บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 เตียงเก่า

ตอนที่ 8

เตียงเก่า

ร่างสูงคร้ามแดดเปลือยท่อนบนยืนตระหง่านท้าสายตาของหญิงสาวอยู่ปลายเตียง ชาครียากลืนน้ำลายลงคออย่างนึกประหวั่น แม้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เธอก็เสียววาบไปทั่วช่องท้อง มีบางสิ่งบางอย่างกำลังหมุนวนชวนให้ขนลุกซู่ซ่า ตากลมมองเรื่อยลงมาตั้งแต่บ่ากว้างและหยุดที่ขอบกางเกงเหมือนจะทำใจ เพียงครู่เดียวก็หลุบลงมองเป้ากางเกงที่เปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ จากนิ่งสงบก็พลันขยายตัวจนดุนดันออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และสิ่งนั้นก็ทำให้เธอไม่อาจถอนสายตาไปจากมันได้ดั่งใจหมาย

นักรบเห็นความปรารถนาที่เปล่งประกายออกมาจากนัยน์ตาคู่สวย ชาครียาคงไม่รู้ว่าเธอกำลังมองเขาเหมือนจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว สายตาแบบนี้ที่เขาเห็นตั้งแต่จูบเธอครั้งแรก ผู้หญิงอย่างเธอมีไฟร้อนซ่อนอยู่ในตัวมากมาย ไฟโชนแสงที่รอเวลาจะลุกไหม้หากใครก้าวล้ำเข้าไปหา

แต่เขากล้ามากกว่านั้น เพราะเขาไม่ได้เป็นผู้ชายธรรมดาแต่ยังเป็นน้ำมันที่พร้อมจะราดลงบนกองเพลิงเสน่หากองนี้ เขาชอบความร้อนแรงที่ไม่อาจแฝงเร้นของเธอมากนัก ไม่ใช่เพราะขาดผู้หญิงมาช้านาน แต่เพราะไม่มีใครทำให้เขารู้สึกเป็นยิ่งว่าไฟไหม้ป่าได้เท่าเธอ

ร่างสูงเดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า แต่ละก้าวของเขาช่างต่างจากจังหวะการเต้นของหัวใจอย่างสิ้นเชิง ชาครียารู้สึกเหมือนหัวใจจะเต้นผิดจังหวะ มันเป็นการเต้นแบบก้าวกระโดดบางครั้งก็เหมือนจังหวะแร็พ ลมหายใจของเธอก็สะท้านอย่างรุนแรงจนหวาดกลัวว่าลมจะหมดปอดหากไม่รีบสูดอากาศเข้าไปให้เต็มที่

“พี่รบน่าจะอาบน้ำก่อนนะคะ ห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง”

เธอเสนอไม่ใช่เพราะหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ แต่เพราะกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเรียกเหงื่อได้มากโข เขาน่าจะเหนียวตัวมากมายและหากต้องลงไปล้างเนื้อล้างตัวหลังทำกิจกรรมกลางดึก พรุ่งนี้เช้าตากับยายคงได้ช่วยกันวิจารณ์การเข้าพักของเธอกับเขาอีกแน่

“เหม็นเหรอ” ปากถามแต่ขาไม่หยุดนิ่ง เขาก้าวขึ้นมาบนเตียงเหล็กที่ดังเอี๊ยดอ๊าดอย่างน่าหวาดเสียวว่ามันจะหักหรือเปล่า

“เปล่าค่ะ แต่คิตตี้กลัวพี่รบจะไม่สบายตัว”

“เสียดายที่ข้างบนนี้ไม่มีห้องน้ำ ไม่งั้นพี่จะพาเธอไปอาบน้ำพร้อมกันเลยทีเดียว”

“พี่รบจะลงไปอาบน้ำก่อนใช่มั้ยคะ”

นักรบส่ายหน้า “เปล่า พี่จะรออาบทีเดียวพรุ่งนี้ ทนเหม็นหน่อยนะคนดี”

“หมะ...เหม็นเหรอคะ”

ชายหนุ่มโน้มตัวลงให้แผงอกลดลงไปใกล้ใบหน้าของหญิงสาว โดยไม่ต้องบอกเธอก็สูดดมกลิ่นกายของบุรุษเพศเข้าไปเต็มๆ ไม่เหม็นเลยสักนิดนี่นา

“เหม็นหรือเปล่า” เขาถามอย่างต้องการจะเอาคำตอบ

“ไม่ค่ะ ไม่เหม็นเลย” ชาครียาก็ตอบไปตามตรง อกกว้างๆ อยู่ใกล้ใบหน้าของเธอมากเกินไปหรือเปล่า อยากจะผลักให้เขาถอยห่าง แต่ทำไมเธอกลับยกหัวขึ้นแล้วแนบปากไปบนเนื้ออุ่นๆ นั้นด้วย นอกจากจะไม่มีคำตอบแล้วเธอยังตวัดปลายลิ้นเลียเนื้อกายชายชาตรีอีกด้วย

ให้ตายเถอะคิตตี้ นี่เธอทำอะไรลงไป

“หวานไหมคิตตี้ เนื้อพี่หวานเท่าครึ่งหนึ่งของคิตตี้หรือเปล่า”

หญิงสาวได้ยินเสียงทุ้มแว่วๆ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เธอยังคงดื่มด่ำกับรสชาติพิลึกพิลั่นของเขาอยู่อย่างนั้น โอย...นี่เธอเป็นอะไร ทำไมหยุดตัวเองไม่ได้

