ตอนที่ 1
เสียงโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดดังลั่นห้องทำงานเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่เพิ่งเดินเข้ามา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายและทักทายผู้ที่ติดต่อเข้ามาด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ
"ว่าไงครับ แม่วาด ลมอะไรทำให้โทร.หาผมแต่เช้า"
"คุณเขตคะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน คุณเขตกลับมาที่บ้านวันนี้เลยได้ไหมคะ" ปลายเสียงเอ่ยด้วยความร้อนรน
เขต พีระชัยแปลกใจเล็กน้อยเมื่อจับน้ำเสียงคนที่กำลังพูดด้วยได้ว่า อีกฝ่ายร้อนใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นว่าต้องโทรศัพท์มาขอร้องแกมสั่งให้เขากลับบ้านโดยด่วนเช่นนี้
"มีอะไรหรือครับ แม่วาด ถึงต้องให้ผมกลับบ้านวันนี้ด้วย" เขตนั่งลงที่โซฟาตัวใกล้ รอฟังด้วยความตั้งใจว่าเกิดอะไรขึ้น
"ป้านอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วค่ะ ยิ่งวันนี้ด้วยอาจจะอกแตกตายก่อนพ้นวัน ถ้าคุณเขตไม่รับกลับมา" ปลายเสียงแม่วาด หรือนมวาด หรือสุดแท้แต่ใครจะเรียกสั่นเครือเล็กน้อย
แม่วาดคือผู้มีพระคุณคนหนึ่งของเขา นับจากวันที่มารดาลาจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร บิดาก็เอาแต่ทุ่มเททำงานทุกอย่างเพื่อลืมความเศร้าโศกเสียใจ ชีวิตของเขตเกือบครึ่งหนึ่งมีแม่วาดผู้นี้คอยประคับประคอง
"แม่วาดใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ เล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าพ่อไม่สบายมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า"
"คุณเขตคะ คุณท่าน คุณท่าน..." แม่วาดร่ำไห้สะอื้นเป็นพักๆ แล้วปล่อยโฮรวดเดียว ไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่าการร่ำไห้สะอึกสะอื้นแล้ว
"ผมจะไปเดี๋ยวนี้ แม่วาดใจเย็นๆ ไม่ต้องร้องไห้นะครับ" เขตฉวยกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเดินออกไปทันที
บ้านพีระชัย
"แม่วาด แม่วาดครับ" เสียงตะโกนร้องเรียกดังห้องโถงชั้นล่าง สาวใช้ที่อยู่ใกล้รีบวิ่งเข้ามารับหน้า
"แม่วาดล่ะ" เขตถามด้วยความร้อนรน
"คุณวาดเป็นลม ตอนนี้ไปพักอยู่ที่เรือนเล็กหลังบ้านแล้วค่ะ"
เขตรีบเดินไปที่เรือนเล็กหลังตึกใหญ่ซึ่งเป็นที่พักของแม่วาดทันที ภาพที่ชายหนุ่มเห็นคือ สาวใช้หลายคนกำลังมะรุมมะตุ้มหญิงวัยกลางคนที่เอนตัวนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดเซียว
"แม่วาด" เขตร้องทักแล้วถลาเข้าไปดูพี่เลี้ยงคนเก่าแก่ด้วยความห่วงใย
"คุณเขต คุณเขตมาแล้ว" แม่วาดโผเข้ากอดร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความดีใจอย่างที่สุด เสียงร่ำไห้ลั่นเรือนเล็กแรงสะอื้นสั่นไหวจนเขตรู้สึกได้
"แม่วาดเป็นอะไร ไม่สบายไปหาหมอไหมครับ" ชายหนุ่มจับมือหญิงวัยกลางคนไว้แน่น พร้อมกับลูบเนื้อตัวของนางเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง
ขอบตาแม่วาดแดงช้ำแสดงว่าร่ำไห้เรื่องที่เสียใจอยู่หลายหน สีหน้าซีดเซียวบ่งบอกว่าเรื่องนี้ทำให้เครียดจนนอนไม่หลับ มีเรื่องอะไรหนอถึงทำให้แม่วาดของเขาเสียใจร่ำไห้ได้ขนาดนี้
"คุณเขต เรื่องนี้มีแค่คุณเขตเท่านั้นที่จะช่วยได้"
"แม่วาดหยุดร้องไห้ก่อน แล้วพูดกับผมให้รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่วาดถึงต้องร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้" เขตเอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการ
"ใครทำอะไรแม่วาดหรือครับ หรือว่าคุณพ่อดุอะไรแม่วาดหรือเปล่า" เขตคิดถึงบิดาซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เขามัวแต่ห่วงหญิงวัยกลางคนว่ามีเรื่องทุกข์ร้อนอันใดจึงรีบมาหาก่อน
"คุณท่านค่ะ คุณเขต" แม่วาดปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอีกครั้ง
"คุณพ่อเหรอครับ คุณพ่อทำไม" เขตเอะใจเรื่องบิดาขึ้นมาทันที หรือว่าคุณขรรค์ชัยจะไม่สบายแล้วไม่ยอมบอกให้ใครรู้
"คุณท่านจะมีคุณผู้หญิงใหม่ให้บ้านเรา คุณท่านลืมคุณแม่ของคุณเขต คุณท่านจะพาผู้หญิงเข้าบ้านค่ะ" สิ้นคำแม่วาดก็ร่ำไห้อีกครั้ง
เขตตกตะลึงกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ บิดากำลังจะมีแม่เลี้ยงให้กับเขา เขตไม่อยากจะเชื่อ
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วคุณพ่ออยู่ที่ไหน" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมาทันที
ไม่มีใครให้คำตอบ แม่วาดเอาแต่ร่ำไห้สาวใช้ต่างพากันก้มหน้า ทุกคนหลบสายตาที่เด็ดขาดของเขตกันหมด มีเพียงคนเดียวที่จะให้คำตอบเรื่องนี้กับเขาได้ คุณขรรค์ชัย บิดาสุดที่รักนั่นเอง
ดึกแล้วแต่เขตยังคงนั่งอยู่ที่ห้องโถงของบ้าน คุณขรรค์ชัยยังไม่กลับเข้ามายิ่งทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้น เมื่อสายตาเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้างฝาซึ่งบอกเวลาว่าเกือบจะเที่ยงคืน
หลังจากที่ฟังเรื่องราวจากปากของพี่เลี้ยงคนเก่าคนแก่จนรู้แจ้งแก่ใจแล้วว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้แม่วาดร้องไห้ฟูมฟายตามให้กลับมาจากเกาะลา สถานที่ทำงานของเขตและจะว่าไปที่นั่นคืออาณาจักรของเขา
'คุณท่านเปลี่ยนไปตั้งแต่รู้จักผู้หญิงคนนั้น อะไรๆ ก็มีแค่ชื่อหนูน้ำผึ้งไปหมด ไม่รู้ว่าท่านโดนคุณไสยหรือเสน่ห์ยาแฝดอะไรหรือเปล่า' แม่วาดเล่าไปซับน้ำตาไป
เขตถอนหายใจเบาๆ เอนตัวลงนอนบนโซฟา หันหน้าไปที่รูปของมารดาผู้ล่วงลับ ความคิดถึงความโหยหาที่มีต่อมารดาผู้จากไปไม่เคยจางหาย ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่อยากเชื่อคำพูดของแม่วาดนัก และไม่เชื่อด้วยว่าความรักที่คุณขรรค์ชัยเคยมีให้ภรรยาจะเปลี่ยนไปในวันนี้
