บทที่ 5

ภายในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ ที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราสมฐานะผู้เป็นเจ้าของ ในนั้นมีชายสองคนนั่งจิบไวน์รสเลิศอยู่อย่างรื่นรมย์

แต่ทว่าสีหน้าของพวกเขาดูจะต่างกันเสียหน่อย หนึ่งดูเรียบเฉยเดาใจยาก อีกหนึ่งกลับยิ้มเหยียดคล้ายกำลังพอใจอะไรบางอย่าง

“ผมว่าเราควรวางมือจากเรื่องคุณไบรอันกันได้แล้วมั้ง” เสียงของกวินท์ดังขึ้น พร้อมกับดื่มไวน์ในแก้วที่กำลังถืออยู่ เขาเริ่มไม่สนุกกับสิ่งที่โฬมทำ เพราะมองว่าเลยเถิดไปไกล

“แต่ผมกลับยังสนุกอยู่เลย ชักอยากเห็นหน้าอดีตมาเฟียใหญ่แล้วสิว่าจะน่าสมเพชสักแค่ไหน”

“หมาจนตรอกเวลามันแว้งกัดก็เอาเรื่องเหมือนกันนะครับ” กวินท์มองมาที่โฬมตรงๆ เขาทั้งสองรู้จักกันได้เพราะอุดมการณ์คล้ายๆ กัน อุดมการณ์ที่อยากนั่งบัลลังก์มาเฟีย ให้ผู้คนเรียกขานว่ามาเฟีย

กวินท์มาจากครอบครัวที่เดินบนเส้นทางมาเฟียมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ค่อยๆ สร้างฐานอำนาจให้กว้างขวาง แม้จะไม่ได้เป็นที่ยำเกรงแต่ใครที่ได้ยินชื่อก็ต่างเกรงใจ

ในขณะที่โฬมนั้นมาจากสายนักเลงที่ผันตัวอยากมาเป็นมาเฟีย เพราะทุนหนาและรู้จักคนเยอะ โฬมจึงคิดว่าสิ่งที่ฝันมันไม่ไกลเกินเอื้อม เขาอยากได้ลูกน้องก็ใช้เงินซื้อตัวมา ใครขวางทางหน่อยก็จัดการให้พ้นทางด้วยสารพัดวิธี เน้นผลาญเพื่อให้อีกฝ่ายจำไปจนวันตายว่าอย่าริมาขวางทาง ยิ่งคนไหนเห็นเป็นจุดอ่อนก็ยิ่งเล่นงานไม่เลิกรา อย่างเช่นที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้

อำนาจเงิน อำนาจบารมีหรืออื่นใดล้วนแต่หอมหวานสำหรับผู้ที่กระหายมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจของเงิน เพราะวงการนี้สามารถปั้นเงินให้ได้อย่างมหาศาล จึงหอมหวานและมีคนอยากก้าวเท้าเข้าสู่วงการอย่างนับไม่ถ้วน คลื่นลูกเก่าที่รากฐานไม่มั่นคงก็จะค่อยๆ หายไปจากวงการ โดยมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ ซึ่งวิธีจะเข้ามาแทนที่ก็แล้วแต่สะดวก

ทั้งมาสืบทอดต่อแบบถูกต้องหรือมาเพื่อโค่นอำนาจแล้วผงาดขึ้นนั่งบัลลังก์ ซึ่งอย่างหลังมักจะมาพร้อมการสูญเสียแม้กระทั่งชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

“คุณพูดเหมือนกำลังกลัว” โฬมมองตรงไปยังชายตรงหน้า นั่นเพราะเขาไม่เคยกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น กลับยิ่งอยากเอาชนะและกดให้จมดิน

“ผมไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากให้มันวุ่นวายเกินความจำเป็น เดี๋ยวจะกระทบต่องานใหญ่ของเราเสียเปล่าๆ” กวินท์หัวเราะออกมาเบาๆ เขาหรือกลัว ไม่มีทาง

“โอเคๆ เอาเป็นว่าผมจะทำตามที่คุณแนะนำก็แล้วกัน”

“ครับ”

“แต่เอ้! ได้ข่าวว่าลูกสาวคนเดียวของคุณไบรอันสวย คุณเคยเห็นบ้างไหม” พูดไม่ทันขาดคำ โฬมก็หาเรื่องวกกลับมายังเป้าคนล่าสุดนั่นคือไบรอัน มาเฟียที่อยู่ในวงการมาหลายปี แต่เพราะอยู่นานเกินไปโฬมจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ไบรอันควรจะวางมือ แล้วปล่อยให้คนรุ่นใหม่ขึ้นมาดูแลแทน