ในเมื่อชาครียาไม่ยอมเอื้อนเอ่ย นักรบจึงเลื่อนตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน เขาเห็นปลายลิ้นเล็กๆ สีชมพูจากช่องปากที่เผยอออก เห็นกลีบปากอิ่มเต็มฉ่ำเยิ้มอย่างน่าหลงใหล เห็นดวงตากลมหวานปรือปรอยแสดงความปรารถนาออกมาเต็มเหนี่ยว

นี่แหละ คือสิ่งที่เขาต้องการ

ชายหนุ่มจรดริมฝีปากครอบครองกลีบปากอิ่มอย่างดูดดื่ม อ้าปากใช้ไรฟันคมๆ แกล้งงับริมฝีปากอิ่มย้อยแล้วดึงทึ้งเบาๆ ให้พอรู้สึกซ่านไปทุกรูขุมขน ก่อนจะตวัดปลายลิ้นลัดเลาะไรฟันขาวซี่เล็กๆ แล้วแทรกตัวเข้าไปโรมรันกับลิ้นนุ่มอย่างเร่าร้อน

เสียงอื้ออึงที่ดังอยู่ในหูเริ่มเบาบางลงเมื่อมือใหญ่อบอุ่นกอบกุมทรวงสล้าง เคล้นคลึงอย่างรุนแรงจนยอดอกอิ่มชูช่อตอบสนองผ่านเสื้อชั้นในตัวบางที่ถูกพาดทับด้วยเสื้อเนื้อนิ่มอีกชั้น นักรบเริ่มรำคาญกับสิ่งกีดขวาง เขาถอนริมฝีปากออกอย่างฉุนเฉียว แล้วตั้งหน้าตั้งตาปลดเสื้อทั้งสองชั้นของเธอออกอย่างรีบร้อนและเอาแต่ใจ เพียงอึดใจเดียวชาครียาก็แทบเปลือยเปล่า อวดทรวดทรงอร้าอร่ามระทดระทวยอยู่บนเตียง

นักรบถอนใจรุนแรงก่อนฉกใบหน้าวูบลงหาเนินเนื้อเต่งตึงอวบอัด ซุกไซ้ด้วยปลายคางบึกบึนมีหนวดเคราขึ้นเขียว ความสากระคางส่งผลให้หญิงสาวห่อไหล่จั๊กจี้จนคอย่น พอยกมือหมายจะดันศีรษะทุยๆ ก็ถูกคว้ามือไว้แล้วกดลงบนหมอน คราวนี้เมื่อซ่านเสียวหญิงสาวก็ได้แต่บิดกายไปมา อยากยกมือขึ้นลูบไล้ก็ทำไม่ได้และมันช่างเป็นอะไรที่ทรมานแสนเข็ญ

ยอดถันชูช่อสะบัดไหวถูกครอบครองด้วยอุ้งปากที่ทั้งร้อนและเต็มไปด้วยความปรารถนาจะกลืนกิน เสียงดูดดื่มดังแว่วเข้าสู่โสตประสาทแห่งการรับรู้ และยังสัมผัสที่ทั้งเร่าร้อนรุนแรงนั่นอีก ก่อมวลแห่งความปรารถนาเวียนวนอยู่ในช่องท้อง มันกำลังทำลายล้างสติสตังที่เหลืออยู่เพียงนิดแล้วฉุดกระชากแรงเสน่หาให้ทอดตัวเป็นเส้นโค้งล้อมรอบกายา ชาครียาส่งเสียงครางแผ่วโหยคล้ายคนบาดเจ็บ หากจะบาดเจ็บเพราะสิ่งอื่นหาใช่สิ่งนี้ หญิงสาวคงจะยอมรับมันได้ ทว่าเวลานี้เธอกำลังทรมานอยู่ในห้วงรุ้งหลากสีจนแทบจะขาดใจ

“อา...พี่รบ พอ...พอแล้ว”

นักรบแค่นยิ้มและแทนที่เขาจะผละใบหน้าออกจากทรวงงาม เขากลับเคลื่อนใบหน้าลงสู่แอ่งสะดือหลุมน้อยๆ ทำราวกับมันเป็นบ่อน้ำที่อุดมสมบูรณ์จนต้องตวัดปลายลิ้นเลียซ้ำๆ จนร่างสาวดีดดิ้น

ข้อมือเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ร่างบางถูกดึงขึ้นนั่งทับอยู่บนหน้าขาแกร่ง เธอคล้องมือกับลำคอหนาโดยอัตโนมัติเมื่อมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะวกมาข้างหน้าแล้วยกสะโพกสวยขึ้น เขาออกแรงดึงกางเกงขาสั้นสีเข้มทีเดียวก็หลุดพ้นไปจากร่าง เหลือเพียงบิกินีสีขาวสะอาดที่ปกปิดอะไรไม่ได้เลยสักนิด

ในขณะที่ชาครียาได้แต่ยืนเม้มปากคร่อมร่างกึ่งนั่งกึ่งนอนของนักรบ ดวงตาคมสีเข้มวาวแสงก็จับจ้องอยู่เพียงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่หลังบิกินีเนื้อบาง ความบางเบาของผ้าสีขาวมันลื่นทำให้เห็นทะลุเข้าไปถึงเนื้อใน นักรบเลียริมฝีปากที่กำลังแห้งผาก จับจ้องไปยังกลีบเนื้อด้วยสายตาหิวกระหาย ลมหายใจที่ทอดยาวสลับกับรุกเร้าเป็นจังหวะรุนแรงจนเหนื่อยหอบ แค่เห็นความต้องการก็พุ่งพล่านจวนเจียนถึงขีดสุด

