดินไปในครัว พอเข้าไปด้านในก็ปรากฏร่างของหญิงสาวยืนหันหลังให้เขาอยู่ หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขา เธอกำลังง่วนอยู่กับของในตู้เย็น วิคเตอร์จ้องมองอย่างลืมตัว เมื่อได้เห็นสะโพกงอนงาม ต้นขาเรียวสวยขาวผ่อง กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมา มันเย้ายวนชวนสัมผัสร่างกายของหญิงสาว ที่เขาจ้องมองอยู่ไม่น้อย
นับดาวก้ม ๆ เงย ๆไม่ได้รู้ตัวเลยว่า มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องมองเธอยังลืมตัว ดวงตากลมโตมองเห็นเค้ก รอยยิ้มเกิดบนใบหน้าสวยทันที
นับดาวถือขนมออกมาแล้วหันมาเจอวิคเตอร์พอดี เธอสะดุ้งโหย่ง ขนมในมือแทบล่วงลงสู่พื้น
วิคเตอร์จ้องใบหน้าหวานที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอาง เธอสวยราวกับนางอัปสรา ดวงตากลมโต แพขนตางอมงาม จมูกรั้นบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจของเจ้าหล่อน ริมฝีบางอวบอิ่มชวนมอง ผิวขาว ๆ หน้าอกหน้าใจเต่งตึง ยอดอกมันดันเสื้อออกมา ไม่บอกก็รู้ว่าตอนนี้ หญิงสาวร่างระหงตรงหน้าไม่ได้ใส่ชั้นในแน่นอน
“มาทำอะไรในครัวของฉัน” น้ำเสียงเรียบๆเอ่ยถามเธอนั้น ทำเอานับดาวยิ้มออกมาทันที อย่างน้อยเขาก็ยังไม่เอ่ยปากไล่เธอ
“นับหิวค่ะ”
“ถ้ากินเสร็จก็ไปได้แล้ว” รอยยิ้มของนับดาวหุบลงทันที เมื่อได้ยินคำที่เขาเอ่ย เธอมองหน้าเขาก่อนจะหยิบขนมป้อนชายหนุ่ม
“ลองชิมขนมดูหน่อยสิคะ” นับดาวพยายามป้อนขนมให้วิคเตอร์ เขาหรี่ตามองเธอ ก่อนจะปัดขนมออก
“ถ้าไม่เป็นไรมาก ก็ออกไป!” เขาเอ่ยเสียงห้วนกระด้าง นับดาวถึงสะดุ้งด้วยความตกใจ หากไม่ติดว่าต้องทำงานสำคัญ เธอคงวิ่งแจ้นออกไปแล้ว เขาไม่อ่อนโยนกับสุภาพสตรีอย่างเธอแม้แต่น้อย
“นับไม่มีที่ไป ฮึก!” นับดาวก้มหน้าพร้อมกับปล่อยโฮออกมา เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น แสร้งเพื่อให้ชายหนุ่มเห็นใจ เธอเคยได้ยิน มารยาหญิงมีหลายร้อยเล่มเกวียน เธอจะงัดมันออกมาใช้สักเล่ม
“อย่ามาแสดงละคร เพราะคนอย่างฉันไม่เคยเห็นใจใคร” เขาเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ
“ช่วยนับสักครั้งนะคะ นับไม่มีที่ไปจริงๆค่ะ” นับดาวทรุดกายลงนั่งพื้น พร้อมกับพนมมือไหว้อ้อนวอนชายหนุ่ม เสื้อเชิ้ตร่นขึ้นจนเห็นขาเรียวสวย มันเป็นภาพที่ยั่วยวนเป็นอย่างมาก ภาพที่เธออ้อนวอนน้ำตาไหลรินอาบแก้ม มันน่าจะเป็นภาพที่น่าเวทนา แต่มันกลับไม่เช่นนั้น มันกลับทำให้วิคเตอร์ร้อนรุ่มภายในกายอย่างไม่อาจห้าม ตัวตนภายในกายแข็งขืนดันเนื้อผ้า เรียกร้องที่จะปลดปล่อยจนเขาต้องสกัดกั้นอารมณ์เอาไว้
“...” เมื่อเห็นชายหนุ่มนิ่งเงียบ นับดาวรู้สึกใจชื้นขึ้นมา เธอลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเขา
“นับยอมทุกอย่าง”
“ทุกอย่างจริงเหรอ?”
“ค่ะ เป็นคนใช้คนสวนนับก็ยอมค่ะ”
“ยอมแน่นะ”
“ค่ะ”
“ยอมแม้กระทั่งขึ้นเตียงกับฉัน เธอยอมไหมล่ะ” เขาแสยะยิ้มเเล้วเอ่ยออกมา ผู้หญิงที่พยายามเข้าหาเขาส่วนมาก ก็หวังเรื่องนี้กับเขาทั้งนั้น วิคเตอร์รั้งร่างบางเข้ามาแนบชิด เพียงแค่สัมผัส ร่างกายของเขากลับร้อนวูบวาบ ราวกับถูกนาบด้วยแผ่นเหล็กร้อน เลือดในสูบฉีดจนเดือดพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“นับอยากทำงานค่ะ นับไม่ได้อยากขึ้นเตียงกับนาย” เธอกัดปากจนเจ็บแล้วพูดออกมา วิคเตอร์แค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ราวกับเป็นเรื่องตลก ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องตลกสักนิด
“ทำไม่ได้ก็ไสหัวไป ถ้าฉันยังเห็นเธออีก ฉันจะให้ลูกน้องลากเธอออกไป” เขาผลักเธอออกไปให้พ้นตัว แล้วเดินออกไปจากครัว วิคเตอร์ขึ้นมาบนห้องของตนเอง แล้วนั่งคิดอะไรไปเรื่อย
นับดาวกำลังครุ่นคิด ถ้าเธอกลับ มันจะทำให้เธอพลาดสิ่งที่พยายามทำมาตั้งแต่ต้น หญิงสาวสูดลมหายใจลึก เท้าเรียวสวยเดินออดจากครัวแล้วก้าวขึ้นบันได
“พรุ่งนี้กูส่งล็อตใหญ่ เดี๋ยวกูไปดูของด้วย” เสียงพูดโทรศัพท์ของวิคเตอร์ทำเอามือที่นับดาวจะเคาะประตูชะงัก
(“...”)
“ครั้งนี้ไม่พลาดแน่ เพราะถ้าพลาดอีก พ่อกูจะมาเอง”
(“...”)
“แค่นี้แหละ” วิคเตอร์ปรายตาไปที่ประตู พร้อมกับแสร้งไม่รู้ว่ามีคนแอบฟัง นับดาวเม้มปากเเน่น พรุ่งนี้เขาอาจจะยอมพาเธอไปด้วย เธอต้องยื้อเวลาเรื่องบนเตียงกับเขา เธอยกมือเรียวสวยขึ้นอีกครั้ง แล้วเคาะประตู
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น วิคเตอร์กระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินไปเปิดประตู หญิงสาวยืนก้มหน้า ใช้มือประสานกันแน่น
“เธอตกลงใช่ไหม?”
“พะ… พรุ่งนี้นี้ได้ไหมคะ? นับยังเจ็บจากการถูกรถชนอยู่เลย” หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่น ภายในใจหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย
“ไม่อะ เพราะฉันจะเอาเธอวันนี้ เธอยังเดินได้ ฉันเอาเธอ เธอก็ไม่ตายหรอก” วิคเตอร์กระชากร่างบางปลิวกระทบกับอกแกร่งทันที