'คุณเขตคิดดูนะคะ ถ้าคุณท่านไม่คิดอะไรหรือโดนแม่นั่นเป่าหูจนเคลิ้ม คงไม่มีทางเซ็นเช็คห้าล้านให้ แบบนี้ไม่จัดการไม่ได้แล้วนะคะ'
'ให้เงินห้าล้านเลยเหรอครับ'
'ไม่ใช่แค่เงินนะคะ คราวก่อนก็ช่วยซื้อสร้อยเพชรราคาไม่รู้กี่ล้านอีก คุณเขตคิดดูบ้านเราไม่มีผู้หญิง แล้วคุณท่านจะซื้อสร้อยเพชรไปทำไมกัน หรือว่าจะซื้อให้แม่นั่นก็ไม่รู้'
'ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครครับ ทำไมคุณพ่อถึงได้ดูทุ่มเทให้นัก'
'เห็นว่าเป็นลูกสาวคนรู้จักค่ะ แต่รู้จักแบบนี้แม่วาดว่าไม่ดีมั้งคะ คนอะไรหน้าตาก็ดีเห็นว่าเรียนมาก็สูง แต่มาใช้มารยาหญิงหลอกคนแก่แบบนี้ คุณเขตต้องจัดการตัดไฟเสียแต่ต้นล้ม ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป'
เจ้าของเกาะลาถอนหายใจเป็นครั้งที่สอง เมื่อคิดทบทวนคำพูดของแม่วาดที่ได้ฟังมาเมื่อเย็นนี้ เขตติดต่อคุณขรรค์ชัยทางโทรศัพท์แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่เปิดโทรศัพท์หรืออาจจะแบตหมดก็สุดจะรู้
แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปเขาควรรู้ที่มาที่ไปของผู้หญิงที่ชื่อน้ำผึ้งคนนี้เสียก่อน อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นใครมาจากไหน และรู้จักกับบิดาได้อย่างไร ที่สำคัญมันมีเรื่องอะไรถึงต้องมีการให้เงินจำนวนมหาศาลก่อนนั้น
เขตขยับตัวลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรถจอดที่หน้าบ้าน เขาเตรียมเรียบเรียงคำพูดที่จะเอ่ยกับบิดาถึงเรื่องที่ค้างคาใจให้สิ้นซาก คุณขรรค์ชัยกลับมาแล้วจริงๆ และทันทีที่พบหน้าบุตรชายก็ทักทายด้วยความดีใจ
"ว่าไงเจ้าเขต ลมอะไรพัดแกมาจากเกาะลาได้ หรือว่าวันนี้มีมรสุมถล่มเกาะ ถึงได้มาบ้านได้ แล้วนี่มาตั้งแต่เมื่อไรกินอะไรมาหรือยัง" ชายวัยกลางคนถามเหมือนเคย
"สวัสดีครับ พ่อ" เขตพนมมือไหว้ทักทายด้วยความเคารพ ก่อนจะโผเข้ากอดคุณขรรค์ชัยด้วยความคิดถึงเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
"ทำไมพ่อกลับดึกจัง" บุตรชายเกริ่นถาม
"ไปงานเลี้ยงมาเจอคนโน้นคนนี้ก็เลยกลับดึก เสียดายไอ้มือถือเครื่องนี้มันเฮงซวย วันก่อนทำหล่นทีเดียววันนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เลยไม่รู้ว่าแกกลับบ้าน"
"มือถือพ่อเป็นอะไรครับ ซ่อมหรือว่าซื้อใหม่ได้ไหม" เขตเอ่ยถามพร้อมกับเดินขึ้นบันไดไปพร้อมๆ กับบิดา
"ไม่ต้องซ่อมหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูผึ้งก็จัดการหาเครื่องใหม่มาให้พ่อแล้ว เออ เขตมาก็ดีแล้ว พ่อมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย"
"เรื่องอะไรครับ"
เขตหูผึ่งกับคำว่า หนูผึ้ง ที่บิดาเอ่ยมาก่อนหน้า หนูผึ้งคงจะใช่คนเดียวกับแม่น้ำผึ้งอะไรนั่นที่แม่วาดเล่าให้ฟังเมื่อเย็นแน่ ฟังจากน้ำเสียงแล้วผู้หญิงคนนี้คงสนิทสนมกับคุณขรรค์ชัยน่าดู
"บริษัทในเครือของเราต้องการพนักงานบัญชีเพิ่มบ้างไหม พ่ออยากจะฝากคนเข้าทำงานที่นั่นสักคน"