“รู้อะไรมั้ย พี่จะมองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สวยมากยาหยี”

“อย่า” ชาครียาหลุดปากออกไปอย่างที่ทนไม่ไหวแล้ว

“อย่าอะไร อย่ามองหรืออย่าทำ แต่ไม่ว่าจะอย่าอะไรก็ไม่เป็นผล เพราะพี่ไม่คิดจะหยุด”

เขาเงยหน้าสบตาฉ่ำหวานแล้วในขณะที่ชาครียามัวแต่จ้องตาเชื่อมๆ นั่น ชายหนุ่มก็ล็อกสะโพกผายไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้างแล้วดึงเข้าหาใบหน้าคมเข้ม

“อือ...พี่รบ” เธอร้องเสียงหลงรีบหาหลักยึดไม่ให้ล้มลง แต่พอเห็นหน้าต่างกระจกบานใสที่เธอกำลังทาบมือพยุงตัว เธอก็ตบบ่ากว้างซ้ำๆ “พี่รบ กระจก” เสียงเตียงก็ยังดังเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่ขยับตัว ให้ตายสิ เธอกำลังมีอารมณ์ร่วมแม้จะมีเสียงไม่พึงประสงค์และอาจกำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่อยู่เบื้องล่าง มันน่าจะบั่นทอนอารมณ์ร่วมนี้ลงไปบ้าง แต่เปล่าเลยยิ่งได้ยินก็ยิ่งรู้สึกท้าทาย ผลักดันให้เธอหาวิธีทำให้บทรักทั้งหนักหน่วงและเงียบกริบได้ในเวลาเดียวกัน

นักรบส่งหมอนหนุนให้ โดยไม่รอช้าหญิงสาวคว้ามันมาปิดร่าง ดวงตายังเพ่งมองลงไปข้างล่างอย่างใคร่รู้และนึกพอใจในครามครันว่ามืดค่ำขนาดนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านเดินผ่านไปมา และท่ามกลางความรู้สึกที่ยังไม่วางใจเธอก็นึกตื่นเต้นจนอะดีนาลีนไหลลื่น ถึงภายในห้องจะไม่ได้เปิดไฟจนสว่างจ้า แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาตกกระทบก็เพียงพอที่จะมองเห็นทุกอย่างเลือนราง โดยเฉพาะร่างสองเบื้องหลังหมอนหนุนใบใหญ่

“เอี๊ยด...อ๊าด...”

ไม่ว่าเสียงเตียงจะดังขนาดไหนก็หาทำให้นักรบหยุดยั้งความต้องการของตนลงได้ ใบหน้าของเขายังคงดื่มด่ำกลีบกายที่น่าปรารถนาผ่านเนื้อผ้าบางเฉียบ หากละใบหน้าออกเล็กน้อยก็จะเห็นความงดงามของดอกไม้ในสวนรุกชาติเบียดสนิท เนื้อนุ่มๆ ละมุนละไมสีสดกำลังเปียกชื้นจากแรงอารมณ์ที่เขาสร้างขึ้น หากแต่แค่นั้นคงไม่พอ ชายหนุ่มจึงรั้งขอบกางเกงให้รวมอยู่ข้างหนึ่ง แล้วโฉบเรียวลิ้นดื่มด่ำรสเสน่หาอันหวานหอม

“ฮือ...” หญิงสาวน้ำตาไหลออกมาจากหางตา น้ำตาที่ไม่ได้เกิดจากความผิดหวัง หากแต่เกิดจากความต้องการที่ยังไม่ได้ถูกเติมเต็ม เธอกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายกำลังจะหมดแรงและอ่อนยวบลงทุกขณะ แข้งขาสั่นจนต้องจิกนิ้วเท้าเข้าหากันแน่น

ร่างสาวสั่นสะท้านเรียกให้ชายหนุ่มหยุดการกระทำนั้นชั่วครู่ เขาก้าวลงจากเตียงดึงบิกินีเปียกๆ ออกจากเรียวขาสวย แล้วปลดกางเกงของตัวเองลงบ้างให้เหลือแค่ชั้นในชายสีเข้มตัดกับผิวเนื้อสีแทนของชายชาตรี และเจ้าสิ่งนั้นก็ดึงดูดสายตาของหญิงสาวได้อีกครั้ง

“อยากมองนักก็เชิญเลย มองให้เต็มตาเต็มใจ ก่อนที่มันจะหายเข้าไปอยู่ในตัวเธอ” เขาก้มหน้าลงกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู

ชาครียานึกอายจนแทบจะมุดหน้าเข้าไปใต้หมอน เธอคิดอะไรเขามองออกไปเสียทุกอย่าง เธอกำลังเป็นผู้หญิงที่ไม่เก็บอาการเอาซะเลย

...ก็เขาหล่อเหลาทุกกระเบียดนิ้ว เต็มไปด้วยพละกำลังอันน่าสะพรึงกลัว จะไม่ให้หลงใหลได้ปลื้มอย่างไรไหว...