“เคยครับ ซึ่งเธอก็สวยอย่างที่ใครๆ เขาพูด” กวินท์เคยเห็นลลิตา แม้จะน้อยครั้งแต่ก็ยอมรับว่าเธอสวย และความสวยของเธอก็โดดเด่น ส่งผลให้ลลิตานั้นเป็นคุณหนูที่น่าทะนุถนอม

“ผมไม่เคยเห็น แต่ผมก็ส่งคนไปเชิญเธอให้มากินข้าวที่บ้านแล้วนะ หวังว่าเธอจะไม่ปฏิเสธ” โฬมยิ้มพอใจ แม้เขาจะไม่เคยเห็นลลิตาตัวจริง แต่เพียงแค่เห็นจากรูปที่ลูกน้องถ่ายมาให้ เขาก็นึกชอบเธอขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ หวังว่าหญิงสาวจะไม่ใจดำปฏิเสธคำเชิญนั้นจากเขา

“คุณคิดจะทำอะไร”

“ผมก็แค่อยากทำความรู้จักลูกสาวของคุณไบรอันแค่นั้น คุณกวินท์อย่าคิดมากไปสิครับ”

“ถ้าแค่อยากทำความรู้จักคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นไปได้หลังจากนี้ผมก็อยากให้ต่างคนต่างอยู่ อย่าลืมว่าเรามีงานใหญ่รออยู่” โฬมไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับมา เขาเฉยแต่เป็นการเฉยเพียงใบหน้าเท่านั้น เพราะยังไงเขาก็ยังอยากทำความรู้จักลลิตาอยู่ดี

ไปรอันพาลลิตามาอยู่ที่เซฟเฮาส์ก่อนชั่วคราว เขามั่นใจว่าที่นี่จะปลอดภัย ระหว่างนั้นเขาก็เฝ้ารอการติดต่อมาของจักรอย่างร้อนใจ ไบรอันเป็นห่วงลูกน้องคนสนิทมาก แต่ก็มั่นใจว่าจักรสามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนสิ่งที่คิดจะไม่เป็นแบบนั้น

“พ่อขอโทษนะลูก ที่ต้องทำให้ลำบากแบบนี้”

“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วเราต้องอยู่ที่นี่อีกนานไหมคะ”

“ไม่นานลูก จักรมาสมทบเมื่อไหร่ เราจะย้ายที่อยู่กันทันที” นั่นเพราะต่อให้ที่นี่คือเซฟเฮาส์ที่ไบรอันคิดว่ามันปลอดภัย แต่การที่ลูกน้องเขาถูกซื้อตัวไปนั้น ความลับที่เคยเป็นความลับมันอาจถูกแย้มออกได้ด้วยอำนาจเงิน เพราะฉะนั้นเขาต้องหาที่อยู่ใหม่ อย่างน้อยก็เพื่อลลิตา

“ค่ะ” ลลิตาเอ่ยรับอย่างเข้าใจ เธอเคยคิดในมุมแย่ๆ ว่าสักวันอาจต้องหนีใครก็ไม่รู้อย่างเช่นที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เนื่องจากอาชีพที่พ่อทำนั้นมันเสี่ยง เพราะเคยนึกภาพไว้บ้างและเมื่อเกิดขึ้นจริงลลิตาจึงค่อนข้างที่จะรับมือได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมรับว่าตัวเธอเกิดความเครียด หลังจากนี้อะไรๆ หลายๆ อย่างคงเปลี่ยนแปลง

ในขณะที่ไบรอันก็รอจักรด้วยความกระวนกระวาย หนุ่มใหญ่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูตลอดเวลาว่าแบตเตอรี่ยังไม่หมดรวมถึงเช็คว่าเขาไม่ได้เผลอปิดเครื่องครั้งแล้วครั้ง

“ขะ...คุณพ่อ” น้ำเสียงของลลิตาดังมาจากในห้องรับแขก ไบรอันใจคอไม่ดีจึงรีบรุดเข้าไปดู

“เกิดอะไรขึ้นเตย”

“ตะ...กี้มีข่าวทางโทรทัศน์ว่าพบศพชายชื่อว่าจักรถูกยิงเสียชีวิตค่ะ” ลลิตาบอกเสียงสั่น นั่นเพราะข่าวที่เห็นจากหน้าจอโทรทัศน์เมื่อครู่ยังดังก้องอยู่ในหัว โดยเฉพาะชื่อของผู้เสียชีวิต

“จักรอย่างนั้นเหรอ” ไบรอันเอ่ยชื่อลูกน้องคนสนิทออกมาอย่างไม่เชื่อหู ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาค้นหาข่าวที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ได้รู้ก็ถึงกับทำให้ล้มทั้งยืน