บทที่ 2
ชีวิตบางคนมันก็เศร้า
“ไป ไปได้แล้ว จะมาเรียกน้ำตาฉันหรือ ไม่มีวันหรอก” เจ๊อวยพรไล่หลัง เพราะความเป็นคนขี้สงสาร นางพานจะร้องไห้ออกมา
หยาดฝนน้ำตากลบใบหน้า ตอนนั้นฝนก็ตั้งเค้ามาแล้ว มันคงจะหลงฤดูเป็นแน่ เธอรีบวิ่งไปหลบที่ป้ายรถเมล์ที่ขึ้นประจำ แต่ด้วยความรีบเร่งทำให้ไม่ได้มองทาง หยาดฝนชนกับใครเข้าอย่างจัง ร่างแกร่งรีบใช้มือของเขาจับเธอเอาไว้
“ขอโทษค่ะ” ก้มหัวโค้งแทบแตะพื้น อายด้วยเพราะกลัวคนจะเห็นน้ำตาของเธอเอง รีบวิ่งตรงไปในทันที โดยไม่ได้เงยหน้ามองคู่กรณี
เขาได้แต่มองตามหลังเธอไป สะดุดกับใบหน้าสาวใส แต่น้ำตาอาบสองแก้ม คิดแค่ว่า เธอจะรีบไปไหนกัน สุดท้ายฝนเจ้ากรรมก็ลงเม็ดหนา ทำให้เขาต้องเข้าไปหลบในร้านสะดวกซื้อ
ในคืนนั้นหยาดฝนกลับไปที่พักด้วยร่างกายที่เปียกปอน
หยาดฝนยืนกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ที่หน้าร้าน ตอนนั่งรถประจำทางมาก็แน่ใจเหลือเกินว่าจะไม่เปลี่ยนใจอย่างแน่นอน แต่เมื่อมาถึงที่หน้าร้านแล้ว จากที่เคยคิดว่าตัวเธอเองนั้นทำใจได้ แต่ไม่ใช่เลย
ในส่วนลึกของหัวใจแล้ว หยาดฝนเธอกลัวมาก กลัวจนสั่น มือเท้าเย็นจนเจ้าตัวก็รับรู้ได้ เพราะความหนาวยะเยือกมันแล่นเข้าไปจนร่างกายของเธอรับรู้
หมับ... ฝ่ามือของใครบางคนกระทบลงที่หัวไหล่ของเธอ หยาดฝนออกอาการสะดุ้ง
“มาไวเหมือนกันนี่ ฉันนึกว่าเธอจะเปลี่ยนใจเสียแล้ว ตามมาสิ”
วาว่านั้นเอง นางเปรี้ยวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ชุดที่ใส่ก็วาบหวิวชวนมอง เสียอย่างเดียว นางแต่งหน้าจัดจ้านไปหน่อย จนปกปิดผิวพรรณดี ๆ ไป เครื่องสำอางที่ฉาบใบหน้าอาจจะทำให้ตัววาว่าเองกล้าหน้าด้านขึ้นมาก็ได้
หยาดฝนก้มมองดูตัวเอง ชุดที่เธอหามาใส่ได้ มันเป็นเพียงเด็กสาวที่เริ่มใจแตก แต่ก็ยังคงมีความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ
“ตามมาเร็ว” วาว่าหันมาจับมือของหยาดฝนที่เย็นเฉียบเหมือนกับน้ำแข็ง จนวาว่าเองก็ต้องหันมามองหน้าของหยาดฝนเต็มตาอีกที
“แน่ใจแล้วหรือ” นางถามย้ำอีกครั้ง
“แน่ใจจ้ะพี่ ฝนต้องการใช้เงิน”
“หื้อ” พยักหน้าแบบเข้าอกเข้าใจ จะว่าไปใครอยากทำอาชีพแบบนี้กันบ้าง หากไม่เข้าตาจน
วาว่าเปิดประตู แล้วผลักหลังของหยาดฝนให้เข้าไปในห้อง ซึ่งเป็นห้องทำงานของเจ๊ใหญ่ของที่นี่
“ถ้าเจ๊ออกมาให้เรียก เจ๊ใหญ่นะ”
“ค่ะ” หยาดฝนรับปาก
เธอมองตามมือของวาว่าที่จัดการช่วยถอดเสื้อคลุมด้านนอกให้ออกหมด ตอนนี้หยาดฝนอยู่ในชุดที่เธอคิดว่าเจ๋งที่สุดแล้ว วาว่าเมื่อได้เห็นก็ออกอาการหัวเราะ
“คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด” ยังคงขบขันอยู่
“พี่หัวเราะอะไรคะ” สาวน้อยออกอาการงงงวย
“ก็ชุดที่เธอนุ่งมันทั้งเฉิ่มและก็เชยนะสิ แบบนี้เขาก็นึกว่าเด็กกวาดพื้น” วาว่าใช้นิ้วจิ้มลงไปตามเนื้อตัวของหยาดฝนด้วย
“ฝนไม่ค่อยมีเสื้อผ้าแบบพี่หรอกจ้ะ”