กายชายยืนนิ่งดุจรูปปั้น กอดอกไว้ด้วยมาดอันทระนงองอาจ ใบหน้าหล่อระเบิดวางนิ่งไร้รอยยิ้มมีเพียงดวงตาคมวาววาบแสดงให้เห็นว่าหากเขาขยับตัวเมื่อใด เมื่อนั้นชาครียาต้องซ่านสยิวจนร้องลั่น

หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอแล้วเขยิบตัวจนแทบตกเตียงอีกฝั่ง มือไม้ขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับย่นไม่กล้ายกตัวขึ้นสูงจึงต้องทิ้งตัวนอนราบ แต่ในขณะที่เธอกำลังขัดเขิน ชายหนุ่มก็ยังยืนเด่นเป็นสง่าเช่นเดิม ใช่สิ เขาเป็นผู้ชายจะไปรู้สึกอะไร ไม่เหมือนเธอหรอกกระมังที่ทั้งเขินอายและตื่นเต้นจนใจระรัว

“พอใจหรือยัง”

“พอแล้ว” ชาครียาหลุดปากไปอย่างไม่ตั้งใจ แล้วต้องร้องวี้ดเมื่อร่างสูงก้าวพรวดพราดเข้ามาหาอย่างรวดเร็วปานจรวด ข้อเท้าของเธอถูกกระตุกพรืดลากไปพาดกับขอบเตียง “พี่รบ!! จะทำอะไร”

“พี่อยากเข้าไปอยู่ในตัวเธอ” เขาเว้นวรรคแล้วเลียปากตัวเอง “ทางปาก”

“อะไรนะ!!! เอ่อ...คิตตี้ไม่เคย”

“หัดไว้ เธอจะใจร้ายมีความสุขอยู่คนเดียวทุกครั้งได้ยังไง”

“คนเดียว? ที่ไหน พี่รบไม่มีความสุขเหรอคะ”

นั่นสิ เธอก็เห็นทุกครั้งที่เขาพ่นพิษจนหมดเนื้อหมดตัว เขาจะคำรามลั่นเนื้อตัวสั่นระริก เหตุไฉนถึงไม่มีความสุข หรือเธอเข้าใจผิดไปเอง

นักรบเห็นแววกังวลจนเก็บไม่อยู่ในดวงตาคู่สวย เขาจึงแย้มยิ้มแล้วคุกเข่าอยู่บนพื้นผลักขาเรียวให้เปิดอ้าแล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง

“มี มากด้วย แต่พี่อยากรู้สึก...แบบนี้บ้าง ไม่ได้หรือไงหืม...”

ชาครียาหลับตาปี๋ทิ้งร่างระทดระทวยบิดส่ายอยู่บนเตียง นักรบกำลังโจมตีจุดยุทธศาสตร์ของเธอด้วยเรียวลิ้นฉกาจที่เปรียบเสมือนปืนกลยิงใส่ถี่ยิบ ฐานที่ตั้งของกองกำลังไร้อาวุธกลายเป็นแหล่งเสบียงที่เขากวาดต้อนละเลียดลิ้มจนถี่ถ้วน ไม่ว่าหญิงสาวจะส่ายไหว ไม่ว่าเธอจะหวีดร้องหรือครวญครางดังเท่าไร ก็ยังไม่หนำใจเขาให้ถึงที่สุด

เสียงครางอื้ออึงหวีดหวิวดังก้องอยู่ในห้องเล็กๆ เสียงเตียงเหล็กที่มีอายุการใช้งานมานานปีดีดักก็ยังคงลั่น “เอี๊ยด อ๊าด” เพิ่มความเร่าร้อนจนเหงื่อซึมกลายเป็นไอกระจายล้อมอยู่รอบห้อง

“สุขไหม” เขาถามแล้วตั้งใจรอฟังคำตอบ “ไม่ต้องตอบก็ได้แค่พยักหน้าอย่างเดียว เอาให้จริงที่สุดก็พอ”

ชาครียาพยักหน้าหงึกหงัก สติเตลิดล่องลอยเหมือนจมอยู่ในห้วงของน้ำเมา เธอไม่มีทางปฏิเสธได้ว่าไม่มีความสุขกับสิ่งที่เขาทำให้

“ดี ถ้างั้นตาพี่บ้าง” ว่าแล้วนักรบก็ลากหญิงสาวมาที่ริมห้องด้านตรงข้าม ถอดชั้นในสีเข้มออกอย่างเร็วรี่แล้วยืนพิงฝาอ้าขาพอประมาณ “พี่อยากรู้สึกเหมือนเธอคิตตี้ ช่วยพี่หน่อยนะ”

หญิงสาวหอบหายใจจนตัวโยน หลุบตามองปืนใหญ่ประจำตัวของเขาอย่างสนใจ มันตั้งตรงตระหง่านพร้อมที่จะทำลายล้างทุกสิ่งให้ราบเป็นหน้ากอง ยกเว้น...เธอ

นักรบเป็นฝ่ายนำทางหญิงสาวด้วยการจับมือเธอวางบนอาวุธประจำกาย อุ้งมือน้อยๆ นุ่มนิ่มแค่วางทาบก็ทำให้เขาสะดุ้ง และพอเธอกอบกุมฐานที่มั่นของเขาให้บ้าง เสียงครางและเสียงกัดกรามกรอดก็ดังแผ่วๆ หญิงสาวสลัดความเขินอายแล้วต้องใจอย่างแรงกล้าว่าจะทำให้เขารู้สึกเหมือนที่เธอรู้สึกอย่างลึกซึ้ง เรียกว่าเขาทำให้เธออย่างไร เธอก็คืนกลับไปอย่างเท่าเทียมกัน

“พอแล้ว พอแล้ว”

เมื่อจวนเจียนจะขาดใจ ชายหนุ่มก็รั้งร่างนุ่มแล้วเบียดร่างเข้าหาให้เธอยันกายไว้กับฝาห้อง เรียวขาถูกจับให้เกี่ยวกระหวัดเอวหนาไว้มั่น แล้วเขาก็ยิงปืนใหญ่โจมตีจุดยุทธศาสตร์ของเธอ

ตากับยายที่นอนดูหนังอยู่ชั้นล่างเป็นต้องหันไปมองหน้ากันนิ่งนาน ก่อนเสียงหัวเราะจะลั่นขึ้นเพราะนอกจากเสียงเตียงจะดังลั่นแล้ว เสาเรือนก็คล้ายจะสั่นไปตามแรงขับเคลื่อนของคนที่อยู่ข้างบน คราวนี้ไม่ใช่เสียงเตียงแต่เป็นเสียงฝาไม้ลั่นตามแรงกระแทก ชายหนุ่มก็คิดว่าพยายามจะทำให้เงียบเข้าแล้ว แต่ดูเหมือนโฮมสเตย์หลังนี้จะไม่เอื้ออำนวยให้เป็นเช่นนั้น

“บ้านเราจะพังก่อนไหมยาย” ตาถาม

“ไม่พังง่ายๆ หรอกตาเอ๊ย กี่คู่แล้วยังไม่ชินอีกรึ”

“โฮะ โฮะ นั่นสินะ คิดว่าจะชิน พอเอาเข้าจริงแล้วมันก็ขำทุกที เฮ้อ...หนุ่มๆ สมัยนี้มันกินอะไรเป็นยาโด๊ปนะ ถึงได้มีแรงช้างสารขนาดนี้ ฮ่ะ ฮ่ะ”

“ตาถามทำไม จะกินบ้างหรือไง ไม่เอาแล้วนะ เราแก่แล้ว แค่กอดกันแบบนี้ก็พอ”

แบบนี้ของยายก็คือภาพที่ตานอนดูหนังและกอดยายไว้ในอ้อมแขนตลอดเวลา...

หลังจากพายุสวาทผ่านพ้นไปหลายรอบ ชาครียาก็หลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย นักรบได้โอกาสรีบแต่งตัวออกไปหาข่าว เขาสวมชุดสีดำทั้งชุดแฝงตัวไปกับเงามืดของต้นไม้อย่างเงียบเชียบ ใช้ความชำนาญที่ถูกฝึกฝนมานานหลายปีให้เต็มที่ เพียงไม่นานเขาไปหยุดอยู่ริมสันปันน้ำแห่งนั้น

ในตอนนี้ทุกอย่างยังเป็นปกติ ผู้คนที่เคยเห็นสัญจรไปมาก็ไม่มีให้เห็น นักรบนั่งรอหลังพุ่มไม้อย่างใจเย็น สัญชาตญาณบอกให้เขาอดทนรอเพื่อจะได้ข่าวที่ต้องการ เวลาผ่านไปเท่าใดเขาก็ไม่สนใจ มดจะไต่ยุงจะกัดก็ไม่สะทกสะท้าน และแล้วสิ่งที่ตั้งใจรอก็บังเกิดผล

“จะไปไหนวะ”

นักรบเงี่ยหูฟังผู้ชายสองคนที่เดินมาด้วยกันอย่างตั้งใจ พวกมันพูดไทยค่อนข้างชัดแต่ไม่ชัดเสียทีเดียว แสดงว่าคงเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามหาใช่ชายไทยแท้

“จะกลับไปนอนสิวะ มึงจะให้กูรอพ่อมึงเหรอ”

“แล้วงานล่ะ”

“โอ๊ย!! ไอ้โง่ นายยืดเวลาออกไปมึงไปอยู่ไหนมาวะถึงไม่รู้ นายบอกเมื่อเช้านี้ว่าตอนนี้ไม่สะดวก นักท่องเที่ยวเยอะจะมีพ่อมึงแฝงตัวมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ นายก็เลยเลื่อนออกไปก่อน”

“แล้วเราต้องรอถึงเมื่อไหร่ กูใกล้จะลงแดงเต็มทีแล้วนะโว้ย”

“อยากนักก็เอ้า กูให้ 3 ตัว ให้ฟรีไม่เอาตังค์ ดูดให้มันเบาๆ หน่อยจะได้หมดช้าๆ”

“หึหึ ดีล่ะ กูจะเล่นแม่งคืนนี้เลย”

เมื่อสองคนนั่นเดินลัดเลาะและกระโดดไปตามโขดหินน้อยใหญ่ที่กั้นกลางสันปันน้ำอย่างชำนาญ นักรบจึงออกจากที่ซ่อน เสียดายที่พวกมันเลื่อนเวลาออกไปไม่อย่างงั้นเขาอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ทำลายแก๊งค้ายาข้ามชาติแก๊งนี้ ทว่าทางการคงวางตัวบุคคลที่จะเข้าไปเจาะความลับของพวกมันไว้แล้ว

นักรบยังคงแฝงตัวกับความมืดกลับมายังโฮมสเตย์ ชาครียายังคงหลับสนิทและเธอคงจะพลิกตัวไปมาจากอากาศที่ค่อนข้างจะอบอ้าว ผ้าห่มหลุดพ้นจากเนินอกเห็นยอดสวยสีหวานออกมายั่วยวน เขาถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่า ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ เธอกำลังหลับสบายในขณะที่เขากำลังร้อนรุ่มไม่ได้ ถ้าเขาอยากก็ต้องจัดการซะ