“เอ่อ... ก็เข้าใจได้ แต่จะมาทำงานอย่างนี้ ชุดคลุมมิดจี้รี่อย่างนี้ มันไม่เหมาะ” พูดจบก็จับตัวของหยาดฝน ปล้นเอาเสื้อนอกของเธอออกไป
เด็กสาวก็พยายามยกมือห้าม แต่ก็ถูกวาว่าตีมือ เสื้อสีขาวตัวนอกถูกถอดออกไปอีกชิ้นหนึ่ง เหลือแต่เสื้อชั้นในสีขาวสะอาดที่อยู่ข้างใน
หยาดฝนอายมากจนต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดสองเต้า แม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าอับอาย
“ใส่เสื้อของพี่นี่”
วาว่าถอดเสื้อซีทรูสีดำตัวที่นางใส่ออกมา แล้วจับแต่งเข้าไปในบนเนื้อตัวของหยาดฝน ยังไม่พอยังจับกรรไกรที่อยู่บนโต๊ะของเจ๊ใหญ่มาตัดกระโปรงยีนที่หยาดฝนสวมใส่จนขาดวิ่น แต่มันก็ดูมีสไตล์
“ว้าว! มันต้องอย่างนี้” ชมไป แล้วเดินวนเวียนรอบ ๆ ตัวของหยาดฝน
วาว่ายังคงไม่หยุด หยิบเอาเครื่องสำอางในกระเป๋าของเธอออกมาละเลงบนใบหน้าของหยาดฝนด้วย
“พี่อย่าให้มันแดงฉูดฉาดไปนะ”
“นี่คุณน้องขา ปากไม่แดง มันจะไม่มีแรงเดินล่ะสิ คิดสิคิด การแต่งหน้ามันก็กลบความอายได้ มันทำให้เราหน้าด้าน”
ปากพร่ำไป ก็ใช้มือจับใบหน้าของหยาดฝน ทั้งปัดแก้ม ทั้งทาตา ลงสีชาดที่ริมฝีปาก ใช้มือทำการขยี้ขยำไปบนผมสีดำของหยาดฝนจนยุ่งเหยิง
นางหยิบหนังยางรัดผมออกมาจากกระเป๋าเกล้ารวบผมของหยาดฝนลวก ๆ และใช้นิ้วกรีดเส้นผมตรงด้านหน้าออกมาเป็นปอยระปิดใบหน้านิด ๆ
วาว่าหมุนร่างของหยาดฝนให้หันไปมองตัวเองอีกครั้งในกระจกบานใหญ่ที่อยู่ในห้องนั้น
“เป็นอย่างไง ต่างจากเมื่อกี้ราวฟ้ากับเหว ใช่ไหม” ยิ้มอย่างภาคภูมิใจในผลงานการสร้างสรรค์ของตัวเอง
“ค่ะ” หยาดฝนเริ่มเห็นตัวเองที่ไม่ใช่ตัวเองอยู่ในกระจกนั้นแล้ว เธอเห็นตัวเอง ก็ยังแทบจะจำไม่ได้
“โอม มะโม นะโม มะโม วันนี้ อีวาว่าจะของลง ณ หน้าทอง องค์กะหรี่ องค์วันทอง องค์หลายผัว นางกากี จงมาลงที่อีนางคนนี้ ให้มันได้ ให้มันโดน ให้มันได้ ให้มันโดน ให้มันได้ ให้มันโดน เพี้ยง” วาว่าเป่าลมลงไปกลางกระหม่อมของหยาดฝนด้วย
ผลัวะ... เจ๊ใหญ่เปิดประตูเข้ามา
“คนนี้เหรอที่แกบอก” เจ้าของสถานบริการมองหยาดฝนอย่างวิเคราะห์ ปากก็ถามวาว่าไปด้วย
“ใช่จ้ะเจ๊ รับเถอะเจ๊ เด็กมันจำเป็นต้องใช้เงิน อยู่ไปเดี๋ยวก็เก่งเองแหละ”
“อ่อนประสบการณ์หรือ ยังไม่เคยมีผัว ว่างั้น” ปากตรง ๆ เล่นเอาคนฟังยังสะดุ้ง
“โอ้ย! มันก็ได้มาหลายอันแล้วล่ะ ดูทรงมันสิเจ๊ เด็กสาว ๆ เดี๋ยวนี้ หอ มอ ออ ยอ ยังไม่ทันแทงขน มันก็มีผัวกันแล้วจ้าเจ๊” วาว่ากลัวว่าเจ๊ใหญ่จะไม่รับ
เจ๊ใหญ่ยังคงเดินวนไปวนมารอบ ๆ ตัวของหยาดฝน
“ชื่ออะไร”
“เรนนี่” วาว่าชิงตอบ
“อื้อ พอไปวัดไปวา”
“บ้าน่า เจ๊... เด็กมันออกจะอวบจะอั๋น หน้าตาก็สวย ๆ จะบอกแค่ว่าไปวัดไปวาได้อย่างไร”
“ก็มันขาวนี่นา ฝรั่งมังค่ามันชอบตัวดำ ขอบเขียว ๆ”
“แหมพูดเสียเห็นภาพเลย แต่ทรงนี้ ทางแขกดูไบ แขกอาหรับ มันว่าเด็ดน่า”
“เอ่อ... เอ้า ลองดูก็ได้ เริ่มงานเลย วาว่าก็สอนน้องหน่อยก็แล้วกัน เวลาคุยกับลูกค้าต้องทำอย่างไร อย่าให้มีปัญหาก็แล้วกันนะ”