เรือนร่างสูงใหญ่ไต่ขึ้นไปบนเตียงเล็กกระตุกผ้าห่มออกจากเรือนกายสาว ซึมซับความงามที่ต้องแสงจันทร์สว่างนวลด้วยสายตาคมระคนหวานเชื่อม ทอดร่างลงต่ำแต่ยังไม่ทาบทับแต้มจูบไปทั่วเนินเนื้อตูมเต่งของเต้าทรวงทั้งสองข้างแผ่วเบา เขาทำทุกอย่างให้เบาที่สุดแม้ร่างจะสั่นพร่าด้วยความต้องการ จะลักหลับผู้หญิงดูสักหนดูซิว่าจะเหมือนที่เคยได้ยินบ้างหรือเปล่า

รอยจูบอันแสนนุ่มนวลเลื่อนลงมาอย่างเชื่องช้าวกเข้าไปใต้ฐานทรวงที่ลาดโค้งนูนสวยอย่างได้องศา เคลื่อนผ่านผิวเนื้อนวลเนียนแบนราบแล้วค่อยวกกลับขึ้นมาใหม่ราวกับยังไม่สมใจ ปลายลิ้นแลบออกมาเลียวนดื่มด่ำเนื้อสาวที่แสนหวาน หยอกเย้าด้วยไรฟันกัดยอดถันแผ่วๆ แล้วรวบดูดเบาๆ คนที่ยังหลับตาเริ่มกระดุกกระดิกเหมือนถูกปลุกขึ้นจากฝันหวาน เธอกำลังฝันเห็นฝนตกทั่วฟ้า สายน้ำที่เทลงมาจากเบื้องบนไม่ขาดสายและอีกไม่นานผืนแผ่นดินคงเต็มไปด้วยน้ำ

แต่แล้วในฝันฝนก็เหมือนจะหยุดตก ความเย็นฉ่ำโอบล้อมไปทั่วทุกสารทิศ ได้ยินเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องแข่งกันระงม สายลมพัดเอาความชุ่มฉ่ำให้ปะทะผิดกายจนเย็นยะเยือก เธอมองไปยังทิศหนึ่งเห็นเส้นหลากสีค่อยๆ ไต่ขึ้นจากผืนดินพาดตัวโค้งกับท้องฟ้าเหมือนสะพานที่ทอดขึ้นไปในหมู่ดาว เส้นหลากสีนั้นใครๆ ก็รู้จักเพราะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มักจะเกิดขึ้นหลังฝนตก แต่หญิงสาวยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจู่ๆ ฟ้าฝนถึงได้หยุดชะงัก

อุ้งปากร้อนชื้นที่รวบยอดถันแล้วดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนคนที่ละเลียดลิ้มชิมขนมหวานสุดโปรดจากถ้วยที่หนึ่งต่อไปยังถ้วยที่สองและสามสี่ ปลายลิ้นเลียโลมโอบล้อมเจ้าช่อชูชันอันน่าพิสมัย คนตัวโตหาได้รู้ไม่ว่าการกระทำของเขากำลังคืบคลานเข้าไปในฝันของเธอ

หลังจากที่ยืนมองเส้นรุ้งสวยอยู่พักหนึ่ง ชาครียาก็ถูกโอบรัดด้วยอ้อมแขนอบอุ่นเหมือนผ้าห่มเนื้อนังมังสา เธอไม่ทันได้หันไปเห็นว่าเจ้าของอ้อมแขนนั้นคือใคร ทรวงอกอวบใหญ่ก็ถูกดูดกลืนอย่างรวดเร็ว ไม่รู้แม้กระทั่งเสื้อผ้าของเธอหายไปไหน เห็นเพียงหัวดำๆ ที่ยังขยับคลอเคลียเนินอก

“แรงๆ สิ แรงอีก”

หญิงสาวไม่รู้ตัวหรอกว่าเธอเปล่งเสียงออกมา ไม่ใช่แค่ในฝันแต่มันเป็นเรื่องจริง ดวงตาที่ยังหลับพริ้มแต่ปากขยับและเผยอบอกเบาๆ ประหนึ่งว่าฝันนั้นกำลังทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม

นักรบสดับรับฟังเข้าหูซ้ายแต่ไม่ทะลุหูขวา เขากำลังกลืนกินเธอทั้งในความเป็นจริงและในความฝัน พระเจ้า...แม้กระทั่งตอนหลับ แม่สาวคิตตี้ก็ยังคงไว้ด้วยความเร่าร้อนขนาดนี้เชียวหรือ ชายหนุ่มดูดยอดถันแรงขึ้นตามที่ขอทั้งสองข้าง มือของเธอยกขึ้นมาลูบศีรษะของเขาราวกับรู้สึกตัว แต่ที่แท้เธอยังหลับตาพริ้มอยู่เลย

ชายหนุ่มได้ใจส่งมือลงไปลูบไล้เนินนางผืนน้อย เคล้าคลึงแล้วค่อยๆ ล่วงล้ำเข้าไปในความคับแคบ ชาครียาผวาและปล่อยน้ำหวานให้อาบรด นักรบแค่นยิ้มผู้หญิงก็มีฝันเปียกได้เหมือนผู้ชาย เขาแน่ใจว่าในขณะนี้สิ่งที่เธอสัมผัสอย่างล้ำลึกนั้นเกิดขึ้นในความฝัน

โธ่เอ๊ย! ยาหยีฝันถึงพี่ก็เรียกพี่สิจ๊ะ

ชายหนุ่มเลื่อนตัวลงไปยังตำแหน่งที่ต้องการ เวลานี้เขากระหายจนปากแห้งอยากดื่มน้ำหวานให้ชุ่มคอชุ่มใจสักหน่อย แล้วเรียวลิ้นก็ดื่มด่ำน้ำหวานอย่างที่ใจหมาย

“พี่รบ...พี่รบ...”

ได้ยินดังนั้นนักรบก็ดีใจผละใบหน้าออกจากความงดงามแล้วมอบตัวฝ่าด่านที่ทั้งเล็กและแคบอย่างเนิบช้า เขาโน้มตัวลงเมื่อเห็นเธอปรือตาขึ้นหน้าเหยเก แล้วกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูหอมกรุ่น

“พี่เองที่รัก พี่กำลังรักเธออยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง”

“คิตตี้กำลังฝันใช่มั้ย” เธอยังคงสะลึมสะลือป่ายปัดมือไปทั่วบ่ากว้าง

“ไม่ได้ฝันแล้วคนดี มันคือเรื่องจริง...แบบนี้” แล้วเขาก็ถอดถอนความเป็นตัวตนออกเสียจนเกือบสุด ก่อนจะผลักกลับเข้าไปอีกครั้งให้ลึกสุดใจ

“อืม...พี่รบ” เธอเกี่ยวขารัดเอวหนาแล้วส่ายโยกให้เป็นจังหวะเดียวกัน อ้อมแขนเล็กๆ กกกอดร่างหนาที่เริ่มชื้นเหงื่อ เผยอปากรับจูบวาบหวามและเร่าร้อนอย่างยินดี

จังหวะรักค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรุนแรงและเร็วขึ้นตามลำดับ ท่ามกลางเสียงอื้ออึงของคนตัวบางและเสียงเตียงเหล็กเก่าๆ ที่สั่นโยกตลอดเวลา ทีแรกนักรบก็คิดว่าจะปล่อยเลยตามเลยกับเสียงที่น่ารำคาญและชวนสงสัย แต่ทว่า...นานเข้าเขาก็เป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ จึงผละออกจากร่างงามที่กำลังสั่นระริก

“ขอโทษที เราต้องย้ายที่”

บนพื้นห้องน่าจะเป็นอะไรที่รองรับแรงกระแทกได้ดีที่สุด ชายหนุ่มยืดแขนให้หญิงสาวนอนหนุนแล้วยกขาข้างหนึ่งอันขาวนวลขึ้นตะแคง วางพาดข้อเท้าไขว้สะโพกมาทางด้านหลัง ความกำยำอันผงาดล้ำรุกคืบเข้าสู่หลืบเร้นที่ฉ่ำแฉะ

“สุดยอด” ชมและซี๊ดปาก “ถ้าไม่ไหวก็บอก”

“ไหวค่ะ ไหว” แม้จะเป็นท่วงท่าใหม่ที่เพิ่งลองเป็นครั้งแรก แต่ชาครียาก็เรียนรู้จังหวะดุนดันอันหนักหน่วงและเกี่ยวลำคอหนาเมื่อหันหน้ามารับจูบที่ทั้งจาบจ้วงรุนแรง

“เอี๊ยด!” เสียงพื้นไม้เก่าลั่นจากจังหวะขยับเขยื้อนกายา “อ๊าด” ไม่ต่างอะไรจากเสียงเตียงเหล็กนั้นเลยสักนิด

นักรบแทบสบถให้ลั่นห้องอย่างฉุนเฉียว แต่อารมณ์ใคร่กลับยังไม่ถูกแทรกแซง มันยังคงเหิมเกริมดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ ในเมื่อไม่มีที่ไหนจะเสียงเบาได้มากกว่านี้ เขาก็ยิ้มใส่ตาหวานแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“ฮ่ะ ฮ่ะ ประสบการณ์ที่...” ชายหนุ่มเอียงคอเล็กน้อย “ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่”

“แต่คงไม่จำไม่ได้” ชาครียาต่อให้พร้อมกับเสียงหัวเราะแผ่วหวาน

บทรักที่ถูกแทรกแซงด้วยเสียงอันไม่พึงประสงค์ดังอยู่นานนับชั่วโมง กว่าพิษเสน่หาจะถูกปลดปล่อยจนหมดสิ้นอยู่บนหน้าท้องแบนราบ

“กระดาษทิชชู่ม้วนสุดท้ายแล้วนะ”

คำเตือนนั้นเรียกสีระเรื่อให้กระจายไปทั่วแก้มใสชื้นเหงื่อ เขาไม่เคยปลดปล่อยความปรารถนาไว้ในกายเธอเลยสักครั้ง เพราะเหตุอะไรเธอไม่รู้และไม่อยากเก็บเอามาใส่ใจ ในเมื่อมันน่าจะส่งผลดีมากกว่าผลเสียและเขาคงไตร่ตรองไว้อย่างรอบคอบแล้ว

ชาครียาลุกขึ้นหลังจากที่เขาจัดการเช็ดหน้าท้องของเธอจนเกลี้ยง แต่ถูกดึงให้ขึ้นไปนอนเคียงกันอยู่บนเตียง

“ขอโทษนะ” จู่ๆ นักรบก็กล่าวขึ้น

“เรื่องอะไรคะ”

“ถ้าผู้ชายคิดว่าเจอคนที่ใช่ ส่วนใหญ่เขาจะปล่อยไว้ข้างใน”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คิตตี้เข้าใจว่าคงไม่ได้เป็นคนที่ใช่ของพี่รบ” เธอบอกเสียงเศร้า ซุกหน้าเข้าสู่อกกว้างอย่างเจ็บปวด

“สำหรับพี่มันไม่ใช่อย่างนั้น พี่ถึงต้องขอโทษอยู่นี่ไง”

“ไม่ว่าเพราะอะไร พี่รบก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษคิตตี้หรอกค่ะ มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ใครๆ เขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น”

“รู้ด้วยเหรอ”

ชาครียานึกขึ้นได้ว่าไม่ควรพูดแบบนั้น นี่เขาจะคิดว่าเธอเจนสังเวียนหรือเปล่าถึงได้รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร แต่พอเงยหน้าขึ้นเห็นรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากกดลึก แล้วยังตาพราวที่มองมาอย่างขำๆ เธอก็ทุบอกล่ำเข้าให้ 1 ที

“นี่แน่ะ แกล้งกันเหรอ”

“อ้าว...ก็พูดอย่างกับคนชำนาญ ทั้งที่ไม่เป็นงานอะไรเลยด้วยซ้ำ แล้วรู้ได้ไงว่าใครเขาทำกันแบบนี้”

“ชิ เรื่องแบบนี้ใครๆ ก็พูดกันสนุกปาก เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้ตำราศึกษากันแล้ว ฟังจากปากก็พอจะเห็นภาพอย่างโจ๋งครึ่ม ใครบ้างจะไม่รู้”

“เก่งจ้ะ แต่พี่มีเหตุผลมากกว่าที่คิตตี้คิด เชื่อพี่นะ”

หญิงสาวเห็นความจริงจังในแววตาคมกล้าก็พยักหน้าหงึกหงัก ไม่ว่าเหตุผลของเขาคืออะไร เธอก็ปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาหมดแล้ว หมดสิ้นทั้งสี่ห้องหัวใจเป็นของเขา ผู้ชายที่รู้แค่ว่าเขาชื่อ ‘นักรบ’

เช้าวันรุ่งขึ้นนักรบตัดสินใจพาชาครียากลับบ้าน ในขณะที่เดินลงบันไดมาตากับยายซึ่งนั่งจิบกาแฟยามเช้าก็ทักขึ้น

“อ้าว...ตื่นแต่เช้าเชียว นึกว่าจะตื่นสักเที่ยง แหม...หนุ่มสาวสมัยนี้เรี่ยวแรงมีเยอะจริงๆ โฮะ โฮะ”

คำกระเซ้าและเสียงหัวเราะจากคนแก่ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบในบั้นปลายชีวิต ทำให้ชาครียาเขินจนสะดุดบันไดแทบหัวคะมำ ดีที่ชายหนุ่มรับร่างเธอเอาไว้ได้

“อุ้ย! นี่ถึงขนาดขาแข้งอ่อนเชียวรึ ถึงว่าบ้านตาโยกไปทั้งหลัง”

“คุณตาน่ะ! หนูงอนแล้วนะคะ” ชาครียาทำเป็นสะบัดหน้าแดงเถือกแก้อาการขวยเขิน

“โฮะ โฮะ อีหนูเอ๊ย ไม่ต้องอายหรอก มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” ยายบอก แต่ยกมือปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะ

“คุณตาคุณยายครับ พวกเราจะมาลา เราจะต้องเดินทางกลับบ้านก่อนกำหนด” นักรบบอกเมื่อพาหญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาไม้ชุดเดียวกับที่ตากับยายนั่ง

“ทำไมล่ะ หรือไม่ประทับใจโฮมสเตย์ของตากับยาย อย่างว่าล่ะนะ บ้านหลังนี้อายุมันก็มากแล้ว จะซ่อมแซมตอนนี้ก็ไม่รู้จะซ่อมไปทำไม ตากับยายจะอยู่กับมันได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ปล่อยให้มันพังไปพร้อมกับวัยที่ร่วงโรยดีกว่า รักษาไว้ก็ไม่มีใครคอยดูแลต่อ”

“ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากครับ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” นักรบหัวเราะร่วน ยิ้มใส่ตาวาวราวกับนางเสือของหญิงสาวข้างกาย “แต่ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะครับ ที่ต้องกลับเพราะผมมีงานต้องทำ อยากอยู่ต่อนะครับ แต่ทำไม่ได้จริงๆ”

“งั้นรึ ถ้างั้นไว้โอกาสหน้าก็แวะมาอีกนะพ่อคุณ” ยายบอก

“ใช่ คราวหน้าจะให้นอนข้างล่าง จะได้ทำอะไรถนัดขึ้น โฮะ โฮะ โฮะ” ตายังเย้าไม่เลิก

“ครับ ถ้ามีโอกาสผมจะแวะมาแน่นอน ระวังตัวด้วยนะครับ ผมลาล่ะ”

นักรบและชาครียายกมือไหว้ลาตากับยาย ก่อนจะจูงมือกันเดินจากไปอย่างคนที่ยังไม่เต็มอิ่มกับความสุข อยากหยุดเวลาไว้ ณ ตอนนี้ จะอุดหนุนตากับยายให้นานเท่าที่จะนานได้ ชายหนุ่มหวังว่าตากับยายคงจะดูแลตัวเองได้อย่างดี เพื่อวันข้างหน้าเขาจะพาหญิงสาวกลับมาเยี่ยมอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel